ผู้กล้าเหนือกาลเวลา - บทที่ 536 ไป๋เซียวจัว ปิดฉาก (1)
บทที่ 536 ไป๋เซียวจัว ปิดฉาก (1)
…………….
จิตเทพที่แผ่ออกมา แม้จะมาจากแค่ที่วังจักรพรรดิที่สวี่ชิงเคยไปครั้งนั้น แต่อันที่จริงในตอนนี้ ดวงตายักษ์วังจักรพรรดิทั้งโลกวิญญาณบรรพกาลเปลือกตากระตุกเล็กน้อย
ความจริงคือ…นับตั้งแต่ที่ดวงชะตาแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ย้อนกลับทำลายชนเผ่า หลังจากพาคนในเผ่าหลบซ่อนตัวในที่แห่งนี้และยังถูกคำสาป จักรพรรดิวิญญาณโบราณที่อยากจะคืนชีพอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ไม่มีทุกอย่างเหมือนดังเคย จึงคับข้องใจอย่างยิ่ง
ด้วยกายทิพย์ขององค์ท่าน ด้วยความรุ่งโรจน์ในอดีตขององค์ท่าน ตอนนั้นที่ตะโกนคำว่าไสหัวไปเดี๋ยวนี้ออกมา ก็นึกภาพระลอกคลื่นในใจของเขาได้
ถึงอย่างไรในสายตาองค์ท่าน สวี่ชิงก็ประหนึ่งมดปลวก และมดปลวกเช่นนี้กลับใช้สัญลักษณ์ของชื่อหมู่ข่มขู่ตน ยังไม่พูดเรื่องที่ฉกชิงวิญญาณบูชาเซ่นไหว้ไป ยังจะรีดไถดวงชะตาวิญญาณบรรพกาลอีกสายหนึ่งด้วย
โอหังกำเริบ ไม่เคารพเช่นนี้ หลังจากให้สวี่ชิงออกไป ทำให้องค์ท่านต้องใช้เวลาหลายเดือนถึงค่อยๆ สงบลงได้
แต่ตอนนี้ อีกฝ่ายยังกล้ากลับมาอีก!
ต่อให้จักรพรรดิวิญญาณบรรพกาลไม่ได้รุ่งโรจน์เช่นตอนนั้น การคืนชีพหลังจากดับสูญทำให้สูญเสียความสามารถในการวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน เล่ห์เหลี่ยมก็ไม่ได้มากมายอย่างเคย เนื่องจากใคร่ครวญได้เชื่องช้าทำให้ตื้นเขินมากขึ้น
แต่ความหยิ่งทะนงขององค์ท่านยังคงอยู่ กายทิพย์ขององค์ท่านยังคงเป็นจักรพรรดิโบราณที่เคยรวมต้องประสงค์ให้เป็นหนึ่ง
เมื่อเสวียนโยวอยู่ต่อหน้าองค์ท่าน ล้วนเป็นชนรุ่นหลังทั้งสิ้น
ดังนั้น กลิ่นอายคุ้นเคยมาอยู่อีกครั้ง ปฏิกิริยาแรกขององค์ท่านจึงเป็นโทสะ ตอนนี้ท้องฟ้าแผ่นดินใหญ่จักรพรรดิวิญญาณบรรพกาลก็เปลี่ยนแปลงไปจากการที่จิตเทพปะทุขึ้น
บนท้องฟ้า วิญญาณทั้งหมดเงยหน้าขึ้น สัมผัสความพิโรธของจักรพรรดิได้ พวกมันจึงร้องคำราม กลายเป็นคลื่นเสียงน่าครั่นคร้ามขึ้นมา
บนพื้นดิน โครงกระดูกทั้งหมดแผ่จิตสังหาร ชูดาบกระดูกขึ้น
แม่น้ำยมโลกโหมซัด สัตว์ตัวมหึมาหลายร่างพุ่งขึ้นมา เมฆหมอกบนท้องฟ้าก็ตีเกลียวราวกับมหาสมุทร ธงสีดำโบกสะบัด กองทัพทหารเกรียงไกรปรากฏจากความว่างเปล่า
