ผู้กล้าเงาสุดแกร่ง อยากมีชีวิตอย่างคนธรรมดา - ตอนที่ 64
Ch.64 – สอบปากคำ
Translator : Reheikichi / Author
[ ขอบคุณสำหรับความพยายามของทุกคนวันนี้นะคะ ]
มิเซ่โค้งคำนับด้วยเสียงสดใส
หลังการสำรวจเขาวงกต เราสามารถกลับไปยังกิลด์ได้อย่างปลอดภัย
การซ่อนศพพวกโจรไม่ให้พวกมิเซ่มันยุ่งยากพอดู แต่ดูเหมือนพวกเขาจะไม่รู้กันนะ
[ ไปหาอะไรกินกันสักหน่อยหลังทำคำขอสำเร็จดีกว่า… แต่พรุ่งนี้ก็ต้องไปเรียนแล้วสิ ]
กุเร็นพึมพำ
ตอนที่จัดการกระต่ายแหลมคมเราฉลองกันง่ายๆ ที่บาร์ในกิลด์ แต่เพราะพรุ่งนี้ต้องไปเรียนแล้วจึงต้องห้ามตัวเองไว้บ้าง
[ มิเซ่ สนุกมั้ย? ]
[ ค่ะ สนุกมากเลย! ]
เมื่อถาม มิเซ่ที่อยู่ข้างๆ ก็ตอบด้วยเสียงสดใส
[ ยังสงสัยอยู่เลยตอนที่โดนคั่นกลางระว่างคิเมร่ากับฮ็อบก็อบลินนะ แต่การสำรวจก็ไม่เลวเหมือนกัน ไว้คราวหน้าเราไปกันอีกก็ดีนะ ]
เอลิเซียพลางนึกถึงตารางงานต่อไปซึ่งมิเซ่ตอบตกลงทันที
หลังจากนั้นเราก็กลับบ้านกัน
ออสพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองหลวงจึงลากันทันทีหลังจากแยกกันที่กิลด์ ที่จริงก็ไม่ได้กลับหรอก แต่ยังตามมิเซ่อยู่
หลังจากส่งพวกผู้หญิงเสร็จแล้ว
ผมก็กลับไปที่หอพักชายและผมกับกุเร็นก็แยกกันไปห้องของตัวเอง
หลังจากพักได้ไม่นาน ผมก็ออกมาทันที
ขณะที่สวมผ้าคลุมสีดำในตรอกซอยด้านหลังและถ่ายพลังเวทไปยัง ‘กระดาษสื่อสาร’
[ ออส ]
[ อือ เรารู้แล้ว… ]
เพราะเป็นทหารที่เคยต่อสู้จริงมาแล้ว เราจึงสามารถรับรู้ถึงศัตรูได้
แม้ว่าเมืองหลวงจะมีผู้คนพลุกพล่าน แต่หากปล่อยจิตสังหารออกมาก็ย่อมผิดสังเกต การเคลื่อนไหวของร่างกายและการเคลื่อนไหวของดวงตาแตกต่างจากคนทั่วไปอย่างสิ้นเชิง
[ ตำแหน่ง ]
[ อืม ที่ถนนหลักหน้าหอพักหญิงสินะ―― ]
เมื่อได้ยินตำแหน่งของศัตรูจากออส ผมก็รีบไปจัดการทันที
การโจมตีของออสมันเด่นเกินไป ดังนั้นโดยปกติในเมืองผมจะเป็นผู้รับผิดชอบ โดยให้ออสเป็นทางเลือกสุดท้าย
กลั้นลมหายใจและเข้าไปใกล้ศัตรู รัดคอศัตรูจนสลบ
ศัตรูล้มลงโดยไร้ทางขัดขืน
[ สมแล้วล่ะ ถ้าเป็นการต่อสู้ในเมืองไม่มีใครสู้ 28 ได้เลยน้า ]
