ผู้กล้าคนก่อนอยากจะเกษียณ - ตอนที่ 59 ผูกล้าคนก่อนอยากจะร้องให้
[ ไม่มีทางที่ไอ้สิ่งที่ว่ามานั้นจะได้รับการอนุญาต ]
เมื่อกล่าวออกมาเช่นนั้น สาวตาคมพราวเสน่ห์ ท่านอาจารย์เซลก้า อัล เฮลโครเซ่ ลาร์กรูค่า เฟลคาซิโอ้ แคล์จูเล่ (TL:ยาวแท้) ปฎิเสธผมและอาเรียสเน่ซังออกมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะถูกปฎิเสธคำขอร้องมาในทันที
[ [ เอ๋~ ] ]
[ อย่ามา “เอ๋~” กับดิฉัน!! ]
เมื่ออาเรียสเน่ซังและผมกำลังทำเสียงออกมา “บู่ๆ” มันยิ่งทำให้สายตาของเธอดุขึ้นกว่าเดิม เสียงของอาจารย์เซลก้าที่แสดงถึงความโกรธดังก้องภายในห้องของอาจารย์ใหญ่
ถูกแล้วครับ ตอนนี้พวกเราอยู่ในห้องอาจารย์ใหญ่
[ โฮะโฮะ ข้าก็คิดว่านั้นเป็นความคิดที่ดีเหมือนกันนะ ? ]
[ . . . ท่านอาจารย์ใหญ่? ]
[ ขะ , ข้าเองก็ไม่อนุญาตข้อเสนอนี้ ยาชิโระคุง ! ]
ท่านอาจารย์ใหญ่ ผู้ที่กำลังลูปเคราตัวเองอยู่เพลินๆ เมื่อได้รับสายตาอันเย็นเฉียบที่จ้องมองมาจากอาจารย์เซลก้า มันถึงกับทำให้เขารีบปฎิเสธข้อเสนอนั้นออกมาทันทีพลางสั่นเทาด้วยความกลัว
คุณคงไม่กล้าจะบอกคนอื่นๆต่อหรอกนะว่าปู่นี้หนะมีอำนาจจริงๆ
[ อย่างแรก ทำไมต้องเป็นดิฉัน ที่เป็นถึงอาจารย์ แล้วต้องมาใส่ชุดเครื่องแบบของนักเรียนด้วยละคะ ? ]
มันก็จริงดั่งคำกล่าวมา ถ้าหากจะให้ผมตอบเธอตามความจริงแล้ว เธอคงไม่มีทางที่จะยอมสวมชุดพวกนี้แน่ไม่ว่าเหตุผลใดก็ตาม ผมจึงตอบออกไป พลางคิดหนักเกี่ยวกับเรื่องนี้
[ ไม่ใช่ว่าการที่อาจารย์ได้ลองสวมใส่เครื่องแบบของนักเรียนนั้น เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากหรอกรึครับ ? ]
[ ไม่มีทาง ]
โอ้ย~ ไม่นะ~ ในขณะที่ผมกำลังหว่านล้อมหลายๆทางดู (โดยใช้ประโยคคำถาม) แต่ว่า ไม่ว่าจะยังไงสุดท้ายเธอก็ยืนยันคำเดิม
สิ่งที่มาพร้อมกับคำปฎิเสธของอาจารย์เซลก้า มันคือสายตาที่จ้องมองมายังพวกเรา มันเป็นสายตาที่ดูราวกับจ้องมองเหล่าหมูที่อยู่ในฟาร์มอย่างไรอย่างนั้น
บ้าจริง ดันมาจ้องมองผมด้วยสายตาเช่นนั้น . . .
มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกเร้าใจขึ้นไปอีก !!!!!!
