ผมไม่อยากทำงานตลอดชีวิตเลยอุทิศเป็นพ่อบ้าน - ตอนที่ 1.2 ไอดอลได้กินข้าว
บ้านของผมอยู่ห่างจากสถานีโดยใช้เวลาเดินเพียง 5 นาที
เป็นห้องในอพาร์ตเมนต์ 5 ชั้น
“นายอยู่คนเดียวเหรอคะ?” (เรย์)
“ใช่แล้ว ผมมีเหตุผลหลายอย่างหนะ” (รินทาโร่)
ผมเปิดประตูและก้าวเข้าไปข้างใน โดยมีเธออยู่บนหลัง
ห้องพักเป็นแบบ 1LDK ที่มีห้องนั่งเล่นและห้องนอนแยกเป็นสัดส่วน
และค่าเช่าอยู่ในช่วง 40,000 เยน เหตุผลที่ผมสามารถเช่าห้องราคาถูกในโตเกียวได้ก็เพราะอาจารย์ ฮิมิโกะ
เดิมทีค่าเช่าจะสูงกว่านี้ แต่เธอจ่ายค่าแรกเข้าในราคาสูงมาก ทำให้ราคาลดลงจนเหลือระดับที่ไม่น่าเชื่อ
“ตอนนี้คุณไปนั่งที่โซฟาก่อนนะ ดูทีวีได้นะถ้าเบื่อ” (รินทาโร่)
“โอเคค่ะ” (เรย์)
ผมพาโอตาซากิไปนั่งที่โซฟา หลังจากนั้นผมก็ไปที่ห้องครัวซึ่งจะมองเห็นได้จากห้องนั่งเล่น
“ผมคิดว่าวันนี้จะใช้หมู แต่คุณอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม”
“ขอเป็น โซงายากิ (หมูทอดขิง)” (เรย์)
“คุณชอบกินหรอ?” ( ริมทาโร่)
“ใช่ค่ะ ฉันชอบกินตั้งแต่ตอนยังเป็นเด็กเลย” (เรย์)
“น่าแปลกใจแหะ….เดียวผมทำโชงายากิให้กินเอง” (รินทาโร่)
มันเป็นอาหารที่ค่อนข้างง่ายขอบคุณพระเจ้า ผมนำหมู หัวหอม กะหล่ำปลีครึ่งหัว และขิง 1 หัว ออกจากตู้เย็นแล้วเริ่มทำอาหาร
แม้ว่าโชงายากิจะเป็นอาหารที่ผมไม่ได้ศึกษาวิธีการทำมากนักแต่ผมก็มั่นใจว่าจะออกมาอร่อยอย่างแน่นอน
“นายทำอาหารเก่งจัง” (เรย์)
“นั่นเป็นเพราะผมทำอาหารกินเองทุกวันหนะ” (ในทาโร่)
“ฉันไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นผู้ชายทำอาหารกินเอง ทำไมนายทำอาหารทุกวันหละคะ?”
“เพราะผมต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย และเพื่อให้ภรรยาในอนาคตของผมได้กินของอร่อยด้วย” (รินทาโร่)
“เพื่อภรรยาในอนาคตหรอคะ?” (เรย์)
“ใช่แล้ว เป้าหมายผมคือการเป็นสามีทำงานบ้านเต็มเวลา ความฝันของผมคือทําอาหารให้ภรรยาที่ทํางานหนัก โดยคํานึงถึงรสนิยมและสุขภาพอย่างเหมาะสม”
แผนของผมค่อนข้างจะเป็นไปได้ด้วยดี
ผมเรียนทําอาหารทุกวัน ทำหนังสือเมนู ปรับปรุงเทคนิคการทำความสะอาดและซักผ้าตั้งแต่ปีที่แล้ว
ผมมั่นใจว่าแม้ตอนนี้ผมจะมีภรรยาแล้ว ผมก็ทำให้เธอพอใจได้
ปัญหาเดียวคือผมไม่ยังไม่มีแฟนเลยด้วยซ้ำ
ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะหาเธอเจอตอนที่ฉันยังเรียนมัธยมอยู่ และผมวางแผนที่จะเริ่มมองหามันตอนที่เรียนจบมหาวิทยาลัย ผมจะหาคนที่มีงานประจำทำอยู่แล้ว
“ขอโทษนะที่ต้องทนกินข้าวขาว แต่คุณกินได้ใช่ไหม?” (รินทาโร่)
“อืม….ขอบคุณนะที่เป็นห่วงนะค่ะ” (เรย์)
“เธอมีผู้จัดการใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นทำไมคุณไม่ไปชวนพวกเขาทานข้าวเย็นก่อนออกจากที่ทำงานละ” (รินทาโร่)
