พลิกชะตา หมอเทวดาอันดับหนึ่ง - บทที่ 561 สนใจ (2)
“บังอาจ เจ้า เจ้าจะบอกว่าข้าพูดผิดหรือ” ไทเฮาตะคอกใส่
“แล้วไทเฮาพูดถูกทำถูกจริงหรือ” จางฉุนตอบกลับอย่าง
ไม่เกรงใจ
“จางฉุนดูหมิ่นไทเฮา ผิดธรรมเนียมราชสำ นัก!” เกาหลิงปอ
ถลึงตาตะโกนขึ้น “ราชเลขาธิการอยู่ไหน”
จางฉุนหันหัวไปทำเสียงถุยใส่เขา
“ราชเลขาธิการอยู่ไหน ไม่เห็นไอ้ไพร่คนนี้ทำผิดธรรมเนียม
ราชสำ นักหรือ!” เขาตะโกนก่นด่า
ไอ้ไพร่!
ไอ้สวะ! อ้าปากก็มีแต่ด่าคน! ไอ้คนไม่มียางอาย ท่าทางที่ยืน
มองคนแบบนี้ อ้าปากก็มีแต่ก่นด่า ไม่รู้ไปได้ชื่อว่าเป็นบัณฑิตมาได้
อย่างไร!
จางฉุนหันไปทางไทเฮาอีกครั้งโดยไม่รอให้เกาหลิงปอพูดต่อ“ไทเฮาทำเช่นนี้ เท่ากับกำลังนำความไร้ศีลธรรมมาสู่ฝ่าบาท
และผิงอ๋อง ทำให้ฝ่าบาทและผิงอ๋องกลายเป็นคนชั่วร้าย ข้าในฐานะ
ขุนนางของราชสำ นัก ได้รับเมตตาจากฝ่าบาท หากไม่ขัดขวาง
ไทเฮา ถึงควรจะเรียกว่าไม่เห็นหัว เรียกว่าเป็นขุนนางทรราชย์ไม่
ซื่อสัตย์” เขาตะคอกอย่างโกรธเคือง
“ไร้สาระ ไร้สาระ ข้าสั่งจับนางมารร้ายคนนี้ก็เพื่อฝ่าบาท เพื่อ
ผิงอ๋อง!” ไทเฮาตะโกนขึ้น
ผิงอ๋องถูกฟ้าผ่าตาย ฟ้าผ่า ฟ้ากระทำ สายฟ้าฟาดลงมา เขา
ได้ทิ้งชื่อเสียงอันฉาวโฉ่ไปชั่วลูกชั่วหลาน กระทั่งตำแหน่งผิงอ๋องก็
หลงเหลือไว้ไม่ได้
แค่ตายก็แย่แล้ว นี่ยังมาตายแบบนี้อีก! ฟ้าลิขิตให้ตาย!
ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด เขาไม่ได้ถูกฟ้าผ่าตาย เขาถูกนางมารร้าย
คนนี้ฆ่าตาย! เขาถูกคนฆ่าตาย!
มีเพียงแบบนี้เท่านั้น ถึงจะรักษาชื่อเสียงของผิงอ๋องไว้ได้ ถึง
จะรักษาเกียรติของราชวงศ์ไว้ได้“ไทเฮา ลืมเรื่องภิกษุชั่วร้ายที่ทำนายสุริยุปราคาที่อำเภอผาน
เจียงไปแล้วหรือ” จางฉุนเลิกคิ้วเอ่ยขึ้น
เรื่องภิกษุชั่วร้ายที่ทำนายสุริยุปราคาที่อำเภอผานเจียง
ไทเฮาตะลึงงัน
ถึงแม้เรื่องนี้จะไม่ได้เกิดขึ้นที่เมืองหลวง แต่เรื่องราวก็
แพร่กระจายไปตามชื่อเสียงของเฉิงเจียวเหนียง ดังนั้นเหล่าหญิงใน
วังจึงรู้เรื่องนี้ดี
สุริยุปราคาเมื่อปีที่แล้ว แม่นางเฉิงผู้นี้ได้ฆ่าตัดคอภิกษุที่ใช้
สุริยุปราคาเป็นข้ออ้างหลอกลวงชาวเมือง
“เมื่อภิกษุถูกตัดคอก็กลับเป็นภิกษุชั่วร้าย ส่วนแม่นาง
เฉิงผู้ลงมือตัดคอกลับกลายเป็นตัวแทนพระโพธิสัตว์” จางฉุนพูดต่อ
