ผู้กล้าคนก่อนอยากจะเกษียณ - ตอนที่ 41 ตัวแทนของศาสนจักรกับผู้กล้ารถด่วน
สวัสดีค่ะทุกๆท่าน
ดิฉันเป็นตัวแทนของศาสนจักรอุลคิออร่าศักดิ์สิทธิ์ค่ะ
เบอร์นาเดสเองค่ะ
ดิฉันถูกส่งมาทำภารกิจสังหารเพื่อผลประโยชน์ขององกรณ์
และนั้นทำให้ดิฉันได้พบกับผู้ชายคนหนึ่งที่ดินแดนแห่งนี้
ที่ ลิสวาเดีย. . .
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
เขามีชื่อว่า ยู ยาชิโระ
ในตอนแรก เพราะว่าเขามีชื่อต้นและนามสกุลเหมือนกับเป้าหมายในการสังหารของดิฉัน
และที่สำคัญ ลักษณะภายนอกเองก็เหมือนกันด้วยค่ะ
ดิฉันไม่ลังเลที่จะฆ่— เขาคนนั้น
แต่ว่า. . .
ในตอนนั้นเอง ดิฉันตระหนักได้ในเสี้ยววินาทีว่าเขานั้นเป็นคนละคนกับเป้าหมายของดิฉัน(TL:เหรออออ)
และในวินาทีแห่งความตายนั้นดิฉันได้หันปากกระบอกปืนเวทย์มนตร์ขึ้น
และนั้นทำให้กระสุนนั้นพลาดเป้าไปโดนเพียงแค่ปลายผมของเขา. . .
และเขาเอง . . .
แม้จะถูกดิฉันยิงปืนใส่ แต่เขาก็ไม่ตอบโต้อะไรเลยแถมยังเลี้ยงอาหารแก่ดิฉัน
ใช่แล้ว
ยาชิโระซังนั้น
เขาช่างเป็นผู้ชายที่ใจกว้างจริงๆค่ะ . .
แต่เขาเองก็มีข้อเสียที่เขาเป็นคนลามกสักหน่อย . . .
ไม่สิ
เขานั้นเป็นคนที่ลามกอย่างไม่น่าเชื่อเลยค่ะ!!
ถ้าหากการที่เราได้มาพบกันครั้งนี้เป็นเพราะพระประสงค์ของพระเจ้าแล้วล่ะก็. . .
ดิฉันขอขอบคุณพระองค์จริงๆค่ะที่ให้ดิฉันได้พบกับคนที่แสนวิเศษเช่นนี้
แต่นั้น. .
คือสิ่งที่ดิฉันคิดเมื่อตอนนั้นค่ะ. .
เพราะตอนนี้
ใช่แล้วค่ะ
ยาชิโระซังตอนนี้กำลังพยายามฆ่าดิฉันอยู่ค่ะ . . .
[ อ๊วกกกกกกกกกก ]
เพราะตอนนี้ดิฉันกำลังอยู่ในท่าคุกเข่า 4 ขา และกำลังคายอาหารขนาดเท่าดาวเคราะห์น้อยๆที่ดิฉันทานเข้าไปเมื่อเช้าออกมาค่ะ
ไม่มีอีกแล้ว
ดิฉันจะไม่มีทางขี่ไหล่ใครอีกแน่นอนค่ะ !!!
[ อย่าพูดเหมือนเป็นความผิดของผมเซ่ !! มันเพราะเธอเองไม่ใช่หรอที่ทำตัวกวนประสาทเพราะอยากจะขอมาด้วยเองไม่ใช่หรอห๊ะ ผมไม่ได้ขอให้เธอมาด้วยซะหน่อยจริงมั้ย !! ]
[ แต่ว่าการที่ทำให้สาวน้อยอย่างดิฉันคายของเก่าออกมาขนาดนี้มันเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ค่ะ !!! ]
หลังจากถูกละเมิดสิทธิโดยยาชิโระซัง ในที่สุดดิฉันก็ลุกขึ้นไหวถึงแม้จะยังเซๆอยู่
และนั้นดูเหมือนว่ายาชิโระซังจะค่อนข้างช๊อคทีเดียวที่ดิฉันยังลุกขึ้นมาได้
[ ใครไม่โดนกับตัวแบบนี้คงไม่มีทางรู้หรอกค่ะว่ามันเป็นยังไง ที่สำคัญนั้นมันการเคลื่อนที่บ้าอะไรกันคะ !! ]
ในตอนที่ดิฉันขึ้นไปขี่หลังยาชิโระซัง จู่ๆก็เกิดแรงกระชากอย่างกะทันหันจู่โจมดิฉัน มันดึงร่างของดิฉันทั้งขึ้น ลง ซ้าย ขวา หมุ่นเวียนอย่างนี้ไปเรื่อยๆนับชั่วโมง . . . .