“ฉันพยายามทำให้ดูดีในสายตาคนอื่น ฉันเป็นไอดอลไม่ควรถูกมองว่าเป็นคนตะกละ”
“อย่างน้อยเธอก็ควรจะแสดงด้านนั้นให้คนของเธอดูหน่อยไม่ได้เหรอ…ผมเข้าใจน่ะว่าเธอจะตัองใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวงต่อรอบข้าง” (รินทาโร่)
“ชิโดะคุง คุณใช้ชีวิตด้วยความหวานระแวงด้วยเหรอคะ?” (เรย์)
“ผมแค่เข้าใจมันหนะ” (รินทาโร่)
ในขณะเดียวกัน โชงายากิ ก็เสร็จแล้ว กลิ่นหอมของซีอิ้วและขิงกระตุ้นความอยากอาหารของผม และผมยกย่องตัวเองสําหรับการทําอาหารที่น่าทานแบบนี้
ผมวางถ้วยข้าวขาวที่เพิ่งตักมาวางที่โต๊ะ
“กลิ่นหอมดูน่าอร่อยกว่าที่ฉันเคยกินมาทั้งหมดเลยนะค่ะ” (เรย์)
“ขอบคุณนะ กินมันก่อนที่มันจะเย็นนะ” (รินทาโร่)
“กินกันเลยยย” (เรย์)
ผมประหม่ามากตอนที่โอโตซากิเอาโชงายากิเข้าปาก
พูดตามตรงผมไม่เคยให้คนอื่นกินฝีมือผมเลยแม้ว่ายูกิโอะจะกินอาหารของผมมาหลายครั้งแล้ว
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันทำอาหารให้ผู้หญิง ผมปรุงมันเพื่อรสนิยมของผู้ชาย
ผมกังวลมากไปหรือเปล่านะ — แต่คำพูดของเธอก็ ก็ช่วยคลายความกังวล
“อร่อยมากเลยค่ะ!” (เรย์)
ผมรู้สึกว่าร่างกายของผมคลายตัวจากตอนแรกมากเลย
ผมอดไม่ได้ที่จะยิ้มให้กับความประหม่าเมื่อตะกี้นี้
“นั่นสินะ โล่งอกไปที” ( ริมทาโร่)
“มันอร่อยที่สุดที่ฉันเคยลิ้มลอง อย่างไม่ต้องสงสัยเลยล่ะค่ะ” (เรย์)
“ผมคิดว่านั่นเป็นการพูดเกินจริงไปหน่อย แต่ก็ขอบคุณสำหรับคำชมนะ” (รินทาโร่)
ผมกินมันด้วยตัวเองและถึงแม้จะรสชาติเหมือนเดิม แต่ก็อร่อยอย่างแน่นอน
ผมทำอาหารเก่งขึ้นทุกครั้ง ผมรู้สึกอยากทําอาหารกินเองทุกวันจริงๆ
“ฉันขอข้าวอีกถ้วยได้ไหมคะ?” (เรย์)
“ได้สิ” (รินทาโร่)
ผมเอาถ้วยมาตักข้าวให้ หลังจากเอาให้เธอแล้ว โอโตซากิก็กลับมากินต่อด้วความเร็วเท่าเดิม เมื่อเห็นเธอแบบนั้น ผมก็เข้าใจเลยว่าทําไมเธอถึงแทบจะทรุดตัวลงจากความหิวโหยที่หน้าสถานี
“การเป็นไอดอลมันสนุกไหม” (รินทาโร่)
“สนุกสิค่ะ มันเป็นความฝันของฉันตั้งแต่ฉันยังเป็นเด็ก” (เรย์)
“คุณทำตามความฝันสำเร็จแล้วหรอ” (รินทาโร่)
“ฉันได้ทํางานเป็นไอดอล และฉันก็โชคดีด้วย ตอนนี้ฉันพยายามที่จะทํางานหนักขึ้นเพื่อไม่ให้เสียโอกาสที่จะได้รับ” (เรย์)
เธอเป็นผู้หญิงที่ดี เธออาศัยอยู่ในโลกที่แตกต่างจากผมที่ไม่ต้องการทำงาน
“ชิโดะคุงก็ทํางานหนักเพื่อความฝันเช่นกัน เยี่ยมไปเลยหละค่ะ” (เรย์)
“คุณคิดอย่างนั้นจริงๆเหรอ” (รินทาโร่)
“อืม ฉันคิดอย่างนั้นจริงๆนะค่ะ”
ผมคิดว่าคงถูกเยาะเย้ยเพราะอยากเป็นสามีที่ทำงานบ้านเต็มเวลา
นั่นเป็นเหตุผลที่ผมไม่พูดเรื่องนี้กับใครนอกจากยูกิโอะที่สนิทกัน
แต่เมื่อเธอชมฉันมาอย่างไม่คาดคิดผมรู้สึกดีใจมาก
