ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 736
บทที่ 736
“ใช่!” เซียวฉางควนพูดอย่างตื่นเต้นว่า “และที่สำคัญ สามีเธอเสียแล้วด้วย ฮ่าๆ !สวรรค์เข้าข้างพ่อจริงๆ เลย!”
เย่เฉินพยักหน้า แล้วพูดว่า “เอ่อพ่อครับ แต่ว่าแม่ยังไม่เสียนะครับ……”
สีหน้าเซียวฉางควนก็นิ่งลงมา แล้วก็พูดอย่างเคอะเขินว่า “อย่าเข้าใจผิด พ่อไม่ได้แช่งให้เธอตายนะ”
พูดไป เซียวฉางควนก็ถอนหายใจพูดไปว่า “แกว่า ถ้าเธอเหมือนกับเฉียนหงเย่น หนีไปกับคนอื่นเลย คงจะดีมากเลย…….”
เย่เฉินก็ส่ายหัวอย่างทำอะไรไม่ได้ ใจของเซียวฉางควนนั้น คงจะลอยไปถึงตัวของหานเหม่ยฉิง ที่กำลังจะกลับมาจากอเมริกาแล้วล่ะ เดิมทีที่ยังมีความรักให้กับหม่าหลันอยู่บ้าง ตอนนี้คงจะไม่เหลือแล้ว
ดังนั้น เย่เฉินก็พูดออกมาตรงๆ ว่า “ถ้าหากว่าชูหรันสามารถรับได้ ว่าแม่หนีไปกับคนอื่นแล้ว ก็คงจะดีมากเลย”
ถ้าชูหรันเหมือนกับเซียวฉางควน เช่นนั้นตนเองก็สามารถให้หม่าหลันหายไปจากโลกนี้ได้ไม่กี่นาที
คนอย่างหม่าหลัน ให้เธอได้ไปกินฟรี อยู่ฟรีในเรือน ถือว่าสบายไปแล้ว ไม่สู้ให้เธอไปขุดถ่านหินที่เหมืองถ่านหิน ไปอยู่เป็นเพื่อนเฉียนหงเย่น
พวกของเฉียนหงเย่นคงจะเกลียดหม่าหลันน่าดู ถ้าหม่าหลันก็ถูกส่งตัวไปที่นั่นล่ะก็ วันๆ หนึ่งไม่ถูกรุมตบหลายสิบรอบ คงจะไม่ได้
แต่น่าเสียดาย เซียวชูหรันจิตใจดีเกินไป ดีจนสามารถยอมรับความร้ายของหม่าหลันได้
เซียวฉางควนอารมณ์ดีมาก กินดื่มคนเดียว มีความสุขมาก ยังลากให้เย่เฉินดื่มด้วยตลอด แต่ที่เย่เฉินยกแก้วทุกครั้ง ก็ถือโอกาสที่เขาไม่สนใจ ก็เทเบียร์ทิ้งไป เพราะถึงอย่างไร คืนนี้เป็นคืนที่ตนเองจะได้ขึ้นไปนอนบนเตียง เขายังวังว่าจะได้ทำเรื่องที่สามีภรรยาเขาทำกันเสียที ถ้าหากว่าดื่มจนตัวเหม็นกลิ่นเบียร์ คงจะเสียอารมณ์น่าดูน่ะสิ?
เซียวฉางควนดื่มกินจนอิ่ม ก็4ทุ่มกว่าแล้ว เซียวชูหรันก็โทรหาเย่เฉินถามถึงสถานการณ์ เย่เฉินก็ได้แต่ตอบไปว่า “พวกเราหาไม่เจอเลย แม่อาจจะไม่ได้ออกมาเล่นไพ่นกกระจอก ทางฝั่งคุณล่ะ?”
