ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 784
บทที่ 784
ในตอนนี้หานเหม่ยฉิงก็คีบปลาเปรี้ยวหวานซีหูให้เธอแล้ว ยิ้มพร้อมพูดว่า : “ชูหรันคุณลองชิมปลาจานนี้ดูนะ ก็เป็นอาหารที่น้าถนัดเหมือนกัน แต่ว่าไม่ได้ทำนานแล้ว ไม่รู้ว่าจะถูกปากคุณหรือเปล่า”
มองดูหานเหม่ยฉิงที่มีความกระตือรือร้นคีบเนื้อปลามาวางในถ้วยของตัวเอง เพื่อไม่เป็นการทำให้คนอื่นอับอาย เซียวชูหรันทำได้เพียงพยักหน้าพร้อมพูดว่า : “ขอบคุณค่ะคุณน้าหาน แต่ว่าคุณไม่ต้องคีบอาหารให้หนูก็ได้ค่ะ คุณทานก่อนเถอะค่ะ”
หานเหม่ยฉิงพยักหน้า ยิ้มพร้อมพูดว่า : “คุณต้องกินอาหารเยอะๆหน่อยนะ ถ้าหากคีบไม่ถึง ก็ให้เย่เฉินคีบให้นะ ”
เซียวชูหรันตอบตกลงไปคำนึง แล้วก็ลองชิมดู และเป็นปลาที่หานเหม่ยฉิงคีบให้กับตัวเอง เมื่อกินเข้าไป ทำให้เธอรู้สึกประหลาดไม่หยุดหย่อนเลยทันที
อาหารที่หานเหม่ยฉิงทำ อร่อยมากเลยจริงๆ เนื้อปลานุ่มเด้ง รสชาติอร่อยและสดใหม่ ไร้ที่ติเลยทีเดียว
เซียวฉางควนก็กินจนตะลึงแล้ว
ทั้งชีวิตนี้ของเขา ไม่เคยกินอาหารบ้านๆที่อร่อยขนาดนี้มาก่อน อย่างที่รู้อาหารที่เอร็ดอร่อยที่ทานที่บ้าน กับอาหารที่เอร็ดอร่อยที่ทานในร้านอาหาร ความรู้สึกแบบนั้นมันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ปลุกเสกให้รู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน ความรู้สึกเช่นนี้จะทำให้ผู้ชายเพลิดเพลินจนลืมกลับบ้าน
นี้ก็เป็นสาเหตุว่าทำไมผู้หญิงมักพูดว่า อยากจะมัดใจผู้ชายสักคนให้ได้นั้น ก่อนอื่นจะต้องมัดใจท้องของผู้ชายให้ได้ก่อน
เซียวฉางควนรู้สึกว่า กระเพาะและต่อมรับรสของตัวเอง ในเวลานี้ถูกฝีมือการทำอาหารของหานเหม่ยฉิงพิชิตได้แล้ว
เขามองไปยังพอลด้วยความอิจฉา เอ่ยปากพูดว่า : “พอล แม่ของนายทำกับข้าวอร่อยมากขนาดนี้ นายโชคดีมากเลยนะ”
พอลยิ้มเล็กน้อยพร้อมพูดอย่างจริงจังว่า : “คุณอาเซียว ปัญหานี้ ต้องดูว่าคุณมีความคิดเห็นว่าอย่างไร”
“พูดจากตัวผมเองแล้วกันครับ ตอนที่ผมเรียนมหาวิทยาลัยแสนจะทุกข์ใจมาก เพราะว่าห่างไกลจากบ้าน ห่างไกลจากแม่ อยู่ที่มหาวิทยาลัยไม่ว่าจะกินอะไร ก็รู้สึกว่าไม่อร่อยทั้งนั้นเลย”
“ต่อมาเพราะว่างานที่สำนักทนายความยุ่งมาก ต้องออกไปทำธุระนอกสถานที่บ่อยๆ ส่วนใหญ่จะบินไปกลับทั่วสหรัฐอเมริกา และบ่อยครั้งที่ยังต้องบินไปกลับทั่วโลก ก็เลยไม่มีโอกาสได้ทานอาหารที่แม่ทำเลย”