“ทูลถามเหนียงเหนียง คนที่ได้ชื่อว่าเป็นตัวแทนพระโพธิสัตว์อย่าง
นาง หากถูกไทเฮาจับตัวไปโดยไร้สาเหตุเช่นนี้ ชาวเมืองจะว่า
อย่างไร”
คนที่ถูกนางฆ่ากลับกลายเป็นคนชั่วร้าย แล้วถ้าผิงอ๋องถูกนาง
ฆ่า จะกลายเป็นว่า…ไทเฮาสีหน้าแปรปรวน
“พูดจาไร้สาระ นั่นเป็นเพียงคำพูดหลอกลวงของแม่นางเฉิง
ยิ่งควรฆ่าตัดคอนางมารร้ายคนนี้เพื่อให้ความจริงเปิดเผย” เกาหลิง
ปอเอ่ยอย่างแค้นเคือง
จางฉุนหันไปมองเขาทันที
“ถ้าแม่นางเฉิงพูดหลอกลวง แล้วเจ้ารู้ไหมว่าเหตุใดผิงอ๋องจึง
ถูกฟ้าผ่าตาย”
เขาตะโกนขึ้น พลางชี้นิ้วขึ้นบนฟ้า
“ผิงอ๋องสาบานต่อหน้าฟ้า หากพูดการเท็จ ขอให้ฟ้าผ่า”
“เมื่อพูดจบก็ถูกฟ้าผ่าทันที ฮ่องเต้และเหล่าขุนนางเห็นเองกับ
ตา ได้ยินเองกับหู เหล่าขันทีก็อยู่ในเหตุการณ์ ไม่มีมูลเท็จแน่นอน”
“การสาบาน ใช้คำพูดในการสัญญา เขาให้สัญญากับฟ้า เมื่อ
ผิดสัญญา ฟ้าจึงลงโทษ ใต้เท้าเกา ข้าขอถามว่าท่านจะเผย
ความจริงเรื่องนี้อย่างไร”
“ทูลถามไทเฮา ว่าท่านจะทำให้ประชาชนทั่วหล้าคิดว่าผิงอ๋อง
ถูกนางมารร้ายคนนี้ฆ่าตายได้อย่างไร”“หากไทเฮาจับตัวแม่นางเฉิง แล้วให้นางสารภาพว่าเป็นคน
เรียกสายฟ้ามาผ่าผิงอ๋องได้ แล้วไทเฮาจะให้คนทั่วหล้าไม่คิดว่านาง
เป็นตัวแทนพระโพธิสัตว์ได้อย่างไร จะให้พวกเขาไม่คิดว่าผิงอ๋อง
เป็นเหมือนภิกษุชั่วร้ายได้อย่างไร”
เสียงดังก้องกังวาน สะท้านไปทั่วห้อง
ไทเฮาเดิมกำลังจะพยุงตัวลุกขึ้นจากเตียง ใบหน้าของนาง
ซีดเผือดเหม่อลอย นางหันมองจางฉุนที่ก้าวเข้ามาชี้นิ้วตะโกน
ถามตนเอง ก่อนจะล้มตัวลงนั่งที่เดิม
นางทำไม่ได้ นางทำไม่ได้
นี่หลานชายนางตายเพราะฟ้าลงโทษจริงหรือ…
นี่เขาต้องแบกชื่อว่าเป็นคนเลวถูกฟ้าลงโทษเพราะทำกรรมสิบ
อย่างที่ฟ้าไม่อภัย กระทั่งหลุมศพของราชวงศ์ก็ยังเข้าไม่ได้จริงหรือ
ตายก็ตายอย่างน่าสงสารแล้ว ยังต้องกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อน
อย่างโดดเดี่ยวอีกหรือ…
ไทเฮาปิดหน้าร้องไห้ฟูมฟาย
ไม่ยอมหรอก ไม่ยอม“แต่ว่าแม่นางเฉิงเรียกสายฟ้าได้! นางเคยพูดไว้เอง ว่านาง
เรียกสายฟ้าได้! ทุกคนต่างรู้ดี” เกาหลิงปอตะโกนขึ้น “เหตุการณ์ที่
อำเภอผานเจียงแม่นางเฉิงไม่มีความแค้นอะไรกับภิกษุชั่วร้ายผู้นั้น
