พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” Ori of the Dragon Chain - ตอนที่ 37
บทที่4ตอนที่7
「บรู้วววววววววววววววววว!!」
มีตัวหนึ่งเป็นจ่าฝูง
มันวิ่งเข้ามาหวังเที่จะกินเหยื่อตรงหน้า
โนโซมุใช้เสริมพลังกายและวิ่งอยู่
หมาป่าพยายามกระโดดเข้ามากัดคอโนโซมุแต่ดาบของโนโซมุก็กันไว้ได้
「อั่กห์…………」
ดาบที่ดึงออกมาแทงทะลุคอของหมาป่าตัวนั้นและเลือดจำนวนมากก็พุ่งราวกับน้ำพุ ตกลงมาบนหน้าของโนโซมุ
(อีก 14 ตัว……)
โนโซมุคิดเช่นนั้นง่ายๆว่ายังเหลือศัตรูที่มากกว่าตัวเองถึง 15ตัว
แม้จิตใจแห่งความวุ่นวายนี้จะยังคงลุกโชนแต่เหตุผลของโนโซมุก็ไม่ได้สูญเสียไป
อย่างไรก็ตามดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยจิตวิญญาณของนักสู้ อย่างไม่เคยมีมาก่อนและแรงกระตุ้นที่อกคู่นี้มันสะบัดความลังเลที่จะฆ่าศัตรูตรงหน้าให้สิ้นซาก
แม้จะฆ่าพวกของมันไปได้แล้ว แต่ว่ามันก็ยังคงล้อมโนโซมุด้วยท่าทางอันแสนสงบราวกับรอจังหวะ เห็นได้ชัดว่าหัวหน้าฝูงมันคุมลูกน้องได้ดี
ดูเหมือนว่าตัวเมื่อกี้จะถูกบังคับให้เข้ามาเพื่อวัดความสามารถของศัตรู
「กรูววววว!」「บรู้วววววว!」「กาโอวววววว!」
คราวนี้บุกมาด้านหน้า 1 ตัว ด้านข้างสองตัว รวมทั้งหมด 3 ตัว มันพยายามโจมตีโนโซมุในคราวเดียว
โนโซมุถอยหลังกลับครึ่งก้าวและในขณะที่หมุนรอบตัวหนึ่งครั้งก็ชักดาบออกไปแล้วทั้งสามนั่นก็รีบถอยห่างทันที
จากนั้นก็มีอีกตัวหนึ่งโผล่มาทางด้านหลังและกระโดดโจมตีพร้อมกับตัวที่ถอยไปก่อนหน้านี้ มันพยายามเอาเขี้ยวอันแหลมคมขยำคอโนโซมุ
โนโซมุฟันดาบไปที่ศัตรูอย่างรวดเร็ว
โนโซมุตอนนี้ถูกล้อมไปด้วยฝูงหมาป่าหากหยุดไม่ได้ก็จบกัน
และหากหยุดเคลื่อนไหวเมื่อไรยามนั้นก็จะถูกพวกมันกลืนกิน
◇◆◇
พวกหมาป่ามันรู้วิธีล่าศัตรูที่เก่งกว่าตัวเองใช้จำนวนเข้าว่าซึ่งมีประสิทธิภาพสูงและความเสี่ยงต่ำ
อย่างแรกเลยคอยไล่ต้อนคู่ต่อสู้ให้เหนื่อยจนขยับตัวไม่ได้ แต่สำหรับโนโซมุแล้วมันตรงกันข้ามเลย แผนนี้ใช้ไม่ได้ผล
โนโซมุไม่ได้ล่าถอยแม้แต่น้อยดังนั้นพวกนั้นจึงตัดสินใจที่จะหยุดและลุมในคราวเดียว
ตัวก่อนหน้านี้ถูกจัดการไป แต่ถ้าสามตัวช่วงกันเบี่ยงเบนความสนใจและอีกตัวคอยสนับสนุนทีหลัง
ในความจริงโนโซมุควรจะหยุดการโจมตีของเหล่าหมาป่า
แต่ตัวเขากลับกระโดดขึ้นไปเหนือพวกมัน
และการโจมตีนั่นก็ประสบความสำเร็จ
