ผู้กล้าเงาสุดแกร่ง อยากมีชีวิตอย่างคนธรรมดา - ตอนที่ 46
Ch.46 – การสอบเวทมนตร์
Translator : Reheikichi / Author
[ สำหรับผู้ที่ต้องการใบอนุญาตประเภทที่สองเชิญทางนี้เลยค่ะ ]
เราทำตามคำแนะนำของพี่สาวพนักงานต้อนรับและไปที่ด้านหลังของกิลด์ซึ่งที่นั่น มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นผู้คุมสอบและเธอพูดว่า
[ ที่นี่สถานที่สอบ ]
เราเดินต่อไปตามที่ผู้หญิงคนนั้นบอกและในที่สุดก็ถึงห้องขนาดใหญ่
เป็นทุกด้านปูด้วยผนังสีขาว บรรยากาศดูคล้ายกับสนามฝึกซ้อมของที่โรงเรียนอยู่นิดหน่อย
[ ตอนนี้นักเรียนของโรงเรียนราชวฟงศ์เหมือนพวกเธอก็กำลังสอบอยู่ทางนั้นนะ ]
จุดที่เธอชี้ไปตรงนั้นมีเด็กหนุ่มที่สวมเครื่องแบบสีขาวของแผนกผู้กล้าสี่คนอยู่
พอพูดไปแล้ว ตอนนั้นซิคก็เหมือนจะพูดว่า [ ไปสอบกันเถอะ ] ดูเหมือนว่าพวกเขาก็อยากได้ใบอนุญาตประเภทที่สองเหมือนกันสินะ
ขณะที่เพิ่งสอบเสร็จ ทั้งสี่คนที่กำลังจะเดินออกไปและเห็นพวกเรา
[ เอาจริงดิ พวกแกเนี่ยนะจะสอบใบอนุญาตประเภทที่สอง? ]
[ ฮะฮ่าฮ่า! ไอ้พวกแผนกสามัญไม่มีวันสอบประเภที่สองได้หรอกเว้ย! ]
ซึ่งก็เป็นการดูถูกของแผนกผู้กล้าตามปกติ
สองเดือนหลังจากสอบเข้า ผมเองก็ชักจะชินไปนิดหน่อยแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกเหนื่อยใจอยู่ดี
พวกเขาพูดคำสบถจากนั้นก็เดินออกจากห้องและไปที่เคาน์เตอร์กิลด์…
[ อ เอาล่ะ งั้นฉันจะอธิบายเรื่องการสอบนะ ]
ผู้หญิงที่เป็นผู้คุมสอบรู้สึกอึดอัดใจ แต่ก็ยังคงอธิบายต่อ
[ สำหรับคนที่ต้องการใบอนุญาตประเภทที่สองจะมีการสอบอยู่สองอย่าง เพื่อดูว่ามีความสามารถในการจัดการมอนสเตอร์ที่เป็นมรดกของจอมมารได้รึไม่ ซึ่งเป็นบททดสอบเพื่อทดสอบความแข็งแกร่งในการต่อสู้ขั้นพื้นฐาน ในด้านการสอบเวทมนตร์นั้นจะดูที่ พลังเวท ความความเร็วของพลังเวท ความอึดของพลังเวท การควบคุมพลังเวท แบ่งออกได้เป็นสี่ประเภท การจะผ่าน / ไม่ผ่านนั้นจะถูกแปลงเป็นตัวเลขและเฉลี่ยคะแนนแต่ละอย่างออกมา โดยมีค่าเฉลี่ยอันดับตั้งแต่ A ถึง E และเฉลี่ยสำหรับนักผจญภัยมืออาชีพหรือทหารที่ผ่านการฝึกฝนก็คือ B ในหลายๆ กรณีถ้าเป็นผู้บัญชาการ รองผู้บัญชาการ หรืออัศวินแห่งเซย์รินก็จะอยู่ที่ระดับ A ]
มิเซ่และเอลิเซียพยักหน้า
อดีตหัวหน้าอัศวินแห่งเซย์ริน―― พ่อของเอลิเซียก็คงจะระดับ A มาก่อนสินะ
นี่คงเป็นข้อมูลที่เอลิเซียตั้งใจฟังอย่างดี
[ อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ควรทราบก็คือในโลกนี้ไม่ใช่การต่อสู้โดยใช้เวทมนตร์อย่างเดียว ยังมีผู้ที่ใช้ทักษะเฉพาะตัวอย่างอื่นด้วย… เช่น ศิลปะการต่อสู้และทักษะทางกาย เราจะตรวจสอบฝีมือของพวกเธอไม่ให้ตกบกพร่องอย่างแน่นอน ดังนั้นการที่มีฝีมือด้านเวทมนตร์ต่ำไม่ได้แปลว่าจะสอบไม่ผ่านหรอกนะ ]
