ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 881
ใบเสร็จเป็นเพียงหลักฐานอย่างเดียวของการเบิกเงินคืน
เพราะว่าเป็นเช่นนี้ หลังจากที่ได้ยินว่าเย่เฉินเอาใบเสร็จไป เจี่ยงหมิงถึงโมโหอย่างมาก
ตัวเองก็รอใบเสร็จใบนี้เพื่อจะได้นำไปเบิกเงินที่บริษัท ถ้าหากเย่เฉินไม่ส่งใบเสร็จมาให้ งั้นอาหารมื้อนี้ของตัวเองไม่เพียงแค่หาเงินเข้ากระเป๋าไม่ได้ ยังขาดทุนไปกว่าหนึ่งแสน นี่จะไม่เป็นการเคราะห์ซ้ำกรรมซัดให้แก่ตัวเองเหรอ?
คิดมาถึงตรงนี้ เขาก็โมโหอย่างมากก่อนที่จะกลับมายังโต๊ะอาหาร เมื่อเห็นเย่เฉินก็เอ่ยปากถามว่า : “เย่เฉิน นายแอบไปให้ที่หน้าเค้าท์เตอร์ออกใบเสร็จให้ใช่ไหม?รีบเอาใบเสร็จมาให้ฉันเลยนะ!”
เย่เฉินพูดอย่างราบเรียบว่า : “อาหารมื้อนี้เราสองคนเป็นคนจ่าย ฉันให้ออกใบเสร็จแล้วยังไงเหรอ?ถึงยังไงในนี้ก็มีส่วนของฉัน 1แสน นายคงไม่ลืมหรอกมั้ง?”
“นาย……” เจี่ยงหมิงถูกเขาทำให้สำลักจนพูดไม่ออกเลย ผ่านไปสักพักจึงพูดอย่างลนลานว่า: “นายไม่ได้ทำงานแถมไม่ได้เปิดบริษัท นายจะออกใบเสร็จทำไมกัน?”
เย่เฉินยิ้มพร้อมพูดว่า : “นายไม่รู้หรอกว่าตอนนี้มีร้านอาหารจำนวนมาก เขาจงใจที่จะไม่ออกใบเสร็จให้กับลูกค้า ถ้าหากเขาไม่ออกใบเสร็จ องค์กรภาษีแห่งชาติก็ไม่รู้เลยว่าพวกเขาได้รับเงินจำนวนเท่าไหร่กันแน่ แบบนี้เขาก็ไม่ต้องจ่ายภาษีแล้ว ”
พูดจบ เย่เฉินก็มองไปรอบๆ พูดกับทุกคนว่า : “แต่ว่า เราในฐานะที่เป็นประชาชนที่ปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศ การจ่ายภาษีตามกฎหมายเป็นหน้าที่ของเรา กำกับดูแลให้ร้านอาหารจ่ายภาษีตามกฎหมายก็เป็นหน้าที่ของเราเช่นกัน ทุกคนว่าถูกต้องไหม!”
ผู้คนต่างก็พยักหน้ากัน
หลี่เสี่ยวเฟินพูดว่า : “ร้านอาหารในตอนนี้เจ้าเล่ห์ที่สุด ถ้าหากว่านายไม่ให้ออกใบเสร็จ พวกเขาก็ไม่ต้องจ่ายภาษีเลย จึงจำเป็นต้องให้พวกเขาออกใบเสร็จตามกฎหมาย พวกเขาถึงจะจ่ายภาษีให้แก่กระทรวงการคลัง”
จ้าวเห้าก็พูดอย่างเห็นด้วยว่า : “อุตสาหกรรมด้านอาหารและเครื่องดื่มทำรายได้จำนวนมาก ในเมื่อได้เงินมากขนาดนี้ ยังจะหลีกเลี่ยงภาษี งั้นก็พูดฟังไม่ขึ้นแล้วจริงๆ”
จ้าวโจ๋วเยว่ที่อยู่ข้างๆหัวเราะอย่างเย็นชาพร้อมพูดว่า : “นายก็พูดกับร้านอาหารได้นะ ไม่ออกใบเสร็จบอกพวกเขาให้ส่วนลดพิเศษแก่นายส่วนนึง หรือไม่ก็ให้เครื่องดื่มอะไรพวกนี้ฟรีหน่อย ปกติเวลาฉันไปทานข้าวที่ร้านอาหาร ถ้าหากพวกเขาไม่ออกใบเสร็จให้ฉัน ฉันก็จะขอน้ำโค๊กจากเขาหนึ่งขวด ถึงอย่างไรฉันจะเสียเปรียบไม่ได้”
เย่เฉินหัวเราะฮึออกมา : “จ้าวโจ๋วเยว่นะจ้าวโจ๋วเยว่ นายก็ยังคงฉลาดเช่นเคย!ฉันต้องหัดเรียนรู้จากนายแล้ว!”