หมาป่าเหล่านั้นโดนตัดออกเป็นชิ้นๆและหล่นลงพื้นเสียงดังตุบ
สิ่งที่แปลกก็คือโนโซมุไม่ได้เคลื่อนไหวที่จะโจมตีโดนเหล่าหมาป่าได้เลย และเขาเองก็ไม่ได้ชักดาบออก
โดยทั่วไปแล้วการต่อสู้นั่นควรจะเป็นตัวต่อตัว แต่กรณีนี้มันไม่ใช่
ความจริงโนโซมุไม่ได้ใช้ดาบฟันออกไป
ดาบของโนโซมุส่องแสงจางๆเป็นข้อพิสูจน์
อันที่จริงโนโซมุใช้วิชาก่อนหน้านี้แล้ว
คิ“คมดาบผ่ามายา-หวนกลับ-”
เป็นวิชาคิที่ใช้พลังของคมดาบที่คมอย่างมากและสร้างภาพลวงตาออกมาเป็นใบมีดเพื่อฟาดฟันศัตรู
และวิชานั่นเป็นแบบฉบับปรังปรุงคือ “หวนกลับ” ซึ่งเป็นการทำให้คมดาบเหล่านั้นเปรียบเสมือนเกราะรอบกายของตัวเอง เป็นวิชาที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย
อย่างไรก็ตามเทคนิคนี้ที่ถูกยกระดับขึ้นกลายเป็นระดับแฟนท่อม
เดิมทีแล้ว “คมดาบผ่ามายา” เป็นวิชาง่ายๆที่ใช้ตัดหินและถ้าใส่มันลงไปในดาบมันก็เหมือนกับดาบเวทย์ได้แม้จะใช้กับมีดสั้นธรรมดาก็ตาม
ยังไงก็ตามการที่ใช้ “คมดาบผ่ามายา-หวนกลับ-”ในครั้งก่อน ผมใช้คมดาบเพื่อลบคมดาบของอาจารย์ แต่ว่าครั้งนี้ผมใส่พลังลงไปในดาบไม่ได้ปล่อยมันทิ้งไว้ในอากาศ
ยังไงก็ตามโนโซมุก็ยังเหลือคมดาบภายในอากาศที่มีความคมสูงเอาไว้อยู่ และอากาศที่อยู่ตรงนั้นแม้แต่ฝุ่นก็เข้ามาไม่ได้
โนโซมุป้องกันการโจมตีของศัตรูด้วยดาบเล่มนี้ ทำให้พวกเหล่าหมาป่าโดนคมดาบลวงตาที่ค่อยๆเพิ่มมากขึ้นลดจำนวนไปเรื่อยๆ
คำถามก็คือวิชาคิเหล่านี้สามารถบีบอัดจนมีความเข้มข้นสูงมากพอจะรักษาได้งั้นเหรอ?
ในขั้นต้นวิชา “คมดาบผ่ามายา” เดิมทีก็ใช้เทคนิคการควบคุมคิในระดับสูงอยู่แล้ว
แม้ว่าจะเป็นวิชาแสนยาก แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่แม้แต่พวกแรงค์ A ทำกันเล่นๆได้ ไม่ใช่เพียงแค่เปิดใช้งานเท่านั้น แต่ต้องคงสภาพมันไว้ด้วย
นอกจากนี้โนโซมุที่ผ่านสนามรบแห่งความเป็นความตายมานับไม่ถ้วน มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเอง
วิชาของโนโซมุ “คมดาบผ่ามายา -หวนคืน-” ก็ไม่ใช่ของที่สร้างขึ้นมาด้วยความครึ่งๆกลางๆ
อย่างไรก็ตามภาพลวงตาที่สร้างขึ้นมีความสามารถในการฆ่าสูงมากและการปล่อยมันให้คงอยู่ก็เป็นเรื่องที่อันตรายมากเช่นกัน ทำให้โนโซมุไม่ได้ใช้เทคนิคนี้ที่โรงเรียน
นอกจากนี้ไม่ว่าโนโซมุจะควบคุมมันได้ดีแค่ไหน แต่การรักษาวิชานี้มันก็เป็นอะไรที่ยุ่งยาก โนโซมุไม่ค่อยอยากจะใช้เทคนิคนี้เท่าไรในการสู้ที่เขาไม่สามารถตัดสินใจได้ เพราะถ้าเสียสมาธิไปแม้แต่นิดเดียว วิชาที่จะพังทลายลงและอาจทำให้เขาถึงแก่ความตาย
