ผู้กล้าคนก่อนอยากจะเกษียณ - ตอนที่ 50 เหล่าผู้วายชนม์ลุกเดิน 5
[ . . . ยู ? ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่ ]
หลังจากแยกออกจากผม อลิเซียเธอกล่าวออกมาราวกับว่ามันเป็นปัญหา
[ นั้นก็เพราะเธออยู่ที่นี่ไงครับ สำหรับตอนนี้ ผมไม่รู้ถึงจุดประสงค์ของอัมบร้า และสิ่งแรกที่ผมต้องการจะปกป้องนั้นก็คือเธอ. . . ]
ผมมองไปรอบๆในขณะที่ขยับฮูดมาบังใบหน้า
อาจเพราะเหล่าอาจารย์และนักเรียนที่ยังคงยืนคุมเชิงอยู่ที่ด้านนอกของวงเวทย์นั้นยังไม่เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันนัก พวกเขาจึงยังไม่กล้าขยับอะไรมาก
อืม ที่จริงสิ่งที่พวกเขาก็ถูกแล้วนะ ถ้าหากอยู่ดีๆก็มีชายชุดดำทั้งตัวจู่ๆก็โผล่มา ทุกๆคนคงทำแบบนั้นกันทุกคนแหละ ถ้าเป็นผมเองผมก็ยืนคุมเชิงแบบนั้น
ให้ตายเถอะ ตอนนี้ผมได้กลับมาสวมไอ้ชุดดำนี้(ที่ตะก่อนผมใส่เป็นประจำ)และกลายเป็น ” เพชฌฆาตแห่งความมืด “(Darkness Executioner) ทั้งๆที่ผมเคยสาบานไว้ว่าผมจะไม่มีทางสวมมันอีกครั้ง
ที่สำคัญ ยัยแก่ได้ปรับแต่งชุดบ้านี้ใหม่ เปลวไฟ(ที่ผมเย็บปักขึ้นเอง)ที่บริเวณที่แขนเสื้อและตรงฮุดได้หายไป แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือ ชุดนี้มีเข็มขัดติดเพิ่มเข้ามาในหลายๆที่ และนี้ได้กลายเป็นชุดจุนนิเบียว V 2.0
ยัยแก่บ้านั้น ทำไมยัยนี่มักชอบขุดคุ้ยบาดแผลเก่าของคนอื่นจังฟร่ะ
มันก็จริง ที่ผมส่งชุดบ้านี้ให้ยัยแก่เองเพราะเธอบอกว่าจะซ่อมส่วนฮูดให้
แต่ผมไม่รู้ว่ายัยนั้นดันออกแบบมันให้ใหม่ บ้าเอ้ย
และสำหรับตอนนี้ แม้ว่าผมนั้นจะสวมชุดดำตั้งแต่หัวจดนิ้วเท้า แต่ผมจะพูดอีกครั้ง
ที่ผมอยู่ที่นี่ตอนนี้เพราะผมต้องการที่จะปกป้องอลิเซีย
ตอนนี้ผมก็ยังไม่รู้ว่าทำไมอัมบร้าถึงไม่มาหยุดการซ่อมแซมบาเรียป้องกัน แต่ก็. .
