ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 913
เฮลิคอปเตอร์หลายลำรวมตัวกันในเขตชานเมืองของเมืองจินหลิง ไล่ตามกันออกนอกมณฑลอย่างรวดเร็ว เข้าใกล้กับเป้าหมายทีละนิดๆ
รถไอวีโก้คันนั้นของอีกฝ่ายได้แต่ขับๆ หยุดๆ ไปตามทางหลวง มักจะติดไฟแดงอยู่บ่อยครั้ง บางครั้งก็รถติดความเร็วจึงไม่ได้ปรับเร่งขึ้นเลย และเหตุผลที่หลิ่วจ้าวเฉินเลือกทางหลวงก็ไม่ใช่ทางด่วน หลักๆ คือเนื่องจากทางด่วนเป็นเส้นทางปิดกั้น หากถูกตำรวจจับตามอง ตนก็ยากจะหนีรอดไปได้
แต่ทางหลวงนั้นต่างกันออกไป ทางโล่งเป็นเส้นทางเปิดโล่ง แถมยังเชื่อมต่อกับถนนหนทางของตำบลและมณฑลต่างๆ ถ้าตำรวจคิดจะสกัดจับตนก็ยากเย็นนัก
แถมถ้าเกิดปัญหาใดๆ ขึ้น ก็สามารถสละรถหนีได้ทันที ทุ่งนาชนบท เขตที่พักอาศัยหรือแม้แต่โรงงานไซต์ก่อสร้าง ล้วนเป็นแหล่งซ่อนตัวชั้นดี!
เพียงแต่เย่เฉินก็มีโอกาสที่จะไล่ตามพวกเขาได้อย่างเหลือเฟือ
เฮลิคอปเตอร์เหินบินอยู่บนท้องฟ้า ไม่ต้องหยุดชะงักหรือใช้ทางเลี่ยงเพราะการจราจรติดขัด ความเร็วในการบินมากกว่าสองร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง
หลังจากบินอย่างต่อเนื่องกว่าหนึ่งชั่วโมง ตำแหน่งที่เย่เฉินอยู่ก็ห่างจากเป้าหมายแค่หนึ่งร้อยกิโลเมตรเท่านั้น
เฉินจื๋อข่ายคุยกับเย่เฉิน “คุณชายครับ ตอนนี้ความเร็วโดยทั่วไปของพวกเขาอยู่สี่สิบห้าสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น คาดว่าอีกสามสิบนาทีก็ไล่ตามพวกเขาทันแล้วครับ”
เย่เฉินพยักหน้า เอ่ยขึ้น “ติดต่อแหล่งอิทธิพลของตระกูลเย่ที่อยู่ในพื้นที่ทีสิ ให้พวกเขาช่วยล่วงหน้าไปสกัดไว้ให้พวกเราก่อน ผมจะให้พวกเขาเป็นตะพาบในไห”
เฉินจื๋อข่ายมองพิกัดแบบเรียลไทม์ที่ท่านหงห้าส่งมาให้ กล่าวไปว่า “ด้านหน้าของทางหลวงมีสะพานข้ามแม่น้ำอยู่สายหนึ่ง หลังจากพวกเขาข้ามไปแล้ว ผมจะให้คนยกสะพานขึ้น ไม่ให้รถคันอื่นตามขึ้นไป จากนั้นพอพวกเขาข้ามแม่น้ำไปแล้ว จะให้ดักสกัดที่อีกด้าน แบบนี้พวกเขาก็หนีไม่รอดแล้วครับ!”
เย่เฉินเอ่ยอย่างพอใจ “ความคิดนี้ไม่เลว จัดการไปตามที่คุณว่าเลย!”
….
ในไม่ช้า รถบรรทุกที่ขนดินไปเต็มเปี่ยมสองขบวน ก็แยกกันออกเดินทางจากเขตก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์สองแห่งที่อยู่สองฟากฝั่งแม่น้ำ
เขตก่อสร้างทั้งหมดของพวกเขา ล้วนเป็นทรัพย์สินของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือตระกูลเย่
รถบรรทุกสองขบวนนี้ ล้วนเป็นการจัดการของเฉินจื๋อข่าย
ในแต่ละขบวนล้วนประกอบไปด้วยรถบรรทุกที่ใช้งานในอุตสาหกรรมก่อสร้างกว่ายี่สิบคันที่บรรจุดินเลนเอาไว้เต็มลำรถ
และในรถบรรทุกแต่คัน เมื่อบรรทุกจนเต็มลำรถแล้ว ก็จะหนักถึงสี่สิบห้าสิบตัน
รถถังหุ้มเกราะคันหนึ่งยังไม่หนักถึงขนาดนี้เลย
รถแบบนี้ ทันทีที่กีดขวางถนนไว้ ก็ไม่รถคันไหนสามารถฝ่าไปได้เลย
ยิ่งไปกว่านั้น แต่ละปลายทางด้วยมีกว่ายี่สิบคัน เมื่อถึงเวลาต่อให้เป็นรถถัง ก็ไม่สามารถฝ่าทะลวงผ่านไปได้
พี่ชายของหลิ่วจ้าวเฉินขับรถขึ้นไปบนสะพานแล้ว หลิ่วเจ้าเฉินยิ้มแต้เอ่ยว่า “ข้ามสะพานสายนี้ไป พวกก็ใกล้จะถึงซูหังแล้ว!”
“ดีเลย!” พี่สาวของหลิ่วจ้าวเฉินเอ่ยอย่างดีอกดีใจ “วันนี้พอได้เงินแล้ว พรุ่งนี้พวกเราก็ไปมัลดีฟส์ก็ได้เลย! ฉันเพิ่งหาข้อมูลดู มัลดีฟส์ขอวีซ่าตอนหน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองได้เลย ไม่ต้องยื่นขอวีซ่าล่วงหน้า พรุ่งนี้พวกเราสามารถซื้อตั๋วเครื่องบินแล้วไปได้ทันทีเลย”
พี่ชายของหลิ่วจ้าวเฉินขับรถ พลางเอ่ยขึ้นอย่างประหลาดใจ “ทำไมจู่ๆ ก็มีรถบรรทุกเยอะขนาดนี้กันล่ะ?”
ทุกคนมองออกไปนอกหน้าต่างแวบหนึ่ง มองเห็นรถบรรทุกดินเลนเนืองแน่นอยู่เต็มสองข้างทาง
หลิ่วจ้าวเฉินเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “น่าจะไปส่งวัสดุที่เขตก่อสร้างที่ไหนสักแห่งละมั้ง ไม่ต้องไปสนใจชาวบ้านหรอก พวกเรารีบไปกันดีกว่า”
รถไอวีโก้เร่งความเร็วขึ้น หมายจะแซงรถบรรทุกขึ้นไป
ทันใดนั้นเอง ขบวนรถบรรทุกที่อยู่ด้านหลังก็เริ่มขับตีคู่กันมาหลายคัน ปิดตายเส้นทางด้านหลังทันที ทำให้คนคันขึ้นที่อยู่ข้างหลังแซงขึ้นไปไม่ได้
รถไอวีโก้ขึ้นสะพานไปแล้ว ขบวนรถบรรทุกก็ขับเข้าไปด้วย ขึ้นไปบนสะพานเช่นกัน
เพียงแต่ขบวนรถบรรทุกเพิ่งจะขึ้นสะพานไป จู่ๆ ก็จอดดับเครื่องกันไปเสียดื้อๆ ขวางกั้นปากทางเข้าสู่สะพานเอาไว้ รถยนต์คันอื่นไม่สามารถผ่านไปได้
______