ไม่สิ มันอาจจะไม่นานถึงขนาดนั้น เพราะเมื่อดิชั้นเงยหน้ามองพระอาทิตย์บนท้องฟ้า มันยังผ่านไปไม่ถึง 10 นาทีด้วยซ้ำ แต่นั้นมีบางอย่างทำให้ดิฉันประหลาดใจเป็นอย่างมาก
[ เอ๋ ? ]
มีบางอย่างแปลกๆ เพราะตอนที่ดิฉันกำลังพยายามมองหาต่ำแหน่งพระอาทิตย์ ดิฉันก็พบกับเงาขนาดใหญ่อยู่ในระยะสายตา เมื่อดิฉันกำลังพิจารณาเจ้าของเงานั้น ดิฉันก็พบมัน มันคือต้นไม้ขนาดยักจนแทบไม่สามารถจะจินตนาการความใหญ่โตของมันได้
[ รึว่านั้นคือ The spirit tree [[ Eeast ]] รึปล่าวคะ ? ถ้างั้น แสดงว่าที่นี่คือ [[ Altiera ]] ใช่มั้ยคะ ]
ที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปนี้ มีต้นไม้ขนาดยักที่มันสูงขึ้นไปจนถึงหมู่เมฆบนท้องนภา
ขนาดของมันใหญ่มากๆ ขนาดที่ว่า แม้เราจะอยู่ที่กลางทวีปก็ยังสามารถมองเห็นมันได้ ถ้าท้องฟ้าโปร่งซักหน่อยค่ะ
และการที่เรียกต้นไม้แห่งชีวิตนี้ว่า [[ Eeast ]] มันมีที่มาจากภาษาอิสเรียวโบราณที่หมายถึง “การเกิด” “บริสุทธิ์” และ”การเริ่มต้น” ตามตำนานนั้นว่ากันว่าต้นไม้แห่งชีวิตนั้นคงอยู่มาตั้งแต่โลกนี้ได้ถือกำเนิดขึ้นมาค่ะ
และทะเลป่าที่อยู่รายล้อมโดยมีต้นไม้แห่งวิญญาณเป็นศูนย์กลางนั้นเรียกว่า [ Actvarte ]
ที่รอบๆต้นไม้แห่งวิญญาณนั้น หรือก็คือป่า [ Actvarte ] นั้นคือที่ถิ่นฐานของเหล่ากึ่งมนุษย์ อาศัยอยู่รวมกัน และนั้นรวมพวกเอลฟ์ด้วยนะคะ
อาณาจักรของเหล่ากึ่งมนุษย์นั้นมีชื่อว่า [ Altiera ] มันมีความหมาย [ หัวใจของอาณาจักร ] มันมาจากภาษาอะไรซักอย่างนี่แหละค่ะ
และที่ๆพวกเราอยู่ ณ ขณะนี้ คือที่ฐานของต้นไม้แห่งวิญญาณ หรือก็คือจุดที่เหล่ากึ่งมนุษย์ตั้งถิ่นฐานอยู่ แม้ว่าดิฉันจะพูดว่าถิ่นฐาน แต่จริงๆมันใหญ่มากๆเลยนะ ประมาณเมืองๆหนึ่งได้เลย และใกล้ๆเคียงนั้น ก็มีพวกเอลฟ์ และพวกเซนธอกับพวกฮาปี้ที่มีอยู่ค่อนข้างเยอะในเมืองนี้ มันค่อนค้างวุ่นวายทีเดียว เหมือนๆกับว่าพวกเรากำลังอยู่ในถนนคนเดินอย่างไงอย่างนั้นเลยค่ะ
สิ่งก่อสร้างที่นี่นั้นไม่ใช่อิฐแบบที่พวกเราใช้อาศัยอยู่ พวกมันส่วนใหญ่นั้นถูกสร้างโดยไม้และฟาง อาจเพราะดินแดนแห่งนี้ไม่ค่อยมีพายุหรือแผ่นดินไหวมั้งนะ ?
