ผู้กล้าเงาสุดแกร่ง อยากมีชีวิตอย่างคนธรรมดา - ตอนที่ 74
Ch.74 – อำลา
Translator : Reheikichi / Author
เป็นเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงหลังจากคริสจากไป
เมื่อเริ่มชินกับความเจ็บปวดสาหัสจากพิษ ผมก็ค่อยๆ เดินกลับไปที่หอพักชาย
[ ไม่ต้องกลับหอพัก พักที่โรงแรมซะ ]
ชายที่คอยเฝ้าระวังผมพูดออกมา
อาจเพราะที่โรงแรมสามารถเฝ้าระวังได้ง่ายกว่า แม้ใจจริงผมจะไม่อยากทำตามแต่ก็ต้องเชื่อฟัง
[ …ข้าจะจ่ายที่พักให้เอง ]
แม้จะไม่ชอบใจแต่ผมไม่มีเงินติดตัว
ชายคนนั้นไร้ปฏิกิริยา ดูท่าทางคงมีแต่ต้องยอมรับสินะ
เมื่อมาถึงโรงแรม คนเฝ้าระวังก็ได้เช่าห้องพักสองห้อง ดูเหมือนพวกเขาจะผลัดกันเฝ้าดูผม คนหนึ่งอยู่ห้องเดียวกันกับผม อีกคนพักอยู่ที่อีกห้อง
[ มาเฝ้าระวังคนกำลังจะตายแบบนี้มันมีความหมายด้วยเหรอ? ]
[ …เรื่องนั้นข้าไม่ใช่ผู้ตัดสินใจ ]
เมื่อมองดูเขาช่างเหมือนสุนัขรับใช้ที่ซื่อสัตย์ขององค์กร
และสะเทือนใจที่เมื่อก่อนผมเองก็เป็นแบบนี้
หลังจากเข้าไปในห้องที่มอบหมายให้ ชายอีกคนก็เข้าไปในอีกห้อง
ขณะที่ผมกำลังจะถอดเสื้อผ้าออก คนเฝ้าระวังก็พูดขึ้นมา
[ อย่าทำอะไรน่าสงสัย ]
[ ก็แค่จะอาบน้ำ ร่างกายมันร้อนไปหมดแล้ว ]
[ ….เปิดประตูไว้ ]
[ ห้ามแอบดูล่ะ ]
ชายคนนั้นเดาะลิ้นออกมา
ผมวางเสื้อผ้าที่ถอดไว้บนเตียงจากนั้นจึงไปเดินไปที่ห้องน้ำ
ขณะที่กำลังอาบน้ำก็ลองคุยกับชายที่เฝ้าระวังอยูข้างประตู
[ องค์กรกำลังจะทำอะไร ]
[ …ไม่เกี่ยวกับเจ้า ]
[ ก็แค่ชวนคุยนิดหน่อยเอง… ดูจากร่างกายแล้ว นายคงเป็นประเภทต่อสู้ระยะใกล้สินะ? ]
[ ถ้าใช่แล้วจะทำไม ]
ชายคนนั้นตอบขณะที่มีท่าทางสงสัย
หลังจากร่างกายเริ่มเย็นลงแล้ว ผมก็หยุดฟักบัว
[ เฮ้ เอาเสื้อผ้าบนเตียงมาให้ที ]
ผมได้ยินเสียงชายคนนั้นเดาะลิ้นอีกครั้ง
จากนั้นเขาก็หยิบเสื้อผ้าและเดินเข้ามาในห้องน้ำ
ช่วงเวลาที่ผมเห็นตัวเขาครึ่งหนึ่งเข้าประตูมา―――― ก็รีบพุ่งเข้าไปหาชายคนนั้น
[ ก แก―― ]
ชายคนนั้นเตรียมพร้อมที่จะสู้กลับ แต่ในมือกลับถือเสื้อผ้าของผมอยู่
ชายคนนั้นพยายามถอยหนีเพราะรู้ว่ามือถูกขัดไว้ แต่ช้าไปหน่อย
[ อั๊กก!? ]
ผมตบหลังมือเข้าที่ใบหน้า
และหัวของชายคนนั้นก็พุ่งไปชนเข้ากับกำแพง
[ ผู้ใช้การต่อสู้ระยะใกล้ไม่ควรถืออะไรตอนอยู่ต่อหน้าศัตรู ]
