ผมไม่อยากทำงานตลอดชีวิตเลยอุทิศเป็นพ่อบ้าน - ตอนที่ 2.4 ข้าวกล่อง
Househusband-wannabe Boy and Idol Girl Ep 2.4
“นี่ รินทาโร่ นายเปลี่ยนไปนิดหน่อยนะ?”
“อะไร?” (รินทาโร่)
ตอนที่ผมกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าไปเรียนวิชาพลศึกษา ยูกิโอะก็ถามคำถามนั้นกับผม
เขาเอียงศีรษะ ดูเหมือนว่าใบหน้าที่สับสนของผมทำให้เขาแปลกใจ
“นี่นายไม่รู้ตัวเหรอ ดูเหมือนนายจะเวลาว่างมากกว่าเดิมนะ” (ยูกิโอะ)
“…… พักผ่อนมากขึ้นเหรอ?” (รินทาโร่)
ผมสงสัยว่าเป็นเพราะได้เงินไปชื้อวัตถุดิบดีๆมาทำอาหาร ทำให้สุขภาพของผมดีขึ้นอย่างมาก หรืออาจเป็นเพราะผมใช้ชีวิตผ่อนคลายมากกว่าเมื่อก่อน
“บางทีหรือว่าแกมี แฟนแล้วหรอวะ?” (ยูกิโอะ)
“ไม่มีทาง ถ้ามีแฟนแล้ว เมื่อไหร่จะเจอใครสักคนที่เลี้ยงผมได้ตลอดชีวิต คือ ผมจะไม่หาภรรยาจนกว่าผมจะเรียนจบมหาลัยหรอกนะ” (รินทาโร่)
“ก็จริง! ผมคงเข้าใจผิดไปเอง” (ยูกิโอะ)
ทำไมแลยูกิโอะมันดีใจที่เพื่อนไม่มีแฟน?
อย่าบอกนะว่ามันเป็นคนที่ไม่ยอมทนกับความสุขของคนอื่น ทั้งที่ตัวเองออกจะมีคนมาสารภาพรักบ่อยๆ?
“ว่าแต่ เกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงที่สารภาพรักกับนายก่อนหน้านี้ นายบอกเองนิว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างดีไม่ใช่เหรอ?” (รินทาโร่)
“ก็……แต่มันต่างจากที่จะเป็นแฟนหันนะ ผมจะไปชอบเธอในฐานะแฟนไม่ได้หรอก…….ถ้าเป็นแค่เพื่อนล่ะก็คงได้ ” (ยูกิโอะ)
ยูกิโอะ หนุ่มหล่อที่มีใบหน้าค่อนข้างน่ารัก ค่อนข้างเป็นที่นิยมตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมต้น
ด้วยใบหน้าที่ดีและบุคลิกที่ดีเขาจะได้รับความนิยมอย่างมากกับผู้หญิงเลยล่ะ
อย่างไรก็ตาม มีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่ง เพราะเขาเคยตกเป็นเหยื่อของเด็กาวที่เป็นสโต๊กเกอร์ มซึ่งเขาปฏิเสธ
ผมเลยต้องกลับบ้านกับเขาทุกวันเพื่อไม่ให้มีคนมาเข้าใกล้ และในที่สุด เมื่อเข้าโรงเรียนมัธยมปลาย ยูกิโอะก็ย้ายไปอยู่กับครอบครัวและขจัดปัญหาออกไป
เดิมทีพ่อของเขากำลังวางแผนที่จะซื้อบ้าน ดังนั้นเลยไม่สะดวกมารับ
“ไม่จำเป็นต้องตอบแทนหากมีคนชอบนายหรอกนะ และนายไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้ นายสามารถรอจนกว่านายจะตกหลุมรักใครซักคนด้วยตัวเอง” (รินทาโร่)
“อื้ม ผมจะทำอย่างนั้น!” (ยูกิโอะ)
ด้วยเหตุผลบางอย่าง เสียงของยูกิโอะก็ดูร่าเริงขึ้นมา และเขามองมาที่ผมด้วยดวงตาที่ดูเหมือนดวงตาที่เหมือนจะปลิวไป
ดูเหมือนว่าปัญหาของเขาจะได้รับการแก้ไขแล้ว ผมรู้สึกดีที่ได้ช่วยเพื่อนรักของผม
หลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ พวกเราก็เดินไปที่โรงยิม
พูดตามตรง คนประมาณครึ่งหนึ่งในโรงยิมกำลังแช่งขันกันอยู่ และตราบใดที่ผมเข้าไปแข่งตามตารางที่กำหนด ที่เหลือก็จะเป็นเวลาว่าง โดยเฉพาะวันนี้ที่แข่งวอลเลย์บอล นักเรียนครึ่งหนึ่งต้องพักใกล้กำแพงเพราะจำนวนสนามที่มีไม่พอ
“ดูโอโตซากิซังดูสิ”
“ว้าว เธอเล่นเก่งเหมือนเดิมเลย”
ระหว่างที่ผมรอคิวกับยูกิโอะ พวกผู้ชายที่อยู่ใกล้ๆต่างพากันมองเรย์ขณะที่เธอเดินไปรอบๆ คอร์ท
อาจเป็นเพราะเธอมีแข่งตั้งแต่เริ่ม แต่การเล่นของเรย์นั้นเทียบเท่ากับทีมวอลเลย์บอล
การเคลื่อนไหวของเธอนั้นเร็วมากจนแม้แต่ผู้ชายก็ยังไม่แน่ใจว่าจะรับมือไหวไหม
แต่เมื่อเธอเคลื่อนที่ไปรอบๆ แบบนั้น เธอมักจะดึงดูดความสนใจของพวกผู้ชาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เธอมี————ร่างกายที่ดูไม่เหมือนนักเรียนมัธยมปลาย
ไม่มีสามารถตำหนิพวกผู้ชาย ที่มองกับเธอได้เพราะมี “ส่วนใดส่วนหนึ่ง” ในร่างกายของเธอที่ทำให้ผมอารมณ์เสียในเช้าวันนี้ [ผู้แปล : ส่วนไหนก้รู้ๆกันอยู่]
ดังนั้นผมจึงไม่สามารถตำหนิพวกผู้ชายได้
“รินทาโร่ เป็นอะไรไป จู่ๆนายก็มองไปรอบๆ” (ยูกิโอะ)
“เปล่า ผมแค่รู้สึกสดชื่นขึ้นเมื่อรู้ว่ายังมีคนที่หยาบคายกว่าผมอยู่” (รินทาโร่)
“สดชื่นกับนายจริงๆ ใช่ไหม” (ยูกิโอะ)
ด้วยเหตุผลบางอย่าง ยูกิโอะมองมาที่ผมด้วยความสงสาร
รู้สึกแปลกๆ ทั้งๆ ที่ผมกำลังพูดถึงสิ่งที่ผมรู้สึกจริงๆ
–ฮะ? แสดงว่าผมไม่ต่างจากเด็กพวกนั้นเลยเหรอ?
“……”
ผมต้องคิดอะไรก็ได้ตอนนี้ ผมควรหยุดคิดเรื่องนี้ก่อนเพราผมเริ่มรู้สึกขยะแขยงตัวเอง
เวลาผ่านไปและเป็นเวลาอาหารกลางวัน
ผมนั่งตรงข้ามกับยูกิโอะ แล้วเอากล่องอาหารกลางวันาออกมา
ในกล่องอาหารของผมนั้นแตกต่างกับเรย์ครึ่งหนึ่ง
ส่วนใหญ่ของเรย์จะเป็นอาหารที่ผมทำ ส่วนของผมเป็นอาหารแช่แข็ง แน่นอนว่า เหตุผลก็คือเพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นเข้าใจผิดเกี่ยวกับอาหารของพวกเรา
“มีหลายสิ่งที่ผมชื่นชม รินทาโร่ หนึ่งในนั้นคือนายทำอาหารกลางมากินทุกวัน ผมไม่เคยทำอย่างนั้นเลย” (ยูกิโอะ)
“ผมอยากจะชินกับมันน่ะ ไว้สำหรับในอนาคต” (รินทาโร่)
“มันเหมือนกับที่นายอดทน เพราะในอนาคตนายไม่อยากทำงาน (ยูกิโอะ)
ผมตักอาหารเข้าปาก อืม อร่อยแม้จะเย็นไปสักหน่อย
อาหารที่ผมทำเองส่วนใหญ่ในกล่องอาหารกลางวันของผมคือเนื้อสัตว์ แครอทและมันฝรั่งที่ปรุงรสเล้กน้อยและมีรสหวานหน่อยๆ อาจเป็นเพราะว่าเมื่อวานนี้ต้มไว้และมันซึมซับรสชาติเข้าไป ส่วน เนื้อและหัวหอมก็ทำได้อร่อยเหมือนกัน
“ว้าว! กล่องข้าวของโอโตซากิซัน่ากินมาก!”
