พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” Ori of the Dragon Chain - ตอนที่ 39
บทที่4ตอนที่9
「เห้ย เควิน ไหวเปล่า?」
เพื่อนของเควินพูดกับเควินเช่นนั้น
พวกเขาเดินผ่านป่า จุดประสงค์ก็คือการปราบหมีคลั่ง
หมีคลั่ง เป็นชื่อของสัตว์อสูรที่บอกว่าเป็นหมีตัวใหญ่ เป็นสัตว์อสูรแรงค์ C แต่ความกังวลของพวกนั้นไม่ใช่หมีคลั่ง
「ฮัน?」
「ปล่อยให้กิลด์จัดการไปเหอะน่า พวกไซคลอปส์มันอยู่แถวนี้ไม่ใช่เหรอไง」
สิ่งที่กังวลก็คือพวกไซคลอปส์ที่เพิ่งพบเห็นในป่าเป็นมอนอันตรายแรงค์ A มันอาจอยู่ใกล้ๆกับพวกเขา หากสังเกตดีๆสมาชิกคนอื่นๆก็กำลังหวาดกลัวอยู่
「เฮ้ย ช่างมันเหอะน่า พวกนั้นก็บอกแล้วว่ามันอยู่ในส่วนลึกของป่า อาจจะเห็นมันหลงฝูงก็ได้ ถ้ามาแค่ตัวเดียวน่ะไม่ยากเย็นหรอก」
「……อืม ก็จริงนะ……」
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนเควินจะไม่โกรธกับสมาชิกที่ทำท่าทางหวาดกลัวไซคลอปส์ แน่นอนเขาเป็นถึงคนที่มีความสามารถมากที่สุดในสถาบัน ความสามารถและความมั่นใจในตัวเอง แม้จะดูเย่อหยิ่งไปบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็ได้เขาคอยจัดการทั้งนั้น
「เน่! ถ้ากลัวจะกลับบ้านก็ได้นะ」
「มะมะไม่ได้กลัวสักหน่อย!! ไม่เป็นไรหรอก!」
「ฮัน! ไม่เป็นไรหรอกน่า」
เควินเดินหน้าต่อไปขณะที่ยังหัวเราะเยาะเหล่าสมาชิกที่ไม่สบายใจ เควินยังคงมั่นใจเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แม้ท่าทางจะดูแย่ แต่ในฐานะผู้นำเขาแข็งแกร่งและทรงพลังเป็นอย่างมาก
「อืม?」
เควินที่เดินนำหน้าอยู่ก็หรี่ตาลงและมองไปรอบๆ หูสีเงินซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของเผ่าหมาป่าสีเงินกำลังเคลื่อนไหวโดยไม่ลังเล และจมูกเองก็กำลังทำงานเหมือนกัน
「เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ? เควิน?」
「อย่าเข้ามา…………」
เมื่อหนึ่งในสมาชิกพยายามเข้าหาเควินตะโกนเสียงดังบอกว่าไม่ให้เข้ามา
ในเวลานั้นเอง พวกทหารในชุดเกราะก็ปรากฏตัวขึ้นตรงพุ่มไม้
โล่และชุดเกราะของพวกเขาถูกสลักตราของเมืองอัลคาซัม เป็นผู้พิทักษ์แห่งอัลคาซัม
「นี่เจอพวกนักเรียนของสถาบันโซลมินาติ…นี่พวกนายไม่ได้ยินรายงานของกิลด์งั้นเหรอ? ที่นี่มันอันตรายกลับเข้าเมืองไปซะ」
「หะ! ทำไมต้องมาฟังที่แกพูดด้วยวะ」
เมื่อพวกทหารเจอพวกเควินก็รีบไล่กลับเมือง แต่เควินละเลยคำเตือนของพวกเขา