ขณะที่จิตปฏิปักษ์ซึ่งมาจากทั้งโลกวิญญาณบรรพกาลน่าครั่นคร้าม คลื่นวนขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นเหนือภูเขาเลือดเนื้อวังจักรพรรดิที่สวี่ชิงเคยไปมา
ตรงนั้น คือที่ที่เขาส่งหลิงเอ๋อร์ออกไปตอนนั้น หรือก็คือเบื้องหน้าดวงตายักษ์จักรพรรดิวิญญาณบรรพกาลที่ลื่มตื่นอยู่
ในคลื่นวน มีเสียงดังครืนคันดังออกมา ร่างเงาสองร่างปรากฏขึ้น
หนึ่งใหญ่หนึ่งเล็ก หนึ่งอยู่ด้านซ้ายหนึ่งอยู่ด้านขวา
ตัวใหญ่สูงสามสิบจั้ง ตัวเล็กที่เป็นคนขนาดปกติกลับจับนิ้วโป้งของคนตัวใหญ่ไว้ ทั้งสองคนดูสนิทสนมกันยิ่ง จูงมือกันในคลื่นวนค่อยๆ ชัดเป็นรูปเป็นร่าง!
“พาผู้ช่วยมาด้วยรึ”
จักรพรรดิวิญญาณบรรพกาลโมโหระคนตกใจเป็นอย่างยิ่ง ดวงตายักษ์เบิกกว้างขึ้นทันที แววตาสีทองทำให้ฟ้าดินสว่างไสวไปหมด
รอบด้านบิดเบี้ยวเลือนราง ยิ่งมีไอพลังประหลาดพิเศษแผ่ซ่าน ทำให้พลังที่มาจากภายนอกทั้งหมดสลายไป ถูกสะกดสยบทั้งสิ้น
ยิ่งมีอำนาจเทพที่ปะทุออกมาจากแววตาจักรพรรดิวิญญาณบรรพกาลดวงนี้ด้วย
อำนาจเทพขององค์ท่าน ทำให้คนที่เป็นปฏิปักษ์กับเขา หลังจากได้รับบาดเจ็บ อาการก็ยิ่งแย่ลงสิบเท่า!
บาดเจ็บเล็กน้อยกลายเป็นบาดเจ็บสาหัส บาดเจ็บสาหัสกลายเป็นความตาย!
ร่างสองร่างที่ปรากฏในคลื่นวน ยังไม่ทันชัดเจนดีก็สั่นเทิ้มไปหมด ได้รับผลกระทบจากอำนาจเทพอย่างเห็นได้ชัด
ทางขวา ร่างเทพเจ้าแหลกสลายไปกว่าครึ่ง
ทางซ้าย ร่างเลือนราง สลายไปเหมือนถูกลบเลือน เผยเสี้ยวหน้าออกมา
หลังจากสัมผัสไปรอบด้าน สีหน้าของเสี้ยวหน้านี้ก็เปลี่ยนไปอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน กระทั่งบิดเบี้ยวไปหมด และสีหน้าเช่นนี้ ปรากฏขึ้นครั้งแรกบนเสี้ยวหน้าปลัดเขตปกครองอีกด้วย
ต่อให้เขาถูกเปิดโปงทั้งหมดก่อนหน้านี้ ก็ยังไม่ถึงขั้นสีหน้าเป็นเช่นตอนนี้
เขาไม่อาจสีหน้าเรียบเฉย ไม่อาจนิ่งสงบได้ เพราะ…เขาเห็นดวงตายักษ์แล้ว และสัมผัสกายทิพย์น่าตกตะลึงจากร่างของอีกฝ่ายที่แผ่ออกมา
แม้จะสู้ชื่อหมู่ไม่ได้ แต่ก็เหนือกว่าเทพเจ้าแดนต้องห้ามเซียน กระทั่งพูดได้ว่าดวงตายักษ์เบื้องหน้านี้ก็คือเทพเจ้า
และฐานะของอีกฝ่าย เขาก็คาดเดาได้จากที่นี่
“จักรพรรดิวิญญาณบรรพกาล?!”
จะอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงว่าไม้ตายของสวี่ชิงจะเป็นจักรพรรดิวิญญาณบรรพกาล!
สิ่งนี้เกินกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้ เกินกว่าที่เขาจะสัมผัสรับรู้ จักรพรรดิวิญญาณบรรพกาลซ่อนตัวลึกลับได้เกินไป ถ้าไม่ใช่เรื่องของหลิงเอ๋อร์ สวี่ชิงก็คงไม่มีทางรู้
ดังนั้นตอนนี้ ใจปลัดเขตปกครองจึงสั่นสะท้านรุนแรง เขาไม่ลังเลแม้แต่น้อย ถอยหลังไปทันที ทั่วร่างเปล่งแสงสีทองวูบวาบ คิดจะส่งข้ามหวนกลับไป หนีออกจากที่ที่น่ากลัวนี้
แต่มีหรือที่สวี่ชิงจะยอมให้เขาสมปรารถนา!
แทบจะพริบตาที่เสี้ยวหน้าปลัดเขตปกครองคิดจะหลบหนี สวี่ชิงก็ค้อมตัวลงหน้าจักรพรรดิวิญญาณบรรพกาลขณะที่รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวราวกับคลื่นน้ำกระหน่ำซัดแผ่ลามในใจและร่างที่แหลกสลายย่อยยับไปแล้วกว่าครึ่ง
“จักรพรรดิวิญญาณบรรพกาลผู้ยิ่งใหญ่ ผู้เยาว์มาถวายอาหารแด่ท่าน นี่คือดอกเบี้ยงวดแรกของดวงชะตาวิญญาณบรรพกาล หลังจากท่านย่อยแล้ว ข้าจะเข้ามาส่งดอกเบี้ยงวดที่สองให้ท่าน!”
“ดอกเบี้ย?”
จักรพรรดิวิญญาณบรรพกาลตกตะลึง จากนั้นก็พลันเบิกตากว้าง ละสายตาจากร่างสวี่ชิง มองเสี้ยวหน้าปลัดเขตปกครองที่คิดจะหลบหนี
ความสนใจก่อนหน้านี้ของเขาล้วนอยู่ที่ร่างสวี่ชิง ตอนนี้หลังจากจ้องไปที่ปลัดเขตปกครอง เสียงหัวใจเต้นราวกับสายอัสนี ดังขึ้นมาจากใต้ดินโลกวิญญาณบรรพกาลฉับพลัน
ตึกตัก ตึกตัก!
แม่น้ำยมโลกคลอนไหวราวกับเป็นสิ่งที่แปรมาจากน้ำลายของจักรพรรดิวิญญาณบรรพกาล จู่ๆ ก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ตีเกลียวออกไปด้านนอกทั้งสี่ทิศ จากนั้นก็สลายหายไปเป็นวงกว้าง
เสียงกลืนน้ำลาย มาพร้อมกับความน่าหวาดหวั่นทำให้รู้สึกหนังศีรษะชาหนึบ อัดแน่นไปทั่วสารทิศ
ปลัดเขตปกครองตื่นตระหนกระคนโมโห ระเบิดแสงสีทองเพิ่มความเร็วในการหลบหนีสุดกำลังอย่างไม่เสียดาย จนเสี้ยวหน้าของตนเองปรากฏรอยปริแตก
สวี่ชิงก็ถูกผลกระทบของแสงสีทองเช่นกัน ร่างแหลกสลายอีกครั้ง นิ้วเทพเจ้าในร่างร้องโอดครวญ ต้านทานสุดกำลัง คิดจะฟื้นฟูร่างกายนี้!
