ผมไม่อยากทำงานตลอดชีวิตเลยอุทิศเป็นพ่อบ้าน - ตอนที่ 2.5 ขอร้องรินทาโร่
Househusband-wannabe Boy and Idol Girl Ep 2.5
“นี่ อย่าเพิ่งทำหน้าบูดบึ้งสิ กินข้าวซะ วันนี้เป็น พาสต้านะ” (รินทาโร่)
“พาสต้า?” (เรย์)
“กับซอสเนื้อมะเขือเทศ โรยด้วยชิสขูด” (รินทาโร่)
พาสต้ากับซอสแดงวางอยู่ตรงหน้าเรย์
เป็นซอสเรียบง่าย เพียงแค่ผสมและเคี่ยวมะเขือเทศกระป๋องกับซอสเนื้อสับ แต่เพราะมันเรียบง่ายมาก จึงมีรสชาติที่สม่ำเสมอ
ผมวางแผนที่จะใช้ซอสที่เหลือไปทำอาหารสำหรับคืนพรุ่งนี้
ผมจะรากซอสบนลงเส้นพลาสต้า โรยด้วยชีส แล้วนำเข้าเตาอบ
อย่าคิดว่าผมกำลังทำบ้าอะไรลงไป การทำแบบนี้เป็นเคล็ดลับของการเป็นสามีทำงานบ้านเต็มเวลาที่จะช่วยเพิ่มรสชาติแฝงลงไป
“ขอซอสเยอะๆ ได้ไหมคะ” (เรย์)
“ได้สิ ยังไงนี่ก็เป็นเงินของเธออยู่ดี” (รินทาโร่)
“ที่พูดมันมาก็จริงค่ะ” (เรย์)
เรย์ดูมั่นใจ เธอโรยชีสขูดจำนวนมากลงบนพาสต้า
เมื่อซอสกลายเป็นสีขาวขุ่น เธอก็แล้วนำอาหารเข้าปาก
“อร่อย!!” (เรย์)
“เธอมีปฏิกิริยาที่ทำให้คนทำอาหารดีใจจริงๆนะ ผมทำไวเยอะมากถ้าจะเพิ่มบอกได้นะ” (รินทาโร่)
“ฉันขอเพิ่มด้วยค่ะ” (เรย์)
“เธอนี่กินหมดเร็วจริงๆนะ” (รินทาโร่)
หลังจากเติมพาสต้าให้เรย์ ผมเริ่มก็กินพาสต้า
ผมไม่ได้ทำอาหารที่ซับซ้อนเกินไป แต่ก็ดีพอสำหรับทำกินที่บ้าน
หลังจากที่เราทั้งสองทานอาหารเสร็จ ผมก็หันไปดูทีวี
“พวกเธอดังมากๆเลยสินะ” (รินทาโร่)
ผมพึมพำกับตัวเองโดยไม่รู้ตัวตอนที่มองดูสมาชิกสามคนของ มิลสตาร์ บนหน้าจอ
พวกรายการเพลง รายการวาไรตี้ รายการข่าว โฆษณา มันทำให้ผมเวียนหัวมากผมเลยไม่ได้ดูมานานแล้ว
ทั้งที่ พวกเธอนี้ดูยุ่งๆมาก แต่ก็ยังไปโรงเรียนได้ปกติผมนับถือพวกเธอจริงๆ
อีกครั้งที่ผมหันความสนใจไปที่ไอดอลขื่อดัง นั่นคือ โอโตซากิ เรย์ และเมื่อผมเห็นคราบของซอสเนื้อที่มุมปากของเธอ ผมก็ถอนหายใจ
“……เรย์ นั่งนิ่งๆ” (รินทาโร่)
“อะไรหรอ? …… อืมมม” (เรย์)
ผมหยิบทิชชู่เปียกมาเช็ดปากเธอ
เรย์เป็นเหมือนลูกของผมที่ต้องคอยดูแล
“ขอบคุณค่ะ แต่มันน่าอายนะ” (เรย์)