ท่าทีที่ไม่เคารพพวกเขารบกวนจิตใจเหล่าทหารอย่างมาก และน้ำเสียงของเขาเริ่มมีอารมณ์มากขึ้น
「พวกเราเป็นคนดูแลเรื่องนี้ นักเรียนอย่างพวกเธอไม่มีปัญญาจัดการไซคลอปส์ได้หรอก」
「นั่นมันก็เรื่องของแกสิวะ ไม่ได้เกี่ยวกับข้าสักหน่อย」
ทหารยังคงเตือนด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แต่เควินก็ไม่ได้ลดละท่าทีลงเลย มันยิ่งทำให้เหล่าทหารปวดหัวกันไปใหญ่
◇◆◇
「แม้ว่าพวกนายจะอยู่ที่นั่นก็มีแต่ตายเปล่า กลับบ้านไปซะ!」
「เหอะ!ไม่มีเหตุผลที่จะต้องมาฟังคนที่ต้องใช้จำนวนคนเข้าว่าจัดการไซคลอปส์หรอก」
「ไม่ต้องกลัว! ถ้ายังพูดจาแบบนั้นอีกละก็พูดจาเห็นแก่ตัวแบบนี้ เดี๋ยวปัดจับเข้าคุก!!」
「ก็นะ! ถ้าทำได้ก็ลองดู「พอแค่นั้นแหละ……」!!」
「ท่านจิฮัด……」
เขาคิดว่าเหล่าทหารน่าจะพูดคุยได้ราบรื่นแท้ๆ ทันใดนั้นนักรบที่มีดาบใหญ่พาดหลังอยู่ก็พุ่งมาทางนี้ ผมสีดำแกมขาวมีผิวคล้ำและใบหน้ามีรอยแผลลึก
แม้ว่าเขาจะอายุประมาณ 40 กว่าปีแล้ว แต่ดวงตาอันแสนเฉียบคมและร่างกายที่มองเห็นได้ภายใต้เกราะสีเงินนั้นถูกปลุกคลุมไปด้วยร่างกายอันหนาแน่น จิตวิญญาณของเขายังดูเหมือนคนอายุ 20 ยังได้
จิฮัด・รัลเดล
อัศวินที่อยู่ในกลุ่มอัศวินเงินสีรุ้ง เขาเป็นหนึ่งในนักดาบชั้นนำของทวีปและมีฉายาว่า “กรามค้าง”
เขายังเป็นคนสอนที่สถาบันโซลมินาติ และยังเป็นอัศวินที่แข็งแกร่งที่สุดในอาร์คาซัม
ครั้งนี้เอง อัศวินเงินสีรุ้งได้รับข้อมูลจากกิลด์ว่ามีไซคลอปส์ปรากฏตัวขึ้นเลยส่งพวกเขามาจัดการอันตรายแถวนี้
◇◆◇
「ต้องขอโทษด้วยนะคุณเมาส์ นักเรียนของข้าทำให้ลำบากสินะ」
「ไม่หรอกครับ ท่านจิฮัด……」
「ความผิดของลูกศิษย์ก็เป็นความผิดของอาจารย์เช่นกัน ดังนั้นโปรดยกโทษให้ด้วยเพราะข้าเป็นคนดูแลเจ้าพวกนี้เอง」
จิฮัดคำนับกัปตันป้องกันเมืองอย่างเมาส์ด้วยใจจริง
กัปตันเมาส์ที่ทำท่าทางหวาดกลัวกับนักดาบผู้ยิ่งใหญ่ในทวีปอาร์คาซัมเมื่อ 10ปีก่อนผู้หยุดการรุกรานครั้งใหญ่
มีอิสระในการเข้าป่า แต่ถ้าตายก็ไม่มีสิทธิโทษใครได้ ต้องยอมรับความเสี่ยงเอง ไม่ว่าจะใครก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ถ้าคนๆนั้นบอกถึงขนาดนี้ก็ยังไม่ฟัง แต่ว่าช่วยไม่ได้
「……เข้าใจแล้วครับ ถ้างั้นจะฝากให้คุณจิฮัดดูแลพวกนั้นเอง」
「ขอบคุณมากครับ・・・・・・พวกเจ้าจะตามมาก็ได้แต่หากเกิดอันตรายอะไรขึ้นมาให้รีบทำตามคำแนะนำของข้าทันที」
หลังจากเขาขอบคุณเมาส์เสร็จก็หันมาทางเควินและเตือนพวกเขาอีกครั้ง
