ผู้กล้าเหนือกาลเวลา - บทที่ 827 นี่ถึงจะเป็นสวี่ชิง
บทที่ 827 นี่ถึงจะเป็นสวี่ชิง
ชิวเชวี่ยจื่อสังเกตเห็นความเย็นชาในดวงตาสวี่ชิง พอคิดถึงคู่แค้นที่ตายไปก่อนหน้านี้ จึงสูดลมลึก พยักหน้าให้ทันที ร่างโยกบินออกไป นำทางอยู่เบื้องหน้า
สวี่ชิงอยู่ด้านหลัง ติดตามไปด้วยสีหน้าเย็นชา นายกองข้างกายเขา ก็เก็บความเพลิดเพลินเมื่อครู่นี้ลง
แม้ความรู้สึกต่อเผ่ามนุษย์ของเขาจะจืดจางมาก แต่พอได้ยินเรื่องเช่นนี้ ก็ยังเกิดความผันผวนขึ้นมาเหมือนกัน
“เผ่ามนุษย์”
นายกองถอนใจเบาอยู่ในใจ
เป็นเช่นนี้ ร่างของพวกเขาทั้งสามคน จึงยิ่งเข้าใกล้ยังส่วนลึกในพื้นที่ต้องห้ามนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
ตำหนักวังสีทองบนท้องฟ้า ชนชั้นสูงนภาคิมหันต์ในนั้น มุมปากยกขึ้น อยู่ในท่าทีเบิกบานใจ
“อย่างนี้จึงจะน่าสนใจหน่อย ถ้าไม่หลั่งเลือด ไม่มีการตาย แล้วจะเรียกว่าออกล่าครั้งใหญ่ได้อย่างไรกัน”
เวลาค่อยๆ ผ่านไป สองวันต่อมา…
ส่วนลึกพื้นที่ต้องห้าม บนต้นไม้สูงใหญ่ขนาดยักษ์ต้นหนึ่ง ร่างของสวี่ชิงรวมถึงนายกองและชิ่วเชวี่ยจื่อยืนอยู่ที่นั่น ไปยังจุดที่ห่างออกไป
ที่นั่น ระหว่างฟ้าดินเต็มไปด้วยปราณหมอกสีดำเบาบาง ทำให้โลกถูกย้อมจนขมุกขมัว บนพื้นดินเป็นผืนป่าที่แห้งเหี่ยว ประดุจภูตผีปีศาจที่อยู่ในความมืดนี้
และถัดจากป่าผืนนี้ ก็เป็นยอดเขาสูงต่ำสลับกันหลายลูก ราวกับมังกรที่หลับใหล ซึ่งรวมตัวเป็นทิวเขายิ่งใหญ่จากทั้งหมดยี่สิบเจ็ดลูก
พาดข้ามกว่าครึ่งพื้นที่ต้องห้าม
และภายในยังมีอีกหลายลูก แฝงไว้ด้วยเปลวเพลิงสีดำ พ่นออกมาเป็นระยะ ขณะที่หมอกดำพ่นออกพันล้อมรอบ ก็มีหินหนืดสีดำทะลักออกมาด้วย
“ที่นั่นคือภูเขาต้องห้ามของพื้นที่ต้องห้ามผืนนี้”
ชิวเชวี่ยจื่อเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ
สวี่ชิงสัมผัสได้ถึงความร้อนที่แทรกอยู่ในสายลม หรี่ตาลง
เขาเคยเห็นพื้นที่ต้องห้ามมาหลายที่ ปกติแล้ว ล้วนจะมืดครื้มเป็นหลัก แบบที่เป็นภูเขาไฟเหมือนพื้นที่ต้องห้ามนี้ ก็เพิ่งจะเคยพบเป็นครั้งแรก