แต่ตอนนี้มันต่างออกไปโนโซมุที่กำลังอยากจะอาละวาด ไม่สนใจซึ่งความเสี่ยงอีกต่อไป
ตอนนี้ผมปล่อยตัวไปตามอารมณ์เหล่านี้ก็เท่านั้นเอง
◇◆◇
「บรู้ววววววววววว!」
หมาป่าทั้งสามที่กำลังโจมตีก่อนหน้านี้นั้น
เขาฟันดาบที่ใช้ “คมดาบมายา-หวนคืน-”ฟันใส่พวกมัน
โนโซมุใช้ก้าวพริบตาทันทีไปทางทิศตรงข้ามและจัดการอีกสองตัว
คมดาบทั้งสองที่ฟาดฟันออกไปปาดคอของหมาป่าออกอย่างสวยงาม
สองตัวนั้นล้มลงไปและเลือดจำนวนมากก็พุ่งออกมา
เลือดที่ไหลออกมาจากลำคอของมันประสานการเต้นกับหัวใจของโนโซมุ ราวกับกำลังตื่นเต้น
ในที่สุดความตื่นเต้นก็เริ่มจางหายและกลับมาสงบลง
(อีก 10 ตัว……)
ในเวลานั้นโนโซมุไม่สนว่าจะเป็นตัวอะไรก็ตามถ้ามันจะฆ่าเขามันก็ต้องเตรียมใจที่จะถูกฆ่าเช่นกัน
หมาป่าที่ล้อมรอบโนโซมุพยายามเปลี่ยนวิธีการโจมตี เพราะมันตระหนักได้ว่าโนโซมุเป็นตัวอันตรายที่จัดการพวกตัวเองไปถึง 5 ตนแล้ว
พวกมันไม่พุ่งเข้ามา ยังคงรักษาระยะห่างและจ้องไปที่โนโซมุ
ปรากฏว่าเหยื่อตรงหน้าดันแข็งแกร่งจนเกินไปแม้พยายามจะจบศึกในระยะสั้นแต่ก็ทำไม่ได้
นอกจากนี้ มันพยายามจะทำให้โนโซมุต้องเหนื่อย
แต่ว่าเขานั้นก็ไม่ได้หลบการโจมตีทำให้ไม่เกิดความเหนื่อยล้าเลยแม้แต่น้อย มันเป็นช่องว่างระหว่างผู้แข็งแกร่งที่ไม่ต้องขยับกลับผู้อ่อนแอที่พยายามดิ้นรนล่าผู้แข็งแกร่ง
แต่ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะเก่งสักเท่าไรแต่ก็มีตัวคนเดียว ไม่มีทางที่จะจัดการพวกมันทั้งหมดได้ในคราวเดียว
นั่นคือสิ่งที่พวกหมาป่าคิดได้ขณะที่เอาชีวิตรอดภายในป่าแห่งนี้
วิธีการเอาชนะคู่ต่อสู้ที่เก่งกว่าตัวเอง
หมาป่าพยายามจะ “ฆ่า” ศัตรูของพวกมันด้วยพลังทั้งหมด
“ถ้าไม่ฆ่าก็จะถูกฆ่า”
นี่เป็นสิ่งเดียวที่โนโซมุและพวกหมาป่าคิดเหมือนกันในตอนนี้
◇◆◇
หมาป่าพยายามเข้าหาและออกห่างจากโนโซมุเป็นครั้งคราว
อย่างไรก็ตาม โนโซมุเข้าใจจุดประสงค์ของพวกมัน เพราะการตอบสนองของโนโซมุนั้นไว
“ถ้าสถานการณ์มันไม่ดีขึ้นเลยจะมัวอยู่เฉยก็ไม่ได้ยังไงก็ตามต้องพลิกสถานการณ์นี้ให้ได้แม้จะต้องฝืนก็ตาม”
เมื่อคิดอย่างนั้นโนโซมุก็พยายามจะเข้าโจมตีฝูงหมาป่าที่ล้อมรอบเขา
คู่ต่อสู้ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยพ่ายแพ้ให้กับมัน แต่ตอนนี้เขาแข็งแกร่งขึ้นแล้ว
