ผู้กล้าเหนือกาลเวลา - บทที่ 484 วิหคทองกลืนตะวัน (2)
บทที่ 484 วิหคทองกลืนตะวัน (2)
ภาพนี้ทำให้ชายชราเผ่าจิตรกรรมรมต้องสะกดความคิดในใจ เขารู้สึกว่าเรื่องนี้ค่อนข้างผิดปกติ สายตาจึงกวาดไปทางเจ้าศีรษะ
แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไร ท่ามกลางเสียงร้องโหยหวนสะท้อนก้อง นิ้วเทพเจ้าที่อยู่กลางอากาศก็ส่งเสียงหวึ่งๆ ปรากฏตัวเบื้องหน้าชายชราเผ่าจิตรกรรม จิตเทพที่น่าหวาดหวั่นพุ่งเป้าไปที่เขา
ชายชราเผ่าจิตรกรรมพยายามทำให้ร่างกายไม่สั่นมากที่สุด ปั้นหน้าฉีกยิ้มเอาอกเอาใจ
“นายท่านผู้ถูกเลือกที่ยิ่งใหญ่ ท่านคือเทพเจ้าท้องนภาที่ฟื้นคืนชีพเหนือซากดวงอาทิตย์ ท่านที่กำหนดว่าจะรวมแผ่นดินต้องประสงค์เป็นหนึ่งเดียว กลายเป็นตัวตนสูงสุด”
แรงกดดันบนนิ้วเทพเจ้าเห็นได้ชัดว่าเบาลงเล็กน้อย ส่งเสียงคำรามที่สะท้อนก้องในทะเลความรู้สึกเหล่าผู้บำเพ็ญออกมา
ชายชราเผ่าจิตรกรรมไม่ทันควบคุมร่างให้ดี จึงสั่นเทิ้มขึ้นมา แต่สีหน้าเขาก็ไม่แสดงอะไรออกมาแม้แต่น้อย ยังคงอยู่ในท่าทีเลื่อมใสศรัทธา พูดออกมาราวกับสวดมนต์
“นายท่านผู้ถูกเลือก เข้าใกล้วันที่ท่านจะฟื้นคืนชีพเข้าทุกที สิ่งของมีชีวิตที่ใช้สร้างกายเนื้อของท่านก็เสร็จสิ้นไปเกือบครึ่ง หากเป็นเทพเจ้าธรรมดาตนอื่น ตอนนี้คงวาดร่างกายได้แล้ว แต่ท่านเป็นเทพเจ้าผู้ถูกเลือก ข้าน้อยจะต้องวาดร่างกายออกมาให้ยอดเยี่ยมสมบูรณ์แบบที่สุดในฟ้าดิน
“ท่าน จะถูกดูหมิ่นมิได้
“ดังนั้น…ยังต้องการชีวิตอีกเล็กน้อย ถึงจะสามารถทำให้ความมีชีวิตของเลือดเนื้อก้อนนี้คู่ควรกับกายทิพย์ของเทพเจ้าผู้ถูกเลือกที่ยิ่งใหญ่ได้”
นิ้วเทพเจ้าแผ่คลื่นออกมา เหมือนรู้สึกค่อนข้างรำคาญ บาดแผลปริแตกออกมาขณะที่สั่นเทิ้ม
แต่องค์ท่านไม่ใส่ใจ หลังจากวนไปวนมาบนท้องฟ้าหลายรอบ ก็หายวับจากไปท่ามกลางการบิดเบี้ยวและความเลือนรางรอบๆ ฉับพลันอีกครั้ง
