ผู้กล้าเหนือกาลเวลา - บทที่ 756 พันธนาการพิฆาตหยินหยางวิญญาณปรโลก
บทที่ 756 พันธนาการพิฆาตหยินหยางวิญญาณปรโลก
เสียงคำสาปเต๋าก่อเป็นหมอกสีดำเป็นกลุ่มๆ ลอยออกมาจากปากรูปสลักหัวโล้นเหล่านั้น สอดประสานกันกลางอากาศ ก่อเค้าเป็นอักขระยันต์สีดำแผ่นหนึ่ง
อักขระยันต์นี้เป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ฝนกระทบไปบนนั้น ทั้งยังมีหมึกหยดจากยันต์ ส่งกลิ่นเน่าเปื่อยและเย็นเยือกน่าขนลุกออกมา
จากนั้นก็พุ่งมาทางสวี่ชิงทางนี้อย่างรวดเร็ว จะผนึกเขาเอาไว้
ช่วงวิกฤตอันตราย ดวงตาทั้งสองของสวี่ชิงดำสนิททันที พิษต้องห้ามก่อขึ้นในดวงตา สายตาที่มองไปสาปได้ทุกสิ่ง มองไปทางยันต์สีดำที่พุ่งประชิดมา
จ้องมองอยู่หนึ่งอึดใจ ยันต์ขยับไหว แสงหมองหม่น มีพิษแผ่ลามอยู่ในนั้น ทำให้มันจำต้องเปล่งแสงเย็นยะเยือกออกมา จะทำการต่อต้าน
จ้องมองสองอึดใจ พิษเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล แผ่หมอกพิษออกมา แปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าผีเหี้ยมเกรียมรางเลือนเป็นดวงๆ กำลังร้องครวญคราง
จ้องมองสามอึดใจ ยันต์ส่งเสียงระเบิดดังลั่น เกิดรอยร้าว เริ่มเน่าเปื่อย แต่ห่างจากสวี่ชิงทางนี้ไม่ถึงสามจั้งแล้ว
พิษในร่างสวี่ชิงปะทุขึ้นทุกด้านในเสี้ยวขณะนี้ ไม่ใช่แค่ดวงตาที่แผ่พิษออกไป ในร่างก็แผ่พิษออกไปเช่นกัน ปกคลุมไปทั่วทุกด้านก่อเป็นลมพายุหอบม้วนไปทางยันต์
เสียงดังมา ยันต์สีดำนั่นเหมือนมีชีวิต ไม่ได้ฝืนที่จะควบคุม แต่ทำการละลายตัวเองไปในพายุ ทำให้เกิดเป็นยันต์จำนวนนับไม่ถ้วน แผ่ลามไปยังถนนทั้งเส้น
มองไกลๆ เหมือนเงินกระดาษโปรยปราย เปิดเส้นทางหยินหยาง พันธนาการวิญญาณทั้งปวง
ฟ้ามืดแผ่นดินดับ
ผนึกทั้งสี่ทิศ ปกคลุมม่านฟ้า ปกคลุมแผ่นดิน ทำให้ทั้งซ้ายขวาของถนนเส้นนี้สกัดกั้นอยู่นอกเมืองหลวง กลายเป็นมิติที่เป็นเอกเทศ
ในมิตินี้กฎเกณฑ์ถูกเปลี่ยน กฎเกณฑ์ได้รับผลกระทบ ทุกสิ่งทุกอย่างแตกต่างจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง
น้ำบนพื้นดินกลายเป็นทะเลสาบไปตั้งนานแล้ว กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ท่วมขาทั้งสองของสวี่ชิง ท่วมถึงเอว คล้ายว่าจะท่วมจมทุกอย่างที่นี่ไปในนั้น
