ผู้กล้าเงาสุดแกร่ง อยากมีชีวิตอย่างคนธรรมดา - ตอนที่ 48
Ch.48 – การสอบการต่อสู้ขั้นพื้นฐาน
Translator : Reheikichi / Author
[ ต้องขอโทษด้วยนะ ]
กิลด์มาสเตอร์ขอโทษขณะที่พาพวกเราไปยังสถานที่สอบการต่อสู้ขั้นพื้นฐาน
[ เพราะเด็กคนนั้นเป็นคนของชนชั้นสูงสินะ? กิลด์เองก็ไม่ใช่องค์กรที่มีอิทธิพลมากมายพอจะเมินเฉยคำขอของชนชั้นสูงได้ หากขัดคำสั่งกิลด์ของที่อื่นก็อาจจะส่งผลถึงกิลด์ที่อื่นด้วยสินะ ]
ในฐานะกิลด์มาสเตอร์จึงต้องรับฟังและทำให้เรื่องเป็นง่ายที่สุด
[ ไม่เป็นไร ผมเองก็ใช่ว่ามาที่นี่เพื่อหาเรื่องกับชนชั้นสูงเหมือนกัน ]
[ ถ้าเจ้าพูดแบบนั้นก็ช่วยได้มากเลยล่ะ ]
กิลด์มาสเตอร์หัวเราะ
บรรยากาศก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เรื่องก็ดูเหมือนจะจบลงด้วยดี
[ ก็นั่นละน้า… นายเองก็มีส่วนต้องรับผิดชอบนะทรูเอท ]
เอลิเซียพูด
[ คงไม่มีการเข้าใจผิดแบบนี้หรอก ถ้านายไม่ปกปิดฝีมือที่แท้จริงไว้ แสดงฝีมือที่แท้จริงให้เห็นเลยซะก็คงสิ้นเรื่องไปแล้ว ]
[ แต่มันก็เป็นเรื่องจริงที่ผมใช้เวทมนตร์ระดับ D ไม่ได้ จะทะเลาะไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอก ]
[ …อืม มันก็จริงหรอก ]
เอลิเซียทำสีหน้ายุ่งยาก อย่าขอโทษเลย ไม่ใช่ความผิดเธอหรอก
[ ที่นี่คือสนามสอบ ]
เมื่อได้ยิน พวกเราก็ต่างหยุดเดิน
จากนั้นก็เอียงหัวไปยังจุดที่อยู่ตรงหน้า
เพราะมันมีห้องเรียงรายอยู่มากมาย
[ …เป็นห้องแบบส่วนตัว? ]
เมื่อมิเซ่ถาม กิลด์มาสเตอร์ก็พยักหน้า
[ การต่อสู้ขั้นพื้นฐานจะทำการสอบอย่างเป็นความลับ อย่างที่เห็นนั้นล่ะ มันเป็นห้องส่วนตัวและด้านนอกจะมองไม่เห็น …นอกเหนือจากพลังเวทแล้ว มีบางคนที่ไม่อยากเปิดเผยเทคนิคการต่อสู้ของตัวเองที่เป็นไพ่ตายเช่นกัน นี่จึงถือเป็นการสอบที่สมเหตุสมผลแล้ว จากซ้ายไปขวาจะกำหนดให้ตามลำดับ เอลิเซีย กุเร็น ทรูเอท และมิเซ่ ]
เมื่อพูดเช่นนั้นแล้ว กิลด์มาสเตอร์ก็เปิดประตูห้องตรงหน้า
[ มองเข้าไปข้างในสิ ]
หลังจากกิลด์มาสเตอร์เข้าไปแล้ว เราก็ก้าวเข้าไปด้วย
มันเป็นห่องสีขาวที่ทั้งพื้นและผนังเป็นสีขาว แต่ไม่ได้กว้างพอจะชมอะไรได้
ตรงจุดกลางห้องมีตุ๊กตาลึกลับอยู่
รูปร่างเหมือนมนุษย์และมีสัญลักษณ์น่าขนลุกสลักอยู่
[ มันคือตุ๊กตาเทียมที่เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระและเรียกว่าโกเลม ตามบันทึกบอกว่ามันถูกสร้างขึ้นในช่วงสงครามครั้งที่สอง …แต่ความเป็นจริงยังไม่แน่ชัด พูดสั้นๆ มันคือตุ๊กตาลึกลับโบราณที่ใช้เทคนิคการสร้างที่ข้าเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน การทดสอบการต่อสู้พื้นฐานจะผ่านได้ ต้องเอาชนะโกเลม โดยเฉพาะหากล้มมันลงได้แปลว่าผ่านแน่นอน ]
แค่เอาชนะมันให้ได้เหรอ
เอลิเซียครุ่นคิดกับคำอธิบายของกิลด์มาสเตอร์อย่างสงสัย
[ …ให้สอบแบบนี้จะเหรอ? ]