มองภาพนี้ สวี่ชิงหรี่ตาลง ความคิดในใจหมุนวนอย่างรวดเร็ว เขารู้ดีว่าสภาพของร่างกายตนตอนนี้ทั้งอยู่ในช่วงวิกฤตเป็นตาย แต่ก็ถือเป็นวาสนาครั้งใหญ่ด้วยเช่นกัน
เขาสัมผัสได้ว่ารูปสักการะวิหคทองด้านหลังเวลานี้ร้อนวูบขึ้นมาต่อเนื่อง เผยความปรารถนาอย่างรุนแรงออกมา แต่กลับถูกสวี่ชิงสะกดเอาไว้ ไม่ให้มันแผ่ออกภายนอกแม้แต่น้อย
ส่วนการสนทนาของชายชราเผ่าจิตรกรรมกับนิ้วเทพเจ้าก็ทำให้สวี่ชิงรู้สึกได้เป็นอย่างแรก ว่าสภาพของนิ้วเทพเจ้าตอนนี้ไม่ค่อยปรกติ…
‘เหมือนมีสติปัญญาบางส่วนยังไม่สมบูรณ์อย่างนั้นหรือ’
สมองสวี่ชิงวิเคราะห์อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็มองในมุมของชายชราเผ่าจิตรกรรมทำความเข้าใจความคิดและเหตุการณ์ของปัญหาทั้งหมดนี้
“เจ้าศีรษะ ทำไมเจ้าจึงมาอยู่ที่นี่ หรือว่าซ่อนตัวไม่ดีจนถูกใต้เท้าผู้ดูแลหาตัวเจออย่างนั้นหรือ” หลังจากนิ้วเทพเจ้าจากไป ชายชราเผ่าจิตรกรรมก็โล่งอก จากนั้นก็มองเจ้าศีรษะที่โผล่มาแค่ใบหน้า เดินไปตบๆ
“ทำไมข้าต้องตอบเจ้าด้วย เจ้ามีวิธีทำให้ข้าตายหรือไร พวกเราก็หมายเลขเดียวกันทั้งนั้น คิดว่าข้ากลัวเจ้าหรือ” เจ้าศีรษะถลึงตา ชายชราเผ่าจิตรกรรมก็ไม่เห็นสีหน้าโกรธเคือง ยกมือขึ้นยิ้มตาหยี ตบลงไปแรงๆ
เสียงโพละดังขึ้น เจ้าศีรษะแหลกเละ
ชายชราเผ่าจิตรกรรมนั่งอยู่ตรงนั้น ยังคงยิ้มละมุน หันหน้ามองสวี่ชิง สายตาฉายแววลึกซึ้ง
“ใต้เท้าผู้ดูแล เมื่อครู่ท่านยังพูดไม่ทันจบ ไยข้าจึงได้ความชอบแล้วเล่า
“ข้าคิดว่า ใต้เท้าผู้ดูแลคงไม่คิดจะพูดกับข้าหรอก ท่านจงใจถูกเทพเจ้าจับตัวมา และท่านก็คงไม่ใช่แค่คนเดียว ในมณฑลประกายอรุณนี้ยังมีผู้แข้งแกร่งของเขตปกครองผนึกสมุทรอยู่อีกมากมาย เจ้าวังอะไรนั่น โหวเหยานั่นอีก ปลัดเขตปกครองเอย เป้าหมายของพวกเขาคือการจับกุมนิ้วเทพเจ้าหรือ
“ส่วนท่าน เพื่อที่จะชี้พิกัด ดังนั้นตอนนี้เหล่าพวกคนใหญ่โตนั่นก็คงสังเกตเห็นที่นี่แล้ว และท่านบอกว่าข้าได้ความชอบ ก็เพราะข้ารั้งนิ้วเทพเจ้าไว้ ทำให้พวกท่านได้รับเวลาอันล้ำค่านี้ไว้หรือขอรับ