ทักษะและประสบการณ์มากมายที่สั่งสมมาจากการร่ำเรียนกับชิโนะ
เพียงแค่ทุ่มทุกอย่างไปกับการกระทำของตนเอง
ซึ่งแน่นอนมันช่างน่าเกลียดและน่าขบขันกับท่าทางอันแสนสง่างามของเธอ
◇◆◇
ผมฟันดาบออกไปทั้งๆที่มี “คมดาบมายา-หวนคืน-”ห่อหุ้มอยู่ ร่างถูกตัดเป็นสองส่วนจนไส้ทะลัก เหลือศัตรูอีก 9 ตัว……。
ผมไม่ได้หยุดการเคลื่อนไหวและฟันดาบกับศัตรูใกล้ๆ
ดาบนั่นเฉือนโดนมันเข้าจนขาขาดไปหนึ่งข้าง บาดแผลนั่นน่าจะทำให้เลือดไหลจนหมดตัว เหลืออีก 8 ตัว
「「บรู้ววววววว!!」」
คราวนี้มีสองตัวโผล่มาจากด้านหลัง แต่ผมเองก็ดักรอไว้อยู่แล้ว
ขณะที่หมุนตัวก็เอาด้ามเหล็กกระแทกไปที่จมูกของมันและฟันดาบไปที่อีกตัวหนึ่งและอีกตัวก็โดนคมดาบลวงตาฟันไป
ร่างของพวกมันที่ถูกผ่าเป็นสองท่อนและตัวที่โดนด้ามเหล็กตอกไปที่จมูกเองก็โดนทุบจนหัวบี้
เมื่อผมฟาดดาบลงไปที่คอของตัวที่ล้มลงและจ้อง 6ตัวที่เหลือ…………。
จำนวนของมันถูกลดลงต่ำกว่าครึ่งในพริบตามันกำลังครวญครางเบาๆ เพราะกลัวอยู่
ตัวผมสลัดคราบเลือดเสร็จก็รีบจะทำให้มันจบๆในคราวเดียว
「บรู้ววววววววววววววว!!」
เสียงหอนนั่นปลุกจิตวิญญาณแห่งป่ารอบๆตัว
เมื่อมองไปที่เสียง ก็เจอหมาป่าตัวใหม่ปรากฏขึ้นอีกประมาณ 3 ตัว
ในหมู่พวกนั้นมีหมาป่าที่ร่างกายใหญ่โตน่าจะเป็นจ่าฝูง
หมาป่าที่รอดตายรีบกลับไปหาหัวหน้าฝูงและจ้องมาทางเขาอีกครั้ง
หมาป่าทั้ง9ตัวรวมกับจ่าฝูงเผชิญหน้ากับผมอีกครั้งภายใต้การควบคุมของจ่าฝูงมันจัดแถวอย่างเป็นระเบียบ
เมื่อรวมกับจ่าฝูงผู้ทรงอำนาจทำให้พวกมันไม่ใช่กลุ่มเล็กๆ แต่กลายเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่
ทันทีที่หัวหน้ามันพยายามส่งสัญญาณ-ผมก็ตัดคอของมันเรียบร้อยแล้ว
◇◆◇
เวลาของหมาป่าหยุดลงชั่วครู่
พวกมันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
มันดูบ้าบอมากๆ
จังหวะที่จะพุ่งเข้าไปโจมตีศัตรูพร้อมกันร่วมกับหัวหน้า หัวของจ่าฝูงก็หายไปเสียแล้ว
นั่นคือตอนที่ผมปล่อย “แฟนท่อม”ออกไป
ใบมีดที่ถูกบีบอัดจนเข้มข้นฟันผ่านหัวของจ่าฝูงจนดับดิ้น
เลือดที่กระเซ็นย้อมพวกมันทั้งหมดให้กลายเป็นสีแดงสด กลิ่นเลือดฟุ้งกระจายไปทั่ว กลิ่นของซากศพเน่าๆที่ตลบอบอวล ดวงตาของผมที่แดงก่ำเพราะจิตวิญญาณหรือความกระหายเลือดหรือไม่นั้น ผมรีบวิ่งไปหาศัตรูที่เหลืออยู่อย่างไม่รีรอ
◇◆◇