บางทีพวกนักเรียนเองก็คงเข้าใจสถานการณ์จึงพยักหน้า
「เควินแกเองก็ด้วยนะ。」
「หืมมม………เอางั้นก็ได้」
จิฮัดถามเควินอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ
เควินรับปากจิฮัดนั้นแข็งแกร่งกว่าตัวเขาเป็นอย่างมาก เลยยอมรับอย่างเชื่อฟัง
「เอาล่ะ ถ้างั้นก็ไปกัน……」
ถ้าทำตามคำแนะนำก็ไม่มีอะไรต้องพูดเยอะ จิฮัดเริ่มเดินเข้าไปในป่าลึก เควินและเมาส์เองก็เดินตามเขาไป
ในส่วนลึกของความมืดมิด ราวกับว่าความมืดจะปกคลุมตลอดไป
◇◆◇
ยักษ์ทั้งสามกำลังวิ่งเข้าหาชายหนุ่ม
กำแพงเนื้อที่เรียงตัวกันจนพื้นสั่นสะเสือนและวิ่งมาเหมือนดั่งคลื่น
ความรุนแรงของมันทำให้ฝุ่นปกคลุมบริเวณโดยรอบซะหมด
แม้แต่นักผจญภัยระดับสูงยังต้องหวาดหวั่นกับจิตสังหารที่อยากจะฆ่าของเหล่ายักษ์พวกนี้
อย่างไรก็ตามโนโซมุมองภาพตรงหน้าด้วยความเฉยชา
จิตใจอันเร่าร้อนกำลังลุกโชน
โนโซมุเปรียบเป็นโคลนภายในลาวา และอารมณ์ก็กำลังปะทุขึ้นเป็นแม็กม่า ตอนนี้ยักษ์ตรงหน้าเทียบได้กับเส้นผมเท่านั้นเอง ตัวเขาที่เจอเจตนาฆ่าขนาดนี้แต่ยังมองว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย
“…3.4.5 ในตรงต้นทาง? ที่เหลือคือด้านขวา 2 และทางด้านซ้ายมี 3 ตัว……”
โนโซมุเห็นกำแพงเนื้อขนาดใหญ่กำลังเข้าใกล้ตัวเอง แต่ตัวเขาก็ยังคงใจเย็นอยู่ แม้ว่ามันจะกลายเป็นเนื้อสับในอีกไม่กี่วิก็เถอะ เขาคิดว่าจะจัดการกับยักษ์ตรงหน้านี่ยังไง
ตอนนี้เขาไม่มีความลังเลอีกต่อไปและเขาปลด “พันธนาการ” ออกแล้วสมาธิของเขานั้นสูงมากความคิดถูกเร่งจนถึงขีดสุด ทำให้เหมือนกับเวลาตรงหน้ามันช้าลง
ในโลกนี้มีโนโซมุที่คิดวิธีการหลากหลายเส้นทางในหัวของเขาว่าจะจัดการกับพวกมันยังไง ภายในระยะเวลาไม่กี่วินาที
พลังงานจำนวนมากบีบอัดอยู่ที่ดาบคาตานะ มันบีบอัดมากเสียจนใบดาบส่องแสงประกายเจิดจรัส
ระยะห่างระหว่างยักษ์กับโนโซมุเหลือไม่กี่เมตร มันเป็นระยะที่ยักษ์ที่มีพละกำลังถึงสองเท่าเคลื่อนไหวไม่ถึงวิด้วยซ้ำ
ยักษ์เหล่านั้นที่มาล้อมรอบ ความตายของโนโซมุที่กระชั้นชิด
◇◆◇
แต่ว่าวินาทีถัดมาโนโซมุชิงลงมือ
พื้นดินที่เขาเหยียบอยู่แตกกระจายและเขาก็เร่งความเร็วทันที เข้าหาศัตรูก่อนที่มันจะเข้าหาและไปโผล่ทางด้านซ้ายมือของยักษ์เหล่านั้น
พวกมันตกใจรีบเหวี่ยงกระบองมาทางโนโซมุทันที
“ดวงตาแห่งความบ้าคลั่ง”กล้ามเนื้อที่ส่งเสียงหนาแน่นพลังเพิ่มขึ้นสองเท่าและกระบองก็ถูกเหวี่ยงมา
