ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 764
บทที่ 764
เย่เฉินรีบถามเธอว่า “คุณภรรยาครับ เย็นนี้คุณจะไปตามหาที่ไหน? ”
เซียวชูหรันตอบว่า “ฉันว่าจะไปหาเพื่อนของแม่ แล้วก็พวกคลินิกที่แม่ชอบไปทำศัลยกรรม แล้วก็พวกสปา”
ตอนนี้เซียวฉางควนก็รีบพูดว่า “ชูหรันเอ้ย เย็นนี้พ่อจะไม่ออกไปช่วยหาแม่แกแล้วนะ เพราะว่าพ่อเชิญเพื่อนมากินข้าวที่บ้าน เพื่อนคนนั้นของพ่อจะมาโชว์ฝีมือทำอาหารให้บ้านเรากิน ดังนั้น ตอนบ่ายพ่อจะออกไปซื้อวัตถุดิบ จากนั้นก็มาเก็บกวาดบ้านเสียหน่อย”
เซียวชูหรันก็ถามอย่างแปลกใจว่า “พ่อคะ พ่อกับเพื่อนของพ่อก็ได้กินข้าวเที่ยงกันแล้วไม่ใช่หรือคะ? ทำไมตอนเย็นยังจะนัดกันอีกล่ะ? ”
เซียวฉางควนก็อธิบายว่า “ตอนกลางวันก็ส่วนของกลางวัน แล้วกลางวันก็กินของร้านอาหาร เพื่อนพ่อก็กลับมาตั้งไกล จะต้องเชิญมานั่งเล่นที่บ้านเสียหน่อยสิ กินอาหารพื้นบ้านกันหน่อย นี่ถึงจะเป็นการต้อนรับเพื่อนอย่างถูกวิธี!”
เซียวชูหรันก็พูดอย่างหัวเสียหน่อยๆ ว่า “พ่อคะ ต่อให้พ่อต้อนรับเพื่อนของพ่อ ก็ต้องแยกแยะเวลาหน่อย ตอนนี้แม่หายตัวไปแล้ว ทำไมพ่อถึงยังมีอารมณ์มาชวนเพื่อนเก่ากินข้าวอีกล่ะคะ? รอตามหาแม่เจอก่อนแล้วค่อยนัดกันไม่ได้หรือคะ? เพราะถึงอย่างไรแม่ก็เป็นเพื่อนเก่าของพ่อเหมือนกันนะคะ เพื่อนเก่าเจอกัน3คนไม่ดีกว่าหรือคะ? ”
“ดีที่ไหนกันล่ะ? ” ในใจเซียวฉางควนก็บ่นว่า “ก็เพราะแม่แกหายตัวไปไงล่ะ พ่อถึงได้มีอารมณ์นัดเพื่อน และมีความกล้าที่จะเชิญเพื่อนมากินข้าวที่บ้าน ไม่เช่นนั้นล่ะก็ ตีให้พ่อตาย พ่อก็ไม่มีความกล้านี้หรอก”
แต่ว่า คำพูดพวกนี้เขาไม่อาจจะพูดกับลูกสาวตนเองได้ ก็เลยโบกปัดพูดไปว่า “ไอ้หยาไม่เข้าใจหรอก เพื่อนของพ่อเธอไปอยู่อเมริกามา20กว่าปีแล้ว ตอนนี้ได้กลับมาแล้ว พ่อจะต้องทำตัวเป็นเจ้าภาพที่ดีหน่อย เรื่องนี้จะต้องทำขึ้นในวันกลับมาถึงเลยทันที!มีที่ไหนกันที่รอให้คนอื่นเขากลับมาถึงหลายวันแล้ว ถึงค่อยจัดเลี้ยงต้อนรับ? มันจะเป็นไงล่ะ? คนอื่นเขาก็จะมองพ่อว่าทำอะไรไม่รู้เรื่องน่ะสิ”
พูดไป เซียวฉางควนก็พูดอีกว่า “อีกอย่างเพื่อนพ่อไม่ได้กลับมาคนเดียว ยังพาลูกชายกลับมาด้วยอีกคน ลูกของเธอก็รุ่นราวคราวเดียวกับเย่เฉิน เป็นถึงทนายความโด่งดังของอเมริกาเชียวนะ บริหารสำนักทนายความที่มีชื่อเสียงพอตัว พวกวัยรุ่นอย่างพวกแกก็ทำความรู้จักกันไว้ อนาคตจะมีผลดี โอกาสแบบนี้มันหายากนะจะบอกให้!”