ดีแล้วล่ะ ที่อลิเซียไม่ได้ถูกแอบโจมตี
[ ขอบคุณนะ , ยู ]
[ เธอจะไปไหนกันน่ะ อลิเซีย ]
เธอถอดผ้าคลุมของเธอออกและทิ้งมันไว้ที่นี่ และอลิเซียที่ตอนนี้อยู่ในชุดกระโปรงเริ่มที่จะออกเดิน อาจเพราะสายตาของเธอที่มองมายังผมดูค่อนข้างเป็นกังวลอย่างชัดเจน ผมจึงถามออกไปอย่างนั้น ถึงแม้ . . . ผมจะรู้อยู่แล้วว่าเธอจะตอบผมกลับมาว่าอย่างไร
[ ยังไม่ชัดเจนอีกหรอ ? ถ้าหากเป็นพวกท่านพี่ของชั้นแล้วล่ะก็ พวกเขาจะไม่หยุดแค่นี้หรอก นายก็รู้ดี เพราะมันยังมีเหล่ามอนเตอร์มากมายๆอยู่รอบๆนี้ ในกรณีนี้ เหล่าราชวงค์ผู้ดูแลรักษาบ้านเมืองควรรีบนำความสงบกลับมาเผื่อประชาชนไม่ใช่หรอ อะไรที่พอทำได้ถ้าเหตุการณ์นี้จบลงเร็วขึ้นสักวิสองวิชั้นก็จะทำ ]
เธอหัวเราะออกมาแม้มันจะดูโง่ก็ตาม ภาพของอลิเซียตอนนี้มันช่างเหมือนกันซิลเวียเหลือเกิน และ . . .
[ ท่านพี่โอลิเวียก็คงจะพูดแบบเดียวกันแน่นอน. . . ]
เธอตอนนี้ช่างดูเหมือนกับอีกคนผู้ที่ “เคย”เป็นพี่สาวคนโตของเธอ
[ ยู . . . ให้ชั้นยืมพลังของนายได้มั้ย ? ]
[ ผมไม่มีทางปฎิเสธพวกเธออยู่แล้ว ]
จากคำพูดของอลิเซีย ผมดึงดาบคูคริสตัลออกมาจากฝักดาบ
[ ยู !!! ข้านำมันมาด้วยแล้ว ]
[ ในที่สุดก็มาซักทีนะ ตาลุง ]
ที่ทางเข้าของหอนาฬิกา ปรากฎร่างของชายคนหนึ่งที่ตะโกนออกมาอย่างสุดเสียง เขาคือตาลุงเอลฟ์บ้ากล้าม กิลเล่
[ เห้ยๆ ทำไมแนะนำตัวละครข้าแบบนั้นฟร่ะ ]
[ สำหรับพวกเรียวจูที่มีเมียสวยแบบนั้น !! แค่นั้นก็เกินพอแล้วเฟ้ย !! ]
[ เออๆ มันก็จริง . . . เห้ยเดี่ยว กลับมาเข้าเรื่อง ไอ้นกที่นายถามหา ตอนข้าไปพบมันที่คอกม้า มันยังนอนกรนหลับสนิทอยู่เลย ข้าเลยเตะมันไปป๊าบหนึ่งเพื่อปลุกมัน ]
[ คุ , คุเคะ~~ . . ]
[ ข-,ขนาดอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แกยังนอนหลับสบายใจได้อีก . . .แกมันสุดยอดในหลายๆความหมายจริงๆ ]
ตาลุงได้ยื่นเจ้านกยัก(แกถือโดยมือข้างเดียว)ให้กับผม
เจ้านกยักขนสีเงินตัวนี้ คือซิลเบอร์นั้นเอง
[ ขนสีเงินนั้น !! . . .รึว่า- คือลูกๆของ Schvalts และ Weib ใช่มั้ย ? ]
เพราะว่าเธอสังเกตุเรื่องสีของขนนั้น เธอจึงได้ถามมันออกมากับผม อืมก็นะ จริงๆแล้ว อลิเซียเธอก็รู้จึกกับ Schvalts และ Weib อยู่แล้ว
[ อืม ผมยืมมันมาจากซิลเวียน่ะ ]
[ เธอชื่ออะไรจ๊ะ ]
[ คุเคะ? . .คุ คี คี คี – – – ]