แม้ว่าจะด้อยกว่าไซคลอปส์ทั่วไป แต่มันก็มีพลังพอที่จะฆ่าคนๆเดียว
อย่างไรก็ตาม โนโซมุฟันมันทิ้งทันที
กระบองที่ควรจะทุบศีรษะโนโซมุจนแหลกละเอียดกลับกระเด็นออกไปเพราะโนโซมุออกแรงฟันด้วยมือข้างหนึ่ง
โนโซมุมองดูไม้กระบองที่กระเด็นออกไปและคราวนี้เขาเสริมพลังไปที่ฟักดาบอีกข้างแล้วปล่อยคมดาบออกไป
ฝักดาบที่ถูกฟันออกไปกระแทกเข้ากับข้อศอกของไซคลอปส์ ข้อต่อของมันแตกและแรงกระแทกนั่นก็ทำให้แขนมันงอเหมือนท่อนซุง
นอกจากนี้แขนที่สูญเสียข้อต่อก็โดนโนโซมุกระโดดขึ้นไปและใช้วิชาดาบ “คมดาบผ่ามายา-หวนคืน-”ตัดร่างของมันเป็นสองส่วนและตัดอีกสองร่างเป็นสองท่อนพร้อมกับไม้กระบองที่มันถือ
โนโซมุใช้ก้าวพริบตามุ่งเข้าหาไซคลอปตรงกลางอีก 5 ตัว
ไซคลอปตรงหน้าทั้งห้าตัวต่างฟาดไม้กระบองเพื่อพยายามฆ่าโนโซมุ แต่โนโซมุเคลื่อนไหวด้วยท่าทางอันแสนซับซ้อนด้วยความเร็วสูงและใช้ก้าวพริบตาดาบเริงระบำ หลบไม้กระบองได้อย่างง่ายดาย
◇◆◇
จุดประสงค์ของโนโซมุคือการใช้ความเหลื่อมล้ำทางกายภาพระหว่างคู่ต่อสู้กับเองจัดการศัตรูแต่ละตัว
สิ่งมีชีวิตตัวกระจ้อยกำลังดิ้นรนต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่
แต่ไม่ได้หมายความว่าสิ่งมีชีวิตตัวน้อยตัวนี้จะไม่สามารถเอาชนะตัวใหญ่ได้ นั่นก็เพราะว่าความสามารถของเจ้าตัวน้อยมันไม่ธรรมดา
ความต่างของกำลังนั้นห่างกันอย่างแน่นอน แต่ในทางกลับกัน การได้สู้ตัวต่อตัวเก่งกว่าในด้านความคล่องตัวและความเร็วที่มีมากมาย มันทำให้ร่างกายและความคิดของพวกมันตามไม่ทันกัน
การเคลื่อนไหวของโนโซมุตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและความคิดจนถึงขีดสุดและความสามารถทางกายภาพที่สูงกว่าเหล่ายักษ์ไปแล้ว
แม้จะโดน 5 ต่อ 1 แต่ก็ไม่หวั่น
พวกมันไม่สามารถตอบสนองต่อการโผล่มาของโนโซมุในทันที
โนโซมุฟันร่างทั้งสองที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาด้วยดาบทั้งสองข้างและแทงเข้าไปในร่างกายของพวกมัน
พวกมันพยายามสลัดออกและพยายามไล่โนโซมุออกไป แต่โนโซมุที่เห็นวิถีของกระบองที่ฟาดมานั้นช้าจนผิดปกติ และโนโซมุก็ตอบสนองมันเหมือนปกติ
หลังจากอ่านวิถีเสร็จเขาก็วิ่งไต่ขึ้นไปบนกระบองขึ้นไปบนไหล่ของตัวยักษ์
มันพยายามจะจับตัวโนโซมุที่วิ่งไต่ขึ้นไป
โนโซมุพุ่งเข้าใส่ยักษ์ที่มีพลังมหาศาล มันพยายามกดดันโนโซมุและมันพยายามจะออกวิ่งเพื่อสลัดตัวโนโซมุให้หลุด
