ผู้กล้าคนก่อนอยากจะเกษียณ - ตอนที่ 70 ผู้กล้าคนก่อนอยู่ในโหมดสแตนบาย
จากที่กล่าวมา ไอ้ “ งานแสดงศิลปะการต่อสู้เวทย์มนตร์ Galarie “
สิ่งเหล่านี้อาจทำให้คุณคิดว่าในเมื่อมันถูกเรียกว่างานแสดงศิลปะการต่อสู้ มันคงเป็นงานแสดงการต่อสู้เฉยๆสินะ
2-3ร้อยปีที่ผ่านมา คำกล่าวพวกนี้คงไม่ผิดอะไร
. . .ถูกแล้วครับ 2-3 ร้อยปีมานี้ งานแสดงศิลปะการต่อสู้เวทย์มนตร์ถูกเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
งานแสดงศิลปะการต่อสู้นั้นถูกจัดขึ้นเพื่อการศึกษาซึ่งกันและกันของโรงเรียนสอนเวทย์มนตร์และโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ ที่พวกเขาจะมาแสดงวิชาของตนและเรียนรู้เทคนิคของโรงเรียนอื่นๆ แต่ว่าสิ่งเหล่านี้กลับถูกเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงด้วยคำพูดเพียงคำๆพูดเดียว
“ โรงเรียนของพวกเรานั้นเจ๋งและแข็งแกร็งที่สุด “
ถึงมันจะเป็นคำพูดๆหนึ่ง แต่ในความหมายของคำพูดนั้นมันคือการดูถูกและยกตนเหนือโรงเรียนอื่นๆ
และนั้น เหล่าโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้อื่นๆที่อยู่ในงานก็ไม่ได้อารมณ์ดีมากพอที่จะปล่อยให้คำพูดนั้นผ่านไป
[ โอ้ว ? อะไร ? ไอ้แก๊งอ่อนแออย่างพวกแกเนี๊ยนะแข็งแกร่งที่สุด ? พูดให้ขำน่า ไอ้กาก ]
[ พวกแกเองก็ไม่ต่างกันนั้นแหละ เพราะว่า โรงเรียนของพวกข้าแข็งแกร่งที่สุดโว้ย ]
[ หือ ? อะไรนะ ? มาสู้กันเลยมั้ยล่ะ ? พวกข้าพร้อมเสมอนะ ]
[ เอาสิวะ พวกเราอยากปะทะอยู่แล้ว !! ]
ก็แบบนั้นแหละ เหล่าโรงเรียนต่างๆก็เริ่มตะลุมบอลกัน แต่ว่ามันไม่มีทางที่ไอ้สิ่งที่ว่า”โรงเรียนที่แข็งแกร่งที่สุด” จะสามารถถูกตัดสินได้โดยการตะลุมบอล
นั้นเพราะ ใครก็ตามที่อยู่รอดเป็นกลุ่มสุดท้ายคงจะรอดมาได้เพราะใช้วิธีสกปรกเป็นแน่
และถึงแม้จะหาวิธีอย่างยุติธรรมเพื่อหาวิธีตัดสินว่าใครแข็งแกร่งที่สุดที่ควรคู่แก่ชื่อเสียงนั้น แต่ว่าก็มีหลายกลุ่มที่หน้ามืดตามัวกับคำว่าชื่อเสียง พวกเขาจึงเลือกที่จะใช้วิธีสกปรก
เช่นการวางยาในอาหารทำให้ปวดท้อง หรือเอามัสตาสจำนวนมากไปทาไว้บนกระดาษชำระ
เหล่าผู้นำของแต่ละภูมิภาคต่างรู้ถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายเหล่านี้ดี พวกเขาจึงร่วมมือกันเปลี่ยนแปลง และในที่สุด เมื่อผ่านไป 2-3 ทศวรรษ พวกเขาก็ประสบความสำเร็จในการสร้างการประลองที่อยู่ภายใต้กฎได้
และนั้นคือความเป็นมาของงานแสดงศิลปะการต่อสู้นี้
—————
[ ดังนั้น เมื่อเวลาผ่านไป มันจึงกลายมาเป็นงานประลองที่เพื่อค้นหาว่าใครแข็งแกร่งที่สุด . . . ไม่ต้องสงสัยเลย ว่านี่มันจะอันตรายขนาดไหนกัน ]
ในห้องพักของเหล่าผู้เข้าแข็งขันใน อารีน่าเมือง Be Io ผมกำลังอ่านไกด์บุค และเบอร์นาเดสที่ตัวแข็งไปแล้ว
ที่รอบๆผม เหล่าชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามกำลังวุ่นกับการปรับแต่งอาวุธและวอร์มร่างกายของตน
อีกประการหนึ่ง แม้ว่าผมจะบอกว่าห้องผู้เข้าแข่งขัน แต่มันไม่ได้หมายความว่าผมเป็นผู้เข้าแข่งนะ
[ ฟุ ย๊า !! ]
ผมตอนนี้ได้เป็นพี่เลี้ยงให้กับเบอร์นาเดส ผู้ที่กำลังซ้อม kata ? อยู่ที่ด้านหน้าของผม