สำหรับผม ที่ตอนนี้กำลังรู้สึกดีกับสายตานั้นอยู่ อาเรียสเน่ซังได้โอดโอยออกมาในขณะที่ชุดยูนิฟอร์มยังอยู่ในมือ
[ เฮ้ ยู นายรู้รึปล่าว ? เมื่อได้มาที่นี่แล้ว ข้าพึ่งจะคิดเรื่องดีๆขึ้นได้ แต่ว่า , นายอยากจะรู้รึปล่าวล่ะ ? ]
[ แฮ่กๆ เยี่ยม . . อีก ได้โปรด . . เยียดหยามผมมากกว่านี้ที . . มากกว่านี้ . . เดี่ยวนะ อะไรนะ? มีอะไรรึ อาเรียสเน่ซัง ? ]
[ ขอโทษด้วยที่ขัดจังหวะนายที่กำลังมีความสุข . . . แต่ว่า นายรู้รึปล่าว ? มันเป็นอย่างที่อาจารย์กล่าวไว้ ของพวกนี้มันเป็นเครื่องแบบสำหรับนักเรียนสวมใส่ ]
สำหรับเหตุผลนั้น ใบหน้าของอาเรียสเน่ซังแสดงว่าเธอยอมรับอย่างโดยง่าย ฟูมุ นี้คือเรื่องที่จะพูดจริงๆงั้นรึ?
[ ฟุมุ แล้วยังไง ? ]
[ ก็เรื่องหานางแบบนี้แหละ ทำไมพวกเราไม่ลองขอร้องเหล่านักเรียนดู? ]
……?
[ ที่จะบอกคือ นอกจากเหล่าพี่สาวหุ่นเซ็กซี่แล้ว อาเรียสเน่ซังอยากจะได้เด็กๆเป็นนางแบบด้วย ? ]
[ ถูกแล้ว ]
[ ที่จริง ผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกนะครับ จริงๆมันก็ยังเป็นเพียงการตัดสินใจของพวกเราอยู่ฝ่ายเดียว และมันคงจะดีถ้าหากได้ฟังความเห็นจากเหล่านักเรียนบ้าง ]
ฮึ ? อาจารย์เซลก้า ไม่เห็นมีอาการอะไรแหะ ?
[ คิดอย่างไรบ้างคะ ท่านอาจารย์ใหญ่ ]
[ โฮะโฮะ มันฟังดูน่าสนใจดีนี่ . . ดี !! ตกลงตามนี้ อาจารย์โดโตเร็กเก้ ให้เหล่านักเรียนมาลองพวกมันโดยทันที สำหรับแบบนั้น . . ไหนดูสิ เอาเป็นห้องของนายเป็นไง เด็กๆเหล่านั้น ยาชิโระคุงรู้จักดีนี้ ? ]
[ ครับ ผมเห็นด้วยกับความคิดนี้เช่นกันครับ งั้นพวกเราอย่างชักช้าเสียเวลาดีกว่า ]
ว๊าา นั้นมันทำให้ผมตกใจเป็นอย่างมาก อาจารย์โดโต้ แม้ว่าใบหน้าของเขาจะดูหน้ากลัวสุดๆ แต่เพราะคุณผอมเอามากๆเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ผมเลยเผลอคิดไปว่าคุณไม่ได้อยู่ที่นี้
เดี่ยวนะ ไม่ใช่ว่านี่มันกำลังใกล้ความจริงเรื่อยๆงั้นเรอะ !? ย.. อย่างน้อย สิ่งนี้มันอาจจะเป็นหนทางที่ทำให้ผมกลายเป็นชายหนุ่มที่สาวๆต่างหลงใหล !!
[ อะ- อืม . . ]
[ อาเรียสเน่ซังใช่รึปล่าวครับ ให้กระผมนำทางคุณไปยังห้องเรียนนะครับ ]
[ โอ้วว !! ตามนั้นละกัน งั้นพวกเราไปกันเลย ]
เธอพับเสื้อผ้าที่น่ารักเหล่านั้นไว้ในอ้อมแขนของเธอและทิ้งสถานการณ์ที่พ่ายแพ้เมื่อตะกี้ไว้เบื้องหลัง จริงๆ เมื่อมาคิดๆดูแล้วมันก็แค่ความเห็นแก่ตัวของผมคนเดียวเรื่องนางแบบ เมื่อมองๆดูในมุมมองของอาเรียสเน่ซังแล้ว เธอก็คงอยากให้เสื้อผ้าสวยๆที่เธอสร้างขึ้นนั้นถูกสวมใส่โดยไวที่สุดเท่าที่จะไวได้
อาจารย์โดโต้และอาเรียสเน่ซังได้มุ่งตรงไปยังวงเวทย์เคลื่อนย้ายกัน 2 คน
เดี่ยวนะ? ทำไมผมถึงถูกทิ้งไว้
เอ่ เอ๋? ทำไมล่ะ ?