และคำสาปเต๋าเหล่านั้นมีทั้งหมดห้าสิบสองตัวอักษร จำนวนเท่ากับรูปสลักที่อยู่รอบๆ ในขณะที่เพิ่มพลังให้กับที่นี่ รูปสลักทั้งห้าสิบสองตัวก็ลุกขึ้นจากท่านั่งขัดสมาธิ เหยียบหยดน้ำ พุ่งตรงมาหาสวี่ชิง
ทั้งยังมีสิ่งมีชีวิตจากน้ำจำนวนมากที่ปรากฏขึ้นก่อนหน้านี้ พวกมันไม่ใช่ผู้บำเพ็ญ แต่เกิดขึ้นจากพลังวิเศษ จิตสังหารรุนแรง ประชิดมาหาสวี่ชิงจากทั่วทุกด้านแล้ว
และยังมีฝ่ามือที่เกิดขึ้นใต้น้ำ มาพร้อมด้วยการทำลายล้าง มาพร้อมด้วยการสังหาร มาพร้อมด้วยความชั่วร้าย คว้ามาหาสวี่ชิงทางนี้
กวาดตามองไปการสังหารฉากนี้บีบประชิดเข้ามาหาสวี่ชิงจากท้องฟ้า จากพื้นดิน จากซ้ายขวา จากทั่วทุกสารทิศ
น้ำฝนแรงขึ้น สาดใส่เสื้อและผมของสวี่ชิงชนเปียกชุ่ม
จิตสังหารเข้มข้นขึ้น โจมตีร่างกายและวิญญาณของสวี่ชิง
ถนนเละเขละขละ ปิดบังผืนฟ้าท่วมจมพื้นดิน นี่คือพันธนาการวารีพิฆาตหยินหยางวิญญาณปรโลก
สามารถสำแดงวิชานี้ได้อย่างน้อยๆ ต้องมีพลังบำเพ็ญระดับสมบัติวิญญาณบริบูรณ์ถึงจะได้ อีกทั้งยังต้องร่วมมือกับคนระดับนั้นมากมายวางค่ายกลนี้ อีกทั้งมีความเป็นไปได้มากว่าเป็นระดับหวนสู่อนัตตาลงมือ
มีเพียงทำเช่นนี้เท่านั้นจึงจะสร้างการสังหารเช่นนี้ได้เพียงในพริบตา
อีกทั้ง…อีกฝ่ายเป็นไปได้อย่างมากว่าไม่ได้มาเอง แต่สำแดงวิชาระยะไกล คิดจะรีบสู้รีบจบ สำหรับเส้นทางของสวี่ชิงยิ่งรู้กระจ่างเป็นอย่างดี เส้นทางเส้นนี้ที่เลือกก็จะต้องวางค่ายกลเอาไว้ล่วงหน้าอย่างแน่นอน
ความคิดทุกอย่างนี้ผุดวาบขึ้นมาในหัวของสวี่ชิง สีหน้าของเขาเคร่งขรึมในดวงตาเกิดรอยเย็นเยือก นับจากที่เขาจากแดนใหญ่เซ่นจันทรามา เขาก็ไม่ได้สัมผัสกับวิกฤตอันตรายเป็นตายเช่นนี้มานานแล้ว
อยากจะคลี่คลายมีวิธีที่ง่ายมากๆ วิธีหนึ่ง นั่นก็คือระเบิดดวงตะวันบรรพกาล เพียงแต่ทำเช่นนี้ตัวเองก็ทนรับไม่ได้เช่นกัน และที่สำคัญที่สุดคือ…ระเบิดดวงตะวันบรรพกาลที่นี่ จะส่งผลกระทบต่อเมืองหลวงทั้งเมือง
เรื่องนี้…บางทีอาจจะเป็นหนึ่งในเป้าหมายของอีกฝ่าย
