ผมไม่อยากทำงานตลอดชีวิตเลยอุทิศเป็นพ่อบ้าน - ตอนที่ 3.3 สัญญา
ตอน 2 ทุ่ม ผมกลับมาถึงบ้านนานแล้ว และกำลังทำอาหารเย็นให้เรย์
เมนูวันนี้คือกะหล่ำปลีม้วนกับซอสมะเขือเทศและซุปมิโซะ กะหล่ำปลีได้มาในราคาข่อนข้างถูก ดังนั้นเลยมีกะหล่ำปลีไว้กินเยอะมาก
ซอสมะเขือเทศก็ใช้ซอสมะเขือเทศที่ชื้อมา ดังนั้นรสชาติเลยไม่เคยผิดเพี้ยนไปจากเดิม
“……ถึงเวลาแล้ว” (รินทาโร่)
หลังจากที่ดูเวลาบนสมาร์ทโฟนแล้ว ผมก็ได้ยินเสียงเปิดประตูที่ทางเข้า
สิ่งต่อไปที่ผมได้ยินคือเสียงรองเท้าแตะที่ถูตามโถงทางเดิน
“ฉันกลับมาแล้ว กลับมาดึกไปหน่อย ขอโทษนะคะ” (เรย์)
“ไม่เป็นไร ผมพึ่งทำอาหารเสร็จ” (รินทาโร่)
“ฉันดีใจจัง นึกว่าจะถูกบ่นซะแล้ว” (เรย์)
เมื่อเรย์เข้ามาในห้องนั่งเล่น เธอดูเหนื่อยๆ
ไม่น่าแปลกใจเลยเพราะเธอฝึกซ้อมเพื่อพยายามทำให้ดีที่สุดในคอนเสิร์ตที่กำลังจะจัดขึ้น
“ท่าทางเธอง่วงๆ นะ ……ไปอาบน้ำก่อนเลยนะ ผมจะอุ่นอาหารเย็นรอเรื่อยๆเพื่อไม่ให้เย็น” (รินทาโร่)
“ ขอบคุณค่ะ” (เรย์)
เธอตรงไปที่ห้องน้ำและกลับมาที่ห้องนั่งเล่นในประมาณ 20 นาที
ต่อมาเธอเดินมาที่โต๊ะทานข้าวพร้อมกับผมที่ยังไม่แห้งดี มันทำให้เธอดูเซ็กซี่ขึ้น และนี่เป็นครั้งแรกที่ผมไม่สามารถมองเธอตรงๆได้
“วันนี้มีกะหล่ำปลีม้วน ลองราดซอสดูสิ” (รินทาโร่)
“มีแต่ของชอบฉันทั้งนั้นเลย…….! กินกันเถอะคะ” (เรย์)
เห็นเรย์กินได้อย่างเอร็ดอร่อยเหมือนเดิม มันทำให้ผมรู้สึกพอใจมาก
ในเวลาเดียวกัน ผมก็ตัดสินใจที่จะบอกเรื่องนี้กันเธอ
“เรย์” (รินทาโร่)
“มีอะไรหรอคะ?” (เรย์)
“ผมขอคืนนี่ให้นะ” (รินทาโร่)
ผมวางซองจดหมายที่มีธนบัตรไว้ข้างหน้าเรย์
นี่คือเงิน 500,000 เยน ที่เธอให้ผมเป็นเงินเดือน
ผมเก็บมันไว้ตั้งแต่ได้รับมาโดยยังไม่เคยใช้เลย
“…… ทำไม?” (เรย์)
“ผมต้องการเปลี่ยนเนื้อหาสัญญาของเรา” (รินทาโร่)
จากนั้นผมก็หยิบสมุดรายจ่ายออกมาแล้วเปิดออกบนโต๊ะ
มีสัญญาฉบับใหม่ที่ผมคิดขึ้น
“ก่อนอื่นเลยจะยกเลิกระบบเงินเดือน โอโตซากิ เรย์ จะจ่ายแค่ค่าเช่าห้องนี้ ค่าสาธารณูปโภค และวัตถุดิบทำอาหาร เมื่อไหร่ที่อุปกรณ์ทำอาหารพัง เราจะต้องคุยกัน ในบางกรณี ผมจะซื้อ ด้วยเงินของผมเอง” (รินทาโร่)
“แต่นั่น—-” (เรย์)