“ถ้าอย่างนั้นก็กินดีหน่อยๆ……โอโตซากิ เรย์ ที่อยู่ตรงหน้าผมดูไม่เหมือนในทีวีเลยนะ” (รินทาโร่)
“อืม ไม่ใช่คนละคนหรอกค่ะ ฉันแค่มีบุคลิกที่เปิด/ปิดคนละแบบเฉยๆ” (เรย์)
“แต่ภาพของเธอที่โรงเรียนเป็นไอดอลใช่ไหม ผมขอโทษถ้าผมประหม่ามากเกินไป แต่ผมรู้สึกเหมือนว่าเธอเลอะเทอะก็ต่อเมื่อเธออยู่ในบ้านหลังนี้เท่านั้น” (รินทาโร่)
“ก็จริงนะค่ะ ฉันจะปิดโหมดไอดอลก็ต่อเมื่ออยู่ที่นี่และอยู่กับเพื่อนในวงเท่านั้น นอกนั้นยังเป็นไอดอลเสมอ เวลาอยู่โรงเรียน เวลาเดินข้างนอก แม้กระทั่งวันหยุดถ้ามีมองอยู่ ภาพลักษณ์คือสิ่งสำคัญ” (เรย์)
ผมเห็นด้วย
หากมีคนเห็นว่าเธอไม่เรียบร้อยตอนอยู่ข้ างนอก มันจะส่งผลโดยตรงต่อภาพลักษณ์ของเธอและ มิวสตาร์
ดูเหมือนเธอจะใช้ชีวิตตามปกติ แต่ที่จริงแล้ว เธอยังคงต้องรักษาภาพลักษ์อยู่เสมอ
“……เยี่ยมมาก ผมนับถือเธอนะ” (รินทาโร่)
“ฉันก็นับถือ รินทาโร่คุงค่ะ ฉันไม่มีวันทำในสิ่งที่รินทาโร่คุงทำหรอกค่ะ” (เรย์)
“เป็นเพราะเธอยุ่งใช่ไหม ถ้าเธอมีเวลาเธอก็ทำแบบเดียวกับผมได้” (รินทาโร่)
“เปล่า ฉันอาจจะทำอาหารได้ แต่รินทาโร่คุงทำมากกว่านั้นอีกมาก ใส่ใจกับสิ่งเล็กๆน้อยๆ”
เรย์หยิบแก้วกาแฟที่ผมชงไว้ให้มา
เธอจิบและหายใจออก
“กาแฟนี่เป็นแบบที่ฉันชอบ นายไม่จำเป็นต้องทำตามที่ฉันขอก็ได้นะคะ” (เรย์)
“ก-ก็ได้” (รินทาโร่)
“รินทาโร่คุงจำได้ว่าฉันชอบกินและดื่มอะไร และเตรียมมันให้ฉัน ถ้าเครื่องแบบของฉันมีรอยย่น นายก็รีดก่อนที่ฉันรู้ตัว และจะทำให้แน่ใจว่าฉันมีแชมพูและครีมอาบน้ำเพียงพอที่จะใช้อยู่เสมอเลย” (เรย์)
“……ไม่หรอกมันเป็นเรื่องปกตินะ?” (รินทาโร่)
“ไม่เลย อย่างน้อยฉันก็ไม่ได้ใส่ใจคนอื่นขนาดนั้น” (เรย์)
“มันไม่ได้เป็นแบบนั้น……” (รินทาโร่)
ผมรู้สึกเขินนิดหน่อยกับคำชมนี้ แต่ก็รู้สึกสับสนเพราะเธอไม่ได้คิดจริงๆ ว่ากำลังทำอะไรอยู่
ไม่ใช่ว่าผมพยายามที่จะใส่ใจ ผมแค่คิดว่าเธอจะมีความสุขถ้าผมทำสิ่งนี้ให้—
อ่าา นี่คือสิ่งที่เธอหมายถึงการเอาใจใส่ผู้อื่นสินะ
“แต่มันก็ไม่ได้คิดมากขนาดนั้นหรอก.” (รินทาโร่)