สวี่ชิงหรี่ตา พลังบำเพ็ญในร่างปะทุทันที สมบัติเทพทั้งสามข้างหลังลอยขึ้นอย่างทรงพลัง เตาหลอมในนั้นโคจรดังครืนครันเลื่อนลั่น ก่อเป็นอำนาจเทวะและเปลวเพลิง แผ่ลามไปทั่วทุกสารทิศ
อุณหภูมิสูงแผ่ไปทั่วทั้งมิติทันที น้ำบนผิวน้ำระเหยอย่างรวดเร็วกลายเป็นไอ ร่างของสวี่ชิงในเสี้ยวขณะนี้ก็อาศัยพลังของสมบัติเทพพุ่งขึ้นฟ้า ทันทีที่พ้นจากผิวน้ำ น้ำข้างล่างเขาก็เดือดพล่าน ฝ่ามือพลันยื่นออกมาจากในนั้น ใกล้จะคว้ามาแล้วเต็มที
สวี่ชิงใบหน้าไร้อารมณ์ มือขวายกขึ้น กดไปทางท้องฟ้า
ทันใดนั้นเงาปรากฏขึ้นรอบๆ ทันที มีเขาเป็นศูนย์กลลาง แผ่ไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว จากการแผ่ลามของเขา ไอพลังประหลาดพวยพุ่ง
นั่นคือเงาของสวี่ชิง แผ่ลามมาในเสี้ยวขณะนี้ หลังจากปกคลุมที่นี่ แล้วปลดปล่อยพื้นที่ต้องห้ามที่กลืนกินเข้าไปในมิติแห่งนี้ ปกคลุมม่านฟ้า
ผืนดินมีน้ำ ท้องฟ้ามีเงา สวี่ชิงอยู่ในนั้น
ในเมื่อที่นี่ถูกสกัดกั้นอยู่ข้างนอก กลายเป็นมิติเอกเทศ เช่นนั้นปล่อยพื้นที่ต้องห้ามของเจ้าเงาที่นี่ ย่อมเหมาะสมที่สุด
ใช้พลังเทพเจ้าสยบวิชาเวทผู้บำเพ็ญ เดิมนี่ก็เป็นวิธีการต่อสู้วิธีหนึ่ง
ตอนนี้จากการแผ่ลามของเจ้าเงา ทั้งมิติสั่นคลอน ส่วนเจ้าเงาของสวี่ชิงก็บิดเบี้ยวอย่างรวดเร็ว ก่อเป็นฝ่ามือที่เหมือนกับใต้น้ำ
ฝ่ามือดำสนิทข้างนี้ กลางฝ่ามือจะเห็นต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง มีโลงห้อยอยู่ แกว่งไกวราวนาฬิกาลูกตุ้มส่งเสียงเหง่งหง่าง ราวเสียงพึมพำดังก้อง ในขณะเดียวกับที่ส่งผลกระทบกับคำสาปเต๋ารอบๆ จากจิตสังหารในดวงตาสวี่ชิงที่ระเบิด มือขวาซัดลงมา
ทันใดนั้นฝ่ามือที่เกิดขึ้นจากเงาของเขาพุ่งลงมาจากท้องฟ้า หลังจากทะลุร่างสวี่ชิงก็ปะทะเข้ากับฝ่ามือน้ำที่พุ่งขึ้นมาจากใต้น้ำทันที
เสียงระเบิดดังลั่น แปรเปลี่ยนเป็นคลื่นเสียงสนั่นหวั่นไหวกึกก้อง ในขณะแผ่ลามไปรอบๆ อย่างเลื่อนลั่น ทุกที่ที่ผ่าน ฝนทั้งหมดสลาย สิ่งมีชีวิตจากน้ำที่พุ่งมาเหล่านั้นร่างเกิดลายคลื่น
ส่วนรูปสลักทั้งห้าสิบสองตัวนั้นฝีเท้าที่เคลื่อนไปข้างหน้าต่างหยุดชะงัก