“สิบลูกด้านท้าย สามารถูกผู้เข้าร่วมการออกล่าครั้งใหญ่ทั้งหมดแย่งชิงได้ แต่ด้านหน้าสิบเจ็ดลูก คือที่ถูกภายในกำหนดไว้แบบที่ข้าบอกก่อนหน้า”
“ส่วนลูกที่ถูกจัดไว้ให้บุตรจักรพรรดิคนโตเผ่ามนุษย์ คือ…ลูกที่เก้า”
ชิวเชวี่ยจื่อยกมือ ชี้นิ้วไปเบื้องหน้า
สวี่ชิงสายตามองไป ในกลุ่มภูเขา เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายมหาศาล มาจากผู้เข้าร่วมการออกล่าครั้งใหญ่ทั้งหมดที่มารวมตัวกัน
บนยอดเขาทุกลูกล้วนมีอยู่ โดยเฉพาะสิบลูกด้านหลัง กลิ่นอายซับซ้อนอย่างมาก
ยอดเขาที่ชิวเชวี่ยจื่อชี้ไปก็เป็นเช่นนี้
นอกเหนือจากนี้ กลิ่นอายเหล่านี้ก็ยังให้ความรู้สึกเหมือนจะชักดาบฟาดฟันกันได้ตลอดเวลาด้วย ทว่าก็เหมือนถูกข่มเอาไว้ ไม่ได้ลงมือกันทันที
“ยังมีเวลาอีกหนึ่งวัน ภูเขาต้องห้ามของที่นี่ ก็จะถูกยกขึ้น พอถึงตอนนั้น การต่อสู้และแย่งชิงที่สับสนอลหม่านก็จะระเบิดขึ้น”
ชิวเชวื่ยจื่อดวงตาเผยปณิธานต่อสู้ ยอดเขาของเขาตอนนี้ถูกชิงไปแล้ว เวลานี้อยู่กับสวี่ชิง
เขาไม่กล้าแย่งจากสวี่ชิงทางนั้น ดังนั้นเป้าหมายของเขา คือภูเขาต้องห้ามทางนี้
และระหว่างทาง เขาเองก็อ้อนวนอย่างเกรงใจ ถ้าหากตนเองสามารถแย่งชิงมาได้ลูกหนึ่ง หวังว่าสวี่ชิงจะไม่ทำให้ลำบากใจ
ด้วยเหตุนี้ สวี่ชิงยอมรับ แม้ว่าเขาจะต้องการภูเขาต้องห้าม แต่ข้อมูลของชิวเชวี่ยจื่อเองก็มีคุณค่าด้วยเช่นกัน
“สหายเต๋าสวี่ พวกเราแค่รออีกวันเดียวก็พอแล้ว”
พลังบำเพ็ญในร่างชิวเชวี่ยจื่อหมุนเวียน ดวงตาเผยประกาย ในแผนการเขา ไม่มีเรื่องลงมือแย่งชิงในตอนนี้เลย เพราะเขารู้สึกว่าไม่มีความหมาย แย่งมาได้ก็ไม่มีประโยชน์ เวลาหนึ่งวันที่ต้องอยู่ในนั้น จะทำให้เกิดการล้อมโจมตี
เมื่อเป็นเช่นนี้ ความเสี่ยงจึงยิ่งสูง ความยากก็ยิ่งสูงด้วยเช่นกัน
“แต่ถ้าวันสุดท้ายผ่านไป ตอนที่ยอดเขาทั้งหมดสามารถูกชิงไปได้ พวกเขาพุ่งออกไป หลังจากแย่งยอดเขาเป้าหมายได้แล้ว สามารถเลี่ยงออกมาได้ทันที”
“เมื่อเป็นเช่นนี้ โอกาสสำเร็จก็จะสูงยิ่งขึ้น ถึงอย่างไรตอนนั้นยอดเขาอื่นๆ ก็คงถูกชิงไปหมดแล้ว ดังนั้นก็จะกระจายเป้าหมายของทุกคนออกจากกัน”
