พลิกชะตาหมอยา - บทที่ 104 ไม่ได้ฆ่าตัวตายแต่ถูกฆาตกรรม
เฟิ่งชิงหัวหันไปมองน้องสาวของผิงเอ๋อร์ แล้วนั่งยองๆ ลงก่อนจะดึงนางเข้ามาข้างตน จากนั้นจึงเอ่ยถามอย่างอ่อนโยนว่า “สาวน้อย เจ้าช่วยบอกข้าหน่อย ก่อนที่พี่สาวของเจ้าจะจากไปได้กล่าวอะไรกับเจ้าบ้างหรือไม่ หรือว่าก่อนหน้านี้ไม่กี่วันได้พูดอะไรพิเศษกับเจ้าหรือไม่”
เนื่องจากน้ำเสียงของเฟิ่งชิงหัวอ่อนโยนและแววตาเคลือบรอยยิ้ม ทำให้ดูน่าเข้าใกล้มากกว่าคนอื่น เด็กหญิงคนนี้จึงไม่มีท่าทางตื่นกลัว เมื่อได้ยินคำถามของนางก็ครุ่นคิดอย่างละเอียดแล้วเอ่ยว่า “มีเจ้าค่ะ”
“พูดอะไรหรือ?”
“พี่สาวบอกว่า นางได้งานๆ หนึ่งที่สามารถหาเงินมาได้อย่างง่ายๆ แล้วนางจะได้ซื้อที่ผูกผมสวยๆ ให้ข้า และยังสามารถซื้อลูกเจี๊ยบให้พวกเราได้เป็นจำนวนมาก ข้าจะได้กินไข่ไก่ทุกวัน”
ได้ยินเช่นนี้ แม้แต่เหยียนหรูชิงที่อยู่บนแท่นสูงก็ยังทำสีหน้างุนงง
คนแบบนี้ถ้าไม่ได้เจอปัญหาชีวิตหนักหนา จะฆ่าตัวตายได้หรือ?
เฟิ่งชิงหัวลูบหัวของนาง จากนั้นจึงลุกขึ้นยืน แล้วหันไปกล่าวกับเหยียนหรูชิงว่า “ใต้เท้า ตอนนี้ข้าสามารถสรุปผลการตรวจสอบให้ท่านได้แล้วขอรับ”
เหยียนหรูชิงเตรียมจะกล่าวบางอย่างก็เห็นขุนนางชันสูตรศพแบกลังเดินเข้ามา ดูจากลักษณะแล้วน่าจะมีอายุประมาณสี่สิบปี ร่างเตี้ย สีหน้าดูไม่ร่าเริง เมื่อเข้ามาด้านในแล้วก็วางลังลงแล้วทำความเคารพ
เหยียนหรูชิงกล่าวว่า “เจียงสวี่โจ้ว(ตำแหน่งขุนนางชันสูตรศพ)รีบตรวจสอบสตรีนางนี้เร็วเข้า”
จากนั้นก็หันไปกล่าวกับเฟิ่งชิงหัวว่า “เจ้ารายงานผลการตรวจสอบของเจ้ามาก่อน”
เฟิ่งชิงหัวได้ยินดังนี้ริมฝีปากของนางก็กระตุกอย่างไร้การควบคุม ประโยคเช่นนี้ฟังแล้วรู้สึกตลกพิกล
รายงานผลการตรวจสอบ ข้าไม่ใช่นักพยากรณ์ จะคว้าเบาะแสเจอได้เลยหรือ?
เฟิ่งชิงหัวกระแอมคอ “รายงานใต้เท้า ผลการตรวจสอบศพที่ได้คือ สตรีนางนี้ไม่ได้ฆ่าตัวตาย แต่โดนฆาตกรรม”
เมื่อกล่าวประโยคนี้ออกไป เหยียนหรูชิงที่นั่งอยู่ตำแหน่งประธานยังคงตั้งสติไม่ทัน แต่เจียงสวี่โจ้วผู้นั้นกลับกระโดดออกมาเสียก่อนแล้วกล่าวหน้าแดงด้วยความโมโห “เด็กปัญหาอ่อนที่ไหนมาพูดจาเหลวไหลอยู่ตรงนี้ เห็นชัดๆว่าแม่นางคนนี้กระโดดน้ำฆ่าตัวตาย จะถูกฆาตรกรรมได้อย่างไร!”