ในขณะที่ผมกำลังคิดอยู่นั้น อาจารย์ใหญ่ก็กะแฮ่มออกมาจนดังก้องภายในห้อง
[ เอาล่ะ ท่านอาจารย์แคลจัวเร่ ข้าขอให้เธอออกไปนอกห้องก่อนจะได้รึปล่าว ? ]
จากคำพูดที่กล่าวออกมาเบาๆนั้น อาจารย์เซลก้าถึงกับเบิกตากว้าง
[ . . . ท่านอาจารย์ใหญ่ ดิชั้น , ที่เป็นเลขาของท่าน มันคือหน้าที่ของดิชั้นที่จะต้องเป็นคนปกป้องความปลอดภัยของท่าน ]
อย่างไรก็ตาม อาจารย์เซลก้าได้ตอบกลับไปในทันที งั้นเองรึ? อาจารย์เซลก้า คุณไม่ได้เป็นเพียงแค่อาจารย์สินะ คุณยังเป็นเลขาอีกตำแหน่งด้วย !! ไม่ต้องนึกภาพเลยว่ากระโปรงสั้นแบบทรงเอ มันจะเหมาะกับคุณขนาดไหน!!
[ โฮะโฮะ อาจารย์แคลจัวเร่ . . เธอขัดคำสั่งไม่ได้หรอกนะ ออกไปจากห้องเถอะ ]
น้ำเสียงที่เคยพูดจาสุภาพนั้นมันได้ถูกเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงทุ้มต่ำ มันเป็นน้ำเสียงเดียวกับที่เขาประกาศชื่อของตนเองแก่เบอร์นาเดส มันคือ “คำสั่ง” ที่อาจารย์ใหญ่สั่งมันแก่ อาจารย์เซลก้า
[ ! . . . ค่ะ ]
เพราะการกระทำของปู่นี้ อาจารย์เซลก้าถึงกับหางคิ้วกระตุกหน่อยๆ ถึงกระนั้นเธอก็ยอมเดินไปยังวงเวทย์เคลื่อนย้าย
[ ข้าต้องของอภัยด้วย ยาชิโระคุง ]
[ อ้า ไม่ครับ ไม่ต้องสนใจผม ]
รู้รึปล่าว จู่ๆเขาก็ขอโทษผมออกมาแบบนี้ มันน่าหนักใจนะ จริงๆนะ เพราะเขาทำอะไรผิดกันหละ? ผมได้แต่เอียงหัวสงสัยเกี่ยวกับมัน แต่ว่าความคิดของผมนั้นก็ถูกขัดในทันที
[ ไม่ได้หรอก รึข้าจะต้องเรียกเธอว่า . . เพชฌฆาตแห่งความมืด ]
เมื่ออาจารย์ใหญ่ดึงกระดาษบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อที่อกของเขา ที่กระดาษนั้นมันมีสัญลักษ์คล้ายๆกับนาฬิกาบางอย่างอยู่ และผม ที่ตอนนี้ยังนิ่งไม่ไหวติงเพราะคำพูดของอาจารย์ใหญ่
[ โฮะโฮะ ยิ่งเห็นเธอแสดงท่าที่เช่นนี้ . . ข้าคงต้องขอขอบพระคุณนายจริงๆ ]
[ . . ผม , ผมได้ทำอะไรถึงขนาดนั้นสักหน่อย ]
ผมเข้าใจโดยทันทีเกี่ยวกับเหตุผลที่ปู่ให้อาจารย์เซลก้าออกจากห้องนี้ไป นั้นก็เพราะต้องการเก็บความลับเกี่ยวกับตัวตนจริงๆของผม แต่ กลับกัน ผมนี้โครตตกใจเลย จนเผลอยืนนิ่งแบบนั้นจึงเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้