ในขณะเดียวกัน ร่างของสวี่ชิงโค้งเล็กน้อย แผ่นหลังโค้งโก่ง ทั้งคนเหมือนธนูที่พุ่งออกจากสาย ยิงพุ่งออกไป ตรงไปยังรูปสลักเหล่านั้น กริชวัชระที่ลอยฉวัดเฉวียนรอบกายเขาปะทุความเร็ว พุ่งประชิดไปยังสิ่งมีชีวิตจากน้ำที่เกิดลายคลื่นทันที
เพียงพริบตาก็เข้าโรมรันพันตูกัน
เหล็กแหลมภายใต้วิธีหลอมพิเศษของนายท่านเจ็ดพลังน่าตื่นตะลึง ใบหน้าทั้งสามบนนั้นตอนนี้ต่างลืมตา ดวงตาชื่อหมู่ลืมตื่นขึ้น เทพเจ้าแดนเซียนต้องห้ามเช่นกัน การเพิ่มพลังเช่นนี้ทำให้กริชวัชระพลังเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล พุ่งทะลุสิ่งมีชีวิตจากน้ำทีละตัว
ทุกครั้งที่พุ่งทะลุหนึ่งตัวก็แตกสลายหนึ่งตัว อีกทั้งไม่อาจกลับมีชีวิตได้อีก เหมือนสูญเสียซึ่งชีวิต หลายเป็นฝนธรรมดาร่วงหล่น
สวี่ชิงทางนี้ยิ่งแข็งแกร่ง ความเร็วของเขาระเบิดเม็ดฝน รูปทรงเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สมบัติเทพคลังที่หนึ่งข้างหลังระเบิดเสียงสายฟ้าออกมา แยกออกมาเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน ไล่ตามสวี่ชิงมา ทุกสายหลอมไปในร่างท่ามกลางการเคลื่อนไปข้างหน้าของสวี่ชิง
นี่คือพลังต้นกำเนิดเทพ
จากการหลอมรวมของพลังต้นกำเนิดเทพ ร่างของเขาฉีกขาด เลือดเนื้อพอกพูน ร่างสูงขึ้นเรื่อยๆ ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ก่อเป็นร่างมหึมาร่างหนึ่ง!
กายราวจักรพรรดิภูต ศีรษะสวมกวานจักรพรรดิ
แสงทองแสบตาแผ่จากร่างนี้ แปรเปลี่ยนเป็นแสงพรายรุ้งเจ็ดสีรอบๆ
หัวใจเตาหลอมวิถีสวรรค์เต้นตุบๆ ทุกครั้งที่เต้นราวทัณฑ์สวรรค์ ปะทุไฟโชติช่วง เผาทั่วทั้งร่าง
ทั้งยังมีหอกยาวสีดำที่พันล้อมด้วยสายอัสนีนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นมาจากกลางอากาศ สวี่ชิงคว้าเอาไว้ มาปรากฏหน้ารูปสลักตัวหนึ่ง ซัดกวาดออกไป รูปสลักสะเทือนทั้งตัวแล้วแตกสลายทันที แหลกเป็นเสี่ยงๆ ร่วงกราวกระจายไปทั่ว
นี่คือสภาวะเทพเจ้าขั้นที่หนึ่งของสวี่ชิง หลังจากสำแดง กำลังรบของเขาจะเพิ่มอย่างมหาศาล โดยเฉพาะหอกต้องห้ามยิ่งมีพลังน่าหวาดกลัวครั่นคร้าม
ภายใต้ความเร็วของสวี่ชิง ร่างของเขาทะลุทะลวงไปในรูปสลักหลายสิบตัวนั่น ทุกที่ที่ผ่านไม่มีรูปสลักตัวไหนที่ทนการโจมตีได้ ต่างแตกสลายไปหมด