“แต่ว่า ฝีมือในการทำอาหารของเธอทำให้ผมกลายเป็นคนที่เลือกทานแล้ว ดังนั้นไม่ว่าผมไปกินข้าวที่ไหนล้วนแต่ไม่คุ้นชินเลย ความรู้สึกแบบนี้จริงๆแล้วก็เจ็บปวดมากนะครับ”
เซียวฉางควนก็อุทานออกมาว่า : “มันก็ใช่นะ จากประหยัดมาฟุ่มเฟือยนั้นง่าย จากฟุ่มเฟือยมาประหยัดนั้นยาก แม่ของคุณทำอาหารอร่อยขนาดนี้ ถ้าเปลี่ยนเป็นฉัน ไม่ว่าอาหารข้างนอกจะเป็นยังไงฉันก็คงไม่สนใจอีกแล้ว”
เมื่อเซียวชูหรันได้ยินความหมายที่แอบแฝงในคำพูดของพ่อแล้ว ภายในใจรู้สึกผิดหวัง หยิบเครื่องดื่มขึ้นมา พูดกับหานเหม่ยฉิงว่า : “คุณน้าหาน หนูขอชนแก้วกับน้าสักแก้ว คุณบินกลับจากอเมริกามาซะไกลขนาดนี้ จะต้องเหนื่อยมากๆแน่นอน แก้วนี้ถือเป็นการเลี้ยงต้อนรับคุณค่ะ”
หานเหม่ยฉิงรีบยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นมา ยิ้มพร้อมพูดว่า : “ขอบคุณนะชูหรัน งั้นเราก็ใช้เครื่องดื่มแทนไวน์ในการดื่มนะ”
เซียวชูหรันนำแก้วของตัวเองไปชนกับแก้วของหานเหม่ยฉิงเล็กน้อย ในขณะเดียวกันก็อดไม่ได้ที่จะอุทานคำนึงว่า : “ว้า ถ้าแม่ของหนูอยู่ที่บ้านด้วยก็คงดีนะ หลายปีมานี้เธอบ่นถึงคุณอยู่ตลอดเวลา ถ้ารู้ว่าคุณกลับมาแล้ว เธอจะต้องดีใจมากแน่ๆ”
เมื่อเซียวชูหรันพูดถึงหม่าหลัน ท่าทางของเซียวฉางควนและหานเหม่ยฉิงก็ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติสักเท่าไหร่
ในใจของทั้งสองคนรู้ดี ในเวลานี้ที่เซียวชูหรันพูดถึงหม่าหลัน ตั้งใจพูดเพื่อให้ทั้งสองคนได้ยิน เตือนไม่ให้พวกเขาทั้งสองลืม ว่าในบ้านหลังนี้ ยังมีแม่ของเธอด้วย แม้ว่าตอนนี้แม่ของเธอจะไม่อยู่บ้าน แต่ว่าเธอก็เป็นนายหญิงของบ้านหลังนี้!
ท่าทางที่สง่างามของหานเหม่ยฉิงก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเก้ๆกังๆไปสามสี่นาที เธอยิ้มอย่างไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ พูดว่า : “ฉันไม่ได้เจอกับแม่ของหนูมาหลายปีแล้ว ฉันก็คิดถึงเธอเหมือนกัน”
พูดจบ เธอก็มองไปยังเซียวฉางควน เอ่ยถาม: “จริงสิฉางควน หม่าหลันไปไหนเหรอ?ทำไมถึงไม่อยู่บ้านละ?”
เซียวฉางควนรีบเอ่ยพูดว่า : “เธอน่ะเหรอ สองวันนี้กลับไปบ้านแม่น่ะ อีกไม่กี่วันคาดว่าก็น่าจะกลับมาแล้วนะ”