“แต่ว่า ใต้เท้าผู้ดูแล ข้าไม่ใช่เด็กสามขวบ ท่านคิดว่าข้าจะเชื่อคำพูดพวกนี้หรือ” ชายชราเผ่าจิตรกรรมเลียริมฝีปาก ขณะที่ดวงตาฉายแววไม่เป็นมิตร ยกมือขวาขึ้นขุดเศษศีรษะที่แหลกเละเหล่านั้นออกมาทีละชิ้น
ไม่นานเจ้าศีรษะก็ฟื้นคืนชีพใหม่ ขณะที่กำลังจะก่นด่า ชายชราเผ่าจิตรกรรมก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“เจ้าศีรษะ ทุกคนล้วนเป็นพวกเดียวกัน ข้าทำให้เจ้าตายก็เพื่อช่วยเหลือเจ้า อย่าเพิ่งโวยวาย นอกจากนี้ยังต้องขอบคุณเจ้าที่พาใต้เท้าผู้ดูแลเข้ามา ที่เจ้าพูดมานั้นถูกต้อง ที่ว่าเขตติงหนึ่งสามสองจะกลับมารวมตัวแล้ว”
เจ้าศีรษะแค่หัวเราะเย็นชา ดวงตาฉายแววเย้ยหยัน ไม่ยอมรับและไม่ปฏิเสธ แต่ก็กลิ้งไปค้นหาสิงโตหิน
ชายชราเผ่าจิตรกรรมไม่สนใจเจ้าศีรษะ มานั่งยองลงข้างๆ สวี่ชิง แลบลิ้นเลียริมฝีปาก
“ใต้เท้าผู้ดูแล ทำไมหรือ ข้าพูดแทงใจดำสินะ”
สวี่ชิงไม่สนใจชายชราเผ่าจิตรกรรม เขากวาดมองไปรอบๆ ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ สัมผัสได้ถึงผนึกต้องห้ามป้องกันการหลบหนีของที่นี่
ผนึกต้องห้ามนี้ด้วยการติดตั้งของนิ้วเทพเจ้า คลายออกยากมาก
เมื่อตรวจสอบเสร็จ สายตาของสวี่ชิงก็ไปหยุดอยู่ที่ชายชราเผ่าจิตรกรรม เอ่ยออกมาราบเรียบ
“เจ้าไม่จำเป็นต้องทดสอบเช่นนี้ หากอยากมีชีวิตรอด ก็รีบเล่าสถานการณ์ทั้งหมดเสีย”
ชายชราเผ่าจิตรกรรมเลิกคิ้ว
เจ้าศีรษะที่อยู่ไกลๆ ก็หาสิงโตหินพลางหัวเราะเยาะ
“ตาแก่ ปกติเจ้าก็ออกจะฉลาด ทำไมตอนนี้ถึงได้โง่ถังเพียงนี้ ทุกคนมารวมตัวที่นี่หมดแล้ว หากเจ้าไม่วาดร่างกายให้นิ้วเทพเจ้าเสร็จพวกเราถูกฆ่าตายกันหมด ทุกคนก็รีบคิดหาวิธีว่าจะรอดไปได้อย่างไร ยังจะมาหยั่งเชิงกันไปมาอีก เสียเวลาจะตาย ไม่เหนื่อยหรือ”
คำพูดของเจ้าศีรษะ ทำให้ชายชราเผ่าจิตรกรรมรู้สึกทอดถอนใจ ในความเป็นจริงนี่ก็เป็นจุดที่ทำให้เขากลัดกลุ้มอยู่ ตัวเขาถูกกำหนดไว้แล้วว่าไม่สามารถหนีไปไหนพ้น รอบด้านก็มีผนึกต้องห้ามอีก และเมื่อครู่คำพูดหยั่งเชิงเหล่านั้น ก็คิดจะทำให้มันเกิดขึ้นจริงทั้งหมด…
