ผู้กล้าเหนือกาลเวลา - บทที่ 835 การประลองครั้งสุดยอด
บทที่ 835 การประลองครั้งสุดยอด
………………..
สวี่ชิงเข้าประชิด
มองไกลๆ คล้ายเมฆดำทะมึนขนาดมหึมาบดบังท้องฟ้า สีสันมืดมนทำให้รู้สึกถึงลางร้าย
และเมื่อรัฐทายาทหมิงหนานเยื้องกราย ใต้ราตรีอันมืดมิด กลุ่มเมฆก็เริ่มหมุนวน ราวคลื่นในมหาสมุทรถูกพายุพัดปั่นป่วน ภายในมีแสงวาบแวบเหมือนอสรพิษเงินจำนวนมากกำลังร่ายรำในเงามืด สอดประสานกันเป็นอักขระซึ่งเก่าแก่และลึกลับ
ในทันใดนั้น ผืนฟ้าพลันส่งเสียงครืนครันกึกก้อง ดุจเสียงคำรามของสัตว์ร้าย
สัตว์ร้ายตื่นขึ้น!
พายุใหญ่ที่เชื่อมต่อระหว่างสวรรค์และพสุธา เกิดขึ้นอย่างฉับพลันรอบตัวรัฐทายาทหมิงหนาน
ลมพายุดุจคมมีด ฟาดฟันไปทุกทิศทาง พัดเมฆหมอกให้เลือนหาย หอบเอาหินหนืดพวยพุ่งขึ้น ประกอบสร้างเป็นพายุเพลิง
แม้แต่กระดูกมังกรยังถูกพายุโถมถั่งจนโยกคลอน คล้ายจะถูกพายุพัดหายไปได้ในชั่วขณะ
เหล่าผู้บำเพ็ญเผ่ามนุษย์ซ้ำเป็นเหมือนใบไม้ท่ามกลางพายุคลั่ง ถูกลมกรดพัดขึ้นไปข้างบน แล้วก็ตกลงมาอีกครั้ง ภาพความวุ่นวาย กระจัดกระจายไปทั่ว
ส่วนร่างสวี่ชิงที่กำลังมาถึง ยิ่งเป็นจุดสำคัญของพายุนี้ รัฐทายาทหมิงหนานแสยะยิ้มเย้ยหยัน พายุรอบกายเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
ราวกับฟ้าดินกลายเป็นปีศาจร้ายกวาดล้างด้วยพลังทำลายล้าง กลืนกินสวี่ชิงอย่างบ้าคลั่ง
สภาวะเทพเจ้าองค์ที่สี่ของสวี่ชิง เป็นเป้าหมายแรกที่ถูกพายุเข้าปะทะ องค์ชายใหญ่และผู้บำเพ็ญเผ่ามนุษย์ที่อยู่ภายใต้บัญชาของเขา ต่างก็เปลี่ยนสีหน้า
พวกเขาเคยต่อสู้กับรัฐทายาทหมิงหนานผู้นี้มาก่อน รู้ดีถึงความน่ากลัวของเขา ส่วนสวี่ชิงนั้น แม้จะมีพลังไม่น้อย แต่ตอนนี้ร่างของเขาพร่าเลือนเมื่อถูกพายุกลืนกิน โอนเอนไปมาในสายลม ดูเล็กจ้อย
ท่ามกลางพายุ ฝนเพลิงตกกระหน่ำ กลืนกินโลกไว้ในม่านเพลิง
แรงลมโหมคลั่ง ไม่เพียงแต่เมฆหมอกที่กระจายไป พื้นดินยังเกิดหลุมขนาดใหญ่หลายแห่ง พลังเช่นนี้ อำนาจเช่นนี้ ทำให้ทุกสิ่งที่ขวางทางเป็นเพียงเถ้าธุลีเล็กจ้อย เมื่ออยู่ต่อหน้ามัน
แต่ไม่รวมถึงสวี่ชิง
พายุที่กลืนกินเขาไว้ ในวินาทีต่อมาพลังส่งเสียงดังสนั่นหวั่นไหว สะท้อนกึกก้อง พลังลึกลับที่เหนือกว่าพายุ เกิดขึ้นภายใน
นั่นคือดาบเล่มหนึ่ง
ดาบสูงเทียมฟ้า
แสงดาบสีขาวเย็นยะเยือก ตัดกับผืนฟ้าทะมึน เกิดเป็นภาพขาวดำขึ้นมา!