เฟิ่งชิงหัวหันไปมองเขาแล้วยิ้ม “ดูท่า ศพทั้งสิบร่างนี้ เจียงสวี่โจ้วน่าจะเป็นคนตรวจสอบเองทั้งหมดเลยใช่หรือไม่”
“ถูกต้อง!” เจียงสวี่โจ้วลูบหนวดตัวเอง แล้วทำท่าทางราวกับเป็นผู้รู้วิชา “ตั้งแต่ข้าเป็นขุนนางชันสูตรศพมา ข้าชันสูตรศพมาแล้วเป็นพันเป็นหมื่น ทำไมข้าจะดูกรณีกระโดดน้ำตายที่ไม่ซับซ้อนเช่นนี้ไม่ออกเล่า”
“ขอสอบถามท่าน จะตัดสินได้อย่างไรว่าลื่นตกน้ำไปเองหรือว่ามีคนตั้งใจให้ตกน้ำ?”
เจียงสวี่โจ้วได้ยินดังนั้นก็มองหน้าด้วยสายตาดูแคลน แล้วส่ายหน้าไม่หยุด “เด็กสมัยนี้มันไร้ฝีมือนัก ความรู้ไม่ถึงแต่ก็ยังกล้ามาเป็นขุนนางชันสูตรศพ ไหนเลยจะรู้ว่าแม้สิ่งที่เจ้าเผชิญหน้าจะเป็นศพ แต่ก็ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก จะมาทำอย่างส่งๆ ไม่ได้! เจ้าฟังข้าให้ดี! ข้อแตกต่างระหว่างสองอย่างนี้ก็คือปริมาณดินโคลนที่อยู่ในโพลงจมูก หากพลาดตกลงไป ดินโคลนจะเข้าไปในปอดและไหลลงสู่ท้อง หากฆ่าตัวตายดินโคลนจะเข้าไปในโพรงจมูกและจะมีเพียงจำนวนน้อยเท่านั้นที่เข้าไปในท้อง ข้อมูลพวกนี้คือความรู้!”
เฟิ่งชิงหัวพยักหน้าแล้วกล่าวอย่างถ่อมตัวอีกว่า “อ่อ เช่นนั้นขอถามว่าหากไม่สามารถแยกแยะได้จากปริมาณดินโคลนเล่าขอรับ”
เจียงสวี่โจ้วเริ่มส่งเสียงฟึดฟัด ตอนนี้เขามองว่าเฟิ่งชิงหัวเป็นเพียงแค่เด็กน้อยไร้ประสบการณ์ “เจ้าจำไว้ให้ดี การแยะแยะผู้ที่จมน้ำไม่ได้ดูแค่ปริมาณดินโคลนในร่างกายเท่านั้น แต่ยังต้องดูร่องรอยบาดแผลบนร่าง ระยะเวลาของการบวมของอวัยวะภายในรวมถึงสถานการณ์ตอนเกิดเหตุด้วย”
เฟิ่งชิงหัวยิ้ม “ถ้าเช่นนั้นหากก่อนหน้าที่ผู้ตายจะเสียชีวิตถูกบังคับให้ช่อยู่ในน้ำเป็นเวลานาน หลังจากนั้นจึงหมดสติและค่อยจมน้ำล่ะขอรับ”
เจียงสวี่โจ้วได้ยินดังนั้นก็ชะงัก ในสมองของเขามีความคิดบางอย่างเกิดขึ้น แต่เมื่อนึกถึงคำพูดของตัวเองที่ได้พูดไปเมื่อครู่ก็ได้แต่ดื้อรั้นกล่าวต่อไปว่า “นี่เป็นเพียงแค่การคาดเดาของเจ้า ผู้ที่เป็นขุนนางชันสูตรศพ จะจินตนาการเองมั่วๆ ไม่ได้ หน้าที่ของพวกเราต้องวิเคราะห์จากร่องรอยที่อยู่บนศพเท่านั้น”
เฟิ่งชิงหัวได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้ว “ดังนั้นแม้ท่านจะค้นพบว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง แต่ท่านก็ยังคงตัดสินว่าคนทั้งสิบคนนั้นฆ่าตัวตายงั้นหรือ นี่คือประสบการณ์ที่ท่านได้มาจากการทำงานชันสูตรศพมาเป็นพันๆ ร่างงั้นหรือ? ท่านไม่กลัวหรือว่า คนที่ท่านวินิจฉัยผิดจะมาคิดบัญชีกับท่านตอนกลางดึก”
ยิ่งเฟิ่งชิงหัวกล่าวอย่างหนักแน่นแค่ไหน เจียงสวี่โจ้วก็ยิ่งไม่มั่นใจ พอได้ยินดังนั้นก็ยิ่งไม่กล้าสบตากับนาง
เหยียนหรูชิงได้ยินบทสนทนาของทั้งสองคนมาตลอด ตอนนี้จึงขมวดคิ้วกล่าว “เฟิ่งสวี่โจ้ว ไหนเจ้าลองรายงานผลการตรวจสอบต่อสิ”
