ผู้กล้าเงาสุดแกร่ง อยากมีชีวิตอย่างคนธรรมดา - ตอนที่ 49
Ch.49 – ผ่าน / ไม่ผ่าน
Translator : Reheikichi / Author
เวทมนตร์ที่ผมใช้ตัดคอของโกเลมคือ――《ใบมีด》โดยใช้การบีดอัดกับ《ใบมีด》
หนึ่งในเทคนิคในการร่ายเวทก็คือการบีบอัด เป็นเทคนิคที่ช่วยเพิ่มพลังและความเร็วของเวทมนตร์เมื่อใช้งานเวทออกไป
การใช้เทคนิคบีดอัดจะทำให้ความคมของใบมีดที่สร้างจาก《ฟิคเซชั่น》คมจนถึงขีดสุดและใช้《ใบมีด》ความหนาของใบมีดจะถูกรีดออกจนถึงขีดสุด ต้องใช้เวลาในการรวมพลังถึง 1 วินาที จึงต้องนับถอยหลังเวลาให้ดี
จากนั้นก็ใช้ใบมีดที่คมอย่างน่ากลัวนั้นซะ
แต่ว่าเวทมนตร์นี้มีจุดอ่อนอยู่
การสร้าง 《ใบมีด》ด้วยเทคนิคนี้ มีดจะไม่มีความทนทาน เพื่อเน้นด้านความเร็วและความคม
และหากมุมหรือระยะในการตัดไม่ตรงแนว ใบมีดก็จะหักอย่างง่ายดาย
ดังนั้นจึงไม่ได้พูดเกินจริงเลยว่าเวทมนตร์นี้ใช้ได้เฉพาะการโจมตีทีเผลอหรือลอบสังหารเท่านั้น
ถ้าจะได้ผลดีเยี่ยมถ้าใช้กับศัตรูที่อยู่กับที่
หากเป็นผู้ได้เริ่มโจมตีก่อน ผมก็เลือกที่จะใช้เวทนี้ล่ะ
[ ทรูเอท สอบเสร็จแล้วเหรอ? ]
หลังจากการสอบเสร็จ ผมก็รออยู่ใกล้ๆ เคาน์เตอร์ จนเอลิเซียเดินมาถึง
[ อา …ทางนั้นล่ะเป็นไงบ้าง? ]
[ ก็พอถูไถนะ ประหลาดใจนิดหน่อยที่มันเคลื่อนไหวได้ถึงขนาดนั้นนะ ]
หืม แปลว่ามันเก่งเอาเรื่องเหรอ
ผมไม่รู้เรื่องเพราะจัดการมันก่อนจะเคลื่อนไหว
จากนั้นกุเร็นและมิเซ่ก็ออกมา
ทั้งสองคนมีสีหน้าสดใส
[ ฉันผ่านล่ะ ]
[ เอ่อ ฉัน… ฉันก็ผ่านแล้วค่ะ ]
ผมคาดไว้แล้วว่ากุเร็นต้องผ่าน แต่ประหลาดใจนิดหน่อยกับทางฝั่งมิเซ่
พลังเวทของมิเซ่เป็นค่าเฉลี่ยของนักเรียนปีหนึ่งทั่วไป อย่างไรก็ตามจากที่ดูในการฝึกซ้อมของเธอ ผมประเมินว่าเธอยังมีประสบการณ์ต่อสู้น้อยอยู่
การต่อสู้กับโกเลมน่าจะจริงจังน่าดู
สำหรับผมกับกุเร็นที่มีประสบการณ์ต่อสู้จริง แม้จะผลสอบเรื่องเวทมนตร์ไม่เอาไหนก็ผ่านได้อยู่แล้ว แต่ผมก็ยังคิดว่ามันยากสำหรับมิเซ่ ในใจคิดว่าเธออาจจะสอบตกและเศร้าใจซะอีก
[ ไม่ได้อยากพูดแบบนี้หรอกนะ… แต่ดีแล้วล่ะที่ผ่านมาได้มิเซ่ ]
เช่นเดียวกับผม เอลิเซียเองก็คงเป็นห่วงเช่นกัน
ผมไม่รู้ว่ามันยากแค่ไหนเพราะไม่ได้สู้กับโกเลมตรงๆ ด้วยสิ บางทีโกเลมอาจจะเก่งกว่าที่ผมคิดไว้มากก็ได้
[ เอ่อ รู้สึกเหมือนฉันมองเห็นการเคลื่อนไหวของโกเลมนะคะ… ]