มันระเบิดออกมาจากภายใน กระแทกพายุหมุน สร้างแรงระเบิดเหมือนคลื่นอากาศ
ตู้ม ตู้ม ตู้ม!
แสงดาบปรากฏขึ้น ท้องฟ้าสว่างไสว ทำลายทุกสิ่งในพายุ ฝ่าทะลุออกไป
อีกทั้งยังมีจิตวิญญาณอยู่ภายใน
นั่นคือพลังที่ทะลุผ่านทุกพันธนาการ ทำลายทุกกฎเกณฑ์ บั่นสะบั้นทุกโซ่ตรวน
ผืนฟ้าสั่นสะเทือน เมฆหมอกนับไม่ถ้วนฉีกขาด สร้างรอยแยกตรงยาวอย่างน้อยพันลี้
น่าสะพรึงกลัว
ส่วนพายุก็คล้ายกลายเป็นรูปธรรม พังทลายลงมา แตกเป็นเสี่ยงๆ ลมกรดพัดหวนคืน ฝนเพลิงก็ตกลงมาเหมือนดาวตก
พสุธาปั่นป่วน หุบเหวพันลี้เกิดขึ้นในพริบตา ถ้ามีคนธรรมดาอยู่ที่ขอบเหวและมองลงไป จะเห็นหุบเหวลึกไร้ก้น
พลังการต่อสู้ของมหาขั้นหวนสู่อนัตตา ปรากฏชัด…จากสิ่งนี้
ในพริบตาเดียว เมื่อพายุแตกสลาย เมื่อดาบสวรรค์ส่องแสง สวี่ชิงก็พุ่งออกมาจากภายในราวกับเทพปีศาจ ด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ ทะลวงไปข้างหน้าไม่หยุดยั้ง เพียงเสี้ยวก็มาอยู่ตรงหน้ารัฐทายาทหมิงหนาน
ดวงตาของรัฐทายาทหมิงหนานแสดงความหนักแน่น ปล่อยหมัดลงมา
ท้องนภาร้องคำราม
ร่างของทั้งสองคน ต่อสู้กันบนท้องฟ้า ด้วยความเร็วยิ่งยวด ในระยะเวลาอันสั้นก็ปะทะกันหลายพันครั้ง
ในระหว่างนี้ เสียงลมหายใจของรัฐทายาทหมิงหนานดังขึ้นถึงสิบเจ็ดครั้ง!
ทุกครั้งที่เขาหายใจเข้า เปรียบดั่งมังกรสูบน้ำ ไม่เพียงแต่เสียงดังมาก ยังสูบพลังแห่งสวรรค์และโลกเข้าไปในปากด้วย
จากนั้น พลังกายของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
สวี่ชิงเคยเห็นวิชานี้มาก่อนในผู้บำเพ็ญเผ่านภาคิมหันต์ ไม่ว่าจะจากคำอธิบายของนายกองหรือตอนที่ชิวเชวี่ยจื่อบรรยายรัฐทายาทหมิงหนานระหว่างทาง ก็ทำให้สวี่ชิงเข้าใจวิชานี้ได้อย่างชัดเจน
นี่คือวิชาระดับจักรพรรดิของเผ่านภาคิมหันต์ ชื่อว่าสามสิบหกดาวขุนพลเซียน
นี่คือชื่อเรียกรวมที่ถูกต้อง มันคือวิชาขั้นสูงสามสิบหกวิชาที่รวมกันเป็นวิชาขั้นสูงสุด
เก้าลมปราณ เป็นเพียงหนึ่งในนั้นเท่านั้น
แม้จะเรียกว่าเก้าลมปราณ แต่ก็ไม่ได้จำกัดอยู่ที่เก้าครั้ง ต่างผู้บำเพ็ญ ย่อมมีความรู้ความเข้าใจต่างกัน
ดังนั้น การหายใจเข้าสิบเจ็ดครั้ง การเพิ่มพลังสิบเจ็ดครั้ง ทำให้พลังการต่อสู้ของรัฐทายาทหมิงหนานน่ากลัวอย่างยิ่ง
แต่สวี่ชิงรับมือได้ทั้งหมด!