เซียวชูหรันก็พูดด้วยความโมโห “หนูไม่เห็นว่าจะมีโอกาสอะไรที่ยากนี่คะ หนูก็ไม่ได้อยากรู้จักเพื่อนของพ่อ และลูกชายของเพื่อนพ่อเสียหน่อย หนูคิดแต่อยากจะหาแม่ให้เจอไวๆ แล้วพาแม่กลับบ้าน”
เซียวฉางควนก็พูดดุไปว่า “ทำไมแกถึงไม่รู้เรื่องเลยห้ะ? ก็แค่กินข้าวเฉยๆ แล้วมันจะหาแม่แกไม่เจอเลยรึไง? แล้วแกไม่กินข้าวเย็นรึไง? พ่อว่าแกจะหาเรื่องพ่อมากกว่า!”
“หนูเปล่านะคะ!” เซียวชูหรันก็พูดอย่างร้อนรนว่า “หนูแค่ไม่อยากพบคนแปลกหน้าในเวลาแบบนี้ และไม่อยากไปต้อนรับคนแปลกหน้าที่ไหนด้วย”
เซียวฉางควนก็พูดอย่างหัวเสียว่า “แต่นั่นเป็นเพื่อนเก่าพ่อสมัยเรียนนะ ต่อให้แกไม่ไว้หน้าพ่อ แต่แกจะมาพูดแบบนี้ไม่ได้นะ!”
จริงๆแล้ว ในความคิดลึกๆ ของเซียวฉางควนมีประโยคหนึ่งไม่ได้พูดออกมา และไม่กล้าพูดด้วย
ประโยคนั้นก็คือ ถ้าเกิดว่าชาตินี้แม่แกไม่กลับมาแล้ว แต่เพื่อนของพ่อคนนี้ ก็อาจจะเป็นแม่คนที่สองของแกนะ!ลูกชายของเธอคนนั้น หลังจากนี้ก็จะเป็นน้องชายของแกนะ!รู้จักกันไว้ก่อนก็ดีนะ!
ตอนนี้เย่เฉินก็เอ่ยปากพูดโน้มน้าวว่า “ใช่ครับคุณภรรยา คุณป้าหานเป็นเพื่อนเก่าของพ่อนะ พ่ออยากจะเป็นเจ้าบ้านที่ดีก็สมควรอยู่ พวกเราเป็นลูก ก็จะต้องช่วยพ่อให้เต็มที่ ไม่ทำให้พ่อขายหน้านะ”
พูดจบ เขาก็รีบพูดว่า “เอาอย่างนี้นะ ตอนบ่ายพวกเราช่วยกันออกไปตามหาแม่ เพราะถึงอย่างไรเย็นนี้พวกเราก็ไม่ต้องทำกับข้าว เพราะคุณป้าหานจะมาทำเอง แล้วตอนบ่ายให้พ่อไปซื้อผัก จากนั้นคุณป้าก็จะมาทำกับข้าวที่บ้าน พวกเราหาแม่แล้วก็กลับมากินข้าว กินข้าวเสร็จก็ออกไปตามหากันใหม่ แบบนี้ก็จะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการตามหาแม่ คุณว่าดีไหม? ”
เซียวชูหรันก็รู้สึกว่า ที่ตนเองเพื่อนไปเมื่อครู่นี้หนักไปหน่อย กำลังเครียดว่าจะแก้ต่างอย่างไรดี ตอนนี้เย่เฉินก็มาช่วยไว้ ก็เลยตามน้ำไป พยักหน้าพูดว่า “งั้นก็ได้ เอาตามที่คุณว่าเลยแล้วกัน”
เซียวฉางควนก็โล่งอก แล้วก็ใช้สายตาขอบใจเย่เฉิน……