“แม้ว่าจะคำนวนค่าใช้จ่ายทุกอย่างแล้ว มันก็ไม่เกินแสนเยน และแลกกับการที่ผมต้องการให้เธอลดภาระงานของผมลง” (รินทาโร่)
“หมายถึงอะไรเหรอคะ?” (เรย์)
“ก็อย่างที่บอกไปนั่นแหละ อย่างแรกเลยผมจะไม่ทำอาหารเย็นในคืนวันพุธและตอนบ่ายกับตอนกลางคืนวันเสาร์-อาทิตย์ อย่างไรก็ตามผมจะเตรียมอาหารที่สามารถอุ่นแทนไว้ให้ นี่เป็นเพราะผมต้องไปทำงาน ” (รินทาโร่)
แล้วก็—-
ผมใช้นิ้วแตะประโยคสุดท้ายของเนื้อหาในสัญญา
“การค้างคืนเป็นสิ่งต้องห้ามโดยเด็ดขาด เว้นแต่จะมีสถานการณ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้” (รินทาโร่)
“เอ่อ…….” (เรย์)
“เธอทำหน้า ‘สงสัย’ แบบนั้นไม่ได้นะ ผู้ชายและผู้หญิงในวัยเดียวกันไม่ควรนอนในบ้านเดียวกัน และวันนี้ผมก็คิดดูอีกที ถ้าความฝันของพวกเธอต้องมาจบลงเพราะผม ผมจะต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตแน่ๆ” (รินทาโร่)
ใช้แล้ว ผมกลัว
ไม่ว่าเรย์จะคิดที่ออกวงการตอนไหนก็ตาม แต่ถ้ามีเรื่องอื้อฉาวในเวลาที่เธอยังเป็นไอดอลอยู่มันจะทำลายอนาคตของเธอได้
และการทำลายอนาคตของ โอโตซากิ เรย์ ก็จะทำให้อนาคตของอีกสองคนหายไปด้วยเหมือนกัน
ผมไม่สามารถอยู่ภายใต้ความกดดันแบบนั้นได้
“อ่า นี่มันไม่มีเหตุผลเลย ตอนที่เรย์บอกผมว่าอาหารของผมอุ่น ……. ผมต้องขอบคุณคำพูดของมีอาในวันนี้ ผมกลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง แต่ถ้าผมทำอาหารที่แลกกับเงินเดือนก็ไม่ต่างอะไรกับ ร้านอาหารใช่ไหมล่ะ ผมก็เลยคิดว่าถ้าผมใช้ประโยชน์จากเงินที่ได้มา สักวันผมคงจะลืมความอบอุ่นในการทำอารไปก็ได้” (รินทาโร่)
เช่นเดียวกับแม่บ้านและสามีที่ทำงานอยู่บ้านจำนวนมากในโลกที่ไม่ได้รับค่าจ้าง ผมควรรวมตัวเองให้อยู่ในสภาพแวดล้อมเดียวกันหากผมต้องการเป็นบ้านที่ทำงานเต็มเวลา
สิ่งที่ผมต้องการไม่ใช่สายสัมพันธ์ แต่เป็นความเห็นอกเห็นใจถึงแม้ว่ามันอาจจะฟังดูงุ่มง่ามที่จะพูดออกมา แต่นั่นคือสิ่งที่ เรย์ กำลังมองหาในอาหาร
ไม่จำเป็นต้องใช้เงินกับผม
เหตุผลเดียวที่ผมยังคงขอเช่าและทุกสิ่งทุกอย่างคือผมไม่ใช่คนที่ดีพอที่จะเสนอมันขึ้นมาโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้
ผมยังคิดว่ามันหลีกเลี่ยงไม่ได้ตราบใดที่ยังเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็น