และยังตอบโต้กลับได้อีกด้วย!
ดาบสวรรค์ฟาดฟันเป็นครั้งคราว จิตวิญญาณที่อยู่ภายในทวีความแข็งแกร่งขึ้น ชัดเจนขึ้นในแต่ละครั้ง
ดังนั้น ทุกครั้งที่ทั้งสองคนปะทะกัน ก็จะเกิดเสียงดังสนั่น และเนื่องจากเกิดขึ้นเร็วมาก ดังนั้นเสียงเหล่านี้จึงรวมกันเป็นเสียงเดียวกัน เกิดเป็นเสียงที่สะเทือนฟ้าสะท้านดิน
ในที่สุดกระดูกมังกรก็ทนไม่ไหว ถอยร่นกลับไป
บนผืนดิน เกิดหลุมลึกนับไม่ถ้วนอย่างไม่อาจควบคุม
บนท้องฟ้า เมฆหมอกสลายตัวอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดเมฆหมอกชั้นหนาที่ปกคลุมผืนนฟ้า ก็ถูกขจัด เผยให้เห็นท้องฟ้าที่อยู่เบื้องหลัง
นั่นคือท้องฟ้ายามราตรี ดวงดาวดารดาษ ในขณะเดียวกันก็สามารถมองเห็นเสี้ยวหน้าเทวะที่อยู่บนท้องฟ้าได้!
ใต้เสี้ยวหน้านั้น สวี่ชิงและรัฐทายาทหมิงหนาน ยังคงต่อสู้กันอยู่
คลื่นที่เกิดขึ้นจากพวกเขาเป็นศูนย์กลาง กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ทุกวงมีแรงกระแทกที่น่ากลัว
เมื่อมองดูเหตุการณ์นี้ นายกองที่อยู่ไกลออกไปและองค์ชายใหญ่ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ต่างก็รู้สึกปั่นป่วนในใจ
“จิตวิญญาณที่อยู่ในดาบนั่น…อาชิงน้อย เขาได้สร้างวิถีทางของตัวเองขึ้นมาแล้ว!”
“นั่นคือการทำลายโซ่ตรวนทุปวง ทำลายกฎเกณฑ์ทุกข้อ ทะลวงฟ้าดิน ทะลวงสรรพสิ่ง ทะลวงวิถีทางตามแบบแผน!”
ดวงตาของนายกองฉายแสงเจิดจ้า
ส่วนองค์ชายใหญ่ เนื่องจากประสบการณ์ จึงไม่อาจรับรู้ได้อย่างแม่นยำเหมือนนายกอง แต่เขาก็รู้สึกตื่นตะลึง จิตใจสั่นสะเทือนไม่ต่างกัน เพราะจิตวิญญาณในดาบเล่มนั้น
เขาไม่รู้จะอธิบายอย่างไร แต่เขารู้สึกถึงความลงตัว
ดูเหมือนว่า นั่นคือวิถีทางที่เขาปรารถนา
ดังนั้น ในตอนนี้เขาจึงขนลุกไปทั้งร่าง หาใช่เพราะแรงสั่นสะเทือน แต่เป็นเพราะเสียงสะท้อน!