แต่เขาก็รู้ว่าเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้ แม้สวี่ชิงจะยอมรับ เขาก็ยังรู้สึกว่าตนถูกหลอก ดังนั้นขณะที่รู้สึกซับซ้อน ก็ถอนหายใจออกมา
“พวกเจ้าจะมีวิธีการอะไรได้ ทุกคนต้องตายกันหมดนั่นล่ะ…”
“ถอยไป!” สวี่ชิงเอ่ยขึ้นมากะทันหัน
ชายชราเผ่าจิตรกรรมมองไปทางสวี่ชิง ตอนที่กำลังจะพูดอะไร สวี่ชิงไม่สนใจ เขามองทั้งหมดออกนานแล้ว และพิสูจน์สิ่งที่คิดไว้ผ่านบทสนทนาของอีกฝ่ายกับนิ้วเทพเจ้าแล้วด้วยเช่นกัน
สำหรับคนที่จมน้ำ ต่อให้ยื่นฟางลงไปเส้นหนึ่ง อีกฝ่ายก็จะคว้าทันที เพียงแต่ฟางนี้ก็ต้องจริงใจสักหน่อย จะขอไปทีไม่ได้
และตอนนี้กำลังไฟใกล้จะได้ที่แล้ว โดยเฉพาะจากการที่กรมราชทัณฑ์ถล่มลงมา ตอนนี้ความทรงจำที่เกี่ยวกับเขตติงหนึ่งสามสองของสวี่ชิงก็ฟื้นฟูกลับมามากพอสมควร เขามั่นใจว่าตนไม่เคยใช้พลังวิหคทองต่อหน้านักโทษเขตติงหนึ่งสามสองเหล่านี้
ที่เขาใช้ส่วนใหญ่คือกายทิพย์เทพเจ้า
ดังนั้น ชายชราเผ่าจิตรกรรมคนนี้ไม่รู้ว่าตนมีวิหคทองอยู่
ส่วนพวกเขาที่แหกคุกออกมาอย่างรีบร้อนก็เป็นไปไม่ได้ที่จะรู้เรื่องของตนเกินไป ถึงมีความเป็นไปได้ที่เจ้าสิ่งประหลาดศีรษะจะรู้ แต่ชายชราเผ่าจิตรกรรมคนนี้มควมเป็นไปได้มากว่าจะไม่รู้
ทว่าสิ่งนี้ไม่สำคัญ
หากไม่รู้ ผลลัพธ์ก็ย่อมดีที่สุด แต่ต่อให้รู้ สวี่ชิงก็มีวิธีอื่นจัดการ
คิดถึงจุดนี้ สวี่ชิงก็ไม่สะกดวิหคทองด้านหลังอีกต่อไป พริบตา พลังเปลวเพลิงร้อนรุ่มด้านหลังเขาก็ระเบิดออกมาสุดกำลัง วิหคทองแผ่ซ่านออกมาด้านในซากดวงอาทิตย์นี้
ซากดวงอาทิตย์สั่นสะเทือนไปหมดกะทันหันตอนนี้ ราวกับว่ามีชีวิตขึ้นมา
รอบด้านส่งเสียงครืนครัน ตอนที่ความเลือนรางและการบิดเบี้ยวยิ่งชัดเจน คลื่นความร้อนวูบหนึ่งก็แผ่ออกมาจากตัวของสวี่ชิงอย่างน่าครั่นคร้าม แผ่ออกไปรอบๆ ชายชราเผ่าจิตรกรรมหน้าเปลี่ยนสี รีบร้อนถอยออกมา มองไปทางสวี่ชิงอย่างสงสัยคลางแคลง