[อุคิกคิก รู้แล้วๆ เธอถูกเรียกว่าซิลเบอร์ซินะจ้ะ เป็นชื่อที่เพราะดีนะ ]
อลิเซียเธอถามออกมาพลางลูบไปยังจะงอยปากของซิลเบอร์
[ เอาล่ะๆ การแนะนำตัวจบลงเพียงเท่านี้ละกัน ซิลเบอร์ แกให้อลิเซียขี่แกซะ !! ]
[ คุเคะ ~! ]
เจ้านั้นโบกปีกของมันไปมาราวกับยกมือทักทาย
และเจ้านั้นได้เดินไปนั่งยองๆที่ด้านหน้าของอิลิเซียเมื่อได้รับคำสั่งให้เป็นพาหนะให้เธอขี่
[ เอ่อคือว่า . ยู นายจะทำอะไรต่อไป ? ]
เธอถามออกมาในขณะที่กำลังขี่เจ้าซิลเบอร์อยู่
[ ถึงแม้ว่าผมจะดูเป็นแบบนี้(ไอ้บ้าจุนนิเบียว) แต่ผมเองครั้งหนึ่งก็เคยถูกเรียกว่าผู้กล้านะ . . . ดังนั้นผมไม่มีทางเลือกนอกจากช่วยเหลือทุกคนจากวิกฤติครั้งนี้อยู่แล้วครับ ]
ด้วยดาบเวทย์มนตร์สีฟ้าและสีเขียวที่อยู่ในมือของผม
และนั้น . .
ผมได้ออกวิ่งไป . . .
———————–
เป็นสิ่งที่รู้กับอยู่แล้วว่ามนุษย์เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่ซีเรียสเป็นอย่างมาก
แม้ว่า เธอจะเป็นเพียงเด็กสาวอายุเพียง 12 ปี ความจริงในข้อนี้ก็ไม่เปลี่ยน
[ นี่เธอทำให้มันเร็วกว่านี้ไม่ได้หรือคะ !!! พวกมันจะถึงตัวพวกเราแล้วน๊าาาา ]
[ คะ- , คือว่าสำหรับชั้นแล้วคงเร็วได้แค่นี้ละค่าาาาาา !! ]
[ รู้มั้ย ถ้ามาน่าและชั้น 2 คนขี่มันแค่ 2 คนล่ะก็ มันคงจะเบากว่าและไปได้ไวกว่านี้ เพราะงั้นน่าจะมี”สักคน”ออกไปจากไม้กวาดนี้สักทีนะ ]
[ ทะ- , เธอพูดอ้อมๆเพื่อจะบอกให้ดิชั้นโดดลงไปงั้นรึคะ !! ]
[ อร่าาาา !!! อย่าดิ้นกับนักซิค่าาาา ]
มาน่าตอนนี้เธอกำลังเป็นคนควบคุมไม้กวาด โดยที่มีเอริซ้อนอยู่ที่ด้านหลัง และเฮนเรียสต้าเธอนั่งอยู่ที่ด้านหน้าของมาน่า
แม้ว่าพวกเธอทั้งสามจะเป็นเพียงแค่เด็กสาว แต่ความจริงที่ว่าไม้กวาดนั้นกำลังรับน้ำหนักคนตั้ง 3 คนไม่เปลี่ยนแปลง
ดั่งคำที่มาน่าตอบกลับคำพูดของเฮนเรียสต้า เพราะว่าไม้กวาดอันนี้นั้นไม่สามารถเร่งความเร็วไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว และความเร็วเพียงแค่นี้ก็ไม่สามารถสลัดเหล่ามังกรซอมบี้ได้หลุด ที่ตอนนี้ระยะห่างระหว่างพวกเธอกับฝูงมังกรก็ได้หดสั้นลงเรื่อยๆ
[ คุ- , มาน่าซังคะ กรุณาบังคับไม้กวาดตรงๆไว้นะคะ ]
[ เอ๊ะ ? ]
เพราะความรู้สึกถึงอันตรายในสถานการณ์นี้ เฮนเรียสต้าเธอจึงเปลี่ยนท่านั่งโดยหัวหน้าเข้าหามาน่าและ . .
