ผู้กล้าเหนือกาลเวลา - บทที่ 698 วิชาเทพ ควบคุมชะตา!
บทที่ 698 วิชาเทพ ควบคุมชะตา!
ดาวพระจันทร์สีชาดตอนนี้คำรามลั่นขึ้นมา
จากเสียงของจางซืออวิ้นที่ดังสะท้อนแปรเปลี่ยนเป็นเสียงแว่วนับไม่ถ้วน ดังก้องไปทั่วทุกทิศราวสายฟ้าฟาด ดังมาไม่หยุด
เหมือนสรรพชีวิตทั้งหลายกำลังพึมพำ สั่นสะท้านจิตใจของสวี่ชิง และทำให้นายกองและพวกรัฐทายาทหวั่นไหว
และสามารถตะโกนชื่อของสวี่ชิงออกมาได้ นี่ก็มากพอแล้วที่จะอธิบายว่าจางซืออวิ้นในตอนนี้ แม้เขาจะเป็นร่างแยกของชื่อหมู่ แต่ความทรงจำของเขาก็ยังคงรักษาไว้
ทั้งสองผสานเป็นหนึ่งเดียวกัน
“ชื่อหมู่ไม่ได้กลืนกินสติการรับรู้ของเขา แต่เก็บเอาไว้ สร้างเป็นตัวตนที่เป็นอิสระ!
“ดังนั้นเขาคือจางซืออวิ้น และคือชื่อหมู่ด้วยเช่นกัน!”
นายกองเอ่ยอย่างเคร่งขรึม
“และเขาในสภาวะนี้ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม!”
พวกรัฐทายาทในดวงตาประกายวาววับฉายวูบ ในพริบตาที่จ้องมองประตูวังจันทรา น้องเก้าก็เป็นคนแรกที่เคลื่อนไหว
เขาทั้งตัวแปรเปลี่ยนเป็นแสงกระบี่ รัศมีอำนาจท่วมท้น พุ่งตรงไปยังประตู ทุกที่ที่ผ่าน มิติแตกละเอียดตลอดทาง
รัฐทายาทกับองค์หญิงหมิงเหมยก็พุ่งออกไปเช่นกัน จากนั้นก็เป็นน้องหญิงห้าและน้องแปด
สวี่ชิงกับนายกองอยู่หลังสุด ตอนนี้ก้าวขาพุ่งออกไปเช่นกัน
ในเมื่อประตูวังจันทราเปิดเองเช่นนี้ เช่นนั้นสำหรับคนทั้งหลายแล้ว แม้ในนั้นจะอันตราย แต่เส้นทางนี้ในเมื่อเดินมาจนถึงตอนนี้แล้ว จะหยุดลงเพราะการปรากฏตัวขึ้นของจางซืออวิ้นได้อย่างไร
เพียงพริบตา คนทั้งหลายก็เข้าไปใกล้ประตู
ขณะเดียวกันนั้น ดอกพลับพลึงแดงกลางทะเลแสงจันทร์ในประตู จางซืออวิ้นที่สวมชุดสีแดงมองคนทั้งหลายที่อยู่นอกประตู สีหน้าสงบนิ่ง
แสงจันทร์สาดส่อง ท่ามกลางระลอกแสง ใบหน้างดงามเลิศล้ำขององค์ท่านฉายความสูงส่ง ตอนนี้ยกมือขวาขึ้นอย่างช้าเนิบ
มือนี้ขาวเนียนสะอาดราวหยก สมบูรณ์แบบไร้รอยด่างพร้อย อีกทั้งไม่มีลายฝ่ามือ
ลายฝ่ามือเป็นส่วนหนึ่งของชะตาชีวิต แต่สำหรับระดับขั้นชีวิตของเทพเจ้าแล้ว เหล่าองค์ท่านอยู่เหนือชะตาชีวิต
“วิชาเทพ…”
จางซืออวิ้นเอ่ยเสียงแผ่วเบา นิ้วโป้งขวาที่ยกขึ้นโค้งแตะไปยังข้อนิ้วชี้แรกเบาๆ
ทันทีที่สัมผัสกัน เสียงเหมือนน้ำหยดก็ดังกังวานออกมา สุดท้ายแปรเปลี่ยนเป็นตัวอักษร ดังสะท้อนมาในใจพวกสวี่ชิง
“ควบคุมชะตา”
สายลมแผ่วๆ พัดมา ทำให้เกิดระลอกคลื่นทะเลแสงจันทร์ ซัดมายังร่างของพวกรัฐทายาทที่เหยียบย่างเข้ามาในวังจันทรา ขณะเดียวกับที่พัดเสื้อผ้าเส้นผมของพวกเขาปลิวพริ้ว ก็สั่นคลอนชะตาชีวิตของพวกเขา
น้องเก้าที่อยู่หน้าสุดร่างพลันสั่นสะท้าน ทั้งตัวหยุดชะงัก ไม่อาจก้าวไปข้างหน้าได้อีกแม้เพียงครึ่งก้าว และร่างของเขาในเสี้ยวขณะนี้ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอันน่าตื่นตะลึง
บนร่างของเขามีภาพซ้อนทับนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น!