[ ข้าเองก็ใช้เจ้านี้มาหลายสิบปีแล้ว จนถึงตอนนี้ก็ไม่มีอุบัติเหตุหรืออะไรที่น่ากังวลและโกเลมยังมีฟังก์ชั่นที่จะปรับความแข็งแกร่งจะผกผันตามพลังเวทของผู้ต่อสู้ด้วย ดังนั้นนี่จึงถือเป็นการสอบที่ยุติธรรม อีกอย่างโกเลมจะเริ่มเคลื่อนไหวหลังจากปิดประตูไปแล้ว 10 วินาที ]
ถึงจะครั้งแรกแต่เอลิเซียก็มีสีหน้ามั่นใจ แม้จะมีความสงสัยอยู่ครึ่งนึง
ความแข็งแกร่งจะผกผันเท่ากับพลังเวท หากผลการสอบเมื่อครู่ได้ผลออกมาสูงโกเลมก็จะมีพลังเท่ากับเรา กลับกันถึงแม้จะทดสอบผลของพลังเวทได้ต่ำแต่ก็สามารถผ่านการสอบได้เพราะความแข็งแกร่งของโกเลมผกผันนั้นเอง
นี่เป็นเหมือนการช่วยเหลือ อย่างค่าอย่างใดอย่างหนึ่งเกินมาตรฐานก็ไม่มีปัญหาในการสอบ
จากนั้นมิเซ่ก็ถามออกมาด้วยท่าทีกังวล
[ อ เอ่อ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าชนะไม่ได้เหรอคะ? ถ้าชนะไม่ได้ จะขอยอมแพ้ได้ไหมคะ… ? ]
[ อา ในกรณีที่บอกให้หยุดโกเลมจะอยู่ในสถานะ [หยุด ] เอง แต่การทำให้โกเลมหยุดและต่อสู้จะถือว่าเป็นการโกงเข้าใจนะ ]
[ ค ค่ะ… ]
มิเซ่ก็คงไม่คิดจะโกงอยู่แล้วล่ะ แต่ที่ท่าทีของเธอมืดมนแบบนั้นก็เพราะผลการสอบพลังเวทออกมาไม่ดี
[ การอธิบายจบแล้ว แต่ละคนสามารถไปสอบตอนไหนก็ตามใจชอบเลย ]
จากนั้นเราก็เข้าไปในห้องตามที่กิลด์มาสเตอร์แนะนำ
ผมเดินเข้าไปในห้อง… แน่นนอนว่ากิลด์มาสเตอร์ตามมาด้วย
[ ถึงจะเป็นมาตราการป้องกันการโกง แต่ผมเองก็ปกปิดความลับไม่ได้สินะ ]
[ โชคไม่ดีทั้งคู่ล่ะ …แถมเด็กพวกนั้นเองก็จับตาดูอยู่หลายคนด้วยสิ ]
กิลด์มาสเตอร์มองไปที่สุดทางเดิน
นักเรียนแผนกผู้กล้ากำลังสังเกตการณ์พวกเราอยู่ห่างๆ คงจะมายืนยันว่ากิลด์มาสเตอร์ได้มาคุมสอบผมจริงๆ
ในโรงเรียนเราอาจจะลืมเรื่องเป็นสามัญชนหรือชนชั้นสูงไป แต่โดยธรรมชาติแล้วชนชั้นสูงจะไม่ยอมให้สามัญชนมาดูถูกเด็ดขาด
เนื่องจากเป็นนักเรียนของโรงเรียนเดียวกันจึงมีสิทธิ์ในการติเตียนการกระทำ แต่คนนอกไม่มีสิทธิ์เช่นนั้น เดือนที่แล้วซิคเองก็ท่าทีแบบนั้นเหมือนกัน นอกจากนี้บางทีนักเรียนแผนกผู้กล้ายังชอบใช้พลังโดยไร้เหตุผลอยู่เสมอ
ผมเข้าไปในห้องสอบกับกิลด์มาสเตอร์
เมื่อเข้าไปในห้องแล้ว ผนังภายนอกก็ถูกปิดจนคนภายนอกมองไม่เห็น
[ …ถ้าขอสัมผัสตัวโกเลมก่อนการสอบสักนิดหน่อยจะได้ไหม? ]
[ อา ]
เมื่อได้รับอนุญาต ผมจึงตรวจสอบดู
โกเลมที่ดูสกปรกแต่แข็งมาก
ความแข็งระดับนี้อาจจะใช้ 《กระสุนเวท》ยิงทะลุไม่ได้
――ลำบากกว่าที่คาดไว้แล้วสิ
ผมได้รู้สิ่งหนึ่งหลังจากออกจากองค์กรและมาที่โรงเรียน
เวทมนตร์ของผม จะรุนแรงก็รุนแรงเกินไป จะเบาก็เบาเกินไป
พอมาคิดดูดีๆ มันก็แน่อยู่แล้ว
แต่เดิมผมถูกได้รับการสั่งสอนมาเพื่อเป็นนักลอบสังหาร ที่ต้องจู่โจมศัตรูแบบทีเผลอจากองค์กร ทั้งการลอบสังหารและโจมตีทีเผลอจึงเป็นพื้นฐาน เหมาะกับการจัดการศัตรูในทีเดียว
พูดอีกนัยหนึ่ง สิ่งที่ผมใช้ทั้งหมดนั้นล้วนเป็นไพ่ตาย
มันมีหลากหลายก็จริง แต่ส่วนใหญ่ผมจะพิจารณาการใช้เวทเป็นกรณีไป
เรียกได้ว่านี่เป็นจุดอ่อนก็ว่าได้
――มีวิธีเลี่ยงการเผยไพ่ตายมั้ยนะ?