ไซคลอปส์ที่พยายามจะหยุดโนโซมุต่อยเข้าไปที่เขาแต่ว่าก็กลายเป็นเนื้อสับไปแล้ว
◇◆◇
ร่างของยักษ์ปลิวไปกับแรงกระแทกของหมัดตัวเอง เขาอยู่ตรงนั้นและหมัดเองก็จ่อหน้าเขาอยู่แต่ว่ามันไม่โดนโนโซมุเลยแม้แต่น้อย
“ผันผวน”
เทคนิคทำลายอวัยวะภายในเช่นเดียวกับวิชาคิ “ขาดสะบั้น” ร่างกายที่ถูกโจมตีไปที่ขา สะโพกและลำตัว
แรงกระแทกทั้งหมดนั่นกระแทกเข้าไปที่ลำตัวจนกลายเป็นคลื่นกระแทกและแทรกซึมเข้าไปในร่างของฝ่ายตรงข้ามจนอวัยวะภายในถูกทำลาย
มันเป็นเทคนิคทางร่างกายตรงๆ ไม่ใช่เทคนิคคิและไม่มีการเปิดใช้งาน นอกจากนี้มันเป็นเทคนิคที่ยากจะป้องกันเพราะมันโจมตีได้สมบูรณ์แบบ
เดิมทีปกติมันเป็นเทคนิคของวิชาดาบ มันถูกใช้เวลาใช้ดาบไม่ได้และถึงแม้จะเป็นการยากที่จะฟาดเข้าไปอย่างแรง แต่มันเป็นเทคนิคที่อุ่นใจได้มากในสถานการณ์ที่ไม่สามารถใช้ดาบได้
ไซคลอปส์ที่โดนเทคนิคนี้เข้าไปร่างกายแหลกสลาย ทำให้มันตายในทันที
「อั่ก!」
ทันใดนั้นเองเลือดก็พุ่งออกมาจากไหล่ของโนโซมุ เลือดไหลอยู่ใต้เสื้อผ้าของเขา
นี่ไม่ใช่จากหมาป่าหรือไซคลอปส์แต่มันเป็นเพราะพลังของเทียแมทที่เกินควบคุมจนเปิดปากแผล
พลังของเทียแมทที่โนโซมุใช้นั้นมันมากกว่าพลังของดราก้อนสเลเยอร์คนอื่นๆ
พลังของมันไม่เหมาะกับมนุษย์เลยแม้แต่น้อย แม้ว่าจะมีความสามารถแต่ก็จะถูกมันกลืนกินหากไม่มีความสามารถในการ “พันธนาการ”ไว้
จนถึงขณะนี้ หลังจากปลด “พันธนาการ”โนโซมุก็พยายามควบคุมมันมาตลอด แต่ว่าพลังนี่มันก็จะทำลายร่างกายของเขาทุกครั้ง เขาควบคุมมันได้ในระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น
แต่ตอนนี้มันเกินควบคุมไปแล้ว เขาลืมไปด้วยซ้ำที่จะควบคุมมันและพลังนั่นก็เริ่มกลืนกินร่างกายเขา
บางทีเพราะมีสัญชาตญาณการเอาตัวรอดแทรกซึมเข้ามาทำให้เขาเริ่มที่จะเริ่มกลับมาควบคุมมันอีกครั้ง ไม่งั้นการดำรงอยู่ของตัวตนที่ชื่อโนโซมุได้หายไปจากโลกนี้แน่
「「「「「อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!」」」」」
ไซคลอปส์ทั้งห้าที่โนโซมุทิ้งไว้ด้านหลังพุ่งเข้ามาและมันก็เริ่มฟาดกระบองใส่โนโซมุ
โนโซมุปัดป้องกระบองที่ถูกฟาดมาด้านหน้าด้วยมือเปล่าและผลักมันไปกระแทกกับกระบองที่มาทางซ้าย
เสียงคำรามเกิดดังก้องไปทั่วการปะทะของกระบองสองอันส่งแรงสั่นสะเทือนมหาศาล แต่โนโซมุก็จัดการกับการโจมตีทางขวาโดยไร้ซึ่งความกังวล
กระบองที่ถูกซัดไปด้านข้างก็แตกออกโนโซมุหยิบดาบขึ้นมาฟันจนกระบองแตก