เธอชี้คถาของเธอไปยังดราก้อนซอมบี้ตัวหนึ่งที่กำลังใกล้เข้ามา
[ ” BlitzRegen ” ]
[ มู่ . . เป็นอย่างที่ชั้นกลัวไว้จริงๆ ]
ถึงแม้ดราก้อนซอมบี้ตัวนั้นจะรับฟ้าผ่าดอกนั้นไปเต็มๆจนทำให้ปีกของมันถูกเป่ากระจายหายไป
แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังบินอยู่ได้และยังคงมุ่งตรงมาหาพวกเธอดังเดิม
[ อะไรกัน ทั้งๆที่มันเสียปีกไปแล้วแท้ๆ ทำไมถึงยังบินอยู่ได้ล่ะคะ ? . . เพราะเวทย์มนตร์งั้นรึ ? ]
[ ดูเหมือนว่าในกรณีนี้ . . กรณีที่ใกล้เคียงที่สุดล่ะก็ นี่คงเป็นฝีมือของระดับดยุคคนหนึ่งผู้ควบคุมเหล่าคนตาย และครั้งหนึ่งเคยต่อกรกับท่านผู้กล้าคนก่อนและชาวคณะอีกด้วย ]
เธอเหวี่ยงคถาตัดผ่านลมจนเกิดนเสียง “วูบ” และนั้นทำให้เกิดบอลสายฟ้าขึ้นรอบๆตัวของเฮนเรียสต้า และพวกมันทั้งหมดก็ถูกยิงไปใส่เหล่าฝูงมังกรซอมบี้
แน่นอน การโจมตีพวกนั้นมันแทบจะไม่มีพลังโจมตีอะไรเลย อีกทั้งร่างกายของมังกรนั้นยังแข็งแกร่งเกินกว่าจะโจมตีเข้าได้ดั่งโจมตีด้วยปืนเวทย์มนตร์ แต่บอลสายฟ้านั้นกับละลายแปะติดอยู่กับตามตัวของเหล่ามังกร ดังนั้นการโจมตีเมื่อสักครู่จึงเป็นดังการยั่วยุเหล่ามังกรซอมบี้พวกนั้น
[ อ้ออ เป็นอย่างงี้นี้เองสินะ . . . เดี่ยวนะ, ทำไมเธอถึงรู้เรื่องนั้นได้ล่ะ ? ]
เป็นเอริที่ถามเฮนเรียสต้าออกมา เพราะเธอเล่นเล่าราวกับว่าเธออยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้นด้วย
[ . . อะ- , ดิชั้นอ่านมาจากหนังสือน่ะค่ะ ในบทที่ 8 ของหนังสือ [ ชีวประวัติของเหล่าผู้กล้า ] บทนั้นกล่าวไว้ว่าตัวร้ายนั้นได้เปลี่ยนเมืองเมืองหนึ่งให้กลายเป็นสรวงสวรรค์ของเหล่าวิญญาณร้าย และผู้ควบคุมเหล่าวิญญาณร้าย [ อัมบร้า ] นั้นคือการปรากฎตัวของเขา และในตอนนั้น เพราะได้รับความช่วยเหลือจากท่านนักบุญและนักรบไฮเอลฟ์จึงสามารถจัดการเขาลงด้วย . . . . ]
[ อร้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา~~~~~ ท่านเฮนเรียสต้าาา หยุดสปอยน๊าาาา~~ ชะชะชะชะ- , ชั้นกำลังจะอ่านถึงตอนอยู่แล้ววว !! ]
[ . . อืม เฮนเรียสต้า หัดเห็นใจคนอื่นบ้างนะ ]
[ นี่มันใช่เวลามาพูดเรื่องไม่เป็นเรื่องงั้นรึคะเนี้ย !! ? ]
ไม่รู้ว่าเธอโกรธหรืออายกันแน่ที่ทำให้หน้าเธอแดง แต่เฮนเรียสต้าเธอก็ยังคงยิงบอลสายฟ้าไปยังเหล่าซอมบี้ดราก้อนพวกนั้น
และเมื่อ เหล่าดราก้อนซอมบี้ที่ถูกบอลสายฟ้าเธอโจมตีมีจำนวนหลายสิบตัว . .