สวี่ชิงมองไปภูเขาลูกที่เก้า สายตาย้ายออกไปมองยอดเขาอื่น ความเย็นชาในดวงตาก็รุนแรงขึ้น เอ่ยขึ้นเสียงเรียบว่า
“ไม่จำเป็นต้องยุ่งยากขนาดนั้น”
พูดจบ เขาก็กระโจนตัว บินขึ้นท้องฟ้า พุ่งตรงไปยังเทือกเขาด้านหน้า
ด้านหลังเขา ชิวเชวี่ยจื่อสีหน้าเปลี่ยน เขารู้ว่าสวี่ชิงแข็งแกร่งมาก และเห็นมากับตาแล้ว แต่เขาไม่คิดว่าพลังต่อสู้ของอีกฝ่าย จะสามารถเผชิญหน้ากับคนทั้งหมดได้พร้อมกัน
และถ้าทำตามวิธีการของเขา ด้วยพลังของสวี่ชิง สามารถได้รับภูเขาต้องห้ามหนึ่งลูกมาได้แน่ๆ กระทั่งสองลูกเองก็ยังเป็นไปได้ แต่ถ้าหากบุ่มบ่ามพุ่งเข้าไป จะกลายเป็นเป้าของทุกคน ทั้งหมดก็จะเพิ่มตัวแปรขึ้นมาอีก
“นี่…”
ชิวเชวี่ยจื่อร้อนรนขึ้นในใจ พอคิดจะเอ่ยปาก นายกองข้างๆ ก็หัวเราะเสียงเบาขึ้นมา ตอนที่บินออกมาอยู่ข้างตัวเขา ก็ส่งคำพูดมาคำหนึ่ง
“เป้าหมายของเจ้า คือหนึ่งถึงสองลูก แต่เป้าหมายของศิษย์น้องเล็กข้าคือทั้งหมด”
“ทั้งหมดหรือ” ชิวเชวี่ยจื่อสั้นสะท้านในใจ จังหวะที่ปณิธานความพรั่นพรึงปะทุขึ้นมา ร่างของสวี่ชิงก็มาอยู่กลางอากาศแล้ว มือขวายกขึ้นกดไหลซ้าย ดึงออกไปด้านนอก
รูปสัญลักษณ์บนตัวเขา ส่องสว่างวาบในพริบตา ไฟสีดำผืนหนึ่ง ก็ระเบิดขึ้นมาบนตัวสวี่ชิงทันที ก่อตัวเป็นทะเลเพลิง โถมฟ้าแผ่ออกไป
ขณะเดียวกัน จากการปรากฏของรูปสัญลักษณ์ วิหคทองก็พุ่งออกมาจากด้านใน เริงระบำในทะเลเพลิง ส่งเสียงร้องกึกก้องไปทั้งฟ้าดิน
ร่างกายสีดำ รูปร่างพญาหงส์ ขนหางยาวแต่ละเส้นๆ กางแผ่ฟ้าดิน ก่อให้เกิดความสนใจจากผู้บำเพ็ญยอดเขาทั้งยี่สิบเจ็ดลูก
พริบตาที่พวกเขามองไปยังวิหคทองบนท้องฟ้า มือขวาสวี่ชิงก็ตะปบไปยังวิหคทอง
ทันใดนั้นวิหคทองก็แผดร้องรุนแรงขึ้น ร่างกายพุ่งลงเบื้องล่าง ตรงมาทางมือขวาของสวี่ชิงอย่างรวดเร็ว ร่างกายแยกส่วนออกอย่างรวดเร็ว ท้ายสุดตอนที่ปรากฏในมือสวี่ชิง วิหคทองสลายหาย หอกยาวสีดำเล่มหนึ่ง ปรากฏขึ้นระหว่างฟ้าดิน ปรากฏขึ้นบนมือสวี่ชิง
หอกยาวเล่มนี้พอออกไป ฟ้าดินก็เปลี่ยนสี สายฟ้าหลายสายวาดผ่านสี่ทิศราวกับจะฉีกแผ่นฟ้า และยังมีเสียงคำรามต่ำจากความว่างเปล่า เหมือนไม่อนุญาตให้จุติมายังโลก ส่งคำเตือนออกมา
