ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 86 วันนี้ฉันจะแย่งให้ได้
บทที่86 วันนี้ฉันจะแย่งให้ได้
ขณะนี้ฉินเอ้าตงถูกผู้คนเฝ้ามอง ลังเลอยู่สักพัก ยังไงใช้สติก็ยังคงดีกว่าวู่วาม
เขากล่าวอย่างโมโหว่า “ฉันยอมแพ้!”
“ชิ!”
“ไอ้ขี้ขลาดตาขาว!”
“ช่างน่าอายจริงๆ!”
“แม่งขายขี้หน้าวะ!”
ตอนนี้คำพูดด่าทอประชดประชัน ทำให้ฉินเอ้าตงเสียหน้า
เขาเสียใจที่วันนี้ออกมา ไม่งั้น ก็คงไม่เสียหน้าขนาดนี้
ขายหน้าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ฉินเอ้าตงรู้สึกโมโหสุดๆ หันหน้าไปมองเย่เฉินยิ่งทำให้โมโหมากขึ้นไปอีก
เขาอดกลั้นไม่ไหวจนต้องออกจากห้องรับรองไป เดินไปที่เย่เฉินแล้วถาม
“ไอ้แซ่เย่ แกตั้งใจทำร้ายฉันใช่ไหม?”
เย่เฉินถือชาหอยทากมรกตฤดูใบไม้ผอย่างเชื่องช้าลิ ดื่มไป แล้วกล่าว “ไม่มีใครบังคับให้แกประมูลนะ แกเองต่างหากที่อยากแข่งกับฉัน แพ้แล้วพาลนี่หว่า?”
ซ่งหวั่นถิงที่อยู่ข้างๆกล่าวอย่างสงบว่า “คุณชายฉิน กฎของการประมูลก็เป็นแบบนี้ ต้องการที่จะเดิมพัน สู้ไม่ได้ ก็อย่ามา”
ฉินเอ้าตงโมโหจนต้องกัดฟันไว้ แต่ เขาก็ไม่กล้าทำผิดต่อซ่งหวั่นถิง
“ฝากไว้ก่อน!” ฉินเอ้าตงใช้มือชี้ไปที่เย่เฉินอย่างโมโห แล้วเดินกลับห้องรับรองอย่างเกรี้ยวกราด
เย่เฉินอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า มีลูกสิ้นเปลืองอย่างฉินเอ้าตง ตระกูลฉินอยากมีความสุข ก็น่าจะยาก……
ทุกคนกำลังมอง เย่เฉินรูดบัตรดำนั้นต่อไป
ยังไงก็เป็นเงินของฉินกาง ตัวเองใช้เองก็ไม่รู้สึกอะไร
พูดกลับกัน
ถ้าฉินกางรู้ ว่าตนใช้เงินไปมากขนาดนี้ เพราะฉินเอ้าตงใช้เงินสิ้นเปลืองของตระกูลฉิน เขาจะรู้สึกอย่างไรกันนะ?
เกรงว่าต้องฆ่าฉินเอ้าตงให้ตายก่อนถึงจะหายแค้น?
น่าสนใจจริงๆ……
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป การประมูลกำลังจะถึงช่วงสุดท้าย
ช่วงเวลานี้ ฉินเอ้าตงไม่ได้เสนอราคา อาจเพราะถูกเย่เฉินทำให้กลัวไปแล้ว
ในขณะเดียวกันนี้ พนักงานหลายคนใช้กำลังเข็นรถขึ้นบนเวที บนรถวางของใหญ่มากไว้
เย่เฉินหยุดหายใจกะทันหัน แล้วมองไปบนเวที
เขารับรู้ได้ถึงจิตวิญญาณ!!
และในเวลาเดียวกันนี้ อาจารย์วีห้องรับรองข้างๆก็ตกใจ ตาสองข้างจ้องไปที่สิ่งนั้น
คือสิ่งที่ล้ำค่า!
แต่ เมื่อเปิดสิ่งของที่วางไว้หลังม่านแล้วนั้น ทุกคนต่างมีสีหน้าที่ผิดหวัง
เพราะในรถเข็น เป็นหินยักษ์ที่โสโครก บนหินเต็มไปด้วยสาหร่ายและหอยแห้งเต็มไปหมด!!
ผู้คนด้านล่างเวทีต่างถกเถียงกัน ไม่เข้าใจว่าทำไมเจินเป่าเก๋อนำหินโสโครกมาเป็นสิ่งของล้ำค่า
ขณะนี้ เป่าฟู่กุ้ยจึงเริ่มอธิบาย
“ขอทุกท่านอย่าเพิ่งหุนหัน สิ่งล้ำค่านี้คือวงศ์ย่อยหอยมือเสือ!”