ภาพเหล่านี้ล้วนเป็นอดีตของเขา ในนั้นรวมไปด้วยความเจ็บปวดและความทรมานหลังจากที่เขาถูกควบคุม และรวมไปด้วยความสุขความงดงามก่อนที่บิดาของเขาจะแตกดับ ตลอดจนการฝึกบำเพ็ญ
อดีตทุกอย่างไม่มีการปกปิดใดๆ ทั้งสิ้น ล้วนปรากฏขึ้นมาบนตัวเขาทั้งหมด กลายเป็นภาพแต่ละฉากๆ ซ้อนทับกับร่างของเขา
นั่นคือชะตาชีวิตในอดีตของเขา
ไม่ใช่แค่ทางน้องเก้าเท่านั้นที่เป็นเช่นนี้ รัฐทายาทกับองค์หญิงหมิงเหมย ทั้งยังมีองค์หญิงห้าตลอดจนน้องแปด บนร่างของพวกเขาในเสี้ยวขณะนี้ล้วนมีภาพในอดีตปรากฏขึ้น
อดีตมากมายปรากฏบนร่างของพวกเขาในพริบตา เหมือนว่าทุกคนกลายเป็นหนังสือเล่มหนึ่ง อดีตแต่ละฉากๆ กลายเป็นหน้าหนังสือ!
สวี่ชิงและนายกองก็ไม่มีข้อยกเว้น
นายกองทั่วทั้งร่างสั่นสะท้าน ภาพบนร่างปรากฏขึ้นไม่หยุด นับตั้งแต่เสี้ยวพริบตาที่เขาเกิดมาจนถึงตอนนี้ แต่ว่าในนั้นไม่รวมถึงชาติก่อน มีแค่ชาตินี้เท่านั้น
สวี่ชิงเองก็เช่นกัน ทุกอย่างที่เขาประสบตั้งแต่เด็กจนโตล้วนปรากฏออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
ทุกข์สุขพลัดพรากอยู่ร่วม ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนปรากฏออกมาหมด
แต่สวี่ชิงในตอนนี้ไม่มีทั้งแรงกายและแรงใจขบคิดเรื่องนี้ ความรู้สึกที่ภาพในอดีตเหล่านั้นปรากฏออกมา ทำให้ในใจเขาเต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลายมากมาย
ภาพนี้ไม่ใช่วิชาของผู้บำเพ็ญแล้ว แต่เป็นความสามารถของเทพเจ้า
จางซืออวิ้นสีหน้ายังคงเหมือนเดิม ในขณะที่มองไปยังคนทั้งหลาย นิ้วโป้งขององค์ท่านก็ยกขึ้น โค้งแตะไปยังข้อนิ้วชี้ที่สอง ทันทีที่สัมผัส เสียงของน้ำที่หยดลงก็ดังสะท้อนก้องมาอีกครั้ง
ลมแรงขึ้น
ชะตาชีวิตแผ่ระลอกคลื่นอีกครั้ง
ไม่สามารถขัดขืนได้ ยากที่จะหลีกหนี
อยู่ในมือของเทพเจ้า ชะตาชีวิตเหมือนกับของเล่นชิ้นหนึ่ง ถูกองค์ท่านปรับแต่งได้ตามใจชอบ เหมือนกับตอนนี้…จากการแตะมาของนิ้วโป้งองค์ท่าน จากเสียงดังสะท้อนของเสียงน้ำหยด…
คนทั้งหลายมีสายฟ้าฟาดผ่าเปรี้ยงในใจ ราวสายฟ้านับหมื่นนับแสนปะทุขึ้นมาจากในใจพวกเขา ระลอกคลื่นอารมณ์ที่เกิดขึ้นฉีกทึ้งอดีต ทำให้ภาพในอดีตของแต่ละคนซัดโหมพลิกตลบทันที
เหมือนถูกเปิดอ่าน
กลิ่นอายเทพเจ้า พลังอำนาจควบคุมสูงสุดแผ่ลามไปในโลกทั้งใบ ณ เสี้ยวขณะนี้
รัฐทายาทดวงตาแดงก่ำ ร่างกายสั่นสะท้าน คิดอยากจะดิ้นรน พี่น้องของเขาก็เช่นกัน แต่ก็ไร้ประโยชน์ ชะตาชีวิตในอดีตของตนยังคงถูกเปิดอ่านต่อไป
มีเพียงน้องเก้าทางนั้น กลิ่นอายบนร่างเดือดพล่าน การพลิกของหน้าหนังสือช้าลง แต่ก็ยังคงไม่อาจหยุดได้เช่นเดิม