เอาล่ะ กลับมาเข้าเรื่องกันต่อ ถูกแล้ว ผมจำไม่ได้เลยว่าได้ทำอะไรที่มีคุณค่ามากพอที่จะต้องได้รับคำขอบคุณหรอกนะ
ก็จริงๆแล้ว ผมก็ทำแค่เก็บกวาดพวกดราก้อนซอมบี้ก็เท่านั้นเอง และหลังจากนั้น เกือบทั้งหมดก็เป็นฝีมือของสุดหล่อคุง
[ โฮะโฮะ นายนี่มันช่างน่าชมเชยจริงๆ อย่างที่ในจดหมายที่เธอคนนั้นเขียนบอกไว้เลย ]
อาจารย์ใหญ่หัวเราะออกมาเสียงดังพลางลูบเคราสีขาวของเขา เดี่ยวนะ จดหมายรึ? ฝีมือยายแก่? ถ้าหากมันเป็นจริงที่เธอสามารถคาดการณ์เรื่องพวกนี้ได้ . . มันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว
[ ตามเนื้อหาในจดหมาย ข้าได้ยินมาว่านายกำลังจะไปที่ Galarie แต่ว่า . . เพื่อไม่ให้เป็นเรื่องเข้าใจผิด จริงรึปล่าว ? ]
[ ครับ ถูกต้องเลย . . เดี่ยวนะ คุณพูดอะไรนะ ? มันถูกเขียนในจดหมาย? ]
[ อืม มันถูกเขียนไว้ในจดหมาย ]
เมื่อผมขอให้เขาเอาจดหมายให้ผมดูเนื้อหาของมัน มันจริงอย่างที่เขาเคยพูดไว้ “ถ้าหากเขามุ่งตรงไปยัง Galarie ข้าต้องการให้คุณอำนวยความสะดวกให้แก่เขาได้” !
บ้าจริง ยัยนี่อ่านผมออกอย่างหมดเปลือกเลยว่าผมกำลังจะไปที่ Galarie
เสียรู้ยัยนั้นอีกแล้ว !
[ สำหรับเวลานี้ อาจจะไม่มีเรือที่สามารถเดินทางไปยัง Galarie ได้แล้ว มันคงจะต้องอ้อมสักหน่อย แต่ว่า ในเมืองท่าเรือที่ชื่อว่า [Be Io] ที่นี้มีผู้ชายที่ชื่อ [โวแดน] ผู้ที่เป็นนายกเทศมนตรีของเมือง ข้าจะส่งจดหมายไปถึงเขา อย่างน้อยเขาก็จะช่วยส่งนายขึ้นเรือสักลำได้ ]
อีกครั้งที่อาจารย์ใหญ่หัวเราะออกมาพลางลูบเคราของเขา
ด้วยนี่ นั้นก็หมายความว่าผมมีวิธีเดินทางไปยังเมือง Galarie แล้ว! . . .
เดี่ยวๆ ว่าแต่มันคืออะไร ?
[ เอ๊ะ คุณจะต้องใช้เรื่อเพื่อเดินทางไปยังเมือง Galarie ? ]
[ โฮะโฮะ , . . ฮึ? ]
[ เอ๊ะ . . . ไปโดยการเดินเท้าไม่ได้ ? ]
[ ไม่รู้ว่านายมีความเชื่ออะไรมา แต่ว่านายเชื่อจริงๆรึปว่านายจะไปถึง”มหานครแห่งน้ำ” ได้โดยการเดินเท้า !? ]
อาจารย์ใหญ่ตอบกลับคำถามของผมด้วยคำถาม
ถ,ถ้าหากที่ปู่นี้บอกกับผมเป็นเรื่องจริงแล้วล่ะก็ ถ้างั้นแผนที่ที่อยู่ในกระเป๋าของผม(กระเป๋ามิติที่4) และบนแผนที่นั้น มันบอกไว้อย่างชัดเจนว่าแค่มุ่งตรงไปโดยผ่านทางนี้ก็จะถึงเมือง Galarie . . หา !!!!!