“วงศ์ย่อยหอยมือเสือนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในทะเลน้ำลึก รับรองแล้ว ว่ามีอายุกว่าร้อยปี แต่หมดอายุไขก็ได้แช่อยู่อีกพันกว่าปี บนเปลือกเป็นอักษร “สวัสติกะ” ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มั่นใจว่าเป็นสิ่งล่ำค่าหนึ่งเดียวเท่านั้น”
พูดจบ เขาสั่งให้ผู้หญิงเช็ดออก ให้ทุกคนเห็น
ที่แท้ จะเห็นเป็นรอยมือ มีสีแดงทองอำพันปรากฏอยู่ แล้วยังมีตัวอักษร“สวัสติกะ”แอบไว้ งดงามอลังการ
นี่ทำให้ในงานลุกฮือขึ้นมา
ราคาระดับโลกของวงศ์ย่อยหอยมือเสือ จากสามหมื่นถึงห้าหมื่น แล้วอายุของหอยเพียงยี่สิบถึงร้อยปี แต่วงศ์ย่อยหอยมือเสืออายุครบร้อยปี ไม่ง่าย เป็นของที่ล้ำค่าอย่างแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้นคือมันได้หลับอยู่ในน้ำทะเลลึกกว่าพันปี มีสีแดงทองอร่าม แล้วยังมีตัวอักษรที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติอีกด้วย ด้วยความหมายที่แฝงอยู่ ว่าเป็นหอยที่ล้ำค่าที่สุดของวงศ์ย่อยหอยมือเสือ
นี่เป็นเพียงราคาเริ่มต้นของวงศ์ย่อยหอยมือเสือคือเก้าล้าน
ผู้ครต่างพากันประมูลราคา ไม่นานราคาก็ขึ้นถึงสิบสองล้าน
คนจำนวนไม่น้อยเริ่มถอย แต่ยังมีคนที่รู้คุณค่าของสิ่งของยังคงสู้ต่อไป
ในขณะเดียวกันนี้เอง อาจารย์วีได้ยืนขึ้น แล้วพูดเสียงดังว่า “ฉันให้สิบห้าล้าน!”
พูดจบ เขาหันหลังโบกให้กับทุกคน แล้วยิ้ม “เพื่อนๆทุกท่าน วันนี้ที่ผมมางานประมูล ก็เพื่อวงศ์ย่อยหอยมือเสือนี้ ขอทุกท่านได้โปรดให้เกียรติกัน ให้โอกาสผม เดี๋ยวผมจะมอบยันต์คุ้มกันให้ เป็นของขวัญ”
คนที่อยู่ในงานส่วนใหญ่เป็นเจ้าของธุรกิจ รู้ชื่อเสียงของอาจารย์วี ก็ไม่กล้าทำผิดอะไรต่อเขา
ถ้าทำไม่ดี เค้าอาจจะหาวิธี ทำให้ครอบครัวคุณวุ่นวายก็ได้นะ
อีกอย่างให้ยันต์คุ้มกันสองแสน ก็ถือว่าไม่ได้มาเสียเที่ยว แม้หลายคนไม่พอ แต่ก็ต้องอดกลั้นไว้
แม้เป่าฟู่กุ้ยดูภายนอกไม่พูดไม่จา แต่ในใจนี่รู้สึกไม่ดีเป็นอย่างมาก
ความจริงการประมูลคือการอัพราคาให้สูงขึ้น แต่อาจารย์วีท่านี้ทำผิดกฎเสียอย่างนั้น
ถ้าถูกเขาเอาไปในราคาสิบห้าล้าน ตัวเองได้กำไรน้อยลงหน่อยก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าที่ชื่อเสียถูกกระจายออกไป เจินเป่าเก๋อก็จะได้รับความเสียหายอย่างมาก
แต่เป่าฟู่กุ้ยรู้ฝีมือของอาจารย์วีคนนี้ อยู่แนวหน้า ไม่ควรทำผิดต่อเขา ทำได้แค่คล้อยตามเท่านั้น
อาจารย์วีรู้สึกพอใจอย่างมาก ตื่นเต้นจนแทบจะห้ามใจไว้ไม่อยู่
เพื่อวงศ์ย่อยหอยมือเสือ เขาถึงขั้นยอมนั่งเครื่องมาเมืองจินหลิง ด้วยความเหนื่อยยาก สุดท้ายก็สำเร็จ!