[ มันยุ่งยากไม่ใช่เพราะเรื่องสถานที่หรอก กรณีของออสเพราะต่อสู้โดยไม่ให้ใครรู้ตัวเข้ามันยากมากกว่า ]
ขณะที่รับคำชมของออสครึ่งนึง ผมก็ระวังรอบข้างไปด้วย
[ ศัตรูมีคนเดียว? ]
ก่อนหน้านี้อย่างน้อยต้องมีสองคนแอบซุ่มในเมือง
ปัญหาเรื่องจังหวะ? แต่ก็เอาเถอะ ผมก็สะดวกดีด้วย แต่กลับรู้สึกไม่สบายใจเลยแฮะ
[ นี่ๆ ตอนนี้ 28 จัดการพวกมันไปทั้งหมดกี่คนแล้วเหรอ? ]
[ ถ้าลองนับดูก็น่าจะประมาณ 30 คนได้ ]
[ แบบนั้นกลุ่มโจรไม่ล้มกันไปหมดแล้วเหรอ? ]
ไม่อาจปฏิเสธหรือยืนยันได้ แต่ก็อยากให้เป็นอย่างว่าเหมือนกัน
จากข้อมูลของคริสที่ว่าพวกนี้คือโจรที่ต้องการผลประโยชน์ ข้อมูลส่วนนี้มันน่าสงสัย เพราะถ้าภารกิจการลักพาตัวถูกแจกจ่ายให้คนทั้งองค์กรจริง ยิ่งมีสมาชิกมากเท่าไหร่ส่วนแบ่งก็ได้น้อยลงเท่านั้นและยังมีความเสี่ยงที่จะไม่ได้กำไรอีก ประมาณ 30 คนก็น่าจะแบ่งบันผลประโยชน์กันได้เหมาะสม
[ ทำไมถึงไม่ฆ่าคนๆ นั้นล่ะ? ]
ออสชี้ไปยังศัตรูที่ล้มลงอยู่แทบเท้า
[ …มีเรื่องต้องให้คิดนะ ]
คนที่ผมรัดคอเมื่อครู่ยังไม่ตาย
ออสจึงถามด้วยความสงสัย
[ ออส เธอได้ข้อมูลเกี่ยวกับภารกิจนี้มามากแค่ไหน? ]
[ ก็ได้มาประมาณว่ามิเซ่เป็นเป้าหมายคุ้มกัน ส่วนศัตรูได้ยินว่าเป็นอาชญากรที่เป็นพวกหิวเงิน ]
――ที่เหลือล่ะ
ลางสังหรณ์บอกผมว่าไม่ควรคาดคั้นคำตอบจากเธอมากเกินไป
[ เปิดปากชายคนนั้นที ]
ออสทำตามคำสั่งอย่างเชื่อฟังขณะที่เอียงหัว
ขณะที่ชายคนนั้นนอนหงาย ผมก็ใช้นิ้วแหวกช่องปากของชายคนนั้น
ซึ่งเห็นถุงเล็กๆ ซ่อนอยู่ที่ฟันด้านหลังของชายคนนั้น
[ นี่มัน… ยาพิษสำหรับฆ่าตัวตาย? เพื่อไม่ให้สอบปากคำได้? …อืม แบบนี้คงยากที่จะถามรายละเอียดจากเขาได้ ]
[ อือ ที่เขามีสิ่งนี้เตรียมไว้ก็เพราะป้องกันไม่อยากให้พูดอะไรพล่อยๆ ]
ผมรู้มานานแล้วว่าพวกโจรเตรียมยาพิษสำหรับฆ่าตัวตายไว้ที่ฟันด้านหลัง
แต่มีเหตุผลที่จนถึงตอนนี้ไม่กล้าพูดถึง
[ ต้องขอบคุณออสที่มาได้จังหวะนี้พอดีล่ะนะ ผมถึงมีแผนการให้เลือกมากขึ้น ]
[ …จะทำอะไรเหรอ? ]
เมื่อออสถามมา ผมจึงตอบไปตรงๆ
[ สอบปากคำ ]