ผมพยักหน้านิ่งๆ ให้กับคำอธิบายของผู้คุมสอบ
กิลด์นักผจญภัยที่มีประวัติอันยาวนาน ดูเหมือนจะปรับเนื้อหาการสอบให้เข้ากับผู้ทดสอบอีกด้วย
[ ถ้าอย่างนั้นช่วยเข้าแถวด้วยนะ ]
ตามคำแนะนำของผู้คุมสอบ เราก็มุ่งหน้าไปยังกลางสนามสอบ
โต๊ะยาวตรงกลางของห้องมีลูกแก้วใสวางอยู่
[ ขั้นแรกจะทำการวัดพลังเวท ช่วยใส่พลังเวทลงไปให้เต็มที่ในเครื่องมือนี้ด้วย ]
พลังเวท
พลังเวทซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญในการใช้เวทมนตร์ มีความสำคัญมากในการต่อสู้ ยิ่งค่าพลังเวทสูงมากเท่าไหร่ก็สามารถร่ายเวทได้เป็นวงกว้างและทรงพลังขึ้น
ลูกแก้วห้าลูกถูกวางเรียงไว้ เราจึงเรียงแถวให้ตรงกันกับลูกแก้วและวางมือลงไป
ตามคำแนะนำของผู้คุมสอบ เมื่อใส่พลังเวทั้งหมดลงไปลูกแก้วก็เริ่มส่องแสง
ดูเหมือนลูกแก้วนี้จะเป็นอุปกรณ์เวทชนิดหนึ่ง
อุปกรณ์เวทประเภทเปล่งแสงเมื่อได้รับพลังเวทเข้าไปและใช้ในครัวเรือนทั่วไป แต่ดูเหมือนลูกแก้วนี้จะมีคุณสมบัติเปลี่ยงแปลงแสงสว่างตามพลังเวทที่ใส่เข้าไปอยู่ด้วย
ลูกแก้วที่ส่องแสงมากที่สุดคือของเอลิเซีย
รองลงมาคือกุเร็น ถัดจากนั้นคือผมและมิเซ่ที่เปล่งแสงเกือบจะเท่าๆ กัน
[ คุณเอลิเซียสุดยอดเลยค่ะ ]
[ ก็นะ เรื่องพลังเวทเพียวๆ นี่ฉันมั่นใจเลยล่ะ ]
เอลิเซียยืดอกภูมิใจ ขณะที่มิเซ่มองด้วยสายตานับถือ
[ ต่อไปคือความเร็วของพลังเวท ตรวจสอบสิ่งที่ปรากฏบนลูกแก้วกันด้วยนะ ]
ความเร็วของพลังเวท
ความเร็วในการใช้เวทมนตร์ กรณีนี้มักจะเน้นกับทหารที่ต่อสู้ในระยะประชิด กลับกันหากเป็นทหารที่สนับสนุนการยิงจากระยะไกลด้านหลังป้อมปราการอาจไม่จำเป็นต้องใส่ใจกับคุณสมบัตินี้เลยก็ได้ ซึ่งความสำคัญนั้นขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ที่ใช้
ตามคำแนะนำของผู้คุมสอบ เราเอาหน้าไปใกล้เพื่อตรวจสอบลูกแก้ว
ในลูกแก้วนั้น มีรูปทรงเรขาคณิตอยู่
[ เห็นวงกลมที่อยู่กลางกันใช่มั้ย? พวกเธอจะต้องส่งพลังเวทให้วงกลมแผ่ขยาย ให้ลูกแก้วส่องแสงให้ทั่วทั้งลูกให้ได้… แต่ว่ารูปแบบจะเปลี่ยนไปทุกสามสิบวินาที ดังนั้นใช้เวทมนตร์ให้ได้เร็วที่สุดล่ะ ]
หลังจากผู้คุมสอบอธิบายจบและเตรียมให้สัญญาณ
ผมใส่พลังเวทลงไปในลูกแก้วให้วงกลมตรงกลางสว่างขึ้น จากนั้นเมื่อใส่พลังเวทไปเรื่อยๆ แสงสว่างก็เริ่มกระจายไปจนเกือบจะถึงขอบของลูกแก้ว
แต่รูปแบบมันซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ บางครั้งรูปแบบก็เปลี่ยนไปก่อนที่แสงสว่างจะไปถึงขอบ สุดท้ายก็สำเร็จจนได้
[ …ฟู่ ]
การวัดความเร็วการใช้เวทมนตร์จบลง ผมก็คลายไหล่ที่ตึงอยู่ลง
ผมกับเอลิเซียอยู่ระดับเดียวกัน รองลงมาก็กุเร็น จากนั้นก็มิเซ่
[ ต่อไปจะความอึดของพลังเวท ช่วยใส่พลังเวทลงไปในลูกแก้วและให้มันส่องแสงให้นานที่สุดด้วยนะ ]