ก็แค่สิบห้าล้านแล้วไง?
เพียงแค่ของได้ของมา ยังไงก็ขายได้มูลค่ามากมายอยู่แล้ว!
แล้ว ตอนนี้ในงานก็ไร้ซึ่งเสียงใดๆ ดูๆแล้ว อาจารย์วีประมูลเอง ไม่มีใครกล้าให้ราคาอีกเลย!
นี่แหละเกียรติยศ และศักดิ์ศรี!
ในประเทศ มีใครกล้าไม่ให้เกียรติอาจารย์วีบ้าง?
ดูๆแล้ว หอยวงศ์ย่อยหอยมือเสือนี้ ตนได้ใช้เงินแค่สิบห้าล้านซื้อได้ของดีมาแล้วล่ะ!
ในขณะเดียวกันนี้ เสียงอันเรียบง่ายได้ดังขึ้นมา
“ฉันให้สามสิบล้าน!”
เมื่อเสียงนี้ดังขึ้น งานทั้งงานก็เงียบสงัดลง
สายตาของทุกคน มองไปที่ผู้เสนอราคาคนนั้น ด้วยความประหลาดใจ
เขาอีกแล้ว!
เป็นเด็กวัยรุ่นธรรมดาคนนั้นอีกแล้ว ที่มองแวบแรกก็ไม่มีความพิเศษใดๆ แต่ได้เสนอราคาไปถึงสองครั้งกับฉินเอ้าตง จึงทำให้ทุกคนจำเขาได้!
ประเด็นคือ เขาเสนอราคามหาศาลถึงสองครั้ง ทั้งสองครั้งก็ล้วนรูดบัตร มันช่างเจ๋งสุดๆไปเลย!
แต่ ไม่มีใครคาดคิด ว่าเด็กนี้จะกล้าเสนอราคาแข่งกับอาจารย์วี?
อาจารย์วีเห็นเขาในแวบแรก ก็หน้านิ่งลง
ตอนนี้ ฉินเอ้าตงได้ยืนขึ้น ขยี้ตาอย่างรุนแรง
ซ่งหวั่นถิงก็คาดไม่ถึง ว่าเย่เฉินจะเสนอราคาแข่งกับอาจารย์วีได้
เธอเพียงแค่รู้ว่าเย่เฉินมีความสามารถในการดูของแท้ แต่ไม่รู้ว่าเย่เฉินมีสมบัติมากมายเท่าไหร่
เธออดคิดไม่ได้ แม้ตัวเองยังไม่กล้าทำผิดต่ออาจารย์วีเลย เย่เฉินนี่ ไม่กลัวอาจารย์วีจองล้างจองผลาญหรือไง?
เซียวฉางควนรู้สึกตัว จึงรีบรั้งเขาไว้ “เย่เฉิน แกคิดจะทำอะไร รีบนั่งลงเดี๋ยวนี้นะ!”
“พ่อ ผมรู้หน่า”
เย่เฉินหันไปพูดอย่างเรียบง่าย แล้วเงยหน้าขึ้น ด้วยสายตาเยือกเย็น
เย่เฉิน แกหมายความว่าไง? อยากแย่งของอาจารย์วี?” ฉินเอ้าตงถามอย่างเยือกเย็น
เย่เฉินยิ้มแล้วกล่าว “นี่คืองานประมูล ไม่ว่าใครก็ประมูลได้ พูดว่าแย่งของคนอื่นได้ไงกัน? โตขนาดนี้ ยังไม่รู้กฎกติกาอีกหรอ?”
พูดจบ เย่เฉินประชดประชันอีกครั้ง “แกหนะ อยู่นิ่งๆไปซะอย่าพูดมาก เพิ่งจะขายขี้หน้า ไม่รู้สึกงามหน้าบ้างหรอไง?”
เมื่อฉินเอ้าตงได้ยินคำพูดนี้ ก็รู้สึกงามหน้าขึ้นมา รีบนั่งลงอย่างรู้สึกผิด และไม่พูดอะไรอีกต่อไป
อาจารย์วีหน้าตาเริ่มบูดบึ้ง จ้องเย่เฉินด้วยสายตาอาฆาต แล้วกล่าว “แกอีกแล้ว! รู้ไหมว่าฉันวีจิ้งไห่เป็นใคร? ยังกล้าแย่งของกับฉันอีก?”
เย่เฉินดูแคลน แล้วถาม “ผมไม่สนหรอกนะว่าคุณจะเป็นไอ้บ้าไหน วันนี้ผมจะแย่งของกับคุณ แล้วจะทำไม?!”