ในขณะที่ทั้งสองคนต่างรู้สึกตื่นตะลึงอยู่นั้น ท้องฟ้าพลันเกิดเสียงดังขึ้นอีกครั้ง ร่างของสวี่ชิงและรัฐทายาทหมิงหนาน ถอยหลังออกจากกันหลังพุ่งเข้าปะทะ ห่างกันร้อยจั้ง
สวี่ชิงในสภาวะเทพเจ้า ยืนอยู่ที่นั่น สายตาเย็นยะเยือก ร่างกายเปล่งรัศมีอันสง่างาม แต่หากสังเกตดูให้ดีจะเห็นว่า ร่างกายของเขาในสภาวะเทพเจ้า เต็มไปด้วยบาดแผลนับไม่ถ้วน
แต่บาดแผลเหล่านี้กลับหายไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเส้นใยวิญญาณขยับไหว
ส่วนรัฐทายาทหมิงหนาน ตอนนี้ความรู้สึกผ่อนคลายหายไปแล้ว ความรู้สึกหนักแน่นในดวงตา ไม่เพียงแต่ปรากฏบนใบหน้าเท่านั้น แต่ยังแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย
ร่างกายของเขาเองก็มีบาดแผล แต่เมื่อแสงสีขาวส่องสว่าง ทุกอย่างก็ฟื้นคืนสู่สภาพเดิม
“ต่อกนกับเก้าลมปราณของข้าได้…เผ่ามนุษย์ วิชาแปลงสภาวะเทพเจ้าของเจ้านั้น น่าสนใจดี”
“แต่ไม่รู้ว่า เจ้าจะรับมือข้าได้…”
รัฐทายาทหมิงหนานยังกล่าวไม่ทันจบ สีหน้าก็เปลี่ยนไปฉับพลัน ถอยร่นอย่างรวดเร็ว แทบจะในทันทีที่เขาถอยหลัง สถานที่ที่เขาอยู่เดิมนั้น ก็พังทลายลงมา
ความว่างเปล่าแตกสลาย
เหล็กแหลมที่เปล่งแสงประหลาดพุ่งออกมาจากความว่างเปล่าที่พังทลายลงมา กลับไปหาสวี่ชิง
“เจ้า…” สีหน้าของรัฐทายาทหมิงหนานมืดมน
“พูดมาก”
เสียงของสวี่ชิงสงบราบเรียบ เสี้ยวขณะที่เปล่งวจี ร่างกายก็กลายเป็นอสุนีบาต พุ่งตรงไปยังรัฐทายาทหมิงหนาน ในขณะเดียวกันก็ยกมือขึ้นดึงบางสิ่งออกมาจากตัว ในทันใดนั้นเสียงร้องของวิหคทองก็ดังก้องไปทั่วท้องฟ้า
เปลวเพลิงทมิฬระเบิดออกมาจากร่าง ประกอบสร้างเป็นวิหคทองกลืนกินทะเลเพลิงบนท้องฟ้า จากนั้นจึงพุ่งไปหาสวี่ชิง
ร่างกายของมันแตกซ่านอย่างรวดเร็ว ราวกับถูกฉีกออกจากกัน จนกระทั่งเหลือเพียงหอกยาวสีดำ ตกอยู่ในมือของสวี่ชิง เขาจับแน่นแล้วขว้างใส่รัฐทายาทหมิงหนาน!
เหล็กแหลมเปล่งแสงวาบ สายฟ้าทมิฬนับไม่ถ้วนซึ่งรายล้อม พุ่งตัวเข้าใส่พร้อมกัน
จิตสังหารวาบผ่านจิตใจรัฐทายาทหมิงหนาน เขาตระหนักถึงข้อบกพร่องของตัวเอง ซึ่งบิดาของเขาเตือนเขาไว้แล้ว นั่นคือความเย่อหยิ่ง
สิ่งนี้เกิดจากความสูงส่งของสถานะและความแข็งแกร่งของเผ่าหลอมรวมกัน ซึ่งทำให้ตั้งแต่เด็กจนโต แม้จะดูเหมือนว่าเขาผ่านการต่อสู้มาอย่างโชกโชน แต่แท้จริงแล้วไม่ว่าเขาจะไปที่ใดก็ไม่มีผู้บำเพ็ญคนไหนกล้าต่อสู้กับเขาจริงๆ
ชีวิตที่ราบรื่น นำมาซึ่งเกียรติยศและความรุ่งโรจน์ แต่ก็ทำให้เขาบกพร่องเช่นกัน
นี่คือเหตุผลที่เขาเลือกที่จะเข้าร่วมการล่าครั้งใหญ่ เขารู้ว่าเขาต้องการการฝึกฝน ต้องการประสบการณ์การต่อสู้เพื่อความอยู่รอดอย่างแท้จริง เพื่อที่จะเปลี่ยนข้อได้เปรียบของเขา ให้กลายเป็นหนทางสู่มหามรรคา
และตอนนี้ เขารู้สึกว่าโอกาสที่เขาเฝ้ารอ ได้มาถึงแล้ว
ดังนั้นความมืดมนในดวงตา จึงกลายเป็นจิตสังหาร เมื่อสวี่ชิงพุ่งเข้ามาใกล้ เขาชูมือขึ้นยังท้องฟ้า แล้วกำมืออย่างแรง!
