ฝ่าปริศนา ตะลุยโลกเบื้องหลัง - ตอนที่ 6
ที่อาคารเก่าของคณะในวิทยาลัย ฉันถูกดันเข้ากับกำแพงอยู่ในมุมมืดใต้บันได
ข้างนอก ฝนกำลังตกอยู่ มือของเธอดันอยู่กับกำแพง พลางจ้องเข้ามาในตาของฉัน แสงจากข้างหลังทำให้ผมสีบลอนด์ของนิชินะ โทริโกะ เรืองแสงออกมาจางๆ
คาบบ่ายวันนี้เริ่มไปแล้ว แถวๆ นี้ก็ไม่มีใครอยู่เลยซักคน เสียงพูดภาษาจีนดังซ้ำๆ ลอยมาจากห้องเรียนใกล้ๆ ให้ได้ยิน
ซึ่ง มันเป็นคาบเลคเชอร์ที่ฉันควรจะไปเข้าฟังนะ
“นี่…”
“อย่าขยับ”
เธอเอามือเข้ามาจับที่คางของฉันด้วยสีหน้าจริงจัง ก่อนจะออกแรงดันให้หน้าฉันหันไปทางซ้าย หน้าของเธอเข้ามาใกล้ขึ้นๆ จนจมูกเธอแทบจะมาชนอยู่แล้ว
อะไรน่ะ? อะไรน่ะ? อะไรน่ะ? เธอจะทำอะไรของเธอเนี่ย? จะกัดฉันเหรอ?
ถ้าแข็งแรงเด็ดเดี่ยวแบบโทริโกะล่ะก็ ฉันอาจจะยังผลักเธอออกหรืออัดเธอจนน่วมได้แล้วล่ะ แต่ถ้าเป็นนิสิตสุภาพเรียบร้อยอย่างฉันเนี่ย ยังไงฉันก็ต้องใช้เวลารวบรวมความตั้งใจจะทำมันก่อน ตอนนี้ ฉันค่อยๆ สะสมความคิดที่จะเปลี่ยนไปใช้กำลังไปได้ประมาณ 60% แล้ว ตอนที่ในหัวของฉันมีคำเตือนเด้งขึ้นมาว่า [การเตรียมใจพร้อมตอบโต้…] พร้อมๆ กับที่หลังของฉันชนอยู่กับกำแพงเย็นๆ จู่ๆ โทริโกะก็พูดขึ้นมา
“สวยจังเลย”
“หา…!? พ- พูดอะไรของเธอน่ะ จู่ๆ ก็…?”
ตอนที่ฉันถูกทำให้ทั้งตกใจแบบไม่ทันตั้งตัวทั้งลนลาน โทริโกะก็หยิบมือถือขึ้นมา เล็ง แล้วเธอก็ *แชะ* ถ่ายรูป
“ดูสิ”
ที่หน้าจอมือถือของเธอ มีรูปของฉัน คิ้วขมวด แล้วก็มองตรงเข้ามาในกล้อง
ตาข้างนึงของฉันก็ดูแปลกสุดๆ เลย
“ตาขวาเธอมันฟ้าสุดๆ เลยนะ”
โทริโกะพูดถูก มันไม่ใช่ฟ้าธรรมดาด้วย ไม่เหมือนสีแบบในสิ่งมีชีวิตเลย… มันดูเหมือนของที่ทำขึ้นมา สีเหมือนแร่ ― เป็นสีฟ้าเข้มแบบเครื่องแก้วริวกิวเลย
เป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ…?
ในตอนนี้ฉันยังอึ้งอยู่ สติยังทำความเข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี่ไม่ได้เลย โทริโกะก็ยกมือซ้ายของเธอขึ้นมาตรงหน้าฉัน เหมือนเธอจะโชว์เล็บของตัวเองให้ดู ไม่ก็เป็นขุนนางที่ต้องการให้ฉันจุมพิตที่หลังมือ แต่ดูแล้วเนี่ย คำตอบที่ถูกต้องคงจะเป็นคำตอบแรกมากกว่านะ
ทุกนิ้วในมือซ้ายของโทริโกะมองทะลุผ่านได้หมดเลย ทั้งเล็บของเธอและเนื้อใต้เล็บมันโปร่งใสเหมือนท้องฟ้าปลอดโปร่งในหน้าหนาวเลย ยังกับว่าปลายนิ้วของเธอแค่ละลายไปในอากาศยังงั้นแหละ
“โห! ทำได้ยังไงน่ะ!?”
โทริโกะส่ายหัวอย่างหงุดหงิด
“ดูก็รู้หนิ มันใช่อะไรที่ฉันทำเองได้ที่ไหนเล่า มันต้องเป็นความผิดของเจ้านั่นแน่ๆ คุเนะคุเนะน่ะ!”