[ การเคลื่อนไหว? ]
[ แปลกมากเลยค่ะ เหมือนกับโกเลมตัวนั้น… ฉันรู้สึกคุ้นเคยแปลกๆ นะคะ … ]
พวกเราที่ไม่เข้าใจคำอธิบายของมิเซ่ต่างเอียงหัว
ตอนนั้นเอง นักเรียนของแผนกผู้กล้าก็เดินมาหาพวกเรา
[ เฮ้ แกน่ะ! คงไม่ใช่ว่าสอบผ่านหรอกนะ!? ]
เด็กหนุ่มของแผนกผู้กล้าจับไหล่ของผมและบังคับให้หันหน้าไปหาเขา
ผมพยักหน้า แขนที่อยู่บนไหล่นี่มันน่ารำคาญจัง
[ อา ]
[ อะไรนะ!? ม หมายความว่าไงกัน! แล้วการคุมสอบล่ะ?! ไม่ใช่ว่ามีกิลด์มาสเตอร์ไปด้วยเลยโกงไม่ได้แล้วไม่ใช่เรอะ!? ]
เด็กหนุ่มคนนั้นกรีดร้องโดยที่หน้าผากขมวดคิ้วสีน้ำเงิน
เพื่อได้ยินเสียงเอะอะ กิลด์มาสเตอร์ก็เดินออกมาจากด้านหลังของเคาน์เตอร์
[ ข้าไปดูมาแล้ว เรื่องความสามารถเขาผ่านแบบไม่ต้องสงสัย ]
[ ไร้สาระชัดๆ คนอย่างหมอนี่เนี่ยนะจะได้ใบอนุญาตประเภทที่สอง―― ]
[ ข้าขอรับประกันเรื่องฝีมือของทรูเอทและข้าไม่อยากพูดมากกว่านั้น อย่ามาพาลเพราะเจ้าสอบตกสิ ]
ด้วยคำพูดเดียวของกิลด์มาสเตอร์ หน้าของชายคนนั้นก็ถูกย้อมด้วยสีแดง
เรื่องผลการสอบของเขา เราก็ไม่รู้หรอกนะ แต่แบบนี้ดูเหมือนว่าเขาจะสอบไม่ผ่าน
[ …สักวันฉันจะแฉลูกไม้ของแกให้ได้ ]
นักเรียนชายคนนั้นพูดออกมาและเดินออกจากกิลด์ไป
ในเวลาเดียวกัน ซิคที่มาด้วยกันกับชายคนนั้นก็เดินมาหาผม
[ ขอโทษด้วยนะ ]
ซิคขอโทษสั้นๆ จากนั้นก็เดินไปยังทางออกของกิลด์
ผมมองดูด้านหลังของซิคอย่างเงียบๆ
[ เอาล่ะ ในเมื่อสี่คนนั้นก็ไปแล้ว รับไปสิ ]
กิลด์มาสเตอร์กวักมือเรียกเราที่หน้าเคาน์เตอร์และยื่นการ์ดบางอย่างให้
มันคือใบอนุญาตประเภทที่สองสำหรับนักผจญภัย การ์ดที่ได้มันวาวอย่างลึกลับ พวกเราจึงรับและถือมาดูอย่างดี
[ อา… บัตรนักผจญภัยที่ใฝ่ฝันมานาน… ]
มิเซ่สีหน้าประทับใจและดวงตาเปล่งประกาย
ปฏิริยาของเธอไม่ธรรมดา จนกิลด์มาสเตอร์ได้แต่ทำหน้าเจื้อนๆ
[ หากแสดงใบอนุญาตนี้ที่หน้าเคาน์เตอร์ก็จะสามารถรับคำขอต่างๆ ได้ เรื่องประเภทของคำขอให้พวกเจ้าไปตรวจสอบที่กระดานข่าวหน้าเคาน์เตอร์แล้วกัน เพราะเป็นใบอนุญาตประเภทที่สองจึงสามารถรับคำขอปราบมรดกของจอมมารได้… แต่ยังไงก็ตาม นักผจญภัยก็ยังมีระดับอยู่ด้วย ]
กิลด์มาสเตอร์พูดขณะที่ชี้ไปยังด้านบนซ้ายของบัตร
ที่ตรงนั้นมีอักษร [ F ] เขียนเอาไว้