เฟิ่งชิงหัวพยักหน้า คราวนี้จึงกล่าวอย่างกระชับและได้ใจความ “สตรีนางนี้ถูกฆาตรกรรม บนตัวไร้บาดแผล ก่อนตายแช่อยู่ในน้ำเย็นนานกว่าห้าชั่วยาม สถานที่ที่พบนางไม่ใช่สถานที่แรกที่เกิดเหตุ”
“เป็นไปไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้เสียชีวิตเช้าวันนี้ ดูจากระดับความบวมแล้ว น่าจะเสียชีวิตมาไม่เกินสองชั่วยามเท่านั้น อีกอย่างแม่น้ำที่พบร่างของนางมักจะมีผู้คนสัญจร ไม่มีทางที่จะรอดสายตาคนแถวนั้นได้เป็นระยะเวลานานเช่นนี้” เจียงสวี่โจ้วรีบคัดค้านคำพูดของเฟิ่งชิงหัว
เฟิ่งชิงหัวได้ยินดังนั้นก็เอามือตบลงไปที่หน้าอกของสตรีนางนั้น ทำเอาทุกคนในที่นั้นพากันตกใจ ตอนืั้กำลังจะคัดค้านก็เห็นเฟิ่งชิงหัวชี้ไปที่ปากของผู้หญิงคนนั้นที่เผยอออกเล็กน้อย “เจียงสวี่โจ้วเชิญดูนี่ ผู้หญิงคนนี้ได้กลืนตะไคร่และดินโคลนเข้าไปอย่างไม่ทันระวัง พืชเช่นตะไคร่มักจะเจริญเติบโตในสถานที่ที่มืดสลัว อย่างเช่นในสระน้ำเป็นต้น แม่น้ำที่มีคนสัญจรไปมาจะมีพืชชนิดนี้อยู่ได้อย่างไร”
ระหว่างที่กล่าวก็ชี้ไปที่แขนขาของผู้หญิงคนนั้น “ทุกคนต่างรู้ดีว่า ขนาดพวกเราอาบน้ำ หากแช่น้ำเป็นเวลานานผิวหนังก็ยังเริ่มเหี่ยวย่น จากนั้นก็เริ่มซีดและบวม และนี่เป็นคนตายด้วยซ้ำ แต่ผู้หญิงคนนี้กลับบวมเฉพาะบริเวณนิ้วมือและนิ้วเท้า นี่หมายความว่าอย่างไร? ไม่ทราบว่าเจียงสวี่โจ้วได้กลิ่นหอมอ่อนๆ มาจากตัวของผู้หญิงคนนี้บางหรือไม่ขอรับ”
เจียงสวี่โจ้วกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “บนร่างของผู้หญิงมีกลิ่นหอมบ้างจะเป็นไรไป ทำเป็นเอะอะไปได้”
เฟิ่งชิงหัวส่ายหน้า จากนั้นจึงหยิบเข็มเล่มหนึ่งออกมาจากหน้าอก และยกหลังมือของผู้หญิงคนนั้นขึ้นมา เขย่าเล็กน้อยและชี้ไปที่รูขุมขนของนางและเลือกเอาเม็ดสีใสเม็ดเล็กๆ ส่งให้เจียงสวี่โจ้วพลางกล่าวว่า “ท่านลองดู กลิ่นหอมที่มาจากร่างกายของนางใช่สิ่งของที่ห่อหุ้มผิวของนางอยู่ชั้นนี้ใช่หรือไม่ หากเจียงสวี่โจ้วไม่เชื่อก็ให้คนมาเอาร่างผิงเอ๋อร์ไปเช็ด แล้วลองดมดูอีกครั้งว่ากลิ่นหอมนั้นจะยิ่งชัดใช่หรือไม่”
“ต่อให้กลิ่นหอมที่มาจากร่างของนางมาจากของสิ่งนี้แล้วเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นอย่างไร”
“ของที่เคลือบอยู่ชั้นนี้ หากข้ามองไม่ผิด น่าจะเป็นของประทินผิวที่ได้จากน้ำมันจากปลาผสมกับเครื่องหอม ของเช่นนี้มีราคาสูง ไม่น่าจะเป็นของที่นางซื้อไหว ดังนั้นข้าคิดว่าแม่นางคนนี้ไม่ได้ฆ่าตัวตาย แต่ถูกฆาตกรรม สาเหตุของการสังหารนั้นน่าจะเกี่ยวข้องกับกลิ่นหอมบนตัวของนางเป็นอย่างมาก ใต้เท้าอาจจะไปตามสืบดูจากสถานที่ที่ผู้ตายเดินทางไป รวมทั้งไปสืบตามร้านขายเครื่องหอมที่ขายกลิ่นเดียวกับนางเพื่อหาคนร้าย อ้อ จริงสิ ส่วนเรื่องสถานที่เกิดเหตุที่แรกนั้น สามารถตามหาได้จากบ่อน้ำ ถ้ำมืดสลัวเป็นต้น” เฟิ่งชิงหัวกล่าวด้วยน้ำเสียงแจ่มชัด