“ถ้ารินทาโร่คุงพูดแบบนั้น……ถ้านั้นคือสิ่งที่นายต้องการ ฉันก็โอเคกับเงื่อนไขเหล่านี้” (เรย์)
“ทำไมเธอดูเหมือนยอมแพ้อย่างสิ้นหวังแบบนั้นล่ะ” (รินทาโร่)
“น่าเสียดายที่ฉันอาศัยที่นี่ไม่ได้ แต่สิ่งที่รินทาโร่คุงพูดนั้นถูกต้องแล้ว ฉันคิดว่าฉันควรจะยอมรับมันให้ได้” (เรย์)
“.เธอเลือกถูกแล้วล่ะ” (รินทาโร่)
“แต่มันจะยังยุ่งยาก ที่ต้องไปกลับทุกวันนี่สิค่ะ” (เรย์)
“ก็จริงของเธอ” (รินทาโร่)
“งั้นฉันมีเรื่องจะเสนอ” (เรย์)
ในดวงตาของเรย์มีไฟลุกโซนอยู่ และเธอก็ยกนิ้วขึ้นมาหนึ่งนิ้ว
ไม่รู้เพราะอะไร แต่ผมสังหรณ์ใจไม่ดีเลย
“ฉันจะเริ่มออกมาอยู่คนเดียว นี่ไม่ใช่การตัดสินใจที่พึ่งคิดจะทำ มันเป็นสิ่งที่ฉันได้พูดคุยกับครอบครัวมาก่อนแล้ว และพวกเขาสองคนก็อนุญาติแล้วด้วย” (เรย์)
“…..” (รินทาโร่)
“จริงๆแล้ว พ่อของคาน่อนเป็นนายหน้าขายบ้าน พวกเราก็เลยตัดสินใจเช่าอพาร์ตเมนต์กัน เพราะอยู่ใกล้ที่ทำงานและมีประสิทธิภาพมากกว่า” (เรย์)
“หมายความว่าจะพวกเธออยู่ด้วยกันเหรอ” (รินทาโร่)
“ไม่ใช่ค่ะ อพาร์ทเมนต์เป็นห้องแบบ 1LDK ดังนั้นจึงเล็กเกินไปสำหรับสามคนที่อยู่ด้วยกัน นั่นคือเหตุผลที่เราทั้งสามจะเช่าห้องกันคนละห้องบนชั้นเดียวกัน ในชั้นนั้นมีเพียงสี่ห้อง จึงว่างอยู่ 1 ห้องค่ะ” (เรย์) [ 1LDK คือ มี1ห้องนั่งเล่น 1ห้องครัว 1 พื้นที่กินข้าว 1ห้องนอน]
“ไม่ใช่แบบที่ผมคิดใช่มั้ย———” (รินทาโร่)
“ค่ะ รินทาโร่จะเช่าห้องสุดท้ายค่ะ ค่าเช่าอาจจะสูงกว่าที่นี่ แต่ฉันจะจ่ายให้เองค่ะ ” (เรย์)
“ โนะโนโนโน! ไม่มีทางเลยที่ผมจะผ่านการคัดกรองผู้เช่าหรอกนะ!? และผมไม่เหมือนพวกเธอ ผมเป็นแค่นักเรียนมัธยมปลาย!” (รินทาโร่)
“ฉันจะให้พ่อของคาน่อนช่วยเรื่องนั้นเองค่ะ” (เรย์)
“แต่คาน่อนกับมีอาจะไม่ชอบก้ได้นะ ที่มีผู้ชายที่พวกเธอไม่รู้จักมาอาศัยอยู่บนชั้นเดียวกัน” (รินทาโร่)
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันคุยกับพวกเธอแล้ว” (เรย์)
“อะไรนะ……?” (รินทาโร่)
“เหตุผลที่ฉันขอให้รินทาโร่คุงมาที่สตูดิโอวันนี้ก็เพราะคาน่อนกับมีอาอยากรู้ว่าเชื่อใจได้ไหม ทั้งสองคนบอกว่า ถ้ารินทาโร่คุงมาอาศัยอยู่ชั้นเดียวกันจะไม่เป็นปัญหาแน่นอนค่ะ” (เรย์)