แต่เรื่องนี้ไม่เหมือนกัน เรื่องการสมรสกับลูกชายตระกูลข้า ผิงอ๋อง
เป็นคนเสนอความเห็น ไทเฮาเป็นแม่สื่อ ส่วนฝ่าบาทก็ยอมรับ
เป็นนัย แม่นางเฉิงไม่พอใจเรื่องนี้ นางยอมให้ผู้ใหญ่ฝ่ายนางขาหัก
เพื่อหลบเลี่ยง ที่หนักกว่าคือให้ญาตินางลอบฆ่าลูกชายข้า
ความร้าวฉานเหล่านี้ไม่สามารถลบเลือนได้ จะอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้”
เมื่อเขาพูดถึงตรงนี้ ก็ก้าวเท้าขึ้นมามองจางฉุน
“แต่ใต้เท้าจางไม่เหมือนกัน ใต้เท้าจางเป็นคนจากอำเภอเดียว
กับแม่นางเฉิง แถมยังได้ยินมาว่าพวกเขายังมีบุญคุณต่อกัน
แลกเปลี่ยนสาวใช้กัน สนิทกันดั่งเป็นคนในครอบครัว”
พูดจบก็หันไปหาเหล่าขุนนางอีกครั้ง
“ใต้เท้าเฉิน ก็มีบุญคุณกับแม่นางเฉิง ส่วนคนอื่น ต่อให้
ไม่มีบุญคุณต่อกัน ก็รอคอยที่จะได้รับบุญคุณจากการรักษาโรคร้าย
ถึงตายจากนาง”“ใต้เท้าเกา ท่านก็แค่พูดเถียงข้างๆ คูๆ” เฉินเซ่าตะคอกอย่าง
โกรธเคือง
เกาหลิงปอหัวเราะร่าขึ้นในใจ พูดเถียงข้างๆ คูๆ แล้ว
อย่างไรเล่า อย่างน้อยก็ดีกว่าต้องเจอกับเหตุการณ์เลวร้าย อีกอย่าง
คำพูดของเขาไม่ใช่การเถียงอย่างไม่มีมูลเสียหน่อย
มีผลประโยชน์ในใจ ทุกคนล้วนมีผลประโยชน์ในใจทั้งนั้น!
ไทเฮาหยุดร้องไห้ หันมองเฉิงเจียวเหนียง
ใช่แล้ว เธอมีบุญคุณกับพวกเขา พวกเขาก็แค่พูดเพื่อปกป้อง
เธอเท่านั้น พวกเขาสมรู้ร่วมคิดเรื่องเลวๆ กัน! พวกเขาสมรู้ร่วมคิด
เรื่องเลวๆ กัน!
“แม่นางเฉิง เจ้ากล้าพูดว่าตัวเองไม่สามารถเรียกสายฟ้าได้
หรือ” ไทเฮากัดฟันพูด
เฉิงเจียวเหนียงที่ยืนดูเหตุการณ์คึกคักอยู่อีกฝั่งมานานแล้ว
พอเห็นมาว่ามีคนเรียกตนเอง จึงโค้งคำนับพลางส่ายหน้า
“ไม่กล้าเจ้าค่ะ” นางตอบ แล้วจึงพยักหน้า “ข้าเรียกสายฟ้าได้
”เมื่อได้ยินดังนี้ ภายในห้องก็เงียบกริบในทันใด ทุกคนสีหน้า
ตะลึงงัน กระทั่งไทเฮาซึ่งเป็นคนถามยังหน้าถอดสี
ว่าอย่างไรนะ
ยอมรับเองเลยหรือ
แล้วปล่อยพวกเขาเถียงกันตั้งนานเพื่อสิ่งใดกัน
เล่นสนุกงั้นหรือ
ไทเฮาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
“แต่เรียกสายฟ้ามาหาตัวเองได้เท่านั้น ไปหาคนอื่นไม่ได้” เฉิง
เจียวเหนียงเอ่ย “ตอนนั้นกระหม่อมก็สาบานต่อหน้าฮ่องเต้เช่นนี้ ว่า
กระหม่อมจะเรียกสายฟ้ามาฟาดลงโทษตนเอง”
ว่าอย่างไรนะ นี่นางเล่นสนุกอยู่งั้นหรือ