แต่กลับไม่มีประโยชน์ ความเย็นชาในดวงตาสวี่ชิงยิ่งเข้มข้นขึ้น คว้าหอกยาวต้องห้ามในมือแล้วขว้างออกไปทางภูเขาลูกที่เก้า ภายใต้การจับตามองของตำหนักวังสีทอง ท่ามกลางความพรั่นพรึงของชิวเชวี่ยจื่อ และในความผันผวนของผู้บำเพ็ญทั้งยี่สิบเจ็ดยอดเขา
หอกยาวสีดำประดุจพญามังกร นำเอาพลังทำลายล้างสรรพสิ่ง ผ่าม่านฟ้าเป็นรอยยาวสีดำรอยหนึ่ง ราวกับหอกแห่งสวรรค์
สายอัสนีที่แผ่ออกมารอบตัวมัน ไล่ตามมาอย่างรวดเร็วจากทั้งแปดทิศ รวมกันรอบหอกยาว พันล้อมต่อเนื่อง เสริมพลังให้แก่มัน
กระพือลมพายุ ส่งเสียงหวีดแหลมผ่าอากาศ
ทะยานไป…ยังภูเขาลูกที่เก้า
พลังประดุจสายรุ้ง
พริบตาต่อมา หอกนี้ก็ร่อนลงไปบนยอดเขาลูกที่เก้าด้วยสภาวะอหังการไร้เทียมทาน จังหวะที่ปักลงไปในภูเขาต้องห้าม ฟ้าดินก็ลั่นครืนครัน
เสียงดังสนั่นหูแทบดับ ทั้งตัวภูเขาสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง พื้นดินพลิกปะทุ และยังมีแรงกระแทกวงกลมรวมถึงสายฟ้าเส้นโค้งอีกหลายสาย กวาดพัดออกไปรอบทิศโดยมีจุดที่หอกตกเป็นศูนย์กลาง
ทุกจุดที่แล่นผ่าน ผู้บำเพ็ญนับร้อยที่ครองภูเขาแห่งนี้อยู่ แต่ละคนหน้าเปลี่ยนสี มีทั้งคนที่ถอยตัวออก มีทั้งคนที่สีหน้าตกตะลึงโกรธแค้น แต่ก็ยังมีคนที่เพียงขมวดคิ้ว ไม่ได้ทำอะไรด้วย
ผู้บำเพ็ญในยอดเขาอื่น ก็ล้วนจ้องเขม็งมองเข้ามา ในนี้มีไม่น้อยที่สายตาไม่เป็นมิตร
ขณะเดียวกัน เสียงของสวี่ชิงก็ดังก้องมาจากท้องฟ้า
“จงหลบไป”
“หลังจากสามอึดใจ ผู้ที่มีชีวิตในเขาลูกนี้จะดับสลายทั้งหมด”
หนึ่งหอกอหังการ น้ำเสียงเย็นชา สำหรับคนที่อ่อนแอแล้ว อาจจะถูกทำให้หวาดกลัว แต่ในฐานะผู้บำเพ็ญเผ่านภาคิมหันต์ที่เข้าร่วมการออกล่าครั้งใหญ่เหล่านี้ กลับถูกกระตุ้นปณิธานสังหารออกมา
โดยเฉพาะตอนที่พวกเขาเห็นว่า บนท้องฟ้านั้นเป็นเผ่ามนุษย์คนหนึ่ง
ชั่วพริบตา ครึ่งหนึ่งของผู้บำเพ็ญนับร้อยบนภูเขาลูกที่เก้า ก็ลอยตัวขึ้นมาจากตัวภูเขา และมีคำพูดสะท้อนก้องออกมา