“ฉันรู้ไม่รู้ว่าความฝันใครจะเป็นแบบไหน แต่ทุกคนที่ทำงานหนักเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้นเป็น คนที่น่าอัศจรรย์มาก ฉันต้องการที่จะสนับสนุนคนเหล่านั้นด้วย” (เรย์)
“วันนี้ผมจะเป็นแฟนคลับขอบคุณเป็นคนครั้งแรกเลยนะ” (รินทาโร่)
“นายไม่เคยเป็นแฟนคลับใครมาก่อนเหรอคะ?” (เรย์)
“บอกตามตรง ผมไม่ค่อยสนใจเรื่องแบบนั้นจริงๆ จนได้มาคุยกับเธอ” (รินทาโร่)
“ฉันก็อยากเป็นแฟนของชิโดคุงเหมือนกัน ฉันอยากกลับบ้านแล้วไปกินข้าวกับนาย”
“เธอทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกนะ” (รินทาโร่)
ผมปฏิเสธคำขอของโอโตซากิแบบทันที ดูเหมือนเธอจะไม่ได้คาดหวังให้ผมปฏิเสธเธอและดวงตาของเธอก็เบิกกว้างอย่างไม่เข้าใจ
“ทําไมกันคะ?” (เรย์)
“ถามทําไม เธอเป็นไอดอลชั้นยอดนะ รู้ใช่ไหม ถ้ามีคนเห็นเธอกับผู้ชาย มันจะเป็นเรื่องอื้อฉาวทันที เธอไม่ใช่แค่นักเรียนมัธยมทั่วไปอีกต่อไปแล้วรู้ใช่ไหม?” (รินทาโร่)
“นั่นสินะค่ะ นั่นก็อาจจะจริงก็ได้ แต่…” (เรย์)
“ความฝันของเธออาจจะพังเพราะผม ผมไม่สามารถรับผิดชอบต่อสิ่งนั้นได้
และผมไม่ต้องการทําอย่างนั้นจริงๆ นั่นคือเหตุผลที่เราต้องไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกันนอกโรงเรียนให้มากที่สุด” (รินทาโร่)
ผมไม่สนหรอกนะว่าโอตาซากิจะติดอยู่ในเรื่องอื้อฉาว แต่ถ้ามันเกี่ยวข้องกับผม
ผมสงสัยว่าผมจะอยู่อย่างสงบสุขไม่ได้
แม้ว่าผมจะประหม่ามากเกินไป มันจะสายเกินไปหลังจากมีบางอย่างเกิดขึ้น
“แม้วันนี้ ผมพาเธอมาที่นี่ด้วยความเสี่ยงที่จะเกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้น ผมไม่อยากทำอะไรแบบนี้อีกแล้ว”
“ฉันเข้าใจแล้วค่ะ”(เรย์)
“ได้โปรดทําเพื่ออาชีพไอดอลของคุณและเพื่อความสบายใจของผม” (รินทาโร่)
เธอดูค่อนข้างหดหู่ แต่ผมต้องพูดกับเธออย่างเข้มงวดเพื่อให้เธอคิดเกี่ยวกับมัน
ผมแน่ใจว่าโอโตซากิชอบอาหารของผมมากกว่าที่ควรเพราะเธอกินมันตอนที่เธอหิว และแน่นอนว่าเธอ จะใจเย็นลงหลังจากผ่านไประยะหนึ่ง ไอดอลชั้นนําแบบเธอจะไม่มีปัญหาในการหาของอร่อยอย่างแน่นอน
“ว่าแต่ เธออาศัยอยู่แถวนี้เหรอ?” (รินทาโร่) *
“ใช่แล้วค่ะ ถ้าที่นี่ใช้เวลาเดินประมาณ 30 นาที” ( เรย์ )
“ไกลหน่อย…ถ้าอย่างนั้นผมจะเรียกแท็กซี่ให้กลับบ้านนะ แต่ผมออกค่าโดยสายให้ไม่ได้นะ” (รินทาโร่)
“เอ๊ะ……?” (เรย์)
“อย่าเอ๊ะ เธอมีเงินมากกว่าผมสะอีก เธอไม่จำเป็นต้องให้ผมออกค่าโดยสารใช่ไหม”
“ไม่ ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” (เรย์)
“ไม่มีทาง นี่คุณไม่ได้ตั้งใจจะมาค้างที่นี่ใช่ไหม” (รินทาโร่)
โอโตซากิพยักหน้า โดยไม่พูดอะไร
ผมละปวดหัวจริงๆ เธอขาดทักษะการจัดการกับปัญหาต่างๆ
“ผมเพิ่งจะเตือนเธอเรื่องนี้นะ เป็นเรื่องยากสำหรับไอดอลที่จะอยู่ในบ้านของผู้ชาย
