ผู้กล้าคนก่อนอยากจะเกษียณ - ตอนที่ 60 ผู้กล้า
เพราะผมกำลังจะเดินทางออกจากเมืองนี้ ผมคงต้องไปลาพวกนักเรียนซักหน่อย
เมื่อคิดได้เช่นนั้น ผมจึงกลับไปยังครัวลูกหมาเพื่อเก็บสำภาระ
ผมกะว่าจะบอกลาเบอร์นาเดสซักหน่อยเหมือนกัน แต่ว่าเธอก็ไม่ได้อยู่ที่นี่เหมือนกัน
[ ถ้าหากนายมองหาแม่หนูคนนั้นล่ะก็ เธอยังไม่กลับมาเลยตั้งแต่เมื่อวานนี้ ]
ตาลุงที่ตอนนี้ยังตัวติดหนึบอยู่ในห้องครัวได้กล่าวออกมาก่อนที่ผมจะถามออกไปซะอีก ผมจึงได้แต่หดมือที่กำลังจะยกขึ้นถามกลับไป
[ อยากให้ข้าบอกอะไรกับแม่หนูนั้นตอนเธอกลับมารึปล่าว ? ]
. . . ทำไมลุงนึกถึงความคิดผู้อื่นดีขนาดนี้ !!
รู้รึปล่าว ตาลุงตอนนี้มันถึงระดับที่ผมคิดได้เลยว่า ลุงนั้นอ่านความคิดผมได้แล้วนะ ?
[ ถ้างั้น ผมขอฝากลุงจัดการให้ด้วยได้นะ ? ]
[ ข้าไม่รับฝากข้อความบอกลาหรอกนะ แกก็รู้นิ ? ]
[ ลุงเป็น เอสเปอร์หรืออะไรเถือกนั้นรึ!? ]
[ ไอ้บ้า . . ข้าแค่ , เป็นรุ่นพี่ในการใช้ชีวิตก็แค่นั้นแหละ ]
พลางหัวเราะออกมาดัง [ฟุฟุ] ภาพของตาลุงที่กำลังเช็ดแก้วอยู่นั้น ด้วยท่าทางที่ปราณีตนั้น มันมากพอที่ทำให้ผมอาจจะเผลอเรียกเขาว่ามาสเตอร์ (TL:เหล่าบาร์เทนเดอร์ในประเทศญี่ปุ่นเขาจะถูกเรียกว่ามาสเตอร์มั้งนะ)
[ แกรู้รึปล่าว มันเพราะเรื่องราวที่แกสร้างเอาไว้ในอดีตมันเลยทำให้ผู้คนต่างมองแกในแง่ลบกัน มันจึงทำให้แกไม่ป็อบปูล่าซักทีไงล่ะ ]
[ อะไรอีก จะเทศน์กันเรอะ? ]
[ เขาเรียกว่าแนะนำ ไอ้โง่ยู ]
เมื่อผมนั่งลงที่เก้าอี้ตรงเค้าเตอร์ ตาลุงก็เทนมลงในแก้วที่เข้าพึ่งจะเช็ดและเอามันมาวางที่ตรงหน้าของผม
[ คุณเสริฟนมให้ผมและเหล่าชายหนุ่มพวกนั้นเนี้ยนะ ใครมันจะไปชอบกันฟร่ะ ]
[ พวกเราไม่ใช้ร้านอาหารซั่วๆทั่วไปหรอกนะ แต่จริงๆก็มีแค่ เหล้า น้ำเปล่า และนมนี้เท่านั้นแหละ ]
เมื่อกล่าวมาเช่นนั้น ตาลุงก็นั่งลงที่เก้าอี้ข้างผม
แม้ว่าผมจะดื่มมันอย่างไม่เต็มใจเท่าไรนัก แต่ . .มันลึกลับมาก เพราะรสชาติของมันช่างสดใหม่
[ มันอร่อยแหะ ]
[ มันคือนมที่ได้จากแกะแฟนซี ที่เป็นสัตว์ที่หาได้ยาก มันแพงมากเลยนะ รู้รึปล่าว ? ]
แกะแฟนซี? เจ้าแกะฟันยื่นๆขนหยองๆสีชมพูนั้นเรอะ ? ดูเหมือนว่า พวกผู้หญิงจะคิดว่าพวกมันน่ารัก มันเป็นมอนเตอร์ที่ได้รับความนิยมพอสมควร จนคุณสามารถเห็นสินค้าที่ทำมาจากแกะแฟนซีอยู่บ่อยครั้งเลยล่ะ