โนโซมุฟันทะลุร่างของเหล่ายักษ์ที่กำลังตะลึงกับกระบอกที่แตกไป ไซคลอปส์อีกสองตัวก็โดนฟันไปพร้อมๆกัน
ยักษ์สามตัวแยกเป็นหกส่วนและกลิ้งลงไปกับพื้น
หลายสิบวินาทีผ่านไปยักษ์เจ็ดตัวถูกสังหาร
ไซคลอปส์ที่เหลืออีกสองตัวพุ่งเข้าหาโนโซมุ โนโซมุเห็นภาพตรงหน้าก็ส่งพลังลงไปในฝักดาบ
การที่โนโซมุอัดแน่นพลังไว้ในฝักดาบนั้นจนแขนของเขาฉีกออกมาเลือดพุ่งออกมาจากบาดแผล แต่โนโซมุก็กระแทกหมัดลงพื้นโดยไม่ลังเล
คิ“ระเบิดทำลายล้าง”
กระแสวิญญาณที่พัดผ่านต่อหน้าผืนดินของเหล่ายักษ์ ไซคลอปส์ที่วิ่งมาไม่หยุดก็โดนเสาไฟอันแสนบริสุทธิ์เผาไหม้จนเสียชีวิต
◇◆◇
(จัดการเศษสวะหมดแล้ว เหลือเพียงแค่ไซคลอปส์เท่านั้น…………)
ไซคลอปส์ทั้งหมดตายลง และโนโซโมุก็กลั้นหายใจพร้อมกับวิ่งไปพร้อมกับร่างที่ฉีกขาดตามส่วนต่างๆ เลือดจำนวนมากกระฉูดออกจากร่าง แต่โนโซมุไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย
โนโซมุสัมผัสได้ถึงแสงสีแดงสดตรงหน้าที่ฉายอยู่ตรงหน้า เทียแมทกำลังอาละวาดอยู่ในตัวเขา จนทำให้เขาอยากอาละวาดออกมา
“ฝากทุกอย่างไว้ที่ข้า ปลดปล่อยมันออกมาซะ ทุกอย่างที่ตรงหน้า ข้าจะเผามันให้เป็นจุล!”
โนโซมุและ “หมอนั่น”เข้ากันได้ดีกว่าที่เคยและเสียงที่ก้องอยู่ในใจของผมก็เหมือนกับจะหลอมรวมตัวเขากับผมให้เป็นหนึ่งเดียว ตอนนี้ไม่รู้เลยว่าตัวผมเป็นใครเป็นเขาหรือตัวผมในตอนนี้
หัวใจเต้นรัวขึ้นและพลังมันพุ่งพล่านมากกว่าที่เคย ทุกครั้งที่หัวใจเต้น ราวกับชีวิตของโนโซมุกำลังจะตายจากเพราะเลือดจำนวนมาก บาดแผลนั้นกลายเป็นรอยแกะสลักและลุกจนเป็นไฟ และเขาก็เริ่มรู้สึกที่จะสบายตัวมากขึ้น
โนโซมุจ้องมองไปยังไซคลอปส์อีกสามตัวที่เหลือ
ไซคลอปส์ที่ควรจะบ้าคลั่งไปแล้วมันกำลังอยู่ในท่าทางสับสน
แต่ว่ามันไม่เกี่ยวอะไรด้วย โนโซมุผลักดันตัวเองในทันทีและแผลใหม่ก็ผุดขึ้นที่ขา
จากทั้งสามมีสองตัวที่พุ่งมาด้านหน้า แต่มันสายไปแล้ว
โนโซมุที่เร็วยิ่งกว่าไซคลอปส์ที่เหวี่ยงกระบองลงมา เขาย่องไปยังพื้นที่โจมตีของตัวเองและเขาก็ฟันแขนทั้งสองข้างของมันทิ้ง แขนนั้นปลิวไปตามลมพร้อมกับกระบองนั่นและดาบที่ย้อนกลับมาก็ฟาดฟันไปที่อกมันอย่างรวดเร็ว
การฟันของโนโซมุทะลุหน้าอกที่หนาราวกับแผ่นเหล็ก แต่แผลมันตื้นจนไม่น่าจะเป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ว่าแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
