ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 767
บทที่ 767
“อะไรนะ?!”
เซียวชูหรันพูดอย่างตกใจว่า “รูปร่างสวย กิริยาดี นิสัยดี ที่สำคัญคือสามีเสียไปแล้ว แถมยังรวยอีก……นี่มันไม่ใช่เพชรเม็ดงามในหมู่คุณป้าหรอกหรือนี่? ”
เย่เฉินพยักหน้า แล้วตั้งใจพูดว่า “เป็นเพชรเม็ดงามจริงๆ อย่างที่ว่า แต่ว่าคุณป้าหานไม่เหมือนป้าแก่ๆ เลย เหมือนพี่สาวมากกว่า”
เซียวชูหรันก็ถามอย่างสงสัยว่า “ขนาดนั้นเลยหรือ? อายุประมาณเท่าไร? ”
เย่เฉินตอบ “เหมือนจะอายุราว37-38 อย่างมากก็40”
“จริงหรือ?!”
เซียวชูหรันเต็มไปด้วยใบหน้าที่ไม่เชื่อ เธอไม่ค่อยได้เห็นผู้หญิงที่มีอายุ50 แต่ดูภายนอกเหมือนคนอายุ37-38
ต่อให้เป็นดาราหนัง ก็จะไม่ถึงขนาดนี้
เย่เฉินก็พูดอย่างจริงจังว่า “ผมไม่ได้ล้อคุณเล่นเลยนะ คุณป้าหานดูอ่อนวัยมาก คุณรู้จักดาราหนังชื่อ สวี่ฉิง ใช่ไหม คุณป้าหานดูอ่อนวัยกว่าเธอคนนั้นเสียอีก แถมยังสวยด้วย”
เซียวชูหรัน ก็ส่งเสียงตกตะลึง “ขนาดนั้นเลยหรือนี่? ”
เย่เฉินก็ยิ้มพูดนิ่งๆ “พอดีว่าเย็นนี้เธอจะมากินข้าวที่บ้าน พอถึงตอนนั้นเดี๋ยวคุณก็ได้เห็นเอง”
เซียวชูหรันก็ไม่แปลกใจกับคำพูดของเย่เฉินอีก เธอพูดอย่างกังวลว่า “ผู้หญิงคนนี้ เดิมที เป็นคนรักเก่าของพ่อ ตอนนี้สามีเสียไปแล้ว แถมมีข้อดีขนาดนี้ แล้วตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อฉันกับแม่ฉันก็ไม่ค่อยมั่นคง ที่น่าโมโหก็คือ ตอนนี้แม่หายตัวไป จังหวะนี้ก็ให้ผู้หญิงคนนั้นอาศัยจังหวะนี้เขาแทรกแซงมาน่ะสิ?!”
เย่เฉินก็ยิ้มพูดอย่างอึกอัก “คุณภรรยาครับ นั่นมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ลูกๆ อย่างเราจะไปก้าวก่ายได้นะ เพราะถึงอย่างไรพ่อและแม่ก็มีอิสระของพวกเขา ลูกๆ อย่างเราก็ได้แต่เคารพพวกเขา ไม่ควรไปคัดค้าน”
เซียวชูหรันก็ร้อนรนขึ้นมาทันที ถึงแม่เธอจะรู้ว่าแม่ของเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีอะไรมากมาย แต่ถึงอย่างไรก็เป็นแม่ของตนเอง เธอจะยอมให้พ่อเธอทิ้งแม่เธอไปได้อย่างไรกัน?
พอคิดถึงจุดนี้ ในใจเธอก็ยิ่งร้อนรน อยากจะหาแม่ให้เจอไวๆ แล้วพาแม่กลับบ้าน
ดังนั้นเธอก็รีบพูดกับเย่เฉินว่า “ไอ้หยา นี่ก็สายมากแล้ว พวกเรารีบแยกกันออกไปตามหาเถอะ บ่ายนี้คุณจะต้องหาให้ได้มากที่สุด หาบ่อนที่ทุกให้หมด จะต้องเอารูปของแม่ ไปถามตามร้านทุกร้าน และกับแขกทุกคน”
เย่เฉินพูดว่า “แต่ผมไม่มีรูปของแม่น่ะสิ”
สำหรับหม่าหลัน ในใจเย่เฉินอยากจะหลบหนีไปให้ไกลๆ แล้วในโทรศัพท์ของเขาจะมีรูปของหม่าหลันได้อย่างไรกัน
เซียวชูหรันก็รีบบอกว่า “เดี๋ยวฉันเอารูปถ่ายบัตรประชาชนของแม่ส่งให้คุณเอง!”
……
หลังจากที่เย่เฉินขับรถออกมาจากบ้าน ก็เริ่มเข้าไปหาตามบ่อนหรือสถานที่เล่นไพ่นกกระจอกต่างๆ บริเวณนั้น
แล้วเขาก็ถ่ายรูปหน้าร้านที่เข้าไปตามหาแม่ ทุกร้าน จากนั้นก็เอารูปทุกรูปส่งให้กับภรรยาตนเอง เพื่อเป็นการยืนยัน
ทุกครั้งตอนที่เซียวชูหรันถามหาผลลัพธ์ของเขา คำพูดของเขาก็ตอบกลับมาเหมือนเดิมว่า “เจ้าของร้านบอกไม่เคยเห็นคนคนนี้เลย ลูกค้าที่มาใช้บริการในร้านก็บอกไม่เคยเห็น”
ถึงแม้เขาจะไม่ได้เข้าไปถามจริงๆ แต่เขาก็รู้ว่าผลลัพธ์มันต้องเป็นแบบนี้แน่นอน
เซียวชูหรันเห็นข้อความที่เขาส่งมาไม่หยุดหย่อน ด้านหนึ่งก็ได้รู้ว่าเย่เฉินนั้นได้ช่วยตนเองตามหาแม่จริงๆ แต่อีกด้าน ยังไม่พบวี่แววของแม่ ในใจเธอก็ยิ่งกังวลขึ้นเรื่อยๆ
ตามหลักแล้ว เวลาที่สามารถไขคดีการหายตัวไป ก็คือ24ชั่วโมงก่อนที่จะหายตัว ใน24ชั่วโมงนั้น ถ้าหาร่องรอยอะไรได้ ก็จะมีวี่แววที่จะสามารถหาคนจนพบได้มากขึ้น แต่ถ้า24ก่อนหายตัวไป ไม่มีร่องรอยอะไร มันก็จะร้ายมากกว่าดี