แม้ว่าจะไม่มีใครรู้ แต่ใช้สามัญสำนึกสักหน่อยเถอะ!” (รินทาโร่)
“เอ่อ.. เถียงออกไปไม่ไดัเลยค่ะ” (เรย์)
“ผมรู้ว่าคุณเหนื่อยมาก…แต่คุณต้องกลับบ้านนะ” (รินทาโร่)
“ฉันขอโทษนะค่ะ ฉันจะทำตามที่คุณพูดค่ะ” (เรย์)
ผมเรียกรถแท็กซี่จากแอพบนสมาร์ทโฟน
หลังจากยืนยันได้แล้วว่าแท๊กซี่จะมาถึงบ้านของผม ในอีก 10 นาที ผมก็บอก โอโตซากิเหมือนเดิมอีกรอบ
“ลืมวันนี้ ลืมผม และทำเป็นว่าเราเป็นแค่เพื่อนร่วมชั้นที่แค่รู้จักกันดี” (รินทาโร่)
“ลืมทุกอย่างเลยหรอคะ?” (เรย์)
“ใช่ ทุกอย่างเลย” (รินทาโร่)
“ฉันเข้าใจแล้วค่ะ ฉันจะพยายยาม” (เรย์)
ดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกเสียใจกับคำพูดผม ดังนั้นนั้นผมจะไม่อยากพูดอะไรแรงไปมากกว่านี้ เมื่อผมดูจากหน้าต่าง ผมเห็นว่าแท็กซี่เพิ่งมาถึง
ผมจะไปส่งเธอที่หน้าประตู มีความเป็นไปได้ที่ผู้อยู่อาศัยรายอื่นจะเห็นเรา
“……บะบาย” (เรย์)
“ผมมั่นใจขึ้นมากแล้วตอนนี้ ในตอนที่คุณบอกว่า อาหารของผมมัน อร่อย ขอบคุณนะ”
“ฉันก็ดีใจเช่นกันที่ ซิโดวคุง ใจดีกับฉันมาก ดังนั้นแม้ว่าคุณจะพูดก่อนหน้านี้ว่าเราเป็นเพื่อนร่วมชั้นที่รู้จักกันดีอย่างน้อยคุณช่วยยกโทษให้ฉันได้ไหมถ้าฉันถือว่านายเป็นเพื่อนของฉัน” (เรย์)
โอโตซากิเอียงศีรษะเล็กน้อยอย่างไม่สบายใจและถามคําถามนี้กับผม ถ้ามีผู้ชายที่ตอบคําถามนี้ไม่ได้ ผมอยากเข้าไปต่อยเค้าจริงๆ
“ผมเข้าใจแล้ว เราเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน ไม่ใช่เรื่องผิดปกติขนาดนั้น” (รินทาโร่)
“ขอบคุณพระเจ้า ฉันมีความสุขจัง” (เรย์)
“ผมไม่รู้ว่าอะไรทําให้คุณมีความสุขที่ได้เป็นเพื่อนกับผม แล้วเจอกันที่โรงเรียนนะ โอโตซากิซัง”
“แล้วเจอกันที่โรงเรียนนะคะ ชิโดวคุง” (เรย์)
หลังจากพูดจบ โอโตซากิก็ออกจากสวนไป
อาจเป็นเพราะเธอเข้าไปในรถแล้ว รถแท็กซี่ที่จอดอยู่ชั้นล่างก็เริ่มเคลื่อนตัว
“ฮ่าๆ…” ( รินทาโร่)
ช่างเป็นวันที่เหน็ดเหนื่อยรวมทั้งการทํางาน
ขณะที่ผมล้างจานที่กินไว้ ผมก็คิดถึงเหตุการณ์ในวันนั้นอีกครั้ง
ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายที่จะมีคนอื่นกินอาหารที่ผมทำอย่างเอล็ดอร่อย
แม้จะเป็นสิ่งกระตุ้นที่ดี แต่ในขณะเดียวกัน ผมหวังว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก
อย่างไรก็ตาม ตรงกันข้ามกับความปรารถนาของผม
ชีวิตที่สงบสุขของผมจะต้องพังทลายในวันรุ่งขึ้น —-
#การที่โอโตซากิใช้คะค่ะค่อนข้างบ่อยเนื่องจากผมคิดว่าเธอที่เป็นไอดอลและเป็นลูกคุณหนูรวยและเธอค่อนข้างใสสือบริสุทธิ์มากผมเลยคิดว่าเธอน่าจะเป็นคนที่ข่อนข้างจะสุภาพ
[เนื่อกจากเป็นผลงานแรกที่แปลหากหากมีคำแนะนำอะไรบอกกันได้นะครับได้นะครับ]
ติดตามผลงานได้ที่เพจ แปลเรื่องที่สนใจ