เธอเดาะลิ้นของเธอขึ้น พร้อมกับกวาดมือของเธอลง ราวกับว่าปลดปล่อยอะไรบางอย่างลงมา
[ เจ้าพวกมังกรช่างเป็นปัญหาเสียจริงๆ . . . ” ฺBlizRegen ” ]
จากบนท้องฟ้า ห่าฟ้าผ่าจำนวนมากมายเกินกว่าจะนับได้ได้ผ่าลงมาใส่เหล่ามังกรซอมบี้ มันมากมายจนท้องฟ้ากลางดึกสว่างราวกับเที่ยงวัน มันสว่างซะจนไม่สามารถมองตรงๆได้ และ . .
สายฟ้าพวกนั้นมันเผามังกรซอมบี้หลายสิบตัวจนไม่เหลือแม้แต่ซาก . .
[ . . . สมแล้วที่เป็นถึง ” เจ้าหญิงอัศวิน ” ]
จากฉากการต่อสู้ตระกานตาที่เกิดขึ้นต่อหน้าเมื่อสักครู่ แม้ว่าสีหน้าของเอริจะไม่แสดงอะไรออกมาเลย มีเพียงหน้าที่แดงขึ้นเล็กน้อยทำให้รู้ว่าเธอนั้นรู้สึกตื่นเต้นกับฉากเมื่อสักครู่
แต่ถึงกระนั้น สีหน้าของเฮนเรียสต้าก็ยังไม่สู้ดีทั่วไรนัก
[ กว่าจะจัดการมันลงได้ถึงกับต้องใช้การเตรียมการถึงขนาดนี้ แม้ว่าพวกมันจะเป็นเพียงมอนเตอร์ระดับไม่สูงนัก แต่ก็สมแล้วที่พวกมันคือ 1 ในเผ่าพันธุ์มังกร ]
เฮนเรียสต้าเธอเดาะไม่พอใจเพราะเธอคำนวนผิดพลาดเพราะเกล็ดของมังกรนั้นแข็งแกร่งกว่าที่เธอคาดไว้มากนัก
[ ไม่หรอกโดยปกติแล้ว คนเพียงคนเดียวไม่มีทางที่จะจัดการพวกมันได้มากมายขนาดนี้หรอกนะ ]
[ ไม่ !! สำหรับดิชั้นในตอนนี้ที่ทำได้เพียงแค่นี้ ดิชั้นไม่สมควรจะถูกเรียกว่า ” เจ้าหญิงอัศวิน ” ด้วยซ้ำ ]
แม้ว่าพวกเธอจะยังคงพูดโต้ตอบกัน แต่เฮนเรียสต้าเองก็โจมตีเหล่ามังกรซอมบี้พวกนั้นด้วยสายฟ้าและบอลสายฟ้าของเธอ
แต่ถึงกระนั้น เพราะการโจมตีสุดท้ายนั้น ทำให้เหล้ามังกรซอมบี้ต่างรับรู้ได้ว่าเฮนเรียสต้านั้นเป็นตัวอันตรายที่สุดในหมู่ หญิงสาว 3 คนนั้น
เหล่ามังกรซอมบี้เริ่มบินมารวมตัวกัน มันมากจนเวทย์มนตร์ของเฮนเรียสต้าไม่มีทางที่จะจัดการมันได้หมด
[ พวกมันกำลังรวมตัวกัน !!!! ]
ด้วยความสามารถในการควบคุมไม้กวาด(ที่คล่องแล้ว)ของเธอ เธอควบคุมมันพุ่งผ่านระหว่าง 2 ตึกทำให้พวกเธอสามารถทิ้งระยะห่างเหล่าฝูงมังกร
แต่ถึงกระนั้น เหล่ามังกรก็ยังคงรีบบินอ้อมตามไปเพื่อไม่ให้ถูกทิ้งระยะห่างมากนัก
[ อุก . . พวกมันมีจำนวนเยอะเสียจริง ]
[ รู้สึกว่าความสามารถในการเรียกผี(เข้ามารุม)ของดิชั้นจะเลเวลอัพขึ้นนะคะ คิคิคิ ]
เฮนเรียสต้าเธอหัวเราะออกมาอย่างไม่เกรงกลัว . .