แต่คิ้วของสวี่ชิงกลับค่อยๆ ขมวด
จนกระทั่งรูปสลักตัวสุดท้ายแตกสลายไปใต้ทวนของเขา วิกฤตเป็นตายรุนแรงก็ผุดขึ้นมาในใจสวี่ชิง เขาไม่ลังเลใดๆ ทั้งสิ้น พลันยกมือขวาขึ้นโยนทวนในมือไปยังสุดปลายถนนสุดแรง
ขณะเดียวกันก็เอาเลือดเนื้อของชื่อหมู่ออกมาชิ้นหนึ่ง แล้วกำไว้ในมือ
สายฟ้านับไม่ถ้วนจากทวนยาวสีดำมาพร้อมส่งเสียงหวีดแหลม พุ่งไปในพริบตา เสียงครืนครันเลื่อนลั่นดังก้อง ทวนยาวแทงไปยังกลางอากาศของสุดปลายถนน ไม่อาจทะลุไปได้
ตรงนั้นเป็นกำแพงปราการที่ผนึกเอาไว้ และบริเวณปลายทวนจะเป็นว่ามันตรึงชายเสื้อสีดำเอาไว้ส่วนหนึ่ง
ก่อนหน้านี้มีคนซ่อนตัวอยู่ที่นี่…
ขณะเดียวกัน เสียงเย็นชาเสียงหนึ่งก็ดังก้องไปในถนนเส้นนี้
“พวกเราดูถูกเจ้าไปแล้ว และเจ้าก็ดูถูกคำสาปเต๋าไปแล้วเช่นกัน
“ศาสดาจารย์เต๋าถาม: สิ่งมีชีวิตทั้งสี่ไยแปดเปื้อนแค้นผู้มีหัวตาย ผู้ไร้หัวเป็น ข้าทั้งหลายตอบ เหตุจากรูปเต๋าพันธการกายสวรรค์!”
ประโยคนี้ดังออกมา รูปสลักหัวโล้นสีดำทั้งห้าสิบสองตัวที่สวี่ชิงทำลายเป็นเศษซากก็ปรากฏขึ้นจากทะเลสาบที่ระเบิดข้างล่าง จับกลุ่มเป็นโซ่เหล็กห้าสิบสองเส้นพุ่งตรงมาหาสวี่ชิง ไม่ว่าสวี่ชิงจะหลบหลีกอย่างไรก็ไร้ประโยชน์ ถูกพวกมันรัดพันธนาการเอาไว้
โซ่เหล็กทั้งห้าสิบสองเส้นฝั่งหนึ่งรัดสวี่ชิงเอาไว้ อีกฝั่งจมอยู่ในทะเลสาบ มองไกลๆ ภาพนี้เหมือนกำลังพันธนาการกายเนื้อมารปีศาจเอาไว้
“ศาสดาจารย์เต๋าหลับตาเอ่ยถาม: ลมพิฆาตดาบสังหาร สายวารีทะลักปลิดวิญญา พลังมาจากหนใด ข้าทั้งหลายตอบ วารีแห่งเต๋าผนึกเทพเจ้าได้ทุกองค์!”
ยังไม่ทันจบ จากเสียงที่ดังอีกครั้ง น้ำทะเลสาบเปลี่ยนเป็นเส้นไหมทะลุไปในโซ่เหล็กทุกเส้น พุ่งตรงไปหาสวี่ชิง พันล้อมตัวเขาอีกครั้ง เส้นไหมนี้เป็นภาพมายาแต่สัมผัสได้ สามารถผนึกประสาทสัมผัสเทพทั้งหมด จุดชีพจรลมปราณทุกจุด ยิ่งปิดดวงตาของสวี่ชิง
“ศาสดาจารย์ปิติ ถามขึ้นอีกว่า มีแค้นคือมีเมตตา ตายอย่างไม่เป็นธรรมคือดีงาม ฟ้าดินกลับตาลปัตร ถูกผิดโลกวุ่นวาย จะทำเช่นไร พวกข้าทั้งหลายตอบ มีคำสาปเต๋าตรึงวิญญาณ!”