ทันใดนั้นรอยฟันที่โนโซมุปล่อยออกไปก็ตัดผ่านหน้าอกจนแผลขยายออกทันที เมื่อผืนพิวของแผลเปิดใหญ่ขึ้นก็มีคมดาบนับไม่ถ้วนฟาดฟันเข้าไปไม่ยั้ง
คิ“ปัดฝุ่น”
หาก “คมดาบลวงตา”เป็นการฟาดฟันที่ฟันศัตรูจากสองทิศทางเทคนิคนี้ก็เป็นการฟันที่จะฉีกกระฉากร่างของคู่ต่อสู้ออกมา ใบมีดที่ปล่อยไปยังกล้ามเนื้อมันจะขยายออกและกลายเป็นเหมือนเข็มนับไม่ถ้วนฟาดฟัน มันเป็นเหมือนกับการขูดร่างของคู่ต่อสู้เหมือนตะไบ
ไซคลอปส์ที่ถูกฉีกหน้าอก นั้นจนกล้ามเนื้อและซี่โครงหน้าอกหายไปด้วยการ “ปัดฝุ่น”
ปอดและหัวใจของมันร่วงหล่นออกมาและไซคลอปส์ก็ล้มลงพร้อมกับเลือดจำนวนมาก
◇◆◇
โนโซมุกระโจนเข้าหาไซคลอปส์ตัวอื่นและกระแทกหน้าของมัน หักกระดูกคอของมันและกระโดนข้ามหัวและขึ้นไปบนหลัง
เมื่อลงจอดบนหลังยักษ์อีกตัวก็ฟาดดาบเข้าไปที่หลังของมัน
พลังงานที่ถูกอัดและแรงกระแทรกนั่นทำลายอวัยวะภายในของไซคลอปส์ อวัยวะภายในถูกระเบิดออกมาและกระเด็นไปทั่ว
(ตัวสุดท้ายแล้วสินะ…………)
โนโซมุเผชิญหน้ากับไซคลอปส์ตัวสุดท้ายที่เหลืออยู่ขณะที่ร่างกายของเขาอาบไปด้วยเลือดและแผลที่เกิดขึ้นจากการใช้พลังของดราก้อนสเลเยอร์
「โอววววววววว! โฮวววววววววววววววววววววว!」
เสียงคำรามของไซคลอปส์ตัวสุดท้ายท่ามกลางแสงดาวอันระยิบระยับ จะกลัวสัตว์อสูรตัวกระจ้อยตรงหน้าหรือพยายามจะข่มขวัญเพื่อสร้างแรงใจให้กับตัวเองเพื่อข่มความกลัวนั่น
อย่างไรก็ตามโนโซมุอ่านใจมันไม่ออกหรอกทั้งหมดที่มีอยู่ในตอนนี้คือกำจัดทิ้งซะ
「ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!」
ไซคลอปส์พุ่งเข้าโนโซมุด้วยเสียงคำรามดังลั่น มันทำไปเพราะเพื่อข่มขู่ศัตรู แม้มันกำลังคลั่งแต่มันก็ไม่สามารถเอาชนะศัตรูตรงหน้าได้
แต่มันก็ไม่หนี เพราะอยากแก้แค้น คลั่ง หรือทำตามสัญชาตญาณ
ไม่มีใครรู้เหตุผลของมัน
โนโซมุเองก็ไม่รู้ เพราะนี่คือสนามรบ เขาไม่มีเวลามาสนใจเหตุผลของฝ่ายตรงข้าม เพราะที่แห่งนี้ไม่ฆ่าก็ถูกฆ่า
มือของโนโซมุจับด้ามดาบที่เก็บเขาฝัก ในเวลาต่อมา แขนข้างหนึ่งของยักษ์ก็โดน “แฟนท่อม” ฟันทิ้ง
「ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!」
อย่างไรก็ตามมันไม่สนแขนที่ขาดออกไปและยังเข้าหาโนโวมุ
อย่างไรก็ตามมันเดินมาก็โดน “คมดาบมายา-หวนคืน-”จนแขนขาดอีกข้าง
แขนขาดทั้งสองข้างแต่มันก็ไม่ยอมแพ้
ไซคลอปส์เริ่มพุ่งมาทางโนโซมุและพยายามโจมตีเขา
“อย่างน้อยก็ขอชมเชยให้ละกันเจ้าเศษสวะ!!”