ความเงียบกลับคืนสู่ป่าโนโซมุยืนอยู่ตรงนั้น
ซากศพของหมาป่ากระจายอยู่รอบๆตัวเขา มันเป็นปรากฏที่ทำให้ผมต้องเหลียวตามองว่าผมนั้นชินชากับเลือดเนื้อแค่ไหน
ศพทั้งห้าที่นอนอยู่บนพื้น ที่ทั้งส่วน หัว ขา ขาดหาย และ ชิ้นส่วนบางอย่างต่างหายไป
กลิ่นของเลือดและกลิ่นศพที่ปล่อยออกมาจากซากพวกนั้นมันกระจายไปทั่วและมันเข้าไปจนทั่วจมูกของโนโซมุจนจมูกเขาด้านชา
บางทีอวัยวะภายในที่กระจัดกระจายมันยังคงอุ่นๆอยู่มันสัมผัสกับไอน้ำข้างนอกที่เย็นยะเยือก
「…………………」
โนโซมุกำลังจ้องมองไปยังจุดหนึ่งภายในป่าอันแสนมืดมิดในความคิดของเขา ไม่ได้คิดถึงพวกหมาป่าเลยแม้แต่น้อย มีเพียงแต่เสียงเตือนตัวเองว่าตัวเองเข้าป่ามาลึกมากแล้ว
ในที่สุดก็ได้ยินเสียงดั่งฉ่า เหมือนไอร้อนแต่สักพักก็ได้ยินเสียงสั่นสะเทือนอยู่เนืองๆ
ในที่สุดแล้ว “มัน”ก็โผล่ออกมาจากความมืดมิด
ยักษ์ที่ใหญ่กว่าคนเกือบสามเท่า
ขาที่ค้ำยันร่างนั้นหนาและหยั่งรากลึกเหมือนต้นไม้ที่ยืนยาว
เอวที่ถูกห่อหุ้มไปด้วยหนัง และลำตัวมีกล้ามเหมือนกับเกราะเหล็กกล้า
แขนของมันหนากว่าลำตัวของเด็กและถือกระบองไว้ในกำมือซึ่งมีขนาดใหญ่พอๆกับผู้ใหญ่โตเต็มวัย
และสิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือดวงตาทั้งสามที่อยู่บนใบหน้าของมัน
ไซคลอปส์
สัตว์อสูรอันแสนทรงพลังที่อยู่แรงค์ A เป็นยักษ์ที่หาที่เปรียบมิได้กับศัตรูก่อนหน้านี้
◇◆◇
「โอววววววววววววววววววววววววววววววววว!!!」
เสียงคำรามของยักษ์นั่นทำให้บรรยากาศสั่นสะเทือน
บางทีมันอาจจะตามมาเพราะการต่อสู้และกลิ่นเลือด
「………………ฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะ」
โนโซมุเห็นยักษ์ตรงหน้าก็ถือดาบพร้อมกับรอยยิ้ม
เขาคงจะถอยหนีทันทีถ้าเป็นในยามปกติ
นอกจากนี้แม้ว่าจะรอดกลับไปได้แต่โนโซมุก็คิดว่าน่าจะเจอสัตว์อสูรตัวอื่นๆดักรออยู่
อย่างไรก็ตามตอนนี้ตัวโนโซมุกำลังหาที่ระบายอารมณ์
เขาปล่อยตัวเองไปตามอารมณ์เลิกคิดที่จะหนีและเผชิญหน้ากับศัตรูตรงหน้า
เขารู้สึกยินดีอย่างมากที่ได้เจอกับศัตรูอันแสนทรงเกียรติเหมาะแก่การระบายอารมณ์จากจิตใจอันแหลกสลาย
(……………หนอยนะแก)
มีบางอย่างกำลังพึมพำอยู่ในใจของเขา
นอกจากนี้เขากำลังได้ยินเสียงอะไรบางอย่างที่กำลังโหมกระหน่ำ
เสียงและการเต้นของหัวใจมันช่างเร้าอารมณ์และยั่วยวนยิ่ง ตามปกติเขาจะปฏิเสธมันทุกครั้งแต่ว่าเพียงครั้งนี้เท่านั้นที่ยอมรับฟัง