แม้แต่ตอนนี้ผมก็ต้องถูกพวกโจรจับตามองในฐานะเพื่อนของมิเซ่อยู่แน่
ถ้ากิลด์มาสเตอร์เป็นคนปากหนักก็คงไร้ปัญหา แต่ถ้าเกิดข้อมูลที่นี่ถูกเปิดเผย ไพ่ตายของผมก็จะถูกพวกมันรู้ด้วย
[ …กิลด์มาสเตอร์ ขอถามกฏเรื่องการเฝ้าตรวจสอบการโกงได้ไหม? ]
[ กฏการเฝ้า? ]
กิลด์มาสเตอร์เอียงหัว
[ พูดสั้นๆ ผมก็แค่ต้องเอาชนะโกเลม ในขณะที่กิลด์มาสเตอร์อยู่ใกล้ๆ ก็พอสินะ? ]
[ อา ]
[ ไม่มีกฏอย่างอื่นนอกจากนี้ใช่มั้ย? ]
กิลด์มาสเตอร์เอียงหัวอย่างมึนงง แต่ก็ตอบกลับมา
[ ใช่ ]
ขณะเดียวกันกับที่กิลด์มาสเตอร์ยืนยันคำตอบ ผมก็ตัดสินใจได้
จากนั้นเขาก็ปิดประตูห้อง อีกสิบวินาทีต่อจากนี้โกเลมจะเคลื่อนไหว
ผมเริ่มนับถอยหลังในหัว ――จากนั้นก็เรียกเขาจากมุมหนึ่งของห้อง
[ กิลด์มาสเตอร์ ]
[ หืม? ]
ผมยังคงนับถอยหลังในใจต่อไป
เหลืออีก 9 วินาที 8 7 6――
[ เหมือนผมจะได้ยินเสียงคนเรียกคุณจากอีกฝั่งของประตูแน๊ะ ]
[ เห๊ จริงเหรอ? ]
กิลด์มาสเตอร์หันหน้าไปทางประตู
จังหวะนั้นเอง ที่การนับถอยหลังเป็นศูนย์พอดี――――
――《ใบมีด》
ผมให้นิ้วชี้และนิ้วกลางขยายออก จากนั้นก็ยิงใบมีดบางๆ ที่สร้างด้วยพลังเวท
ไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวร่างกายทั้งร่าง แค่เคลื่อนไหวที่จำเป็น―― สำหรับใบมีดแค่ข้อมือก็พอ
ใบมีดที่มีความคมถึงขีดสุดและโปร่งใสพุ่งเข้าใส่คอของโกเลมที่กำลังจะขยับ
เมื่อถอนหายใจเล็กน้อย คอของโกเลมก็ร่วงลงมา
หลังจากคลายสมาธิออกและนำสติที่จมดิ่งไปกลับคืนมา
[ เรียบร้อยแล้ว ]
[ เฮ้ ไม่เห็นมีใครเรียกเลย―――― อะไรนะ? เมื่อกี้เจ้าว่าไงนะ? ]
ในขณะเดียวกันกับที่กิลด์มาสเตอร์หันกลับมา
คอของโกเลมก็กลิ้งไปมาบนพื้นแล้ว
[ นี่มันเรื่องอะไรกัน…? ]
กิลด์มาสเตอร์เบิกตากว้างตกใจ