ขณะเดียวกัน ปลัดเขตปกครองก็เปล่งแสงสีทองเจิดจ้าจนกลายเป็นหนามแหลม พุ่งเข้าไปในคลื่นวน คิดจะทวนกระแส เปิดทางเส้นหนึ่ง พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
ทว่า…สภาวะของปลัดเขตปกครองตอนนี้ สำหรับชื่อหมู่ถือเป็นอาหารอันโอชะ ไม่ต้องพูดถึงจักรพรรดิวิญญาณบรรพกาลที่หิวโหยมาหลายปี ปกติทำได้แค่ดูดกลืนจิตวิญญาณคนในเผ่าที่ร่วงหล่นลงมาโดยบังเอิญเลย
บนพื้นดิน แม่น้ำยมโลกโหมซัด น้ำลายเหมือนจะหลั่งไหลออกมามากเกินไปไม่อาจจนกลืนลงไปหมด ทำให้แม่น้ำยมโลกเปลี่ยนเป็นทั้งกว้างใหญ่ และยังโหมขึ้นมา พุ่งเข้าไปในคลื่นวน
จักรพรรดิวิญญาณบรรพกาล โหยหิวเกินไป
ดวงตาของเขาเผยแสงแรงกล้า ทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนสี
ส่วนทางออกของปลัดเขตปกครองก็สลายไปในพริบตาด้วยสายตาของจักรพรรดิวิญญาณบรรพกาล แม่น้ำยมโลกโหมบ่าเข้าไปแทนที่ ท่วมทับปลัดเขตปกครอง
ปลายสายแม่น้ำยมโลกมีเสียงกลืนกินดังมา เสียงนี้ทำให้รู้สึกหวาดผวา ในนั้นแฝงความละโมบโลภมาก ความตื่นเต้น ความปรารถนา กลายเป็นดูดดึง จะกลืนกินปลัดเขตปกครองที่เป็นอาหารรสเลิศนี้ลงไป
เมื่อเห็นว่าร่างกายตนถูกดูดดึงลงไปยังส่วนลึกของแม่น้ำยมโลก เสี้ยวหน้าปลัดเขตปกครองก็เปล่งแสงวูบวาบ มีแขนหยกขาวยักษ์สองข้างปรากฏออกมา ฉีกทึ้งรอบๆ อย่างรุนแรง
ท่ามกลางการไหลผ่านไปของกาลเวลา แรงดึงดูดของแม่น้ำยมโลกหยุดชะงักชั่วครู่ และเขาก็ใช้โอกาสนี้หลบหนีอีกครั้ง
ตอนนี้เอง จิตเทพที่กว้างใหญ่ไพศาลก็สะท้อนก้องในโลกวิญญาณบรรพกาล
“โลกของข้า ไร้ซึ่งกาลเวลา”
จิตเทพนี้แฝงอำนาจเทพเอาไว้ ยิ่งมีความเผด็จการอย่างไม่ต้องสงสัย แม่น้ำยมโลกกลับคืนเป็นปกติในพริบตา ตอนที่เกิดแรงดึงดูดขึ้นอีกครั้ง เสี้ยวหน้าปลัดเขตปกครองก็แบกรับไม่ไหว เสียเปรี๊ยะดังออกมา ปรากฏขึ้นรอยแยกทางหนึ่ง
แขนหยกขาวสองข้างที่จำแลงออกมาของเขาเริ่มแตกเป็นเสี่ยงๆ ร่วงสู่แม่น้ำยมโลก ราวถูกกลืนกิน
เมื่อเห็นเช่นนี้ ปลัดเขตปกครองก็ส่งเสียงกรีดร้อง ต่อให้ร่างเสี้ยวหน้าของตนจะปรากฏรอยร้าวขึ้นอีกหน แต่ก็ยังเปล่งแสงสีทองออกมาสุดกำลัง
เขาทุ่มทั้งหมดแล้ว ขณะที่แสงนี้แผ่ลามออกไป เห็นด้านบนเสี้ยวหน้ามีรูปสลักปรากฏขึ้นมาอย่างเลือนรางด้วย
ความจริงรูปสลักนี้คงอยู่มาตลอด เพียงแต่ก่อนหน้านี้ไม่มีใครสามารถมองเห็นได้ ตอนนี้ด้วยการสะกดของจักรพรรดิวิญญาณโบราณ มันจึงปรากฏออกมา
รูปสลัก เป็นภาพภาพหนึ่ง ในภาพสื่อถึงเขตปกครองผนึกสมุทรในยุคโบราณกาล
ภูมิประเทศเป็นเช่นเดียวกับลักษณะของโลกภายนอกที่ถูกเปลี่ยนแปลงไปไม่ผิดเพี้ยน
ที่นี่ ถึงจะเป็นแก่นสำคัญที่ปลัดเขตปกครองปูทางกลับมาจากห้วงบรรพกาล
ในตอนนั้นก่อนที่เขาจะตาย หลังจากสังหารประชาชนทั้งหมด เขาก็ใช้เลือดของพวกเขาสลักขึ้นมา!