นายกองและสวี่ชิงติดที่พลังบำเพ็ญ ตอนนี้ก็ยากที่จะสกัดกั้นเช่นกัน
และจากการที่ความทรงจำของคนทั้งหลายถูกพลิกอ่าน ไม่นานนักภาพในอดีตแต่ละภาพๆ ก็เหมือนถูกฉีกจากหนังสือ ลอยไปจากร่างของพวกเขา พุ่งตรงไปหาจางซืออวิ้น
ภาพในอดีตที่ถูกฉีกเหล่านี้ ไม่มีข้อยกเว้น ต่างเป็นช่วงเวลาที่เจ็บปวดที่สุด ทุกข์ทนทรมานที่สุดในชีวิตของพวกเขา
อย่างพวกรัฐทายาท ภาพที่ถูกฉีกไปคือภาพแต่ละฉากๆ ที่กลืนกินเลือดเนื้อของพี่น้องตัวเอง เป็นภาพที่พวกเขาถูกควบคุมอย่างอเนจอนาถน่าเวทนาที่สุด และยังมีภาพที่ครวญคร่ำคำรามจากสภาวะห้วงอารมณ์ที่อยู่ในช่วงสุดโต่งที่สุดในชีวิตของพวกเขา
นายกองทางนั้นก็สั่นสะท้านเช่นกัน อดีตที่ถูกฉีกทึ้งไปของเขา ส่วนมากล้วนเป็นภาพที่เขาหิวโหยในยามปลดผนึก และในภาพมากมายนั้น มีบางภาพที่คนอื่นไม่รู้จำนวนหนึ่งด้วย
ยกตัวอย่างเช่นหนึ่งในนั้น นายกองกำลังร้องไห้ เขาเดินอยู่ในความมืด เสียงร้องไห้ดังสะท้อนก้อง เจ็บปวดทุกข์ทนแทบขาดใจ
ส่วนสวี่ชิง สีหน้าของเขาบิดเบี้ยว เส้นเลือดที่ขมับปูดโปน ลมหายใจหอบถี่ ความเจ็บปวดที่ถูกฉีกความทรงจำทั้งเป็นในตอนนี้เทียบไม่ได้กับภาพหนึ่งในอดีต
ภาพฉากนั้นเป็นภาพในป่า ท้องฟ้าสายฝนโปรยปราย เขาคุกเข่าอยู่บนพื้น ส่งเสียงคร่ำครวญเจ็บปวด นั่นคือความสิ้นหวัง นั่นคือความทุกข์ทนทรมาน นั่นคือความคลุ้มคลั่ง
ในภาพนั้นยังมีถังหูลู่สีเลือดไม้หนึ่งด้วย
ความทรงจำนี้เป็นเรื่องที่สวี่ชิงไม่อยากจะนึกถึงที่สุด นั่นคือในเสี้ยวขณะที่พี่ชายเขาปรากฏตัวในมณฑลรับเสด็จราชัน บอกทุกอย่างกับเขา
ในตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่จิตใจของเขาพังทลายแหลกสลายที่สุดตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้ของสวี่ชิง
เทียบกับเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ตอนเด็กของเขา หรือชีวิตที่ทุกข์ทนล้วนไม่ควรค่าแก่การพูดถึง และความทรงจำนี้ตอนนี้ถูกฉีกออก แปรเปลี่ยนเป็นภาพพุ่งตรงไปยังจางซืออวิ้นทางนั้น
ไม่นานนัก ช่วงเวลาที่เจ็บปวดทุกข์ทนทรมานที่สุดในความทรงจำของคนทั้งหลายล้วนปรากฏขึ้นรอบกายจางซืออวิ้น กลายเป็นภาพแต่ละฉากๆ หมุนวนไม่หยุด
“คนทั้งหลายเจ็บปวดเป็นเพราะมีความงดงาม ดังนั้นจึงมีการเปรียบเทียบ…”
จางซืออวิ้นเอ่ยเสียงแผ่วเบา มือขวาที่ยกขึ้น นิ้วโป้งข้างนั้นโค้งแตะไปยังข้อนิ้วแรกของนิ้วกลางเบาๆ
เสียงใสกังวานดังในฟ้าดิน สะท้อนไปในใจของคนทั้งหลายแปรเปลี่ยนเป็นลายคลื่น ก่อเป็นลมพายุ หอบม้วนไปทั่วทั้งร่าง
สุดท้ายกลายเป็นเสียงระเบิด กลายเป็นการระเบิด กลายเป็นแรงปะทุ
ภาพความทรงจำในอดีตทั้งหมดที่ลอยอยู่ข้างนอกพวกเขา ตอนนี้เริ่มแตกร้าว!