“ไร้สาระ เจ้ายังจะบอกว่าที่ผิงอ๋องตายก็เพราะเขาทำตัวเอง
เป็นการลงโทษจากฟ้าหรือ!” ไทเฮาตะคอก
เฉิงเจียวเหนียงพยักหน้า แล้วจึงส่ายหน้า
“ผิงอ๋องสิ้นชีพเพราะทำตัวเอง” นางเอ่ย “แต่ไม่ใช่การลงโทษ
จากฟ้า”“แล้วคืออะไร” อยู่ดีๆ ฮองเฮาก็ถามขึ้น
สายตาเกาหลิงปอจับจ้องไปที่ฮองเฮาทันที
“เป็นอุบัติเหตุ” เฉิงเจียวเหนียงเอ่ย
อุบัติเหตุหรือ
“จะบอกว่า เจ้าสามารถพิสูจน์ได้ว่าผิงอ๋องไม่ได้สิ้นชีพเพราะ
ถูกฟ้าลงโทษ ผิงอ๋องไม่ใช่คนเลวที่ฟ้าไม่อภัย และทั้งหมดนี้เป็น
เพียงอุบัติเหตุงั้นหรือ” จางฉุนเอ่ยถาม
สายตาเกาหลิงปอกลับมาจับจ้องไปที่จานฉุนทันที
คำถามของเขา คงต้องบอกว่าเป็นการพูดให้ไทเฮาและเหล่า
ขุนนางฟัง
สามารถพิสูจน์ได้ว่าผิงอ๋องไม่ได้สิ้นชีพเพราะฟ้าลงโทษ ทำให้
ผิงอ๋องไม่ต้องแบกชื่อว่าเป็นคนเลว ทำให้ราชวงศ์ไม่ต้องขายหน้า
ช่างเย้ายวนชวนน่าเชื่อเสียจริง!
เฉิงเจียวเหนียงหันมองจางฉุน พลันพยักหน้า
“ข้าทำได้” นางเอ่ย“ไม่มีใครเชื่อหรอก!” เกาหลิงปอตะคอกใส่ แต่เสียงฟังดู
อ่อนเปลี้ยเพลียแรงไม่น้อย
เฉิงเจียวเหนียงหันมองเขา
“ใต้เท้าเกาบอกว่าข้ามีชื่อเสียง ทุกคนรู้ว่าข้าเรียกสายฟ้าได้
มิใช่หรือ ถ้าอย่างนั้น ข้าก็ทำให้ทุกคนเชื่อข้าได้” นางเอ่ย
ชื่อเสียงเป็นของดี อยู่ที่ว่าจะใช้อย่างไร
“ใต้เท้าเกาไม่เชื่อว่าข้าทำได้ หรือไม่อยากให้ข้าทำได้กันแน่”
เฉิงเจียวเหนียงจ้องมองเกาหลิงปอ อมยิ้มเอ่ยถามขึ้น
พวกเจ้าต่างเชื่อว่าข้าทำได้ แล้วพวกเจ้าอยากให้ผิงอ๋องได้ล้าง
ชื่อเสียงเสียหาย อยากรักษาเกียรติของราชวงศ์หรือไม่ พวกเจ้า
สนใจชื่อเสียงของผิงอ๋อง ชื่อเสียงของราชวงศ์ ชื่อเสียงของฮ่องเต้
หรือไม่
ชวนเชื่อดีเสียจริง…
เกาหลิงปอส่ายหัวช้าๆ
ไม่ เขาไม่สนใจหรอกเขาไม่สนใจหรอกว่าผิงอ๋องจะต้องแบกรับชื่อคนชั่วที่ฟ้า
ไม่อภัยหรือไม่ เขาไม่สนใจหรอกว่าผิงอ๋องจะสิ้นชีพเพราะอุบัติเหตุ
หรือเพราะฟ้าลงโทษหรือไม่
เขาสนใจแค่ว่าผิงอ๋องตายไปแล้ว ตายไปแล้ว ฉะนั้นจะให้ตาย
เปล่าไม่ได้ จะตายเปล่าไม่ได้ ต้องทำให้คนพวกนี้ คนที่สมควรตาย
พวกนี้ไปตายเสีย!
เขาไม่อยาก เขาไม่สนใจ แต่มีคนอยาก มีคนสนใจแน่
“เจ้าทำได้หรือจริง”
ไทเฮาลุกขึ้นจากเตียง หันมองเฉิงเจียวเหนียง เอ่ยถามด้วยน้ำ
เสียงสั่นเครือ