เมฆหมอกชั้นหนาบนท้องฟ้า เหมือนถูกมือที่มองไม่เห็นบีบให้แตกสลาย เสียงครืนครันกึกก้อง พังทลายลงมาเป็นวงกว้าง โปรยกระหน่ำสู่พื้นดิน ในขณะเดียวกันก็เป็นกำบังต้านหอกและเหล็กแหลมที่พุ่งเข้ามา
และม่านฟ้าในขณะนี้ยิ่งเผยให้เห็นดวงดาวมากขึ้น
บนนภาประดับดารา มีดวงดาวที่สุกใสที่สุดเก้าดวงส่องแสงสว่างชัด เรียงตัวกันเป็นรูปนิ้วมือ
มือขวาที่ยกขึ้นของรัฐทายาทหมิงหนานลดลงมาฉับพลัน ไม่สนใจหอกสีดำ แต่พุ่งเป้าไปยังสวี่ชิง
“ด้ามกระบวยหันไปทิศบูรพา วสันต์มาเยือนใต้หล้า”
ดวงดาวทั้งเก้าดวงส่องแสงสว่างจ้า แทนที่แสงทั้งหมด ประกอบเป็นภาพนิ้วมือลวงตา ปรากฏขึ้นทางทิศตะวันออกของสวี่ชิง
นิ้วมือนั้นใหญ่โตมโหฬาร และยังแผ่พลังอันยิ่งใหญ่ ในความรู้สึกของสวี่ชิง เหมือนกับเผชิญหน้ากับทั้งจักรวาล เมื่อเทียบกับมัน ตัวเขาช่างเล็กจ้อย
พลังของมันเข้าปกคลุม ร่างกายของสวี่ชิงเหมือนถูกมัด ทุกอย่างเคลื่อนไหวช้าลง
“ด้ามกระบวยหันไปทิศทักษิณ คิมหันต์มาเยือนใต้หล้า”
สวี่ชิงตกตะลึง ขณะที่คิดจะสลัดให้พ้น นิ้วยักษ์นิ้วที่สองก็ปรากฏขึ้นทางทิศใต้ แรงพันธนาการเพิ่มขึ้นจากเดิม!
“ด้ามกระบวยหันไปทิศประจิม สารทมาเยือนใต้หล้า”
ต่อมาคือนิ้วที่สาม!
“ด้ามกระบวยหันไปทิศอุดร เหมันต์มาเยือนใต้หล้า”
เสียงของรัฐทายาทหมิงหนานก้องกังวาน นิ้วยักษ์ที่สี่ ปรากฏขึ้นทางทิศเหนือของสวี่ชิง
มองไปไกลๆ นิ้วยักษ์ทั้งสี่นี้สูงเทียมฟ้า พลานุภาพพรั่งพรึง แผ่พลังน่าสะพรึงกลัว บัดนี้ชี้ไปทางสวี่ชิงทั้งหมด
นั่นคือวิชานวดาราสังหาร และเคลื่อนดารา วิชาระดับจักรพรรดิเผ่านภาคิมหันต์ หนึ่งในสามสิบหกดาวขุนพลเซียน
“บูรพา ทักษิณ ประจิม อุดร วสันต์ คิมหันต์ สารท เหมันต์ ด้ามกระบวยชี้ไปทิศใด ล้วนไร้ทางหนี!”
เมื่อพูดจบ นิ้วยักษ์แห่งดวงดาวทั้งสี่ ก็พุ่งลงมาที่สวี่ชิงในทันใด!