ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 702
บทที่ 702
เนื่องจากเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังใหม่ การจัดข้าวของก็ใช้เวลาไปครึ่งค่อนวันแล้ว ฉะนั้นวันนี้จึงทานอาหารเย็นช้ากว่าปกตินิดหน่อย
แต่เย่เฉินก็ถือว่าไม่เลว เพราะมีสาวงามอย่างเซียวชูหรัน และต่งรั่งหลิน ที่คอยล้อมรอบเพื่อเป็นลูกมือช่วยเขาทำอาหาร ฉะนั้นการทำอาหารจึงกลายเป็นความเพลิดเพลิน
หลังจากทำอาหารเสร็จ ก็ยกอาหารออกมา หม่าหลันเดินออกมาจากลิฟต์ในเวลานี้
เดิมเธอวางแผนที่จะขอเงินจากเย่เฉิน แต่เมื่อเธอเห็นว่ากำลังเตรียมรับประทานอาหาร จู่ๆเธอก็เกิดลังเลขึ้นมา
ไม่ใช่ว่าเธออายที่จะคุยกับเย่เฉิน แต่สิ่งสำคัญก็คือ สามีและลูกสาวก็อยู่ที่นี่ด้วย ดังนั้นเธอจึงรู้สึกไม่เหมาะสมที่จะพูดในขณะนี้
ขณะนี้ เธอได้ยินเสียงกริ่งดังมาจากข้างนอก เธอจึงพูดด้วยความประหลาดใจว่า “ทำไมเพิ่งย้ายเข้ามา ก็มีคนมาเยี่ยมแล้วหรือ?”
พูดจบ หันหลังแล้วเดินออกจากบ้าน เดินผ่านสวนเพื่อไปเปิดประตู
ทันทีที่ประตูเปิดออก เธอก็พบว่าเป็นคุณหญิงใหญ่เซียว เซียวฉางเฉียน เซียวไห่หลง และเซียวเวยเวย กำลังยืนอยู่ที่ประตู
หม่าหลันไม่รู้ว่าคฤหาสน์และทรัพย์สินของตระกูลเซียวถูกยึดแล้ว เมื่อเธอเห็นว่าเป็นพวกคุณหญิงใหญ่เซียว เซียวฉางเฉียน เซียวไห่หลง และเซียวเวยเวย ยืนอยู่ที่ประตูเหมือนคนกำลังหนีภัยพร้อมกับกระเป๋าใบเล็กใบใหญ่ เธอก็ขมวดคิ้ว และถามว่า “ทำไมพวกคุณถึงมาที่นี่อีก?”
เมื่อเห็นหม่าหลันเปิดประตู คุณหญิงใหญ่เซียวก็ไม่สนใจเธอ แล้วก็กำลังจะเดินเข้าไปในบ้าน
หม่าหลันรีบยืนขวางอยู่ตรงหน้าเธอแล้วกล่าวว่า “จะทำอะไร? จะบุกเข้ามาในบ้านใช่ไหม? เชื่อหรือไม่ ฉันจะโทรแจ้งตำรวจมาจับคุณ!”
คุณหญิงใหญ่เซียวดันหม่าหลันออกไป เดินเข้าไปและกล่าวอย่างไม่พอใจว่า “ฉันมาหาลูกชายของฉันไม่ได้หรือ? ตอนนี้แม้แต่ฉันก็ไม่สามารถเข้าไปในบ้านของคุณได้หรือ?”
หม่าหลันกระวนกระวาย รีบคว้าตัวเธอไว้และกล่าวว่า “ยายแก่ฟังไม่เข้าใจหรือยังไง ที่นี่ไม่ต้อนรับคุณ ได้ยินหรือยัง? ทีหลังถ้ามีเรื่องหรือไม่มีเรื่องก็ไม่ต้องมาบ้านฉันอีก รีบออกไปเดี๋ยวนี้!”
เมื่อนายหญิงใหญ่เซียวหลุดจากเธอ ก็รีบเดินเข้ามาในบ้านทันที เมื่อเดินถึงห้องรับแขก เธอก็ได้กลิ่นของอาหาร
ช่างหอมจริง ๆ……
มันหอมกว่าผักกาดขาวต้มโครงเป็ดตอนมื้อเที่ยงเสียอีก!