บัดนี้ปรากฏขน สะท้อนเข้าไปในทะเลแสง
ในขณะที่คลื่นโหมสาดซัดเป็นวงกว้าง เขตปกครองผนึกสมุทรในยุคที่รัฐม่วงครามรุ่งโรจน์ ก็ราวกับเป็นภาพลวงตา
นี่ไม่ใช่พลังกาลเวลาที่บริสุทธิ์ นี่คือแผนการที่ปลัดเขตปกครองใช้ก่อนหน้านี้ ดึงช่วงเวลาหนึ่งออกมาจากแม่น้ำกาลเวลา ผสานกับเขตปกครองผนึกสมุทรในโลกภายนอก กระตุ้นรูปสลักบนใบหน้าตนจนกลายเป็นการกลับมาจากห้วงบรรพกาล
สนับสนุนมัน สะกดไปทางแม่น้ำยมโลก
แม่น้ำยมโลกโหมคลื่น ปรากฏเค้าลางว่าจะถูกตัดขาด ยิ่งมีความเหือดแห้ง น้ำในแม่น้ำลดลงอย่างเห็นได้ด้วยตาเนื้อ
เขตปกครองผนึกสมุทรในสมัยก่อน ปรากฏขึ้นในแสงสีทองเวลานี้ ราวกับจะมาเยือนโลกวิญญาณบรรพกาล และใช้สิ่งนี้อุดปากของจักรพรรดิวิญญาณบรรพกาล เพิ่มโอกาสหนีให้ปลัดเขตปกครอง
“ที่นี่ ทุกสิ่งเป็นอาหาร”
จิตเทพราบเรียบ แผ่ไปรอบทิศ ยิ่งมาพร้อมความคล้ายคลึงกับราชโองการ สื่อไปทางทะเลแสง
วินาทีถัดมาเขตปกครองผนึกสมุทรโบราณในทะเลแสง ก็ไม่อาจรักษาความชัดเจนไว้ได้ เริ่มสลัวเลือนราง
แม่น้ำสายใหญ่ในนั้นพังทลาย ภูเขาถล่มทรุด ขณะที่ส่งเสียงครืนครัน วิญญาณร้ายบรรพกาลนับไม่ถ้วนที่อยู่รอบๆ ก็พุ่งหวีดหวิวมาพร้อมความละโมบและบ้าคลั่ง
พุ่งไปที่ทะเลแสงอย่างไม่กลัวว่าจะเป็นหรือตาย ไม่ว่าปลัดเขตปกครองจะปะทุ จะทำลายล้างอย่างไร ก็ไม่มีประโยชน์ จำนวนของวิญญาณร้ายมากเกินไป
พวกมันพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง ปกคลุมทะเลแสง โหมบ่าเข้าไปในภาพเขตปกครองผนึกสมุทรโบราณขณะที่กำลังแตกละเอียด ภาพเดียวกับที่เขตปกครองผนึกสมุทรโลกภายนอกได้พบเจอก่อนหน้านี้ไม่ผิดเพี้ยน
วงจรมรรคาสวรรค์ ตอนนี้ก็เหมือนโคจรไปรอบหนึ่งแล้ว
หลังจากที่วิญญาณร้ายบรรพกาลเหล่านั้นทะลวงเข้าไป ก็เริ่มกลืนกิน
จะแผ่นดินก็ดี บนท้องฟ้าก็ดี สรรพชีวิตและสรรพสิ่ง ล้วนเป็นเป้าหมายการกลืนกินของพวกมัน
เพราะจักรพรรดิบอกกับพวกมันว่า สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นอาหาร!