จ้าวโจ๋วเยว่คิดว่าเย่เฉินกำลังชื่นชมเขา หัวเราะเฮิงๆออกมา พูดว่า : “บอกนายก็แล้วกัน นี่เป็นความฉลาดในการใช้ชีวิต”
เจี่ยงหมิงมองไปยังเย่เฉินด้วยสีหน้าดำคล้ำ พูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น : “อย่าพูดไร้สาระเลยมันไม่มีประโยชน์ นายเอาใบเสร็จไปก็ไม่มีประโยชน์ ส่งมาให้ฉันดีกว่า !”
“มีสิทธิ์อะไร?” เย่เฉินพูดถามด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า : “ฉันเอาใบเสร็จไปก็ไม่มีประโยชน์ งั้นนายเอาไปแล้วมีประโยชน์งั้นเหรอ?พวกเราทุกคนออกมากินข้าวกัน หรือว่านายยังอยากจะเอาใบเสร็จไปใช้เบิกเงินกับบริษัทงั้นเหรอ?”
เจี่ยงหมิงทันในนั้นก็ถูกเย่เฉินพูดถึงในสิ่งที่ใจคิดทั้งหมดแล้ว ทันใดนั้นบนใบหน้าก็เกิดความลนลานขึ้นทันที รีบพูดว่า : “นายแม่งหยุดพูดเรื่องไร้สาระเลยนะ ที่ฉันคิดก็เหมือนกับนายคิดนั่นแหละ การออกใบเสร็จก็จะทำให้ร้านอาหารจ่ายภาษีตามกฎหมาย!”
เย่เฉินพยักหน้าแล้ว ยกหัวแม่โป้งขึ้น พูดว่า : “คิดไม่ถึงว่าเจี่ยงหมิงนายก็เป็นประชาชนที่มีความรับผิดชอบเช่นนี้!ไม่เลวเลยนะ ฉันยกนิ้วให้นายเลย”
พูดแล้ว เขาก็หยิบใบเสร็จนั้นออกมาจากกระเป๋ากางเกง พูดว่า : “ใบเสร็จนี้ได้ใช้ชื่อของฉันส่วนตัวเขียนไว้บนหัวใบเสร็จ และก็พูดได้ว่าใบเสร็จนี้ไม่สามารถใช้เบิกเงินได้ แต่เพียงแค่ได้ออกใบเสร็จแล้ว ร้านอาหารจะต้องจ่ายภาษีอย่างแน่นอน ดังนั้นเจี่ยงหมิงนายไม่ต้องเป็นกังวลไป ราคาอาหารมื้อนี้กว่า สองแสนภาษีที่พวกเขาควรจะจ่าย ไม่น้อยแม้แต่สตางค์เดียว”
เจี่ยงหมิงหายใจถี่แล้ว โพล่งพูดออกไปว่า : “ใครใช้ให้นายออกใบเสร็จในนามส่วนตัว?!”
ออกใบเสร็จในนามส่วนตัว ถึงแม้ตัวเองจะเอาใบเสร็จมาได้ ก็ไม่สามารถเอาไปเบิกเงินได้ คิดมาถึงตรงนี้เจี่ยงหมิงก็โมโหจนปอดแทบจะระเบิดออกมาเลย
ในเวลานี้เย่เฉินหัวเราะฮิฮิพร้อมพูดว่า : “นายก็ไม่ได้บอกว่าออกใบเสร็จไม่ได้สักหน่อย อีกอย่าง เมื่อกี้ฉันก็บอกแล้ว อาหารมื้อนี้นายกับฉันจ่ายกันคนละครึ่ง ใครก็มีสิทธิ์ที่จะให้ออกใบเสร็จทั้งนั้น ให้ความสำคัญที่ใครมาก่อนได้ก่อนสิ ”
พูดแล้ว เย่เฉินก็พูดด้วยใบหน้าที่หายใจแรงว่า : “อย่างนี้แล้วกัน เราก็อย่ามาถกเถียงเรื่องออกใบเสร็จเพื่อใคร หรือไม่ออกใบเสร็จเรื่องเล็กๆนี่เลยนะ ถึงอย่างไรอาหารมื้อนี้เราก็เชิญทุกคนมาเลี้ยงข้าว ก็ไม่ได้บอกว่าหลังจากที่เชิญทุกคนกินข้าวเสร็จแล้วยังจะกลับไปเบิกที่บริษัทหรือว่ากับคนอื่นสักหน่อย ใบเสร็จนี้ฉันจะฉีกต่อหน้าทุกคนในตอนนี้เลย เราสองคนไม่ต้องมีใครได้ไปทั้งนั้น นี่ก็โอเคแล้วนะ?”
ไม่รอให้เจี่ยงหมิงเรียกสติกลับคืนมา เย่เฉินก็รีบฉีกใบเสร็จนี้จนยับเยินเลยทันที
เมื่อเห็นใบเสร็จใบนี้ถูกเย่เฉินฉีกละเอียด เจี่ยงหมิงก็รู้สึกว่าใจของตัวเองกำลังมีเลือดไหล
จบแล้ว ครั้งนี้จบเห่แล้ว เงินหนึ่งแสนสำหรับอาหารมื้อนี้ ลงทุนเสียเปล่าไม่ได้อะไรกลับมา!
——