“ฉันแน่ใจว่ามันเป็นเรื่องปกติ สำหรับฉัน การเป็นไอดอลนั้นยาก แต่ก็ไม่ได้ยากขนาดนั้นหรอกค่ะ” (เรย์)
“อื้ม…..ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละ” (รินทาโร่)
“ใช่นั่นแหละค่ะ” (เรย์)
ผมรู้สึกว่าผมสามารถทำงานได้มากเท่าที่ผมต้องการเพียงเพราะว่าเรย์ทำให้ผมรู้สึกสบายใจ
การรู้ว่าสิ่งที่ผมทำมีประโยชน์กับเรย์ทำให้ผมมีแรงจูงใจในการทำอาหาร
ตอนแรกผมทำแบบนี้เพราะเรื่องเงิน แต่พูดตามตรง ตอนนี ้ผมไม่ได้ต้องการเงินแล้วด้วยซ้ำ——
[ผู้แปล : หืมไม่ได้ต้องการเงินแล้ว สงสัยเริ่มโดนตกแล้วละสินะ]
“เอ่อ.. รินทาโร่คุง พรุ่งนี้ฉันมีเรื่องจะขอร้องเธอนิดหน่อย” (เรย์)
“หืม เรื่องอะไรหรอ?” (รินทาโร่)
“พรุ่งนี้ไม่ได้ไปโรงเรียน ฉันจะไปซ้อมช่วงเช้า ฉันอยากให้ทำข้าวกล่องส่วนสำหรับส ามคนเพื่อใช้ในการซ้อมช่วงเช้า” (เรย์)
“ส่วนของสามคน⁉ เธอจะกินคนเดียวเลยหรอ ……” (รินทาโร่)
“เปล่าไม่ใช่แค่ของฉัน และ ฉันไม่ได้ตะหละขนาดนั้นนะคะ” (เรย์)
“ไม่ค่อยน่าเชื่อเลยนะ ทำไมเธอถึงต้องการส่วนสำหรับสามคนล่ะ?” (รินทาโร่)
“ฉันบอกกับสมาชิกอีกสองคนของ มิลสตาร์ เกี่ยวกับ รินทาโร่คุง พวกเธออยากจะลองกินอาหารของนาย”
“เ-เธอบอกพวกเขาเกี่ยวกับผม!? ผมเตือนเธอแล้วว่านะอย่าพูดถึงผมกับคนอื่นใช่ไหม” (รินทาโร่)
“พวกเขาไม่ใช่คนอื่นสำหรับฉัน และฉันเชื่อใจพวกเขา ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” (เรย์)
“ถ้าเธอพูดอย่างนั้น……ผมจะยอมเชื่อล่ะกัน” (รินทาโร่)
เรื่องอื้อฉาวของ เรย์ อาจส่งผลกระทบต่อสมาชิกคนอื่นๆในวง เช่นกัน ผมแน่ใจว่าเธอจะไม่บอกใครเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ผมยังคงคิดว่าเธอต้องพัฒนาทักษะการจัดการกับปํญหาในอนาคตอยู่ดี
“ผม ต้องทำกับข้าวสำหรับสามคน อืม.. คาน่อน และ มีอา ผมไม่รู้ว่าพวกเธอชอบกินอะไร ผมทำจะเหมือนกับของเรย์ ตกลงไหม?” (รินทาโร่)
“อื้ม มีเพียงไม่กี่อย่างที่พวกเธอไม่กิน ดังนั้นฉันแน่ใจว่าพวกเธอจะชอบทุกอย่างที่ รินทาโร่คุงทำแน่นอน”