ชายคนนั้นล้มลงขณะที่หลังไปกระแทกกับกำแพง
ในเวลาเดียวกัน ประตูห้องก็เปิดออกและชายอีกคนก็เข้ามา
[ เกิดอะไรขึ้น มีอะไร!? ]
ชายคนนั้นเข้ามาในห้องแบบตื่นตระหนก
ขณะที่เหยียดแขนออก ผมก็ใช้《ฟิคเซชั่น》ทำให้มีใบมีดยื่นออกมาจากปลายนิ้ว
[ อะไร!? ]
จากนั้นก็ค่อยๆ ดึงพลังเวทออกมาและดึงชายคนนั้นเข้ามาในห้อง
เวลาเดียวกันกับที่เตะและใช้ฝ่ามือปิดประตูพร้อมกับใช้มือข้างนั้นเล็งเข้าไปในปากของชายที่กำลังตื่นตระหนก ลำคอของชายคนนั้นเคลื่อนไหวราวกับกลืนบางสิ่งในปาก
[ แกให้ข้ากินอะไรลงไป!? ]
[ ยาพิษที่ให้มาไงล่ะ ที่จริงตอนนั้นยังไม่ได้ดื่มหรอกแต่เก็บมันไว้ ]
เมื่ออธิบายจบและปล่อยชายคนนั้นลง
[ บัดซบ!! ]
จากนั้นชายคนนั้นก็เหงื่อท่วมใบหน้าซีดอย่างน่ากลัวและพยายามค้นหาบางอย่างในเสื้อ
เมื่อเห็นเขาหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อทหาร ผมก็หยิบมันมา
[ หา!? ]
[ คิดอยู่แล้วว่าต้องมียาแก้พิษ… ถึงคริสจะไม่เชื่อใจผม แต่ถ้าผมตายก็คงจะลำบากอยู่เหมือนกัน ]
เป็นยาที่เตรียมไว้ในกรณีที่ผมจะตาย
เป็นเรื่องธรรมดาที่พิษจะออกฤทธิ์ช้าหรือเร็วขึ้น มันไม่ใช่ระเบิดเวลาที่กำหนดเวลาได้ตรงเป๊ะ ใช่ว่าจะควบคุมเวลาตายได้ง่ายดาย
[ สิ่งที่นายกินเข้าไปคือก้อนหินที่เก็บมาจากข้างทางต่างหาก… เท่านี้ก็ตายอย่างสบายใจซะเถอะ ]
ตราบใดที่ได้ยาแก้พิษมาแล้ว ชายคนนี้ก็หมดประโยชน์แล้ว ผมเตะคอของชายคนนั้นอย่างแรง
แทนที่จะใช้ยาพิษฆ่าเขา ผมฆ่าเองจะเร็วกว่าซะอีก ผมทิ้งศพชายคนนั้นไว้ตรงนั้นจากนั้นจึงดื่มยาแก้พิษ
[ ….ค่อยคุ้มที่ต่อสู้เปลือยกายหน่อย ]
ความร้อนในร่างกายลดลงเรื่อยๆ
ผมรอจนมันหายขาดไปเลยไม่ได้ คนเฝ้าระวังจะต้องคอยติดต่อกับองค์กรตลอดเวลา ไม่นานคนในองค์กรจะต้องเห็นสิ่งผิดปกติแน่
หลังจากแต่งตัวเรียบร้อย ผมก็วางศพชายสองคนไว้บนผ้าปูเตียงและออกจากห้องไป
มุ่งหน้าไปที่หอพักหญิงพร้อมกับตรวจสอบว่ามีใครคอยจับตาดูรึไม่
เมื่อไปถึงและแอบดูจากด้านหลังก็หยิบหินก้อนที่หล่นอยู่ใต้เท้า
ในช่วงไม่กี่วันมานี้ การคุ้มกันห้องมิเซ่ผมจะส่งสัญญาณให้เธอ แต่ตอนนี้ก็เที่ยงคืนแล้ว ถึงจะเกิดเรื่องแย่ๆ แบบนั้นเมื่อตอนเย็นมานี้อาจทำให้เธอนอนไม่หลับก็ได้ ต้องเดิมพันกับความเป็นไปได้ว่ามิเซ่จะตื่นอยู่ จากนั้นผมจึงโยนก้อนหินไปที่หน้าต่างห้องของมิเซ่