[ เบอร์นาเดสครับ . . เธอ เอ่ออ . . เธอเกลียดพวกกึ่งมนุษย์รึปล่าว? ]
อูวว, จู่ๆ ยาชิโระซังก็ดูเศร้าๆ
มันแสดงออกทางใบหน้าของเขาอย่างชัดเจนเลยล่ะค่ะ
อืม ก็นะ
ยาชิโระซังเชี่ยวชาญเรื่องของพวกเหล่ากึ่งมนุษย์นี่เนาะ
[ ไม่ค่ะ คำพูดที่ว่า ” พวกกึ่งมนุษย์นั้นจะต้องถูกปราบปราม ” มันความคิดที่ถูกสร้างขึ้นมาเองค่ะ แต่เดิมแล้ว ตามพระคัมภีร์นั้น แม้ว่าพวกเขานั้นจะแตกต่างจากพวกเรา แต่ก็ไม่มีประโยคใหนถูกเขียนไว้เลยว่าเหล่ากึ่งมนุษย์นั้นคือมารร้ายค่ะ ที่สำคัญ ดิฉันเชื่อว่าถ้าเรายังยึดติดคำว่าแตกต่างกันนั้นมีแต่จะทำให้เกิดการแตกแยกกันค่ะ แม้จะมีคำกล่าวที่ว่ามนุษย์เรานั้นคือเผ่าพันธ์ุชั้นสูง แต่จริงๆแล้ว มันก็แค่สิ่งที่บรรพบุรุษของเราได้ช่วยกันสร้างโลกนี้ให้เกิดความสมดุลจนทำให้เกิดคำสรรเสริญเหล่านั้น และพวกเรานั้น ผู้ซึ่งสืบทอดรักษาความสมดุลของโลกใบนี้ สามารถที่จะมีความคิดที่จะทำลายความสมดุลยภาพของโลกใบนี้ได้หรือคะ และอยู่เหนือเหล่าเผ่าพันธ์ุที่พวกเราถากถ่างและดูถูกอย่างงั้นหรือคะ โอ้วว อีกอย่างนะคะ มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้แต่—– ]
[ อ่าๆๆ โอเคครับ โอเค ผมเข้าใจแล้วเบอร์นาเดสไม่รังเกียจเหล่ากึ่งมนุษย์ โอเคแต๊งกิ้วขอบคุณ จบ ]
ว๊าา , ช่างหยาบคายอะไรเช่นนี้!! ทั้งๆที่ดิฉันกำลังตอบคำถามของปัญหาที่เกิดขึ้น ณ ขณะนี้พร้อมกล่าวถึงอีกด้านหนึ่งของศาสนจักรที่มีความคิดเช่นนี้กับเหล่ากึ่งมนุษย์แท้ๆ แต่เขากับเบรกดิฉันเช่นนั้น
[ มู่วว อีกอย่าง ยาชิโระซังคะ ทำไมถึงมาที่ อัลเทียร่า ละคะ, ไม่สิ เดี่ยวนะคะ ถ้าจะมาที่อัลเทียร่าจากลิสวาเดียล่ะก็ เราจะต้องนั่งรถม้า 1 อาทิตย์เลยไม่ใช่หรือคะ !! แต่ตอนที่พวกเราออกจากลิสวาเดียมานั้นมันก่อนเที่ยงนิคะ แต่นี้มันยังไม่ถึงเที่ยงเลยนะคะ !!!! ]
จากลิสวาเดียเป็นศูนย์กลางนั้น จุดที่พวกเราอยู่นั้นอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ห่างจากลิสวาเดียใช้เวลาเดินทาง 1 อาทิตย์ค่ะ
เพราะว่า จากป่าที่อยู่รอบๆต้นไม้แห่งวิญญาณถึงเมืองลิสวาเดียนั้น ไม่มีสิ่งกีดขวางอื่นๆเลยนอกจากทุ่งหญ้า
พวกมอนเตอร์นั้นก็ไม่ได้อยู่แถวนี้แถมพวกโจรก็ไม่อาศัยอยู่ในสถานที่แบบนี้ด้วย ก็เพราะมันไม่มีที่ให้พวกเขาหลบซ่อนเพื่อแอบโจมตีอย่างกระทันหันได้เลย ดังนั้นถ้าหากเรามุ่งตรงด้วยความเร็วที่มากพอ พวกเราจะมาถึงที่นี่โดยใช้เวลาเพียง 1 อาทิตย์เท่านั้นค่ะ
. . .แต่ว่า การที่เรามาถึงที่นี่โดยทั้งๆที่เวลาผ่านไปไม่นานนักนั้น. .