แหลกเป็นเสี่ยงๆ!
ความงดงามทั้งหมด ความสุขทั้งหมด ความหวงแหนทั้งหมด ความรักทั้งหมด…ห้วงเวลาเหล่านี้ อดีตเหล่านี้ล้วนแตกสลาย
เสียงระเบิดตูมๆ ดังมาจากร่างของคนทั้งหลาย ภาพระเบิดเป็นชั้นๆ ก่อเป็นเลือดมายา มาพร้อมด้วยเสียงน่าเวทนาที่ไม่อาจควบคุมได้ของคนทั้งหลาย กระอักสาดไปในฟ้าดิน
และการต่อต้านก็ดำเนินขึ้นอย่างรุนแรง ณ เสี้ยวขณะนี้
รัฐทายาทผมยาวสะบัด ก่อเป็นเงางูนับไม่ถ้วน พุ่งไปในความทรงจำช่วงอดีตของตัวเอง ใช้วิชาเปลี่ยนการรับรู้ความเข้าใจ ผสมปนเปภาพทั้งหมด เพิ่มพลังให้มัน
องค์หญิงหมิงเหมยทั่วทั้งร่างไหลวนไปด้วยแม่น้ำแห่งกาลเวลา ปรากฏในเงาร่างช่วงอดีตของนางไม่หยุด เติมเต็มเข้าไป
น้องแปดผ่านจากอารมณ์ของตัวเอง แช่แข็งความสุข แผ่ลามไปไม่หยุด
ส่วนน้องเก้า วิธีการของเขาง่ายที่สุด ภาพช่วงอดีตมีกระบี่เล่มแล้วเล่มเล่าพุ่งออกมา ฟันไปรอบๆ ไม่หยุด ทุกครั้งที่ฟันกระบี่ล้วนแหลกสลาย แต่ไม่นานนักก็มีกระบี่เล่มใหม่ปรากฏขึ้นอีกครั้ง…
ทั้งยังมีนายกองทางนั้น สีหน้าของเขาบิดเบี้ยว ในดวงตาของเขาปรากฏใบหน้าเหี้ยมเกรียมออกมา ไอเย็นแผ่ออกมาจากร่างของเขา ผนึกอดีต
ส่วนสวี่ชิง นาฬิกาแดดของเขากำลังขยับ เขตแดนจิตลืมเลือนของเขากำลังขยับ อำนาจของเขายิ่งปะทุออกมา ในขณะเดียวกันนี้ เขาก็รู้แล้วว่าทำไมในภาพช่วงอดีตของตัวเองถึงไม่มีเสี้ยวหน้าเทพเจ้า ไม่มีรัชทายาทรัฐม่วงคราม
เพราะภาพของทั้งสอง ไม่รู้ทำไม หลังจากที่จางซืออวิ้นสำแดงวิชาเทพควบคุมชะตาแล้ว กลับมาปรากฏในผลึกวารีสีม่วงของเขา!