แม่น้ำยมโลกตีเกลียว แรงดึงดูดเพิ่มมากขึ้น
ปลัดเขตปกครองมองทั้งหมดนี้ ถอนใจออกมาเสียงหนึ่ง
เสี้ยวหน้าของเขาปริแตกออกมาจากการถอนหายใจชิ้นหนึ่ง รูปร่างไม่สมประกอบ หลังจากหลุดร่วงลงมา ก็กลายเป็นแสงสีทองสายหนึ่งพุ่งไปยังท้องฟ้าที่มัวหมอง
ชั่วพริบตา แสงสีทองนี้ก็แหวกท้องฟ้า หลังจากสลายไป ฟ้าดินก็สั่นสะเทือน ส่งเสียงเปรี๊ยะดังสนั่น แสงสีทองผืนหนึ่งเจิดจ้าที่เส้นขอบฟ้า ท้องนภามีปลายกระบี่เล่มหนึ่งปรากฏขึ้น
กระบี่สีทองเล่มนี้ราวกับทะลวงมาจากด้านนอกแผ่นฟ้า ผ่าท้องนภา พุ่งครืนครันมายังแผ่นดินใหญ่
ลงมาที่ยอดเขาแห่งหนึ่งบนพื้นในโลกวิญญาณบรรพกาล
ยอดเขาพังถล่ม มีเพียงกระบี่สีทองหมื่นจั้งที่ตั้งตระหง่าน กลายเป็นจุดสนใจ
พื้นดินโหมลมคลั่ง วิญญาณร้ายนับไม่ถ้วนเปล่งคำราม จักรพรรดิวิญญาณบรรพกาลไม่ได้สกัดทัดทาน
ไม่นานนัก เสี้ยวหน้าปลัดเขตปกครองก็มีชิ้นที่สอง ชิ้นที่สาม ชิ้นทีสี่…หลุดร่วงลงมา
พวกมันทั้งหมดลอยขึ้นไปกลางอากาศ เสียงม่านฟ้าพังทลายดังขึ้นไม่หยุด กระบี่สีทองหมื่นจั้งเล่มที่สองก็ร่วงลงมาจากฟ้าราวสายอัสนีฟาด หลังจากปักลงบนผืนแผ่นดิน เล่มที่สามสี่ห้าก็ร่วงลงมาทั้งหมด
ขณะที่เศษเสี้ยวหน้าปลัดเขตปกครองหลุดร่วงลงมาเรื่อยๆ จวบจนกลายเป็นชิ้นๆ ก็ลอยขึ้นกลางอากาศพร้อมกัน
ทั้งหมดสามสิบสามชิ้น กลายเป็นกระบี่สามสิบสามเล่ม
ผืนฟ้าสั่นไหว ปักลงมาบนผืนแผ่นดินไม่ขาดสาย
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในชั่วพริบตา ฟ้าดินจืดจางลงอย่างรวดเร็ว กระบี่ขนาดใหญ่สามสิบสามเล่มปักเป็นวงกลม ครอบคลุมพื้นที่นับหมื่นจั้ง จุดศูนย์กลางคือจุดที่เสี้ยวหน้าปลัดเขตปกครองแตกเป็นชิ้นๆ
กระบี่สามสิบสามเล่มนี้ต่างเปล่งแสงสีทองเจิดจ้า กลายเป็นสายใยสีทอง ถักทอกันขึ้นมา
กลายเป็นค่ายกลชั้นยอดค่ายหนึ่ง