“เข้าใจแล้ว นั่นจะทำให้ผมทำงานง่ายขึ้น” (รินทาโร่)
มันอาจจะเป็นสิ่งที่ไม่ดีที่จะพูด แต่สำหรับผมการทำอาหารมากหรือน้อยก็ไม่ค่อยลำบากมาก แน่นอนว่าปริมาณที่ทำอาจจะเยอะขี้น แต่เพียงแค่ว่าผมรู้สึกว่าจะได้รับความพึงพอใจจากการทำอาหารสำหรับสี่คนมากกว่าสองคนที่ใช้ความพยายามเท่าๆ กัน ก็ตาม
“แต่เพราะเป็นอาหารเช้า ผมจึงไม่สามารถทำอาหารที่ซับซ้อนมากได้….” (รินทาโร่)
“ในกรณีนี้ ฉันมีข้อเสนอแนะค่ะ” (เรย์)
“อะไรหรอ?” (รินทาโร่)
“จะดีกว่าถ้ารินทาโร่มาส่งด้วยตัวเองตอนเที่ยง วิธีนี้นายจะมีเวลาทำมากขึ้น” (เรย์)
“ผม? ไม่ ผมไม่รู้ว่าต้องทำหน้าแบบไหนตอนไปที่นั่น…….” (รินทาโร่)
“ไม่ต้องห่วง พรุ่งนี้เป็นวันซ้อมส่วนตัว ดังนั้นจะมีแค่พวกเราในสตูดิโอ และพวกเธอต้องการพบรินทาโร่ด้วย แน่นอนถ้านายไม่อยากทำ นายไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้.” (เรย์)
“อืม……” (รินทาโร่)
ผมควรมองว่าเป็นเรื่องยุ่งยากหรือเป็นโอกาสดี?
นอกจากเรย์ที่อยู่ในชั้นเรียนของผม อีกสองคนในวงคือคนที่ผมพบได้ผ่านหน้าจอเท่านั้น การถูกขอให้เจอพวกเธอแบบนี้เป็นสิ่งที่ไม่เกิดขึ้นในชีวิตปกติของผม
ก่อนอื่นเลย ในฐานะผู้ดูแลของเรย์ ควรจะต้องทักทายพวกเขาก่อน
โชคดีที่นี่เป็นหลังเส้นตายส่งต้นฉบับ และอาจารย์ฮิมิโกะยังคงทำงานตามปกติของเธอ งานนอกเวลาของผมจะเริ่มในสัปดาห์หน้า
“‘…… ผมเข้าใจแล้ว ผมให้เพื่อนของ เรย์ ได้กินอาหารที่อร่อยเอง เธอแค่บอกผมว่าอยู่ที่ไหน ผมจะส่งให้หลังเที่ยง” (รินทาโร่)
“ขอบคุณค่ะ ฉันแน่ใจว่าพวกเธอจะมีความสุขกับอาหารของรินทาโร่คุงแน่นอนค่ะ” (เรย์)
“ผมก็หวังอย่างนั้นนะ…….” (รินทาโร่)
ผมเป็นแค่นักเรียนมัธยมปลาย และในการเปรียบเทียบ คู่ต่อสู้คือไอดอลชั้นนำ
เป็นเรื่องยากสำหรับผมที่จะเชื่อว่าพวกเธอที่มีชื่อเสียงต้องการกินอาหารของผม ปกติแล้วผมเป็นคนขี้สงสัยแต่ผมไม่คิดว่า เรย์ จะโกหกผมหรอก
(ผมไม่สนรายละเอียดเรื่องพวกนั้นหรอก สิ่งที่ผมต้องทำคือ ทำอาหารแล้วเอาไปส่งแค่นั้นเอง)
อย่าคาดหวังอะไรมากเลยจะดีกว่า แค่ทำในสิ่งที่ถูกขอให้ทำก็พอแล้ว