[ ฟุ ฟุฟุฟุ ดิฉันฟิตมากค่ะวันนี้ ยาชิโระซัง! ถ้าหากเป็นเป็นเช่นวันนี้นะ ดิฉันคิดว่าเจ้ามังกรซอมบี้ยักในตอนนั้น ดิฉันก็สามารถปราบมันได้แน่ค่ะ ! ]
มาบอกว่าจัดการเจ้ามังกรโบราณที่ผมและไคโตะต้องร่วมกันสู้ ได้ด้วยตัวคนเดียว เธอเสียสติไปแล้วสินะ
อืม เธอคงจะบอกว่าเธอในตอนนี้นั้นพร้อมที่สุดล่ะมั้ง
[ ดิฉันคงจะเริ่มการโจมตีไปที่ปีกของมันก่อน แล้วมันคงจะพยายามใช้แขนหรือหางจัดการดิฉันเหมือนอย่างเคย จังหวะนั้น ดิฉันจะกระโดดขึ้นไปบนแขนหรือหางนั้นที่โจมตีเข้ามาและวิ่งไปตามร่างกายของมัน . . . ]
อ่า เธออธิบายแผนการวิธีจัดการเจ้ามังกรนั้นออกมา เอ่อ . . เบอร์นาเดสครับ
[ อีกอย่าง ยาชิโระซัง ทำไมคุณไม่เข้าร่วมการแข่งขันด้วยล่ะคะ ? ]
[ แข่งขัน . . . เธอหมายถึงงานประลองนี้ ? ]
[ ค่ะ ]
หลังจากเสร็จสิ้นการโม้ของเธอ เบอร์นาเดสนั่งลงที่ม้านั่งที่ข้างๆผมที่ผมกำลังนั่งอยู่
[ ยาชิโระซัง คุณน่ะสามารถหลบการโจมตีของดิฉันได้หมดจดราวกับเป็นกระดาษ คุณมีพรสวรรค์มาก และร่างกายของคุณก็เช่นกัน ดูเหมือนว่าคุณจะมีร่างกายที่มีความสามารถที่สูงกว่ามาตรฐาน ดิฉันรู้ได้ตอนที่ดิฉันได้มีโอกาสได้สัมผัสร่างกายของคุณก่อนหน้านี้ แต่ว่า . . .ดิฉินคิดว่า คุณน่ะเป็นประเภท “ร่างกายที่สมบูรณ์”แบบ ]
มู~ สมบูรณ์แบบรึ . . สำหรับผม ผมแค่ต้องการสร้างร่างกายให้เป็นแบบนี้เพื่อให้เหล่าพี่สาวมาแอบอิงก็เท่านั้นแต่ . . . ( ถึงนี้มันจะนอกเรื่องไปหน่อย แต่ผมเคยพูดอะไรประมาณนี้กับซิลเวียในอดีต แต่ผมดันถูกห้ามไม่ให้ทำอย่างจริงจัง )
หือ ? เดี่ยวนะ
[ ผมไม่เคยปล่อยให้เธอบีบๆจับๆร่างกายของผมมาก่อนนี่ ? ]
มีแต่ผมที่ทำกับเธอนี้ เช่นบีบนมเธอ
[ เอ่อ . . อึก ]
อะไรน่ะ ไอ้รีแอ็กชั่นแบบนั้น เหมือนกับเด็กเวลาถูกจับได้เลย
[ คะคะคะ- , คุณเข้าใจผิดแล้วนะคะ ! มะไช่ ไม่ใช่ว่าดิฉันจะคิดว่าตอนที่ยาชิโระซังหลับสนิท กล้ามท้องของคุณจะดูเซ็กซี่และทำให้หลงจับไปโดยไม่รู้ตัวหรอกนะคะ ! ไม่ได้หมายความว่าดิฉันจะทำเช่นนั้นสักหน่อย !! ]
[ . . . งั้นรึ เป็นแบบนั้นเองรึ ผมเข้าใจล่ะ ] ( ด้วยน้ำเสียงเย็นฉา )
ถึงผมชอบที่จะสัมผัสคนอื่นแต่ผมไม่ได้ชอบที่จะถูกสัมผัสหรอกนะ . . แบบนี้มันน่าอายออก
[ ผู้เข้าประลองทั้งหมดในรอบคัดเลือก กรุณามารวมตัวกันตรงนี้ด้วย ! ]
ขณะที่เบอร์นาเดสพยายามจะอธิบายต่อด้วยหน้าที่แดงแจ๋ คนๆหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็น 1 ในสตาร์ฟได้เข้ามาในห้องพักนักกีฬา และดั่งที่คาดไว้ ดูเหมือนว่าเขาจะมาเพื่อเรียกเหล่าผู้ประลอง
[ ทะ , ทำให้ดีที่สุดนะ เบอร์นาเดส ]
[ กรุณาอย่างเปลี่ยนเรื่องเป็นคำพูดทางการกะทันหันแบบนี้สิคะ ! ]
ผมเห็นหยาดน้ำตาเล็กๆที่ตาของเบอร์นาเดสที่ในขณะที่โบกมือลาเธอ
เดี่ยวนะ นี่เธอจะไม่เป็นอะไรแน่นะ ? ยัยนี่ดูจะไฟติดเกินไปรึปล่าว
ถึงแม้เธอจะพูดออกมาว่า [ ปล่อยไว้เป็นหน้าที่ของดิฉันเองคะ ! ] แม้ดูเหมือนว่าเธอจะเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจในตนเองและยืดอกตัวเองขึ้น และผมที่กำลังเลเลว่าจะปรากฎตัวขึ้นในการแข่งขันนี้ดีรึปล่าว . . .