สวี่ชิงเวลานี้ สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง แต่บนใบหน้ากลับปรากฏลวดลายสีทองมหาศาล
ลวดลายเหล่านี้แผ่ลามมาจากรูปสักการะด้านหลังเขา
พริบตานี้ พลังน่าตกตะลึงที่มาจากด้านในซากดวงอาทิตย์ก็ไปรวมที่ตัวสวี่ชิงอย่างต่อเนื่องจากการดูดซับอย่างบ้าคลั่งของวิหคทอง
ฟ้าดินสั่นสะเทือน แผ่นดินใหญ่เกิดเค้าลางว่าจะพลิกม้วน ปราณหมอกด้านบนก็กลายเป็นคลื่นวนขึ้นในพริบตา พลังอำนาจน่ายำเกรง
สวี่ชิงใจเต้นเร็วรัว จากความฮึกเหิมและความปรารถนาของวิหคทอง เขารู้ดีเป็นอย่างยิ่งว่าครั้งนี้สำหรับตน ถือเป็นวาสนาใหญ่ครั้งหนึ่ง
แต่ตอนที่เขาต้องการ สิ่งนี้สำหรับงานฉลองใหญ่ความตะกละตละกลามของวิหคทอง ยากที่จะเสร็จสิ้นในเวลาสั้นๆ ก้อนเนื้อซากดวงอาทิตย์นี้ใหญ่เกินไป
ภาพนี้ ทำให้ชายชราเผ่าจิตรกรรมรวมถึงเจ้าศีรษะที่กว่าจะหาเจ้าสิงโตหินเจอ พากันสูดลมหายใจ แต่ว่าฝ่ายหลังกลับค่อนข้างจอมปลอม
“สูดรับเลือดเนื้อของดวงอาทิตย์…” ขณะที่ชายชราเผ่าจิตรกรรมพึมพำ ดวงตาก็เผยประกายประหลาด
“ครั้งนั้นเขตติงหนึ่งสามสอง ข้าก็สัมผัสระลอกคลื่นไม่ธรรมจากใต้เท้าผู้ดูแลได้ คิดไม่ถึงว่าจะเกี่ยวข้องกับดวงอาทิตย์ด้วย!!
“ข้ารู้แล้ว ใต้เท้าได้ยินว่านิ้วเทพเจ้ามาตามหาซากดวงอาทิตย์ที่นี่ ท่านจึงจงใจมาที่แห่งนี้ก็คือต้องการให้นิ้วเทพเจ้าพาท่านมาเองใช่หรือไม่
“แต่ท่านรู้ได้อย่างไรว่าข้าจะหลอกให้นิ้วมือเทพเจ้าออกไปจับคน ใช่แล้ว เรื่องนี้อธิบายได้ หลายปีมานี้ ซากดวงอาทิตย์ต้องสูญเสียความมีชีวิตไปแล้ว และวิธีการชดเชยความมีชีวิต แน่นอนว่าต้องเป็นชีวิต!
“ถูกต้อง เป็นเช่นนี้นั่นล่ะ!
“ยอด ยอดเยี่ยมจริงๆ!”
“ความสามารถในการเล่นงานเทพเจ้าเช่นนี้ของใต้เท้า ข้านับถือจริงๆ ข้าเข้าใจแล้ว ดังนั้นเมื่อครู่จึงบอกว่าข้าได้ความชอบสินะ นั่นสิ ข้าได้รับความชอบแล้วจริงๆ!
“ส่วนนายท่านที่คำนวณได้ถึงจุดนี้คงจะมีวิธีหลบหนีแล้วแน่ๆ ใช่เลย!”