ทันใดนั้นเสียงดังกล่าวก็ดังขึ้นจากสาว ๆ ที่ล้อมรอบ เรย์
เธอมักจะรายล้อมไปด้วยผู้คน แต่วันนี้มีเยอะเป็นพิเศษ
เหตุผลน่าจะมาจากกล่องข้าวที่ผมทำไว้ให้เธอ
“แม่เธอเตรียมสิ่งนี้ไว้หรือเปล่า”
“เอ่อ….ไม่ แม่ได้ทำอาหารให้ค่ะ” (เรย์)
“เอ๊ะ⁉ ถ้างั้นโอโคซากิซังทำเอง…… ด้วยตัวเอง⁉”
“ใช่—ใช่ ฉันทำเองค่ะ” (เรย์)
“ว้าว! สุดยอดเลย! ไม่ใช่ว่าโอโตซากิซังไม่ค่อยว่างทุกวันเหรอ⁉”
“ฉัน แต่…… โภชนาการเป็นสิ่งสำคัญเลยอยากเลือกด้วยตัวเองน่ะคะ” (เรย์)
คำตอบของเรย์ทำให้ผู้คนรอบๆ ตัวเธอตะโกนด้วยความชื่นชม
แต่เธอดูค่อนข้างจะขอโทษผม อาจเป็นเพราะเธอบอกว่าเธอทำเอง
ผมอยากจะชมเชยเธอที่ทำแบบนั้นเพราะผมไม่อยากให้ใครรู้ความสัมพันธ์ของพวกเรา
“แค่เป็นไอดอลก็สุดยอดมากแล้ว แต่โอโตซากิซัง ยังทำอาหารมากินเองอีกสุดยอดมากเลย”
“จริงสิ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ว่าโอโตซากิซังจะอายุเท่าฉัน”
“หืม? รินทาโร่ นายยิ้มเรื่องอะไร?” (ยูกิโอะ)
“อ๋อ เนื้อและมันฝรั่งที่ผมทำนั้นอร่อยเกินไปน่ะ” (รินทาโร่)
“อร่อยขนาดนั้นเลย ขอผมกินหน่อยได้ไหม” (ยูกิโอะ)
“ได้สิ” (รินทาโร่)
ผมรู้สึกดีที่ได้รับคำชมสำหรับสิ่งที่ผมทำ แม้ว่ามันจะเป็นทางอ้อมก็ตาม
ผมยื่นอาหารให้ยูกิโอะด้วยอารมณ์ดีและรู้สึกพอใจกับมันเล็กน้อย
◇◆◇
“ขอโทษนะค่ะรินทาโร่คุง” (เรย์)
“อะไรนะ จู่ๆก็เป็นอะไรขึ้นมา” (รินทาโร่)
เมื่อเรย์กลับมาที่บ้านหลังจากซ้อม เธอโค้งคำนับผมทันทีที่เธอเข้ามาในห้องของผม
“ฉันขอโทษนะคะ ฉันเอาเครดิตไป……สำหรับมื้อเที่ยงที่รินทาโร่ทำให้ฉันกินฉัน” (เรย์)“เอ่อ เรื่องแค่นี้เอง” (รินทาโร่)
เมื่อนึกย้อนกลับไป เธอดูขอโทษอย่างสุดซึ้งเมื่อบอกเพื่อนร่วมชั้นว่าเธอทำอาหารกลางวันเอง
ผมรู้สึกขอบคุณที่เธอให้เกียรติผม แต่ดูเหมือนว่าเธอจะใส่ใจมากเกินไปหน่อยนะ
“ผมไม่เป็นไร มันค่อนข้างดีนะที่เธอบอกว่าทำเอง เพราะมันจะช่วยลดความเสี่ยงที่เราอยู่ด้วยกัน มันเป็นสิ่งที่ดี เธอไม่ต้องกังวลมากไปหรอกน่ะ” (รินทาโร่)
“……ฉันรู้สึกดีใจนิดหน่อยที่ได้ยิน รินทาโร่คุง พูดแบบนี้นะคะ” (เรย์)
“อย่างไงก็ตาม อย่าพูดถึงผมเวลาอยู่ข้างนอก อะไรก็เกิดขึ้นได้ เธอควรเก็บมันไว้เพื่อปกป้องชื่อเสียงตัวเองนะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ….ฉันจะทำแบบนั้นนั้น” (เรย์)
เรย์เป็นคนดี แม้ว่าบางครั้งเธอจะควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่เธอก็ตรงไปตรงมา มีน้ำใจกับคนอื่น
ครั้งแรกที่เธอบอกว่าเธอเห็นแก่ตัว ผมคิดว่าเธอบ้าไปแล้ว แต่ตอนนี้ความรู้สึกนั้นหายไปแล้ว