อาจเพราะผมไม่รู้ถึงความสามารถจริงๆของเบอร์นาเดสมันทำให้ผมจึงยังรู้สึกกังวลอยู่
และอาจเพราะผมกำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่ทำให้ความสามารถในการตรวจจับการคงอยู่ของสิ่งรอบๆต่ำลง กว่าผมจะรู้ตัว ร่างๆหนึ่งก็เข้าประชิดผมแล้ว
[ หือ ? . . . นายต้องการอะไรจากผมรึ ? ]
ในตอนที่ผมรู้สึกตัว ชายผมบอร์นที่ดูเหมือนจะอายุเท่าๆผมหรืออ่อนกว่าก็มาหยุดยืนนิ่งที่ตรงหน้าผม
[ แกจะไม่ออกไปกับพวกนั้น ? ]
เสียงที่แหลมสูงเหมือนผู้หญิงดังเข้ามาที่หูของผม ไอ้หมอนี่ที่มีร่างกายอันผอมเพรียวกำลังมองลงมาที่ผม ที่กำลังนั่งอยู่บนม้านั่ง และดูเหมือนจะทำหน้าตาเบื่อหน่าย
[ ก็ ในเมื่อเพื่อนของผมดูเหมือนจะไฟติดแล้ว ผมเลยคิดว่าจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเธอ ]
จริงๆผมมีเหตุผลส่วนตัวที่จะไม่พยายามเปิดเผยตนเองมากนัก
[ . . หึ หลบซ่อนอยู่ใต้เงาของผู้หญิง นายยังกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นผู้ชายได้อีกรึ ? ]
ไอ้หมอนี่กล่าวออกมาราวกับว่ารังเกียจผมอย่างสุดขั้วหัวใจ และแสดงท่าที่ดูถูกผมออกมา
[ . . อ่า ? ]
[ หา ! นี่นายจะไม่ทำอะไรเลยไงนอกจาการจ้องนี้ ? ]
นี่มันบ้าอะไรฟระ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ? ทำไมจู่ๆสถานการณ์มันกลายเป็นแบบนี้ ?
ตั้งแต่แรกแล้ว ทำไมไอ้หมอนี่ถึงเข้ามากระตุ้นเพื่อที่จะสู้กับผมด้วย ?
ผมไม่เข้าใจเลย
[ นายต้องการที่จะเข้าพบตาแก่สินะ ? ถ้างั้นอย่าทำอะไรที่เหมือนดั่งผู้หญิงแบบนี้ มาด้วยตัวเองซะ ]
เขาตะเบ่งเสียงออกมาจนไหล่ของเขายกขึ้น และไอ้หมอนั้นเตรียมที่จะเดินออกจากห้องพักไป
ตาแก่ ? . . .หรือว่า ? หมอนั้นคือ
[ ชั้นและตาแก่ พวกเราเกียจพวกโง่ที่อ่อนแอ เข้าใจไว้ซะด้วย ]
ผมสีบอร์น และมีใบหูทรงจิ้งจอกยื่นออกมา . . ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมต้องเป็นกระดิ้ง
ที่เมืองท่า Be Io แห่งนี้ที่เต็มไปด้วยเผ่าหมาป่าอาศัยอยู่
โวแดนชิผู้ที่เป็นผู้นำของเมืองคงจะเป็นเผ่าหมาป่าด้วยแน่
ผมก็สงสัยไว้แล้วว่าทำไมท่านอาจารย์ใหญ่ถึงให้กระดิ่งนั้นกับลูกของโวแดน แต่ว่า . . ไม่ใช่ว่าเขาอาจจะเป็นลูกบุญธรรมหรืออะไรสักอย่างก็ได้
แต่ที่แน่ๆ ลูกของโวแดน เขาเป็นเผ่าจิ้งจอก