“นานแล้วที่ไม่เห็นเผ่ามนุษย์กำเริบเสิบสานเช่นนี้”
“ไม่ได้รู้จักประมาณตนเองเลย”
“ข้าจะคอยดู ไม่หนีไปไหนด้วย ดูว่าเจ้าจะทำให้คนที่อยู่นี้ดับสลายได้อย่างไร”
เสียงสนทนาลอดออกมา เสียงหวีดหวิวดังขึ้นฉับพลัน ตอนที่ผู้บำเพ็ญในเขาลูกนี้เหล่านั้นพุ่งออกมาหาสวี่ชิง สวี่ชิงที่อยู่กลางอากาศ จิตสังหารในตาก็เข้มข้น ยกมือขึ้นกดลงไปกลุ่มผู้บำเพ็ญด้านล่างที่พุ่งขึ้นมา
ท้องฟ้าราวกับมีอัสนียักษ์ระเบิดแตก เสียงสนั่นฟ้าสะเทือนเดิน ภูเขากลับหัวใหญ่โตมโหฬารสามลูก ร่วงลงมาจากในม่านฟ้าอย่างรวดเร็ว
ลูกหนึ่งสีแดงชาดประดุจเลือด ลูกหนึ่งเย็บวาบราวน้ำแข็ง อีกลูกหนึ่งแผดเผาประดุจเปลวเพลิงร้อนแรง
เขาทุกลูก ล้วนเกินกว่าภูเขาต้องห้ามบนพื้นดิน หลังจากที่ปรากฏออกมา รูปร่างคว่ำลงของมันก็ประดุจคมกระบี่ ให้ความรู้สึกคมกริบและไร้เทียมทาน
และยังมีแรงกดดันที่เข้มข้น ระเบิดออกมาจาก วิถีพุทธองค์ปีศาจเพลิงโรยราที่สวี่ชิงเรียนรู้มานั่นเอง
หลังจากปรากฏ เขาคว่ำสามลูกนี้ ก็สะกดทับลงมายังผู้บำเพ็ญเหล่านั้นที่ลอยออกมาโดยมีภูเขาลูกที่เก้าเป็นศูนย์กลาง
แรงกดทับของฟ้าและดินเช่นนี้ ก่อให้เกิดผลลัพธ์คล้ายๆ กับปิดผนึก ทำให้ผู้บำเพ็ญที่อยู่ตรงกลาง บางส่วนที่พลังบำเพ็ญอ่อนแอก็กระอักเลือดสดอกมา
แต่ผู้แข็งแกร่งเองก็มีอยู่ แล้วจำนวนยังไม่น้อยอีกด้วย
มียี่สิบกว่าคน สำแดงวิชาพลังวิเศษยันค้ำแรงกดดันไว้
แต่…วิถีพุทธองค์ปีศาจเพลิงโรยรา ไม่ใช่ไม้ตายครั้งนี้ของสวี่ชิง บทบาทของมันก็แค่ปิดผนึกในระดับหนึ่งเท่านั้น พริบตาต่อมา สองตาของสวี่ชิงก็ดำขลับไปทั้งผืน
ไอพลังประหลาดของพื้นที่ต้องห้าม ปะทุขึ้นฉับพลัน ถูกเขาดึงดูดเข้ามา
บนภูเขาลูกที่เก้า พิษต้องห้ามปะทุขึ้นมาเอง มีคนที่โชคไม่ได้ไปสัมผัสเข้า จึงเปล่งเสียงสะพรึงขึ้นมา จากนั้นก็ตามด้วยเสียงกรีดร้อง
ร่างกายของพวกเขา ภายใต้พิษต้องห้ามของสวี่ชิงในปัจจุบัน ละลายกลายเป็นน้ำเลือดในชั่วพริบตา
ถ้าหากอยู่ที่โลกภายนอก พลังพิษต้องห้ามของสวี่ชิงก็ยังดูปกติ แต่พออยู่ในพื้นที่ต้องห้าม ไอพลังประหลาดของที่นี่เข้ามาสนับสนุนให้แก่มัน!