[ มันเป็นไปไม่ได้น่า !! อ๊ากกกกก !! นั้นก็หมายความว่า ! ]
หลังจากเอาแผนที่ออกมาจากกระเป๋า ผมก็พยายามเอามันไปใกล้ๆเปลวไฟที่ถูกจุดอยู่บนเทียน
และเมื่อผมทำเช่นนั้น น้ำหมึกสีฟ้าก็ผุดขึ้นมา มันคือภาพของทะเลที่ทอดยาวออกมาจากเมือง Galarie ที่อยู่บนสุดของแผนที่
มันเป็นกลไกบางอย่างที่เหมือนๆกลับแผนที่ของโจรสลัดเอาไว้ซ่อนตำแหน่งของขุมทรัพย์ในแผนที่
ไม่ผิดแน่ ไอ้คนที่เตรียมแผนที่นี้ไว้ให้กับผมจะต้องเป็นเด็กๆที่ยัยแก่ส่งมา ไม่สิ หากคิดย้อนกลับไป มันอาจจะเป็นแม่พนักงานต้อนรับนั้น ยัยโนตมจัง ที่เป็นผู้ศรัทธาในตัวของ [แม่มดแห่งกาลเวลา] หรืออะไรสักอย่าง ถึงกระนั้นผมก็ยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไรนัก
นี่อาจจะเป็นเรื่องตลกฝีมือยายแก่ บ้าจริง อุส่าคิดว่าเลือกทางที่ถูกต้องแล้ว สุดท้าย. . มันก็ผิดพลาดจนได้ ผมตั้งใจเอาไว้ว่าจะเดินทางหนีห่างจากทะเล แต่ตอนนี้ทะเลมันกลับมาอย่างตรงหน้าของผมและในท้ายที่สุดผมอาจจะต้องข้ามทะเลนี้ด้วยตัวของตนเอง
ภาพร่างของยายแก่ที่กำลังระเบิดเสียงหัวเราะ “คิกคิกคิกๆ” ผุดขึ้นมาภายในความคิดของผม มันคือเรื่องน่ากลัวมากที่ผมสามารถจินตการถึงภาพนั้นได้โดยง่าย
ยิ่งกว่านั้น ไม่ใช่ว่าเรื่องที่เธอบอกว่าไม่สามารถมองเห็นอนาคตได้อีกแล้วเป็นเรื่องโกหกหรอกรึ ? เพราะการกระทำของเธอมันดูราวกับล่วงรู้ทุกอย่าง รึว่า?เธออ่านจากการกระทำของผมเพียงแค่นั้น?
[ ไม่ว่าจะผ่านเรื่องแบบนี้มาสักกี่ครั้ง ผมไม่ชอบใจเลยที่รู้สึกเหมือนกับกำลังถูกเชิดเนี้ย ]
แม้เมื่อ 3 ปีก่อน ผมได้ท่องไปเกือบครึ่งโลกเพื่อหาวิธีแก้ผนึกดาบศักดิ์สิทธิ์นี้ แต่ว่ามันก็มีหลายต่อหลายครั้งที่ผมโดนเรื่องบ้าๆแบบนี้โดยฝีมือของยายแก่
[ โฮะโฮะ ดูเหมือนว่าจะต้องแก้ไขเรื่องความเข้าใจผิดนี้สักหน่อยนะ [เมืองแห่งอิสระ Galarie] นั้น ยังรู้จักในอีกชื่อคือ [ มหานครแห่งน้ำ ] นั้นก็หมายความตามชื่อเลย มันคือเมืองที่สวยสดงดงามที่ตั้งอยู่บนผืนน้ำ ดังนั้น ถ้าหากนายมีแผนที่จะเดินทางไปยังเมือง Galarie เรือนั้นคือสิ่งจำเป็น โอเคนะ? ]
[ ครับ ถูกต้องที่สุด ]
สำหรับคนธรรมดาทั่วๆไปนะ