มันเป็นสัตว์หายากที่ไม่เป็นอันตรายอะไร แต่ถ้าหากมันรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา มันจะปล่อยแก๊สพิษออกมารอบตัวและวิ่งหนีไป
[ ผมตกใจจริงๆที่ของอร่อยๆแบบนี้จะมาจากเจ้าสัตว์แปลกประหลาดเช่นนั้น ]
[ และในเมื่อเจ้าสัตว์แปลกประหลาดนั้นดันอร่อย มูลค่าของมันในตลาดจึงพุ่งขึ้นสูงไม่มีร่วงเลย ]
เพราะทั้งผมและตาลุงต่างมองว่าเจ้าสัตว์หายากนั้นมันไม่เห็นจะน่ารัก พวกเราจึงได้แต่ยิ้มออกมาแห้งๆ
[ นายกำลังจะไปแล้วตอนนี้ ? ]
[ . . . ครับ ผมว่าผมอยู่เมืองนี้มานานพอสมควรแล้ว ]
[ งั้นรึ . . การที่ได้มาเจอนายอีกครั้งหลังจากไม่ได้พบกันมานาน มันสนุกทีเดียว ]
เมื่อกล่าวออกมาเช่นนั้น ตาลุงก็หยุมหัวผมจนยุ่งและเดินกลับเข้าไปในครัว
[ . . . บ้าเอ้ย ดันมาพูดให้เศร้าซะได้ ]
หลังจัดทรงผมที่ยุ่งเหยิงได้แล้วจึงลุกขึ้นและออกจากร้านครัวลูกหมาไป
—————-
[ คุเคะ ]
[ อ่า~ อย่างที่ผมพูดไว้ อย่าทำหน้ามุ้ยเซ่ ]
เจ้านกขนสีเงินนี้ ซิลเบอร์ ผมได้ยืมมันมาจากซิลเวีย แต่ . อาจเพราะผมไม่ได้ขี่มันมาซักพัก เจ้านี่เลยอารมณ์เสีย
[ คุเคะ ]
[ อุว๊า อย่างจิกเซ่ หือ? อะไร ? ]
เพราะจู่ๆก็มาจิกผมจากข้างหลัง ผมจึงหันกลับไปมองจึงรู้ว่าเป้าหมายการจิกนั้นคือกระเป๋าเวทย์มนตร์ที่แนบติดอยู่ที่เอวของผม
ในตอนที่ผมกำลังคิดอยู่นั้น มันก็เปิดกระเป๋าของผมอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นมันก็งาบขาของผม
[ ขาของผม ? . . เอ๋ !? ]
กว่าผมจะรู้สึกตัว ขาของผมก็ถูกคาบโดยปากของซิลเบอร์แล้วและถูกทำให้ห้อยหัวแต๋งแต่ง
[ ว๊ากก !? ซิลเบอร์ ! แก ถ้าหากแกไม่อยากกลายเป็นยากิโทริ เอาชั้นลงเดียวนี้– ว๊ากกก ! หยุด หยุดนะ ! หยุดเดี่ยวนี้ ปล่อยนะ !!!!!!!!! ]
ถึงผมจะกรี๊ดร้องออกมาเพื่อให้ซิลเบอร์วางผมลง แต่ซิลเบอร์ก็ยังคงเขย่าผมขึ้นๆลงๆราวกับพยายามเทของทั้งหมดในกระเป๋าเวทย์มนตร์ของผมออกมา
และนั้น สิ่งที่ปรากฎออกมา มันคือหมอน ช้อนซ้อม ชุดที่มีไว้สำหรับเปลี่ยน มีด หอกสำหรับขว้าง ดาบคู่ , ทุกๆสิ่งที่อยู่ในนั้นถูกเทออกมา จนดังก้องแก้งเวลามันกระทบกับพื้น
ในที่สุด ซิลเบอร์ก็เริ่มเหวี่ยงแบบลูกตุ้ม . .