ในตอนนั้นที่เธอกำลังยิงเวทย์มนตร์อยู่จู่ๆเธอก็รู้สึกเสียวแผ่นหลัง
[ อูววว ~~~~ . . .เอ๋ ? ]
เหล่า 3 สาวกำลังถูกโจมตีด้วยลมพายุปริศนา
[ กรี๊ดดดด ]
[ นะ- , นั้นมันอะไร !!!! ]
[ ” อะไรบางอย่าง ” พุ่งผ่านพวกเราไปค่ะ ! ]
แม้ว่าไม้กวาดของพวกเธอจะหมุนติ้วๆ 2 – 3 รอบจึงหยุดลง แต่ถึงกระนั้นพวกเธอทั้ง 3 ก็ยังไม่มีใครตกจากไม้กวาด
[ ในโลกนี้มีอะไรที่ทำแบบนั้นได้ด้วยหรือคะ !? ]
เพราะภาพที่เด็กสาวคนนั้นเห็น คือเหล่ามังกรซอมบี้ที่กำลังใกล้พวกเธอเข้ามาเพื่อพยายามจะหม่ำพวกเธอ แต่พวกมันกับถูก ” อะไรบางอย่าง ” ที่เคลื่อนที่ตัดผ่านท้องฟ้าด้วยความเร็วสูง และ !! เมื่อพายุนั้นผ่านไปก็เหลือเพียงเหล่ามังกรซอมบี้ที่ถูกตัดเป็นชิ้นๆเหลือทิ้งไว้ให้เด็กสาวดูต่างหน้า
[ . . นั้นมัน , ฝีมือมนุษย์? ]
เอริหันสายตาของเธอไปยังทิศทางที่ ” อะไรบางอย่าง ” พุ่งไป และพูดออกมา
เพราะสิ่งที่เธอเห็น มันคือร่างที่สวมชุดดำทั้งชุดกำลังพุ่งวาบไปราวกับเป็นความมืด
[ ไม่จริงน่า !! , นั้นมัน !!! . . . บุคคลผู้ซึ่งปรากฎตัวในสงคราม ณ ดินแดนที่สูญสิ้น บุลคลผู้ซึ่งทุกๆอย่างแม้แต่ชื่อของเขายังคงเป็นปริศนา นักดาบลึกลับผู้นั้น ]
เจ้าหญิงแห่งอาณาจักรแห่งอัศวิน เคสโตเรีย ผู้ซึ่งเดินทางไปกับกองทัพของเธอในสงครามครั้งก่อน เมื่อเธอได้เห็นร่างของคนผู้นั้น ดวงตาของเธอถึงกับเบิกกว้างออก
[ Storm Bringer , !! หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เพชฌฆาตแห่งความมืด” ( Darkness Executioner ) !! . . ทำไมเขาผู้นั้นถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ]
ร่างของคนผู้นั้นที่ดูราวกับกลืนกินไปกับราตรีที่มืดมิด
มีเพียงดวงตาคู่นั้นที่มองออกมาจากภายใต้ผ้าคลุมนั้น . . .
และมันกำลังจับจ้องไปยังบนท้องฟ้า . . .