ผมไม่คิดว่านั่นคือประเด็นของการที่ไปพบพวกเธอในวันนี้เลยนะ
ทำไมเธอไม่บอกผมล่วงหน้าล่ะ– ผมเดาว่าเพราะถ้าเธอบอกก่อน คาน่อนกับมีอาคงไม่สามารถตัดสินผมได้
“ทางเดินของอาคารอพาร์ตเมนต์ไม่สาามารถมองเห็นจากภายนอกได้ ดังนั้นจึงไม่มีใครมองเห็นพวกเราได้ แม้ว่าเราจะเดินไปมาระหว่างห้องอื่น และเนื่องจากเราอาศัยอยู่ข้างๆกัน จึงไม่ต้องกังวลว่าเราจะต้องอยู่ด้วยกัน ห้องพักก็เก็บเสียงได้ ดังนั้น ความเป็นส่วนตัวของเราจะได้รับการปกป้องแน่นอนค่ะ” (เรย์)
“นี่มันดีเกินจริงไปหรือเปล่าเนี่ย..” (รินทาโร่)
“ฉันไม่คิดอย่างนั้น การย้ายบ้านเป็นเรื่องยุ่งยาก และเพียงเพราะว่าที่พักอาศัยของรินทาโร่คุงกำลังเปลี่ยนไป ไม่ได้หมายความว่ามาตรฐานการครองชีพจะสูงขึ้นจะสูงขึ้นตามนะคะ” (เรย์)
เธอไม่รู้หรือว่าการได้อยู่ในอาคารอพาร์ตเมนต์เดียวกัน บนชั้นเดียวกัน และข้างบ้านไอดอล———มันมีค่ามหาศาลเลยนะ?
—-ไม่สิ เพราะเธอเข้าใจว่ามันไม่มีประโยชน์กับผม เธอรู้ดีว่าผมเป็นคนยังไง
“……ไม่เลยมันไม่มีข้อเสีย แต่ข้อดีคือความเสี่ยงที่ต่ำ และมันดูน่าสนใจเกินไป..” (รินทาโร่)
“น่าสนใจเกินไป ?” (เรย์)
“อีกอย่าง อยู่ใกล้สำนักงานหมายถึงอยู่ใกล้สถานีที่ใกล้ที่สุดด้วยใช่ไหม” (รินทาโร่)
“ใช่แล้วค่ะ สถานีอยู่ตรงหัวมุมของสำนักงานและ โรงเรียนอยู่ห่างออกไปสามสถานี” (เรย์)
“อ่า เข้าใจแล้ว……” (รินทาโร่)
“ปัญหาอะไรรึป่าวคะ ?” (เรย์)
“ไม่เลย ตรงกันข้ามกันเลยมันไม่มีปัญหาอะไรเลย” (รินทาโร่)
ผมไม่ได้บอก เรย์ เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่สถานีที่ใกล้ที่สุดกับสำนักงานเธอ คือสถานีที่ใกล้กับงานพาร์ทไทม์ของผมมากที่สุด
สัปดาห์หน้า อาจารย์ ฮิมิโกะ จะต้องทำต้นฉบับให้เสร็จ ดังนั้นผมจะต้องเดินทางไปที่ทำงานพาทไทม์อีกสักพัก ถ้าอยู่ไม่ไกลกันมากปั่นจักรยานไปได้
นี่เป็นข้อดีสำหรับผมเลย
“———ผมเข้าใจแล้ว เธอยอมรับเงื่อนไขของผม ดังนั้นผมจะยอมรับของเรย์ด้วย” (รินทาโร่)
“ขอบคุณค่ะ” (เรย์)
“แล้วควรเตรียมตัวย้ายเมื่อไรดีล่ะ ผมไม่มีอะไรที่ต้องเอาไปมากนักหรอก……” (รินทาโร่)
“ถ้าเป็นไปภายในสัปดาห์หน้าค่ะ” (เรย์)
“นั่นเร็วเกินไปแล้วนะ” (รินทาโร่)
#ไม่ได้หายแค่ไปแปลอีกเรื่อง55+