ผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนล่มสลาย - ตอนที่ 126
ตอนที่ 126 เชื่อในความแข็งแกร่ง
“โดยปกติข้าก็ไม่คิดว่าท่านลอร์ดจะเป็นคนคิดเล็กคิดน้อย มิฉะนั้น ข้าคงจะรายงานเรื่องนี้ต่อท่านลอร์ดตั้งแต่เมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม ท่านลอร์ด เรื่องนี้ต้องระวังอย่างมากจริงๆ” กุยแกหัวเราะแล้วกล่าวต่ออย่างจริงจัง
กุยแกเป็นกุนซือที่ติดตามลอร์ดอย่าง เย่เฉิน จึงเป็นธรรมดาที่เข้าจําเป็นต้องกล่าวเตือนเย่เฉินให้ระมัดระวัง
“ที่เจ้าพูดก็ถูกต้องแล้ว แต่กุยแก เจ้าแน่ใจหรือว่าพวกมันจะนําคนมามากขนาดนั้น?” เย่เฉินพยักหน้าแล้วถาม
“มีความเป็นไปได้ที่ทหารม้าอูหวนจะมาที่นครหลุนฮุยข้ามีความมั่นใจมากกว่า 50% และความเป็นไปได้ที่พวกมันจะมีกําลังพล 200,000 นายนั้นมากกว่า 30% เมื่อพวกมันรวมกําลังพลครบ 200,000 พวกมันจะมาแน่นอน แม้ว่าความเป็นไปได้จะดูน้อยแต่ก็ไม่น้อยนัก ดังนั้นเราจึงจําเป็นต้องระมัดระวังตัวไว้ก่อนล่วงหน้า” กุยแกพยักหน้าแล้วพูด
“กุยแก เจ้ารู้จักรูปแบบการต่อสู้สมรภูมิพยัคฆ์ขาวหรือไม่?” เย่เฉินยิ้มเล็กน้อยแล้วถาม
“รูปแบบการต่อสู้พยัคฆ์ขาว?” กุยแกรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินเรื่องนี้และถาม
ทันทีที่กุยแกพูดจบ เขานึกบางอย่างได้ จากนั้นเขาก็มีนงงและถามออกมาด้วยความตกใจ
“ท่านลอร์ดกําลังพูดถึง รูปแบบการต่อสู้ของกองทัพโดยกําเนิด รูปแบบการต่อสู้ สมรภูมิพยัคฆ์ขาว?”
“ใช่แล้ว! ตอนที่ข้าอยู่ในลกเอี้ยง ทหารของกองทัพหลุนฮุยได้เข้าใจรูปแบบการต่อสู้ สมรภูมิพยัคฆ์ขาวโดยบังเอิญ” เย่เฉินพยักหน้าแล้วพูด
“ขอแสดงความยินดีกับท่านลอร์ด! ขอแสดงความยินดีกับท่านลอร์ด! ด้วยรูปแบบการต่อสูโดยกําเนิดนี้ ท่านลอร์ดไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการทํางานใหญ่!” กุยแก ดีใจมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้แล้วก็โค้งคํานับพร้อมกล่าวออกมา
เย่เฉินหัวเราะแล้วถามว่า ”กุยแก เจ้ายังจําเป็นต้องใช้แผนจุดไฟเผาป่าอยู่หรือไม่”
“ยังจําเป็น” กุยแกพยักหน้าแล้วพูด
“ทําไม?” เย่เฉินรู้สึกตกตะลึงเมื่อได้ยินเรื่องนี้แล้วจึงกล่าวถามออกมา
“ท่านลอร์ด รูปแบบการต่อสู้พยัคฆ์ขาว แม้ว่าจะไม่มีข้อจํากัดกับกองทหารราบ แต่ป่าหลุนฮุยนี้ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อทหารม้าอูหวนเท่านั้น แต่ยังสร้างผลกระทบต่อรูปแบบการต่อสู้พยัคฆ์ขาวด้วย” กุยแกถอนหายใจแล้วตอบ
ใบหน้าของเยเฉินเปลี่ยนไปในทันทีเมื่อได้ยินเรื่องนี้
มาดามันเถอะ ทําไมข้าถึงลืมเรื่องนี้ไป
สิ่งที่กุยพูดนั้นเป็นความจริง รูปแบบการต่อสู้พยัคฆ์ขาวไม่ได้มีอํานาจไปซะทุกอย่าง เมื่อมีอุปสรรคขวางกั้น มันก็ไม่ง่ายเลยที่จะใช้งาน