ชายชราเผ่าจิตกรรมยิ่งพูดก็ยิ่งตื่นเต้น
เจ้าศีรษะกะพริบตาปริบๆ ดวงตาฉายแววสับสน
หลังจากที่สวี่ชิงขึ้นเขาประกายอรุณ เขากับเจ้าสิงโตหินก็ถูกเจ้าเงาคลุมไว้ หลังจากปรากฏตัวก็เจอกับสวี่ชิงที่ใช้พิษเล่นงานหุบเขา จากนั้นนิ้วเทพเจ้าก็มา มันจึงไม่รู้ว่าระหว่างนี้เกิดอะไรขึ้น
ตอนนี้ฟังจากคำพูดของชายชรา เจ้าศีรษะก็สั่นพังพาบเล็กน้อย จู่ๆ มันก็รู้สึกว่าที่ชายชราพูดมามีเหตุผล ไม่เช่นนั้นอยู่ในช่วงสงครามทำไมสวี่ชิงจึงไม่ไปที่สนามรบ แต่มาที่มณฑลประกายอรุณเล่า
แต่มันก็ยังรู้สึกเลาๆ เหมือนว่ามีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากล
สวี่ชิงสีหน้าราบเรียบไม่เผยคลื่นอารมณ์ใดออกมา สูดรับพลังของซากดวงอาทิตย์อย่างสุดกำลัง พลางกวาดสายตาไปยังชายชราเผ่าจิตรกรรมและเจ้าศีรษะ
เขามองข้ามเจ้าศีรษะทางนั้นไป แต่สวี่ชิงรู้สึกสงสัยชายชราเผ่าจิตรกรรมขึ้นมาในใจ อีกฝ่ายให้ความร่วมมืออย่างดีเกินไป กระทั่งตั้งแต่ต้นจนจบก็เหมือนจะทำตามกลยุทธ์ของตนด้วย
ต่อให้คนที่จมน้ำจะรีบร้อนเอาตัวรอดเพียงใด ก็ยากที่จะทำได้ถึงจุดนี้
ตอนที่สวี่ชิงกำลังครุ่นคิด ชายชราเผ่าจิตรกรรมก็ทิ้งตัวลงคุกเข่าอย่างตื่นเต้น
“ใต้เท้าผู้ดูแล ขอให้เห็นแก่ที่ข้าน้อยเคยเตือนท่านในเขตติงหนึ่งสามสอง และความชอบครั้งนี้ ช่วยชีวิตข้าด้วย
“เจ้านิ้วชั่วร้ายนั่นให้ข้าวาดร่างกายให้มัน ข้าไม่กล้าวาด ถ้าวาดจบมันต้องกินข้าแน่ๆ ข้าสัมผัสได้ถึงความหิวโหยของมัน ข้าจึงใช้เหตุผลว่ายังขาดความมีชีวิตจึงไม่อาจวาดได้ ยืดเวลาออกมาเนิ่นนาน จนในที่สุดท่านก็มา”
สวี่ชิงมองชายชราเผ่าจิตรกรรมอย่างเย็นชา มองพิรุธจากสีหน้าของอีกฝ่ายไม่ออก สีหน้ากับคำพูดของคนผู้นี้ทั้งหมด ไม่มีอะไรผิดแปลกทั้งสิ้น
โดยเฉพาะเขาที่กวาดตามองพวกต่างเผ่าจำนวนมากที่อยู่รอบๆ ในเลือดเนื้อดวงอาทิตย์ พวกนั้นไม่ร้องโหยหวนแล้ว แต่ถูกดวงอาทิตย์สูดรับผสานไปแล้วจนหมด
พวกนี้ล้วนถูกชายชราเผ่าจิตรกรรมหลอกให้มาตายเพื่อเอาชีวิตรอด
แต่ในเมื่ออีกฝ่ายให้ความร่วมมือเช่นนี้ สวี่ชิงก็ไม่มีเหตุผลที่จะเปิดโปง เขาต้องการเวลา ด้านหนึ่งก็เพื่อสูดรับซากดวงอาทิตย์ อีกด้านหนึ่งเขาจะรอให้นิ้วมือกลับมาอีกครั้ง
ไม่ว่าชายชราเผ่าจิตรกรรมจะมีปัญหาหรือไม่ เขาจะปล่อยให้อีกฝ่ายกุมอำนาจเป็นฝ่ายกระทำที่นี่ไม่ได้ และโอกาสที่จะช่วงชิงสิทธิ์ที่ว่าคือตอนที่นิ้วมือกลับมาอีกครั้ง
คิดถึงจุดนี้ สวี่ชิงก็เอ่ยราบเรียบ
“ข้าต้องการเวลา”