ตะปูสีดำห้าสิบสองตัวพุ่งขึ้นจากในน้ำ มองให้ละเอียดจะเป็นว่าบนตะปูทุกดอกล้วนมีรูปสลักหัวโล้นสีดำที่ขนาดหดเล็กลงไปหลายเท่านั่งขัดสมาธิอยู่
พวกมันพุ่งไปอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วที่น่าตื่นตะลึง แทงไปทั่วร่างของสวี่ชิง ทุกที่ที่ผ่านล้วนเป็นเส้นลมปราณที่เชื่อมต่อสวี่ชิงกับวิญญาณ นี่คือจะตรึงวิญญาณที่วนเวียนในวัฏจักร
“ศาสดาจารย์หลับตา เอ่ยอย่างเสียดาย ผีทั้งหลายกลับสู่ตำแหน่ง แต่งตั้งเป็นยมบาล หลอมวิญญาณ ห้าอนธการแปดเปื้อน ร้อยเมรัยกรอกลงไป เจ็ดวารีไม่เพียงพอ ทว่าพลังชีวิตไร้ขีดจำกัด กฎเกณฑ์เหล่านี้ล้วนควบคุม”
คำพูดนี้เพียงดังออกมา รอบๆ เกิดปรากฏการณ์วุ่นวาย เงาสรรพชีวิตทั้งหลาย วิญญาณหมื่นเผ่า ล้วนปรากฏออกมา สุดท้ายก็เป็นเส้นหมอกสีดำเป็นกลุ่มๆ รวมเป็นยันต์สีดำที่ปรากฏออกมาในทีแรกนั่น แล้วพุ่งตรงมายังหว่างคิ้วของสวี่ชิงอย่างรวดเร็ว
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือถนนที่ถูกสกัดกั้นจากเมืองหลวงที่สวี่ชิงอยู่สายนี้ หน้าตาของมันสุดท้ายก็เปลี่ยนไป…
นี่ไม่ใช่ถนนแล้ว
นี่เป็นกระดาษยันต์สี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ขยายขึ้นไม่รู้ต่อกี่เท่าแผ่นนั้น!
อักขระมีสองตัว หนึ่งหยินหนึ่งหยาง หนึ่งสว่างหนึ่งมืดมน!
สุดปลายถนนเป็นสุดปลายของยันต์มืดแผ่นนี้ตอนนี้ทางนั้นม้วนขึ้น กระดาษยันต์…กำลังม้วนมาทางสวี่ชิงทางนี้ จะร่วมกับอักขระสีดำข้างหน้า…สะกดเขาเอาไว้อย่างแท้จริง
ความรู้สึกวิกฤตอันตรายเพิ่มขึ้นในใจสวี่ชิงไม่หยุด แต่เขาก็ยังไม่ได้เลือกที่จะระเบิดดวงตะวันบรรพกาล แต่บีบเลือดเนื้อชื่อหมู่ที่อยู่ในมือชิ้นนั้นจนแหลกละเอียด
สมบัติเทพคลังที่สองพลันปรากฏขึ้นข้างหลังเขา แปรเปลี่ยนเป็นหมอกสีดำเข้มข้น เพียงพริบตาก็หุ้มร่างสวี่ชิงไว้ในนั้น แล้วผสานไปในร่างของเขา
เสี้ยวขณะต่อมา…กลิ่นอายน่าหวาดกลัวกลุ่มหนึ่ง จากการทะลักโหมของหมอก ก็แผ่ลามมาจากข้างในอย่างสะท้านฟ้าดิน
ยิ่งมีเสียงคำรามอย่างเจ็บปวดของสวี่ชิง ประดุจเทพมาร ดังออกมาจากในกลุ่มหมอก ทุกที่ที่ผ่าน มิติระเบิด อักขระสั่นสะเทือน ทะเลสาบเกิดคลื่นรุนแรง