ไม่ใช่ว่ามันจะใช้ไม่ได้ แต่เมื่อใช้อนุภาพของมันจะลดลงอย่างมาก
อย่างน้อยในพื้นที่มือใหม่นี้การที่พลังลดลงไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย
นี่เป็นเหมือนปืนพกที่มีพลังมหาศาล กระสุนเพียงนัดเดียวสามารถสังหารคนได้ แต่ถ้ามีต้นไม้อยู่ตรงหน้าคนๆ นั้น ก็ไม่ถูกสังหารเสมอไป
หากคุณเข้าไปในดินแดนที่แท้จริงของยุคก่อนประวัติศาตร์ ปืนพกจะถูกแทนที่ด้วยปืนใหญ่ แม้ว่าคุณจะซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้มันก็ไร้ประโยชน์
เพราะเมื่อถึงเวลานั้น ความแข็งแกร่งโดยรวมของกลองทัพหลุนฮุย จะก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว
“กุยแก ข้ารู้สึกว่าการที่ไม่ปล่อยเจ้าไปในวันแรกที่พบกันนั้น เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องจริงๆ” เย่เฉินถอนหายใจเป็นเวลานานแล้วพูดอย่างจริงจัง
เมื่อกุยแกได้ยินสิ่งนี้ ใบหน้าของเขาก็แข็งกระด้างขึ้นทันที จากนั้นเขาก็พูดว่า “ท่านลอร์ด ท่านต้องการหักขาข้าอีกครั้ง นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้านายที่ดีควรทํา ไม่ ข้าไม่สามารถแม้แต่จะคิดเกี่ยวกับมันได้ ท่านห้ามคิดเกี่ยวกับมันเป็นอันขาด”
เตียวเมิ่งที่อยู่ข้าง ๆ ได้ยินดังนั้นก็รีบเบือนหน้าหนี เขาไม่ยากที่จะเห็นอีกต่อไป จากไหล่ที่สั่นเทาของเขา ทําให้ใครก็มองออกว่าชายคนนี้กําลังกลั้นหัวเราะเอาไว้
เย่เฉินจ้องไปที่กุยแกแล้วหัวเราะ
กุยแกแนะแนะนําให้เยู่เฉินจุดไฟเผาป่า อันที่จริงแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ทหารของกองทัพหลุนฮุยถูกโจมตีและทําให้เกิดผู้บาดเจ็บล้มตายจํานวนมาก
แม้ว่าม้าจะเป็นทรัพยากรที่ดีมาก แต่ก็ไม่สําคัญเท่ากับชีวิตของทหาร
เมื่อจํานวนทหารม้าอูหวนมีมากถึง 200,000 คน กองทัพหลุยฮุยจะต้องสูญเสียอย่าง หนักแน่นอน
เย่เฉินย่อมเข้าใจสิ่งที่กุยแกคิด มิฉะนั้นเขาคงไม่ล้อเล่นกับกุยแกแบบนี้
เย่เฉินหัวเราะครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือขึ้นเพื่อสัมผัสทิศทางของลม และพบว่าเขาอยู่ในลมด้านบน เขาอดไม่ได้ที่จะมองดูกุยแกและถามว่า “กุยแก เจ้ามีความสามารถดูสภาพอากาศได้หรือไม่”
“ท่านลอร์ด นี่เป็นสิ่งที่ข้าเรียนรู้มาเป็นอย่างที่สอง ในตอนนี้ยังไม่ค่อยมีลมมากนัก แต่จะมีลมแรงเกิดขึ้นในอีกครึ่งชั่วโมง เมื่อรวมเข้ากับไฟแล้วมันจะสร้างความลําบากให้ทหารม้าอูหวน ทัพของพวกมันจะต้องแตกกระเจิงอย่างแน่นอน” กุยแกพยักหน้าแล้วกล่าว
เย่เฉินอดยิ้มไม่ได้เมื่อได้ยินเรื่องนี้ แล้วพูดว่า
“น้ํากับไฟนั้นไร้ความปราณี เมื่อไฟรวมกับลมก็ดับไม่ได้ง่ายๆ แต่ม้าศึกจะถูกเผาไปด้วย เราต้องใช้แผนนี้อย่างเหมาะสม