และ
*ป๋อย*
ขว้างผมทิ้งไป
[ แอ๊ก ! . . โอยย แกนะแก . . หือ ? ]
เช่นเคย ผมลงพื้นโดยเอาหน้าลง ในขณะที่ผมลุกขึ้นพลางอดทนความเจ็บปวดเอาไว้ ผมก็เดินมาคุกเข่าลงข้างหนึ่งที่ข้างหน้าของเหล่าไอเทมที่ถูกเทกระจัดกระจาย
[ . . แกกำลังจะบอกว่า “ถ้าหากนายไม่ขี่ชั้น ก็ให้ชั้นแบกสำหรับภาระพวกนี้เถอะ” งั้นรึ? ]
[ คุเคะ~~~ ]
ซิลเบอร์ตอบคำถามด้วยเสียงร้องอันเชื่องช้า
คูเคลมันคือสัตว์ชนิดหนึ่งที่นิยมในการใช้ขี่เหมือนกับม้าในบางอาณาจักร โดยเฉพาะที่ลีซาเรี่ยน พวกเขานิยมขี่เจ้านกนี้มากกว่าม้าเสียอีก
และสำหรับจุดเด่นของคูเคลนั้น คือความสามารถในการเดินของมัน มันสามารถเร่งความเร็วให้แซงม้าที่วิ่งด้วยความเร็วสูงสุดได้อย่างโดยง่ายและพลังกายที่ของมันก็สามารถแบกสิ่งของต่างๆได้มากมายได้อย่างสบายแม้มันจะหนักเพียงใดก็ตาม
อย่างไรก็ตาม มันก็มีข้อเสียอยู่ คือพวกมันไม่ค่อยมีความอึดมากนัก เพราะถ้าหากให้พวกมันวิ่งเต็มสปีดจริงๆ พวกมันก็วิ่งได้ไม่ถึง 10 นาทีก็หมดแรงแล้ว และพวกมันนั้นยังขี้อายและอ่อนไหวกว่าม้าเป็นอย่างมาก (นั้นไม่ได้หมายความว่าซิลเบอร์ไร้ยางอายหรอกนะ)
ถึงพวกมันจะเป็นเช่นนั้น แต่พวกมันชอบที่ให้แบกอะไรก็ได้อยู่บนหลังของมันเสมอ
นั้นคือสิ่งที่ซิลเบอร์อยากจะบอก [ ถ้าหากนายยังไม่ขี่ชั้น อย่างน้อยก็เอาอะไรก็ได้มาให้ชั้นแบกเถอะ ] นั้นคือเหตุผลที่ว่าทำไมมันยังยืนอยู่ที่ด้านหน้าของไอเทมที่กระจัดกระจายเต็มพื้น
…………
[ ผมเข้าใจแล้ว แต่ว่า ไอ้ของอันตรายเช่นหอกไม่อนุญาตนะ โอเค? ]
ซิลเบอร์ผงักหัวลง *หงึกๆ* และใช้จะงอยปากของมัน หยิบเชือกที่ตกอยู่บนพื้นเหมือนกับของอื่นๆส่งให้ผม
ให้มัดของพวกนั้นด้วยนี้ ? นั้นคือสิ่งที่แกพยายามจะบอกเรอะ?
[ ยาชิโระ คุง? ]
[ อ่า? ]
อย่างที่พูด ของอย่างมีดและหอกนั้นและของอื่นๆที่ดูไม่เหมือนสิ่งของสำหรับใช้ชีวิตนั้นผมเก็บกลับเข้ากระเป๋าเวทย์มนตร์ ทันใดนั้นผมก็ถูกเรียก
พลางกำลังคิดเกี่ยวกับเสียงนั้นที่เหมือนจะเคยได้ยินมาก่อน ผมก็หันกลับไป และคนที่พบคือ สุดหล่อคุงที่กำลังอยู่ในชุดโทนสีขาวที่ดูเป็นทางการ เขากำลังมองลงมาที่ผม
[ ใช่นายจริงๆด้วย! ผมตกใจมากๆเลย เมื่อคิดว่านายมาอยู่ที่นี่ ! ]
เมื่อผมจับมือของสุดหล่อคุงที่ยื่นออกมา สุดหล่อคุงก็จับมือผมเพื่อยืนขึ้น
[ มันก็สักพักแล้วสินะ ยาชิโระคุง ผมได้ยินมาจากนอร์นซังว่านายออกท่องเที่ยว ผมก็ได้แต่คิดว่าสักวันเราคงพบกัน แต่ผมไม่นึกว่าพวกเราจะมาพบกันที่นี่จริงๆ ]
รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาไม่มีจางหายไปเลย สุดหล่อคุงที่ยิ้มอยู่ตลอดจับมาที่ไหล่ของผม
อย่างไรก็ตาม ผมได้แต่ขบคิดเกี่ยวกับสิ่งที่สุดหล่อคุงพูดออกมาอยู่ในหัว
(ไม่ผิดแน่ ไม่ผิดแน่ๆ หมอนี่พูดว่า นอร์น สินะ?)
ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากตอนที่ผมแยกจากพวกเขามา แต่ดูเหมือนว่าสุดหล่อคุงและพักพวกคงเข้าไปเกี่ยวข้องอะไรสักอย่างกับยายแก่ . . เอาล่ะ คำถามคือ ยายแกบอกพวกสุดหล่อคุงเกี่ยวกับผมไว้อย่างไรบ้าง . .
[ ยาย–, . . นายรู้อะไรมาบ้างจากนอร์นซัง ? ]
[ อ่า ก็ตอนแรกพวกเราได้ยินว่านายไปอยู่กับนอร์นซัง ซึ่งตอนนั้นพวกเราก็รู้จักเพียงแค่ชื่อของเธอ แต่ว่า ในตอนแรกที่พวกเราได้พบกับนอร์นซัง ตอนนั้นราชินีแห่งอาณาจักรลีซาเรี่ยนแนะนำพวกเราให้มาพบกับเธอ พวกเราจึงรู้ข่าวจากเธอว่านายนั้นออกผจญภัย ]
ลีซาเรี่ยน . . . ซิลเวีย หือ?
เมื่อมาคิดๆดู ลัคซีเรียได้จัดงานประชุมเหล่าผู้นำหรืออะไรสักอย่างขึ้นนินา
งานใหญ่ขนาดนั้น ผมเดาว่าจักพรรดินีแห่งลีซาเรี่ยนคงถูกเชิญให้มาร่วมชุมนุมครั้งนี้แน่ ถึงเธอจะไม่ชอบงานที่เป็นทางการทั้งหลายก็เถอะ
[ อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องที่ดีที่เห็นนายสบายดี ผมตกใจทีเดียวตอนนั้นที่ได้ยินว่าจู่ๆนายก็ขอออกไปเข้าร่วมกับทางกิลด์ที่นอร์นซังเป็นหัวหน้าและเรียนรู้วิชาป้องกันตัว . . ถึงจะมีอะไรหลายๆสิ่งอย่างเกิดขึ้นกับพวกผม แต่พวกเราก็อดไม่ได้ที่เป็นห่วงเกี่ยวกับนายนะ ]
. . . เข้าใจล่ะ เรื่องมันเป็นแบบนี้สินะ ยายแก่
แต่เดี่ยวนะ หลายๆสิ่งงั้นรึ
ถ้าผมจำไม่ผิด หลังจากที่ผมขอออกมานั้น ตอนนั้นนายก็ได้เจอกับอัคนีร่านี่ ?
คงจะผ่านเหตุการณ์อันตรายมามากมายเลยสินะ ถึงจะดูยิ้มแย้มอยู่ตลอด แต่เพียงแว็บหนึ่ง ที่บรรยากาศเศร้าโศกมันส่งผ่านออกมาจากสีหน้าของนาย สุดหล่อคุง
[ ต้องขอโทษด้วย ที่ทำให้นายต้องเป็นห่วง ]
[ ไม่เป็นไรๆ อย่าสนใจไปเลย การที่ผมได้มารู้ว่านายยังสบายดีอยู่แบบนี้ ผมก็สบายใจแล้ว ]
ไอ้หมอนี่มันอะไรกัน ? นี่คือธรรมชาติของพวกหนุ่มหล่อเรอะ !?
————————-
สนับสนุนแมวเลียผู้แปลได้ที่
กสิกร / 0708329649 / กิตติพิชญ์