พระอาทิตย์ยังไม่ทันจะคล้อยเลยด้วยซ่ำ นี่มัน . . .
[ . . กะ- , ก็ เอ่อ เรามุ่งตรงมาด้วยความเร็วสูงไง ชะ- ใช่แล้ว !! มันสามารถเป็นไปได้เพราะเวทย์มนตร์ก้าวพริบตาของผมไงล้า !! เพียงแค่ผมเร่งความเร็วจนแทบจะใกล้เคียงกับการวาร์ปเท่านั้นเอง , , และนั้น ดูเหมือนว่าถ้าหากเธอมานั่งอยู่บนไหล่ผมแบบตะกี้แล้วล่ะก็ มันอาจจะทำให้รู้สึกคลื่นไส้จนอาเจียรออกมาไง ]
[ อะไรกันคะ !! ]
นี่มันสุดยอดไปเลยค่ะ !! ทั้งๆที่ใช้เพียงแค่เวทย์มนตร์ลมขั้นต้นเพื่อเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนไหว แต่กับสามารถเพิ่มความสามารถของมันจนความเร็วของมันใกล้เคียงกับการวาร์ป !! ที่สำคัญ ถ้าคุณรู้ว่านั่งอยู่บนไหล่แล้วจะทำให้คลื่นไส้ก็บอกกันก่อนหน่อยสิคะเห้ย !!
[ ก็อย่างที่ว่ามานั้นแหละ ,, ลืมๆมันไปเถอะ ที่ผมมาที่นี่เพราะคนรู้จักของผมอยู่ที่นี่น่ะ หวังว่าพวกเขายังไม่ย้ายไปไหนนะ ]
[ คนรู้จักที่ว่า ? . . เป็นผู้หญิงหรือคะ ?? ]
[ หือ? ใช่แล้ว มีอะไรรึปล่าว? ]
เฮ~ เหมือนบทสนทนาจะกลายเป็น 18+ แล้วนะคะ
หึ? เดี่ยวนะ,อย่างงี้สินะคะ
การที่พาสาวสวยอย่างดิฉันมาด้วย
เพื่อมาพบหญิงสาวที่อยู่ห่างไกลกันขนาดนี้
แม้ว่าสิ่งที่ดิฉันคิดจะฟังดูหยาบคาย
แต่คุณคิดจะทำอะไรกันคะ. . .
คุณ-นัก-หัก-อก-ผู้หญิง-ซัง !!
[ เธออย่าเข้าใจอะไรผิดแปลกๆอีกล่ะ มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดแน่นอน . . ถ้าจะให้ผมพูด มันก็เหมือนกับ ” สัมพันธ์ฉันเครือญาติ ” เท่านั้นน่ะ ]
อุว อย่าจ้องมองดิฉันด้วยสายตาแบบเดียวกับเหยี่ยวเวลาจ้องเหยื่อสิคะ
. . แม้ว่าเขาจะดูเท่เป็นอย่างมากถ้าหากเขาทำตัวจริงจังแบบนี้
แต่ทำไมกันนะ เขามักจะชอบทำตัวเป็นผู้ชายที่น่าเวทนาเช่นนั้นกันนะ
[ มาเถอะ , ไปกัน ]
[ อุววว ]
มือของดิฉันถูกเขาดึงไป
พวกเราเดินตัดผ่านท่ามกลางฝูงชน
ถึงแม้เขาจะจับมือดิฉันจนแน่น . .
แต่มันก็ไม่ได้เจ็บอะไร. .
ยาชิโระซังช่างดูอบอุ่น . .
ถึงแม้เขาจะเป็นผู้ชายที่น่าผิดหวังในหลายๆความหมายก็ตาม . .