ในความคิดของเย่เฉิน ม้าศึกนั้นมีประโยชน์อย่างยิ่งและเขาต้องได้รับมันมา
มิฉะนั้น เย่เฉินจะเลือกจุดไฟ 100% เผากองทหารม้าอูหวนด้วยไฟ ซึ่งมันจะง่ายกว่าและสะดวกกว่า
กุยแกพยักหน้าแล้วพูดว่า
“คําพูดของท่านลอร์ดเป็นความจริงอย่างยิ่ง ก่อนหน้านี้ข้าไม่รู้ว่าท่านลอร์ดมีรูปแบบการต่อสู้พยัคฆ์ขาว ดังนั้นเขาจึงกําหนดแผนวางเพลิงและเผาป่า ตอนนี้ดูเหมือนว่า หากใช้กลวิธีซุ่มโจมตี แม้ไม่สามารถกวาดล้างทหารม้าอูหวนได้อย่างสมบูรณ์ แต่ท่านลอร์ดก็สามารถหนีกลับยังนครหลุนฮุยได้
ในเวลานั้น เราจะโจมตีเฉพาะทหารม้าอูหวน และจากนั้นก็สามารถทําลายได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ”
เย่เฉินยิ้มเล็กน้อยจากนั้นมองไปที่ป่าหลุนฮุย แล้วพูดว่า
“ผู้บาดเจ็บล้มตายนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทหารม้าอูหวนจะมี 200,000 คน แล้วมีปัญหาอะไร ทหารม้าที่ไม่สามารถพุ่งเข้าจู่โจมได้ก็เหมือนเสือที่ไม่มีเขี้ยวเล็บ ทําไมเจ้าต้องกลัวมัน!”
“ท่านลอร์ดจะทําลายพวกมันด้วยกําลังหรือ?” การแสดงออกของกุยแกเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเมื่อได้ยินคําพูดของเยเฉินและเขาก็รีบถามออกมาทันที
กุยแกมีแผนการอยู่นับพัน แต่เขาไม่คาดคิดว่าเย่เฉินจะไม่ต้องการใช้แผนโจมตีด้วยไฟ เย่เฉินไม่ได้วางแผนที่จะล่าถอยหลังจากตั้งการซุ่มโจมตี แต่กลับต้องการทําลายมันด้วยการเข้าตีซ้ําอีกระลอก
“กุยแกเชื่อใจข้าหรือไม่” เย่เฉินหัวเราะแล้วถาม
“ข้าเชื่อในท่านลอร์ดโดยธรรมชาติ แต่ท่านลอร์ด ด้วยเหตุนี้ ทหารที่ได้รับบาดเจ็บ…” กุยแก โค้งคํานับแล้วพูด
“การล่าถอยต้องใช้เวลาเช่นกัน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะล่าถอย นี้คือหน้าที่ของลูกผู้ชาย หากเลือกที่จะล่าถอย กองทัพหลุนฮุยจะสามารถล่าถอยได้โดยไม่เป็นอันตราย แต่ทหารที่ซุ่มโจมตี…”
เมื่อเย่เฉินพูดเช่นนี้ เขาก็หันไปมองกองพันหลุนฮุยนับหมื่นที่อยู่เบื้องหลังเขา และตะโกนว่า
“หากพวกเจ้าเชื่อใจข้า ตามข้าไปทําลายล้างศัตรู!”
เมื่อทหารของกองทัพหลุนฮุยได้ยินสิ่งนี้ พวกเขาก็ยกหอกในมือขึ้น และตะโกน
” ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า!”
ในเวลานี้ ทหารนับหมื่นของกองทัพหลุนฮุย ทุกคนต่างแสดงความมั่นใจในตนเองออกมา
ทหารม้าอูหวนอย่าพูดว่าหนึ่งแสนหรือสองแสนหรือหนึ่งล้าน
ทําไมต้องกลัวพวกมัน จะกลัวพวกมันไปทําไม
พวกเขาคือกองทัพหลุนฮุย กองทัพพิเศษเพียงหนึ่งเดียวในโลกที่มีความสามารถขั้นสูงไร้ขีดจํากัด
พวกเขาต้องการติดตามเย่เฉิน เจ้านายของพวกเขา ฆ่าศัตรูทั้งหมด และทําให้กองกําลังทั้งหมดนั้นหายไป
พวกเขาเชื่อมั่นว่าเจ้านายของพวกเขาเย่เฉิน จะนําพวกเขากวาดล้างทั่วสารทิศและไร้ผู้ต้านอย่างแท้จริง