ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 675
บทที่ 675
นายหญิงใหญ่เซียวได้ยินว่าเซียวฉางเฉียนให้ตัวเองขายเฟอร์นิเจอร์หรือของเก่า ความโกรธที่เก็บมานานในที่สุดก็ถูกกระตุ้นให้ระเบิดออกมา
เธอกล่าวด้วยความโมโห: “ให้ขายเฟอร์นิเจอร์ฉันทนได้ ให้ขายของเก่า อย่าคิดเลย! นั่นคือมรดกของพ่อแกที่ทิ้งไว้ให้ฉันตอนตาย”
เซียวฉางเฉียนพูดโน้มน้าว: “แม่ คนน่ะ ตอนที่มีชีวิตอยู่สำคัญที่สุด ของเก่าเหล่านั้น คุณจะเก็บซ่อนมันไว้จนกว่าพ่อจะกลับมางั้นเหรอ?”
“พูดจาเหลวไหลให้มันน้อยๆหน่อย!” นายหญิงใหญ่เซียวด่าคำหนึ่ง ตะโกนว่า: “แกจะไปเข้าใจอะไร? เฟอร์นิเจอร์เหล่านี้จดทะเบียนไว้ในธนาคารทั้งหมด ถ้าธนาคารมายึด ต้องหักค่าเฟอร์นิเจอร์ชุดนี้แน่นอน แต่ของเก่าเหล่านั้น ธนาคารไม่รู้ ถ้าสุดท้ายพวกเราไม่มีกำลังมากพอที่จะพลิกสถานการณ์เลวร้ายให้ดีขึ้นได้ บ้านก็จะถูกธนาคารยึดไป ของเก่าเหล่านั้นยังสามารถเอากลับมาช่วยชีวิตได้อยู่!”
เซียวฉางเฉียนรู้แจ้งทันที!
ตอนนี้ขายเฟอร์นิเจอร์ เท่ากับเป็นการแอบจัดการสิ่งของที่จำนองไว้กับธนาคารล่วงหน้า ถือว่าเป็นการชดเชยความสูญเสีย
แต่ขายของเก่าตอนนี้ ถ้าคนของธนาคารรู้เข้า พวกเขานึกขึ้นได้ อาจจะพลิกแผ่นดินตามหาเพื่อเอาของเก่าเหล่านี้กลับมาให้ได้
ดังนั้น ของเก่านี้ไม่ใช่ทางเลือกสุดท้าย มันไม่สามารถเอาออกมาขายได้จริงๆ
และแล้ว เซียวฉางเฉียนรีบกล่าวด้วยความเยินยอว่า: “แม่ พิจารณาได้รอบคอบกว่าหน่อย ผมฟังตามที่แม่พูด”
นายหญิงใหญ่เซียวทำเสียงเย็นชา และกล่าวว่า: “ถ้าแกฟังฉันเร็วกว่านี้ และเอาเงินมาให้ฉัน วันนี้ก็คงไม่เป็นเหมือนอย่างนี้หรอก!”
เมื่อคืดมาถึงเช่นวันนี้ ตระกูลเซียวตัดแหล่งที่มาของรายได้ และสภาพหนี้ที่ต้องรับผิดชอบอย่างน่าสังเวช นายหญิงใหญ่เซียว นายหญิงใหญ่เซียวก็กระทืบเท้าด้วยความโมโห
และทั้งหมดนี้ ทำทุกอย่างเพื่อเฉียนหงเย่นผู้เป็นภรรยาของเซียวฉางเฉียน
ถ้าเฉียนหงเย่นคนเลวนั่นไม่ฮุบเงินหนีไป ตระกูลเซียวจะตกต่ำไปสู่สถานการณ์ที่น่าสังเวชอย่างปัจจุบันได้อย่างไร?