อ่า เดี่ยวๆก่อนๆ ผมยังจะไปที่นั้นอยู่นะ ถึงแม้ว่าผมจะมีสุดยอดเทคนิคที่ชื่อว่าผู้กล้าอยู่ แต่ถึงกระนั้น ตอนนี้ผมก็แสร้งเป็นคนธรรมดาอยู่ ดังนั้นผมจึงเลือกที่จะเดินทางโดยวิธีที่คนธรรมดาทั่วๆไปเขาใช้กัน มันไม่ได้หมายความว่าผมจะทำอะไรเช่นวิ่งบนผิวน้ำอะไรนั้นหรอก ถึงแม้เรื่องนั้นมันยากที่จะเชื่อว่าจะทำได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าผมจะทำไม่ได้หรอกนะ
[ เอาล่ะ ข้าคงต้องขอร้องให้นายส่งสิ่งนี้ให้กับ [โวแดน] นายกเทศมนตรีแห่งเมือง[Be Io] หากเธอทำเช่นนั้น ชายคนนั้นอาจจะหาที่เรือให้กับนายได้ ]
และสิ่งที่อาจารย์ใหญ่ดึงออกมาจากกระเป๋าที่หน้าอกของเรามันคือกล่องเล็กๆใบหนึ่ง ที่มีฝาเปิดที่เหมือนกับกล่องใส่แหวน
และภายในกล่องนั้น มันคือสีทอง–…
[ กระดิ่ง? ]
[ อืม ลูกของชายคนนั้นกำลังจะอายุย่างเข้าสู่การเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว สิ่งนี้คือของขวัญแสดงความยินดี ]
อาจารย์ใหญ่หัวเราะ “โฮะโฮะ” ออกมาอย่างยินดี
การที่มอบกระดิ้งให้กับการที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวนั้น . . มันไม่บ้าบอไปหน่อยหรอเห้ย
เอาเถอะ ถ้าหากจะให้ผมคิดสักหน่อย พวกเขาอาจจะเป็นฮาร์ฟบีสเผ่าแมวไม่ก็เผ่าจิ้งจอก ผมเคยได้ยินมาว่าพวกฮาร์ฟบีสในโลกนี้จะมีสิ่งของที่แตกต่างกันไว้เพื่อแสดงถึงความเป็นเผ่าของตนเอง
ถ้าของเผ่าสุนัขจะเป็นปลอกคอ เผ่าเสือจะเป็นที่คาดหัว แม้กระทั้งเผ่ายัก มันคือผ้านคาดเอว ( ดูเหมือนว่าเผ่ายักที่มีลักษณะนิสัยที่เป็นมิตรนั้นจะถูกรวมอยู่ในกลุ่มของพวกฮาร์ฟบีสด้วย )
นั้นก็หมายความว่า ชายที่ชื่อโวแดนอาจจะเป็นพ่อคนของเด็กที่มาจากเผ่าแมวหรือจิ้งจอก
ยิ่งกว่านั้น ในเมืองที่ถูกปกครองโดยบุคคลผู้ซึ่งเป็นฮาร์ฟบีส แสดงว่าเผ่าที่อยู่ในเมืองส่วนใหญ่จะต้องเป็นเผ่าเดียวกับคนที่ปกครองเมืองเป็นแน่
หรือก็คือ มันจะต้องมีพี่สาวหูแมวหรือพี่สาวหูจิ้งจอกอยู่เต็มไปหมด! เพราะตอนนี้ผมรู้สึกเบื่อกับชีวิตของผมที่ดูราวกับเป็นสุนัขรับใช้เต็มทน และความรู้ที่มีติดตัวมาจากครั้งก่อน มันทำให้ผมรู้สึกแฮปปี้กับข่าวสารที่ได้รับมาตอนนี้มาก
[ ดะ, ได้โปรด! ไว้เป็นหน้าที่ของผมเองครับ ! ]
ผมก็ได้กล่าวรับภารกิจพิเศษนี้ทันที ที่มันมีเฉพาะในต่างโลกแห่งนี้เท่านั้น
———————–
สนับสนุนแมวเลียวผู้แปลได้ที่
กสิกร / 0708329649 / กิตติพิชญ์