และฉากหนึ่งในภาพหลังจากที่สวี่ชิงมองเห็นได้ชัดเจนในตอนนี้ ความทรงจำอันงดงามที่ผุดขึ้นในสมองของเขาก็ระเบิด ส่งเสียงดังยิ่งกว่าเดิม
ภาพแรกเป็นในที่รกร้างถ้ำยาจก สวี่ชิงมองท้องฟ้า เสี้ยวหน้าเทพเจ้าลืมตาทั้งสอง จ้องมองเขา…
และภาพที่สองเป็นเมืองเป็นเอก…
ท้องฟ้าโปรยปรายไปด้วยฝนเลือด ตัวเองในวัยเด็กนั่งอยู่บนพื้น กอดเข่าร้องไห้
ก่อนหน้านี้ ในความทรงจำของสวี่ชิง ตัวเองในตอนนั้นร้องไห้อยู่นานมาก จากนั้นก็ไปจากเมืองที่หายไปแห่งนี้
แต่ภาพในผลึกวารีสีม่วง เขามองเห็นจุดจบที่ต่างออกไป!!
ในภาพ บนฟ้ามีคนที่คุ้นเคยคนหนึ่งยืนอยู่ คนคนนี้เดินมาทีละก้าวๆ เดินมาข้างหน้าตัวเองที่กำลังร้องไห้อยู่ ยกมือขึ้น ลูบศีรษะของตนอย่างแผ่วเบา
“น้องพี่ อย่าร้องไห้”
ทันทีที่คำนี้ดังออกมา สวี่ชิงมองเห็นตัวเองเมื่อวัยเด็กในภาพ เสียงบึ้มดังขึ้น ศีรษะระเบิดแหลก ร่างกลายเป็นเศษเนื้อเละๆ กระจายเกลื่อนไปทั่วพื้น
ตาย
สวี่ชิงทั่วทั้งร่างสะท้านเฮือก ในยามที่จิตใจเกิดระลอกคลื่นลูกมหึมา หน้าหนังสือทั้งหมดที่อยู่นอกร่างของเขาตอนนี้ถูกฉีกละเอียด ที่เหลืออยู่ในตอนท้ายสุด…มีเพียงหนังสือที่ว่างเปล่าไร้หน้าหนังสือ
คนอื่นๆ ต่อให้ต่อต้าน แต่สุดท้ายก็ยากจะหนีจุดจบนี้!
“ไม่มีความงดงาม ก็ไม่มีการเปรียบเทียบ เช่นนี้แล้ว…คนทั้งหลายก็จะไม่มีนิยามของความรู้สึกที่เจ็บปวด”
ใต้แสงจันทร์ สีหน้าของจางซืออวิ้นสงบนิ่งมาก ไม่มีระลอกคลื่นอารมณ์ใดๆ ใบหน้างดงามเหมือนรูปสลัก เขาจ้องมองคนทั้งหลายอย่างเย็นชา นิ้วโป้งขวาโค้งแตะไปยังข้อนิ้วที่สองของนิ้วกลาง
เสี้ยวขณะต่อมา ภาพในอดีตที่เจ็บปวดทุกข์ทรมานที่สุดที่วนเวียนอยู่รอบกายคนทั้งหลายก็พลันหยุดลง ไม่หมุนขยับอีก แต่กลับสั่นสะเทือนขึ้นมา
และจากการสั่นสะเทือนนี้ พวกมันถูกคัดลอก ต่างมีภาพที่เหมือนกันทุกประการปรากฏขึ้น
มองภาพเหล่านี้ ใบหน้าของจางซืออวิ้นฉายรอยยิ้มบางๆ นิ้วโป้งยกขึ้น แตะไปยังข้อนิ้วแรกของนิ้วนาง เสี้ยวพริบตาต่อมา…ภาพเหล่านั้นพลันพุ่งออกไป ตรงไปยังพวกสวี่ชิง
ต่างหวนกลับคืนไป ทำให้หนังสือว่างเปล่าที่แหลกสลายของคนทั้งหลายถูกเติมเต็มอย่างรวดเร็ว กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง
เพียงแต่…ในอดีตที่สมบูรณ์เหล่านี้ไม่มีความงดงาม ล้วนเป็นความทรงจำที่พวกเขาเจ็บปวดทรมานที่สุด ความทรงจำนี้แทนที่อดีตทั้งหมดของพวกเขา
ทุกชั่วขณะ ทุกเสี้ยวเวลาล้วนปะทุอยู่ตลอด จวบจนกระทั่งแหลกสลายไป
นี่ก็คือพลังของเทพเจ้า
นี่ก็คือวิชาเทพ