ม่านของห้องถูกเปิดออกและมิเซ่ในสภาพง่วงนอนก็ปรากฏตัวหลังหน้าต่าง
เมื่อชี้ไปยังถนนสายหลักเป็นนัยๆ มิเซ่ก็พยักหน้ารับ
ไม่กี่นาทีต่อมา มิเซ่ก็ออกมาพบกับผมที่หน้าหอพักหญิง
[ คุณทรูเอท? ――เกิดอะไรขึ้นกันคะ!? เหงื่อท่วมขนาดนั้น… ]
[ …ไม่ต้องห่วงปัญหาเรื่องนั้นแล้วล่ะ ]
แม้ว่าจะดื่มยาแก้พิษไปแล้ว แต่ก็ยังมีไข้อยู่
ยิ่งวิ่งมาจากโรงแรมมาที่หอพักก็ต้องมีเหงื่อออกมากอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาคุยเรื่องนั้น
[ ไม่มีเวลา จะขออธิบายสั้นๆ แล้วกัน ]
ตอนนี้ในหัวผมแทบจะคิดอะไรไม่ออกจึงเล่าเรื่องที่ฟังมาจากคริสให้มิเซ่ฟังแบบสั้นๆ
[《วิถีแห่งปัญญา》… ในตัวฉันมีของแบบนั้น… ]
หลังจากอธิบายจบ มิเซ่ก็ทำสีหน้าลำบากใจ
ถึงจะตกใจอยู่บ้างแต่… ก็มีสีหน้าที่มั่นใจอยู่ด้วย จนถึงตอนนี้มิเซ่คงถูกรบกวนจากความทรงจำจนมองเห็นภาพลึกลับต่างๆ อาจจะโล่งใจที่รู้ตัวตนของมันสักทีก็เป็นได้
[ คุณทรูเอทคือพวกเดียวกับฉันใช่มั้ยคะ? ]
จากนั้นมิเซ่ก็ส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ผมจะตอบออกไป
[ ต้องบอกว่าฉันเชื่อใจคุณทรูเอทค่ะ ]
เธอพูดเช่นนั้นและจ้องมองมายังผม
[ ได้โปรด พาฉันหนีออกไปจากที่นี่ด้วยเถอะค่ะ ]
◆
[ …ช้าไปเหรอ ]
คริสที่รีบวิ่งมาที่ห้องพักในโรงแรมและพึมพำเมื่อเห็นสองศพที่ซ่อนอยู่ในผ้าปูที่นอน
ซึ่งทั้งสองคนคือคนที่คริสสั่งให้เฝ้าระวัง 28 การติดต่อขาดหายไปเมื่อประมาณชั่วโมงก่อน หลังจากนั้น 28 คงจะหนีไปที่ไหนสักแห่งแล้ว
ขณะที่การติดต่อหายไป ฉันก็ส่งทหารไปที่หอพักหญิงทันที――
[ ไม่ครับ ไม่พบใครเลย ]
[ …เปิดการสื่อสารไว้และรอฟังคำสั่ง 28 อาจจะอยู่ใกล้ๆ แถวนั้นและระมัดระวังความปลอดภัยของกันให้ดี ]
[ รับทราบ ]
จากนั้นคริสเลิกการสื่อสารกับลูกน้องและเก็บ ‘กระดาษสื่อสาร’ ไว้ในกระเป๋า
[ 28 หนีไปแล้ว ]
ด้านหลังนั้น ออสกำลังมองเข้าไปในห้อง
[ มันไม่ใช่เรื่องของใครอื่น 02 คงรู้นะ ถ้าเธอไม่ปล่อยให้ 28 ออกมาจากปราสาทได้ในตอนนั้น―― ]
[ ช่วยไม่ได้นี่นา… เราไม่นึกว่า 28 จะกล้าวิ่งฝ่าแบบนั้น ]
ออสก้มหน้าและพูดด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสา
แต่หลังจากนั้น ออสก็เงยหน้าขึ้นและแววตาแฝงด้วยความโกรธ
[ เราจะรับผิดชอบเอง… 28 แล้วนายจะต้องเสียใจ ]