โลกเบื้องหลัง โลกใบอื่นที่ต่างจากโลกของเรา พวกเราไปเจอสิ่งมีชีวิตน่าขยะแขยงอย่างคุเนะคุเนะที่นั่น ล้มมันได้ แล้วก็หนีกลับมาอย่างปลอดภัย เรื่องนั้นมันเกิดมาเมื่อ 3 วันก่อน
ฉันมั่นใจเลยว่าเรื่องที่สีตาของฉันเปลี่ยนไปแบบนี้ต้องเป็นเพราะจ้องมองคุเนะคุเนะแน่ๆ ยังไง เจ้านั่นมันก็ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างแปลกประหลาดกับร่างกายของมนุษย์ได้จากการแค่มองดูมันเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องมือซ้ายของโทริโกะนี่… เป็นเพราะเธอพยายามถอนเส้นใยราที่งอกมาจากหน้าของฉันด้วยมือเปล่าใช่มั้ยนะ? พอคิดว่าที่เป็นแบบนี้เพราะเธอพยายามจะช่วยฉันแล้ว ฉันก็รู้สึกผิดนิดๆ อย่างอดไม่ได้เลย
“ไปให้คนที่รู้เรื่องพวกนี้ช่วยดูกันเถอะ”
หลังจากที่คิดอยู่ซักพัก โทริโกะก็เสนอออกมาแบบนั้น
“ฉันรู้จักคนที่สนใจเรื่องอีกโลกอยู่ เป็นคนที่ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับมันน่ะ”
“อ่า ฮะ…?”
“เป็นคนที่อยากได้หินกระจกอันนั้น ― อันที่คุเนะคุเนะทำร่วงไว้ไง ― ยังไงฉันก็กำลังจะไปเจอเธอคนนั้นเพื่อเอาเจ้านั่นไปขายตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ถ้างั้นก็ไปด้วยกันเถอะ”
ระหว่างที่ฉันฟังอยู่ คิ้วที่ย่นเข้าหากันของฉันก็ขมวดเข้าหากันยิ่งกว่าเดิม นักวิจัยเรื่องโลกเบื้องหลังเหรอ? แล้วเธอคนนั้นก็อยากได้ของแปลกๆ นั่นที่ได้มาจากคุเนะคุเนะด้วย?
ไม่ว่าจะมองมุมไหน มันก็ไม่ปกติเห็นๆ เลย นี่คงไม่ใช่ลัทธิหรืออะไรแบบนั้นใช่มั้ย…?
“ไหงทำหน้าตาแปลกๆ แบบนั้นล่ะ โซราโอะ?”
“ฟังนะ ขอพูดอย่างตรงไปตรงมาแล้วกัน นั่นน่ะมันฟังดูไม่น่าไว้ใจสุดๆ ไปเลย โทริโกะ คนคนนั้นไม่ได้กำลังปอกลอกเอาเงินเธออยู่ใช่มั้ย?”
“พูดให้ถูกคือ ฉันไปปอกลอกเอาเงินจากเธอมากกว่า ถ้าฉันไปเจออะไรแปลกๆ มาจากอีกโลกแล้วเอากลับมาล่ะก็ สามารถเอาไปขายให้เธอได้หมด ฉันเลยรีดเงินจากเธอมาเต็มที่เลยน่ะ”
โทริโกะพูดออกมาแบบยิ้มๆ พลางทำท่าดึงผมตัวเองไปด้วย
ยิ่งทำเอาคิ้วของฉันขมวดเข้าไปใหญ่เลย
“ไม่เอางั้นเหรอ โซราโอะ”
“…ได้ๆ ฉันไปด้วยก็ได้”
ฉันตอบไปอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่ ถ้าโทริโกะจะไปโดนใครหลอกล่ะก็ คืนนี้มีหวังนอนไม่หลับแหงๆ ถ้าเกิดฉันปล่อยโทริโกะไปคนเดียวน่ะ แต่ถ้าทั้งคู่ร่วมมือกันหลอกฉันล่ะก็ เธอกับฉันก็จบกันตรงนี้แหละ ฉันว่าฉันเตรียมพร้อมสำหรับการอัดเธอให้น่วมไว้ที่ 60% เผื่อไว้ก่อนน่าจะดีกว่า
“ดีล่ะ ไม่ต้องห่วงนะ นี่เองก็ไปได้สวยกับเธอด้วยเหมือนกันน้า โซราโอะ เงินดีเลยนะ รู้หรือเปล่า?”
…เอาไว้ที่ 70% แล้วกัน
TN: ยินดีด้วย คุณได้รับ X-gene และอัพคลาสเป็นมิวแทนท์แล้ว 555