เซียวชูหรันก็พูดอย่างน้ำเสียงกังวลว่า “ฉันก็ไปถามพวกเพื่อนเก่าของแม่ แต่ก็ไม่มีร่องรอยอะไรเลย”
เย่เฉินพูดว่า “เอาเป็นว่า วันนี้อย่าเพิ่งตามหากันอย่างไม่มีจุดหมายเลย พวกเรากลับไปรอที่บ้านก่อน ในเมื่อทางฝั่งตำรวจ ก็ได้ประกาศผู้สูญหายแล้ว เชื่อว่าพวกเขาคงจะติดตามให้เรา คุณว่าดีไหม?”
“เฮ้อ……..เซียวชูหรันถอนหายใจ แล้วพูดว่า “ก็คงจะต้องเป็นย่างนั้น ฉันและรั่งหลินจะกลับละ คุณกับพ่อก็กลับเถอะ”
“ครับ” เย่เฉินตอบรับ จากนั้นก็วางโทรศัพท์ แล้วมาพูดกับเซียวฉางควนว่า “พ่อครับ พวกเรากลับกันเถอะ”
เซียวฉางควนก็ตีขาตนเอง แล้วยิ้มตาหยีพูดว่า “ไป กลับบ้านไปอาบน้ำนอน พรุ่งนี้ตอนสายแกไปสนามบินเป็นเพื่อนพ่อ”
เย่เฉินถามอย่างแปลกใจ “ผมต้องไปด้วยหรือครับ?”
“แน่นอน” เซียวฉางควนตอบว่า “หานเหม่ยฉิงพาลูกชายกลับมาด้วย พวกเราสองคนจะคุยเรื่องเก่าๆ กัน ลูกชายเธอก็เป็นก้างขวางคอน่ะสิ? พอถึงตอนนั้น ก็แกไปคุยกับมัน ไปชวนมันคุย ให้พ่อกับหานเหม่ยฉิงได้มีโอกาสคุยกันสองต่อสอง”
“ได้ครับ” เย่เฉินพยักหน้าตอบรับ แล้วพูดว่า “งั้นเดี๋ยววันพรุ่งนี้ผมไปด้วย”
“เอ่อแล้วอีกกอย่าง” เซียวฉางควนก็พูดอย่างเกรงใจว่า “ไอ้ลูกเขย พ่อไม่มีเงินติดตัวเลย เงินที่เหลือจากการซื้อเฟอร์นิเจอร์ ก็ให้แกไปหมดแล้ว วันพรุ่งนี้ที่โรงแรมป๋ายจินฮ่านกง แกก็จองโต๊ะให้พ่อด้วยแล้วกันได้ไหม?”
“ได้ครับ เดี๋ยวผมจัดการ” สำหรับพ่อตาแล้ว เย่เฉินไม่มีอะไรในใจ เพราะถึงอย่างไรเขาก็ดีกับตนเองอยู่ไม่น้อย
จากนั้น เย่เฉินก็ส่งข้อความไปให้เฉินจื๋อข่าย ให้เขาจัดการจองห้องอาหารในโรงแรมป๋ายจินฮ่านกงที่ดีหน่อย
แต่ว่าเขาเน้นว่า อย่าเอาห้องที่ดีที่สุด ไม่อย่างนั้นจะอธิบายยาก เอาห้องระดับกลางๆ ก็พอแล้ว
เฉินจื๋อข่ายก็รีบสั่งการกับผู้จัดการที่โรงแรมป๋ายจินฮ่านกง ว่าจะจองห้องอาหารล่วงหน้า
ในตอนนี้ ที่เรือนจำ
เนื่องจากไฟดับแล้ว หม่าหลันก็หิว ยังต้องทนกับความเจ็บปวดทั้งตัว ก็กำลังนอนอยู่บนเตียงของตนเอง
เพิ่งนอนลงไป ท้องก็ร้องขึ้นมาเพราะความหิว
จางกุ้ยเฟินที่อยู่มไกลจากเธอ ก็ด่าว่า “แม่งเอ้ย ถ้าท้องมึงร้องอีกนะ ก็ไปนอนในห้องน้ำเลยไป!” ”