ดังนั้นหมอกพิษนี้จึงปะทุเป็นหมอกหนา แผ่ออกไปรอบด้านอย่างรวดเร็ว และเพราะการจุติของสามภูเขาก่อสภาพปิดผนึกไว้ หมอกพิษผืนนี้จึงทะลักปกคลุมไปทั้งแปดทิศ
มองไกลๆ ด้านล่างของเขาทั้งสาม บนพื้นแผ่นดิน ปราณหมอกราวกับเป็นเสาขนาดยัก์ ก่อตัวเป็นลมพายุ ด้านในมีเสียงกรีดร้องโหยหวนดังออกมาไม่หยุด
และผนึกของสวี่ชิงยังไม่ใช่เท่านี้ เขาโบกมือขวา ฉับพลันเส้นวิญญาณสีแดงนับไม่ถ้วนพุ่งออกไป พันล้อมอยู่ด้านนอกลมพายุปราณหมอก หมุนวนอย่างรวดเร็ว สกัดกั้นคนที่จะหลบหนีออกมา
เขาต้องการ จะสังหารผู้บำเพ็ญที่อยู่ข้างในเหล่านี้ทั้งเป็น
พิษเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ไอพลังประหลาดพื้นที่ต้องห้ามถูกดึงดูดมาจำนวนมหาศาล และยิ่งเพิ่มการสนับสนุน ก็ยิ่งน่าตกตะลึง
เสียงกรีดร้อง ดังเสียดหูขึ้นเรื่อยๆ เสียงครืนครันเองก็ดังสะท้อนก้อง
จินตนาการได้ว่าผู้บำเพ็ญที่ถูกขังไว้ในปราณหมอก เวลานี้จะต้องรู้สึกสิ้นหวังขีดสุด ขณะที่ร่างกายเน่าเปื่อยอย่างรวดเร็วก็ระเบิดออกทั้งหมด
แต่พิษของสวี่ชิง เป็นพลังแห่งเทพเจ้า ถ้าเงื่อนไขเพียงพอ กระทั่งเทพเจ้าเองก็ยังต้องถูกคุกคาม
แม้ว่าเวลานี้สวี่ชิงจะยังสำแดงออกมาได้ไม่เพียงพอ แต่ภายใต้การสนับสนุนของไอพลังประหลาดพื้นที่ต้องห้ามนี้ เว้นเสียแต่พลังบำเพ็ญจะถึงขั้นมหาขั้นเตรียมสู่เทวะ ไม่เช่นนั้นด้วยการสำแดงพลังในตอนนี้ของเขา ก็ยังคงประหัตประหารได้อยู่ดี
ดังนั้นขั้นตอนนี้จึงไม่คงอยู่นานนัก ท้ายสุดสามภูเขาจากวิถีพุทธองค์ปีศาจเพลิงโรยราแม้จะระเบิดพังทลายกระจัดกระจายสลายหาย พุ่งกระแทกออกไปยังผู้บำเพ็ญสี่ห้าคน
แต่จากการกระจายออกของหมอกพิษ ผู้บำเพ็ญส่วนใหญ่จึงกลายเป็นน้ำเลือดไปหมดแล้ว
มองไกลๆ บนภูเขาลูกที่เก้า มีฝนเลือดชโลมหลั่ง ตัวภูเขาจากสีดำค่อยๆ ย้อมกลายเป็นสีม่วง
น่าขนพองสยองเกล้า
ส่วนที่หนีรอดไปไม่กี่คนนั้น เวลานี้ก็กำลังกรีดร้องโหยหวน รางกายเน่าสลายลงอย่างเห็นได้ด้วยตาเปล่า จนกระทั่งกลายเป็นน้ำเลือด หยดลงไปที่อื่น
สวี่ชิงไม่หันไปสนใจ เวลานี้เดินย่ำอยู่บนอากาศ ขณะที่ในใจผู้บำเพ็ญบนเทือกเขาเกิดความผันผวนมหาศาล เขาเดินไปทีละก้าวๆ เดินไปยังภูเขาลูกที่เก้าที่ฝนเลือดกำลังหลั่งรินและไร้ซึ่งผู้คน เดินไปเบื้องหน้าหอกยาว นั่งลงขัดสมาธิ
สายลมพัดเข้ามา นำพากลิ่นคาวเลือด
สวี่ชิงเงยหน้า สูดลมหายใจลึก
กลิ่นที่คุ้นเคย ทำให้เขาคิดถึงการสังหารในอดีต
แล้วจึงมองไปรอบด้าน
ทั้งสี่ทิศ เงียบสงัดไปทั้งผืน