ประเด็นหลักคือ ก่อนที่จะกินอาหารเที่ยงเสร็จ คนจากศาลก็มาถึงบ้านแล้ว และบวกกับที่ตนเองร้องไห้อยู่สักพักใหญ่ ทำให้ตอนนี้คุณหญิงใหญ่เซียวรู้สึกหิวมาก
เวลานี้เมื่อได้กลิ่นหอม ท้องก็ร้องจ๊อก ๆขึ้นมา
เมื่อหม่าหลันได้ยินเสียงนี้ ก็หัวเราะเยาะแล้วกล่าวพูดว่า “ที่แท้พวกคุณมาบ้านของพวกเราก็เพื่อขอทานนี่เอง….. เห็นเมื่อก่อนหยิ่งยโส ทุกมื้อจะต้องอาหารคาวหวานมากกว่าสิบอย่าง ทำไมตอนนี้ถึงหิวเหมือนผีเปรตขนาดนี้เลย?”
เมื่อคุณหญิงใหญ่เซียวได้ยินคำพูดของหม่าหลัน รู้สึกหน้าแดงก่ำทันที เดิมคิดว่าจะด่ากลับไป แต่เมื่อคิดว่าตนเองวางแผนที่จะอยู่อย่างสบายที่คฤหาสน์ Tomson Riviera ฉะนั้นจึงได้ทนเธอ แล้วกล่าวอย่างเสียงอ่อนว่า “สะใภ้สุดประเสริฐ แม่รู้สึกหิวจริง ๆ ให้แม่กินข้าวก่อนได้ไหม?”
หม่าหลันยิ้มเยาะแล้วกล่าวว่า “ฝันไปเถอะ ให้เวลาคุณไสหัวออกไปสิบวินาที มิเช่นนั้น จะให้ตำรวจลากพวกคุณออกไป!”
เมื่อคุณหญิงใหญ่เซียวเห็นว่าคุยกับเธอไม่รู้เรื่องแล้ว ก็ตะโกนเสียงดังว่า “ฉางควน! ลูกจะทนเห็นแม่อดตายเลยหรือ?”
เซียวฉางควนเดินออกมาด้วยสีหน้าบึ้งตึง แล้วกล่าวว่า “แม่ เมื่อวันเพิ่งให้เงินแม่ไปหนึ่งล้านสองแสนหนึ่งหมื่น แล้ววันนี้แม่มาที่นี่ทำไมอีก?”
คุณหญิงใหญ่เซียวนั่งลงกับพื้นและร้องห่มร้องไห้เสียงดัง แล้วกล่าวว่า “ลูกรู้ไหมว่า ธนาคารได้ยึดคฤหาสน์ของเราไปแล้ว ตอนนี้แม่กับพี่ชายของลูกไม่มีที่อยู่แล้ว!”
พูดจบ ก็มองไปที่เซียวฉางควน ร้องไห้ขอร้องว่า “ลูกสุดประเสริฐ ลูกคงไม่อยากเห็นแม่อดตาย หรือหนาวตายใช่ไหม?”
เซียวฉางควนตะลึงทันที แล้วถามว่า “นี่มันเรื่องอะไรกัน? ทำไมคฤหาสน์ถึงถูกยึด?”
“เป็นเพราะหนี้ของบริษัทเซียวซื่อ!” คุณหญิงใหญ่เซียวปาดน้ำตาและกล่าวว่า “ลูกสุดประเสริฐ แม่จะตายต่อหน้าแล้วลูกจะไม่ช่วยหรือ? คฤหาสน์ของพวกคุณใหญ่ขนาดนี้ ลูกเตรียมห้องให้แม่สองห้อง แม่นอนห้องเดียวกับเวยเวย และให้พี่ชายของลูกนอนห้องเดียวกับไห่หลง”
หม่าหลันรู้สึกกระวนกระวายใจ และกล่าวว่า “ยายแก่ ทำไมไร้ยางอายเช่นนี้? ฉันบอกตั้งแต่แรกแล้วว่า บ้านเราไม่ต้อนรับพวกคุณ ยังหน้าด้านมาขออยู่อีก ไม่รู้สึกละอายใจบ้างหรือ?”
คุณหญิงใหญ่เซียวไม่สนใจคำพูดเธอ มองไปที่เซียวฉางควน แล้วขอร้องว่า “ฉางควน ลูกเป็นผู้นำครอบครัว ลูกช่วยแม่พูดสักหน่อยได้ไหม?”
พูดจบ ก็ร้องไห้แล้วกล่าวต่ออีกว่า “แม่ขอร้องล่ะ แม่คุกเข่าให้ลูกก็ได้!”
————