ความอึดของพลังเวท
ความคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องกับในสนามรบอย่างแท้จริง ทหารที่ต่อสู้ได้นานจะมีประโยชน์ในสนามรบ
วิธีการวัดนั้นเรียบง่าย
ให้ลูกแก้วเปล่งแสงเพียงเล็กน้อยแต่ทำให้นานที่สุด เคล็ดลับคือการปล่อยพลังเวทออกมาทีละน้อย
เพราะหากใช้พลังเวทในคราวเดียวก็จะรู้สึกเหนื่อยได้
ทุกคนเหงื่อออกและยังคงใช้พลังเวทใส่คริสตัลต่อไป
มิเซ่กับเอลิเซียที่หมดแรงไปก่อน ถัดจากนั้นลูกแก้วของผมก็แสงดับลง
ถัดจากนั้นของกุเร็น――
[ ย ยัง.. ได้อีกเหรอคุณน่ะ? ]
[ เอ๊ะ? ฉันยังไม่เหนื่อยเลยนะ ]
กุเร็นตอบคำถามของผู้คุมสอบ
หากมองดูดีๆ จะเห็นว่ากุเร็นยังไม่มีเหงื่อหรือท่าทางเหนื่อยเลยด้วยซ้ำ
[ …เข้าใจแล้ว พอได้แล้วล่ะ วัดเพียงแค่นี้ก็แล้วกัน ]
ตามคำพูดของผู้คุมสอบ กุเร็นก็ปล่อยมือออกจากลูกแก้ว
นี่มัน… น่าสนใจแฮะ
[ สุดท้ายเป็นการควบคุมพลังเวท ]
การควบคุมพลังเวท ความสามารถในการควบคุมเพื่อป้องกันไม่ให้เวทมนตร์ล้มเหลวและเกิดการระเบิด
――เพราะมีโอกาสใช้เวทมนตร์พลาดได้
การควบคุมเวทมนตร์อย่างหยาบๆ และใช้การได้ไม่ดี อาจทำให้วัตถุประสงค์ของเวทมนตร์แปรเปลี่ยนตามประสงค์เดิมของผู้ใช้ได้
ยกตัวอย่างเช่น เวทมนตร์ที่ผมชอบใช้อย่าง 《ฟิคเซชั่น》เวทมนตร์สร้างสิ่งของ ซึ่งจะไม่สามารถใช้ได้หากปราศจากความรู้และจินตนาการเรื่องรูปร่างและความหนาแน่นของรูปร่างของสิ่งที่จะสร้างออกมา หากใช้เวทมนตร์นี้โดยขาดความรู้เรื่องรูปร่าง สุดท้ายสิ่งที่สร้างออกมาก็จะสลายไปในที่สุด
การใช้เวทมนตร์ล้มเหลวทำให้ผู้ใช้สิ้นเปลืองพลังเวทและกรณีที่เลวร้ายที่สุดก็อาจทำให้ผู้ใช้ได้รับบาดเจ็บ
สิ่งแรกที่องค์กรให้เรียนรู้เป็นอับดับแรกก็คือการควบคุมเวทมนตร์นี่ล่ะ
[ ตรวจสอบดูที่ด้านในของลูกแก้ว ฉันคิดว่าน่าจะมีแผนภาพเหมือนเขาวงกตอยู่ เมื่อส่งพลังเวทเข้าไปแสงในลูกแก้วจะขยับ ขอให้ทุกคนควบคุมแสงนั้นให้มันเคลื่อนไปที่ยังตำแหน่งซ้ายล่าง แต่ถ้าแสงทรงกลมสัมผัสกำแพงเขาวงกตก็จะกลับไปเริ่มใหม่อีกครั้ง ]
แม้จะดูเหมือนเขาวงกต หากมองผ่านๆ ก็จะเห็นเป็นเพียงเส้นตรง แต่ถ้าสังเกตดีๆ จะรู้ว่ามันคดเคี้ยวและซับซ้อนน่าดู
เคลื่อนที่ลูกบอลแสงจากจุดเริ่มต้นไปยังจุดซ้ายล่าง
[ กึกกก อึกก.. อ๊ากก.. ]
กุเร็นที่อยู่ข้างๆ ทำเสียงหงุดหงิด
แสงทรงกลมชนผนังกำแพงและเขาได้กลับไปเริ่มใหม่อีกครั้งที่มุมขวาบน
กุเร็นดูเหมือนจะไม่เก่งเรื่องการควบคุมเวทมนตร์และพลาดหลายต่อหลายครั้ง
[ ――จบการสอบแต่เพียงเท่านี้! ]
ผู้คุมสอบบอกสิ้นสุดการสอบเมื่อกุเร็นทำได้สำเร็จ
[ ถ้างั้นทุกคนช่วยไปรอที่หน้าเคาน์เตอร์ทีนะ ไว้ฉันจะเรียกถ้ารู้ผลการสอบแล้ว ]
ตามคำแนะนำของผู้คุมสอบ จากนั้นเราจึงออกจากห้องสอบไป