อีกอย่าง นายหญิงใหญ่เซียวคิดไว้ก่อนแล้ว ให้ลูกเอาเงิน 8 ล้านออกมา ชำระหนี้ส่วนหนึ่งกับธนาคารก่อน แล้วยืดเวลาไปอีกสักพัก แล้วค่อยหาวิธีแก้ไขอื่นๆ
แต่ตอนนี้ ทุกอย่างพังทลาย อยากได้เงินก็ไม่ได้ อยากได้คนก็ไม่ได้ ธนาคารมาทวงถึงหน้าบ้าน ตระกูลเซียวทั้งหมดอยู่ในสภาพของครอบครัวที่ตกอับ
นายหญิงใหญ่เซียวยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ อดไม่ได้ที่ตบโต๊ะ ดุด่าว่า: “คนเลวอย่างเฉียนหงเย่น ทำไมฉันดูไม่ออกตั้งแต่แรกว่าเธอมันเกิดมาเพื่อทรยศหักหลัง! เธอกับหม่าหลันรู้ความลับซึ่งกันและกัน ไม่ต่างกัน! การที่ให้เธอแต่งงานกับตระกูลเซียว เป็นการตัดสินใจที่เสียใจที่สุดในชีวิต น่าจะไล่เธอออกจากตระกูลเซียวตั้งแต่แรก ให้หิวตายอยู่ข้างถนนถึงจะถูก”
เมื่อพูดถึงตอนนี้ นายหญิงใหญ่เซียวกัดฟันกราม พูดด้วยความโมโห: “นังตัวดีคนนี้ ตอนนี้สบายแล้วสิ! เงินสดกว่า 2 ล้านอยู่ในมือ แถมยังเลี้ยงดูแมงดา ไม่รู้ว่าตอนนี้ไปเสพสุขอยู่ตรงไหน!”
นายหญิงใหญ่เซียวไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ในตอนนี้เฉียนหงเย่นลูกสะใภ้ของเธอ น่าสังเวชกว่าตระกูลเซียวมาก
เธอขุดถ่านหินในเตาเผาถ่านหินสีดำทุกวันจนไม่ได้เห็นตะวัน เท้าถูกล่ามโซ่ไว้ด้วยเหล็กอย่างหนัก หากทำงานไม่ครบ 12 ชั่วโมงต่อวันก็ไม่สามารถพักได้ มือและเท้าเปื่อยจนมีจ้ำเลือดและมีเลือดซิบ
อีกอย่าง เถ้าแก่ในเตาเผาถ่านหินสีดำเหยาซานที่เฉียนหงเย่นอยู่ โหดร้ายมาก คนงานกลุ่มนี้ที่ส่งไปให้หงห้า ได้จัดเตรียมหัวหน้างานผีห่าซาตานที่ดุร้ายคนหนึ่งไว้ด้วย ทุบตีพวกเขาที่ขุดถ่านหินเหล่านี้อยู่บ่อยๆตามอำเภอใจ หากไม่พอใจนิดหน่อย เขาก็ฟาดด้วยแส้อย่างโหดเหี้ยม
ก่อนหน้านี้เฉียนหงเย่นเพราะดูแลบำรุงถือว่าได้อย่างเหมาะสม เรียกได้ว่าอายุสี่สิบห้าสิบปีก็ยังเสน่ห์อยู่ ดังนั้นเมื่อมาถึงเตาเผาถ่านหินสีดำ ก็ได้รับความเป็นห่วงจากหัวหน้างานแล้ว เดิมทีเธอดูถูกหัวหน้าคนงานที่ทั้งสกปรกทั้งเหม็น ยอมตายดีกว่าที่จะยอมให้เขาแตะเนื้อต้องตัว
แต่ทว่า ถูกอีกฝ่ายใช้แส้ฟาดอย่างโหดร้ายหลายครั้ง หลังจากที่จงใจปล่อยให้หิวอยู่หลายครั้ง เธอก็ยอมประนีประนอมโดยสิ้นเชิง ไปเป็นนางบำเรอของหัวหน้างานในเตาเผาถ่านหินสีดำ
หลังจากที่ยอมเป็นนางบำเรอหัวหน้าคนงาน แม้ว่าในการใช้แรงงานของเธอดูบรรเทาลงบ้าง แต่ในจิตใจนั้นทรมานมาก
เดิมทีตัวของเธอมีมูลค่าหลายสิบล้าน ผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์ทุกวัน กว่าครึ่งหนึ่งถือว่าเป็นลูกคุณหนูได้เลย
แต่ตอนนี้ กลับต้องอยู่ในที่สลัวๆ สกปรก ถึงขั้นอยู่ในบ้านอิฐที่ส่งกลิ่นเหม็น ต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อใช้ร่างกายรองรับความต้องการของหัวหน้าคนงานสถุลคนนั้น สำหรับเธอแล้ว มันเป็นความทรมานที่สุดในโลก