[ สิ่งที่เขียนไว้คือระดับที่จะแตกต่างกันไปตามจำนวนการรับคำขอและอัตราความสำเร็จ บางคำขอบนกระดานก็มีระดับต่ำสุดเขียนไว้ด้วย ดังนั้นหากอยากรับคำขอที่ยากขึ้นก็ต้องเพิ่มระดับ ]
พูดสั้นๆ ระดับสามารถเปลี่ยนได้ตามผลงานที่ทำได้ในกิลด์
โดยเกณฑ์การเพิ่มลำดับเอาไว้ค่อยถามข้อมูลทีหลัง
หลังจากฟังคำอธิบาย เราสี่คนก็ปรึกษากัน
[ ท ท ทำไงดีคะ? จะรับคำขอเลยไหมคะ? ]
[ ใจเย็น… ไม่ต้องรีบร้อนหรอก วันนี้เองก็เริ่มมืดแล้ว ไว้มารับคำขอใหม่พรุ่งนี้เถอะ ]
ผมและกุเร็นเห็นด้วยกับความเห็นของอลิเซีย
อีกไม่นานก็มืดแล้ว มันไม่ดีนักหรอกที่รับคำขอแรกในตอนกลางคืน
[ ก็นะ ข้าเองก็ไม่แนะนำให้รับคำขอวันเดียวกันกับที่ขอใบอนุญาตเหมือนกัน เอาไว้สงบใจได้หรือพร้อมค่อยมาแล้วกัน… กลับบ้านระวังตัวด้วยล่ะ ]
จากนั้นพวกผมก็ขอบคุณกิลด์มาสเตอร์และออกจากกิลด์
◆
หลังจากทั้งสี่คนออกจากกิลด์ไปรีอัส เบอเรนก็ทำสีหน้ายุ่งยาก
ข้านึกถึงคำพูดของนักเรียนแผนกผู้กล้าที่กลับไปก่อนพวกเขาขึ้นมา
[ อะไรนะ!? ม หมายความว่าไงกัน! แล้วการคุมสอบล่ะ?! ไม่ใช่ว่ามีกิลด์มาสเตอร์ไปด้วยเลยโกงไม่ได้แล้วไม่ใช่เรอะ!? ]
ในตอนนั้นจะบอกว่าข้า [ คุมการสอบ ] ก็ไม่เชิงซะทีเดียว
[ …ที่จริง ข้าไม่อยากไปคุมการสอบเขาอีกเลย ]
[ หมายความว่ายังไงเหรอคะกิลด์มาสเตอร์? ]
พนักงานต้อนรับเอียงหัวเพราะได้ยินเสียงบ่นของกิลด์มาสเตอร์
รีอัสชะงักไปครู่หนึ่ง เพราะกำลังเลือกคำพูดที่จะตอบ
[ พริบตาเดียว… ในจังหวะที่ข้าละสายตา คอของโกเลมก็ถูกตัดจนขาดไปแล้ว ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาโกงรึไม่ …แม้ว่ามันจะดูเหมือนการโกหก แต่ถ้าเขาหลอกตาข้าและตัดคอโกเลมได้ในพริบตา นั่นก็ถือเป็นฝีมืออย่างหนึ่ง ]
ในฐานะกิลด์มาสเตอร์ของกิลดิ์นักผจญภัย สำหรับหน้าใหม่ที่รีอัสยอมรับแล้ว บางครั้งเขาจะให้คำแนะนำให้กับหน้าใหม่เพื่อให้เก่งขึ้นและใช้ความพยายามไต่เต้า แม้กระทั่งการเป็นที่ปรึกษาของหน้าใหม่ที่พรสวรรค์ยังไม่ตื่นขึ้นมา
แต่ข้ากลับไม่เข้าใจถึงฝีมือที่แท้จริงของเด็กหนุ่มที่ชื่อทรูเอทเลย
[ …ช่างเป็นหน้าใหม่ที่น่ากลัวจริงๆ ]
ถ้ามีฝีมือก็ไม่มีปัญหา นั่นคือกฏของกิลด์
อย่างไรก็ตาม ข้าก็ยังคิดอยู่ดี ว่าจะยอมรับคนประหลาดแบบนั้นได้จริงหรือ?
ควรจะยินดีหรือจะระมัดระวังตัว
รีอัสรู้สึกลำบากใจจากนั้นจึงกลับไปที่เคาน์เตอร์