มันตะโกนก้องและพุ่งเข้ามาหาและดูเหมือนว่าโนโซมุจะเผลอพูดภาษาสัตว์อสูรออกไปโดยไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตามเสียงนั่นก็ไปไม่ถึงมัน
โนโซมุเอามือสองข้างจับสะโพกและส่งพลังงานจำนวนมากจนบีบอัดแน่น
เทคนิคนี้ถูกปลดปล่อยออกมาหลังจากมันเข้าใกล้โนโซมุได้ไม่กี่ก้าว
คิ“ปืนใหญ่”
กระแสของพลังงานที่ถูกบีบอัดและปล่อยออกมาในทิศทางเดียวกับไซคลอปส์ที่เข้ามาทางโนโซมุ และร่างยักษ์นั่นก็ปลิวไปทันที
ไซคลอปส์กระแทกลงกับพื้น แขนทั้งสองข้างที่ขาดไปแล้ว พยายามลุกขึ้นโดยใช้ร่างกายท่อนยบน และภาพสุดท้ายที่เห็นคือสัตว์อสูรตัวน้อยที่กำลังถือดาบคาตานะอยู่
◇◆◇
โนโซมุส่งพลังจำนวนมากไปยังดาบและบีบอัดมันจนแน่น
เขาแทงออกไปด้วยมือข้างเดียวราวกับถือคันธนูที่เล็งเป้าและปิดฉากมันด้วยการโจมตีเดียว
พลังมหาศาลที่ปลดปล่อยอยู่ทั่วร่างโนโซมุทำให้บรรยากาศรอบๆมีเสียงดังสนั่นไปทั่ว แต่โนโซมุไม่ได้สังเกตเลยแม้แต่น้อย
ร่างของโนโซมุจมดิ่งลงไปชั่วครู่ จากนั้นก็ระเบิดเสียงคำรามอยู่รอบพื้นตรงหน้าของไซคลอปส์
ตอนนั้นเองดวงตาของพวกเขาสบกัน ดวงตาของยักษ์หยุดคลั่งแล้ว พวกเขาต่างจ้องมองกันและกันมองไปยังสิ่งมีชีวิตตรงหน้า โนโซมุที่เห็นก็ใบหน้าบิดเบี้ยวเล็กน้อย
ไม่ฆ่าก็ถูกฆ่า
การเผชิญหน้าชั่วขณะชีวิตอันแสนยาวนาน
คิ“ทะลวงแก่นแท้”
โดยไม่รู้ว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่ โนโซมุจึงปลดปล่อยลูกธนูที่ง้างเอาไว้
◇◆◇
ไซคลอปส์ตายจากการโดนโจมตีด้วย “ทะลวงแก่นแท้” ที่ผมปล่อยออกมาจนทะลุหลังมันและระเบิดออก ยังไงก็ตามมันเกิดเป็นรูยักษ์ขนาดใหญ่
“ทะลวงแก่นแท้”
เป็นการประสานวิชาของ “คมดาบลวงตา”กับ”ปัดฝุ่น”เข้าด้วยกัน ใบมีดอัดอากาศอันรุนแรงจะพุ่งเข้าใส่ฝ่ายตรงข้าม จากนั้น”ปัดฝุ่น”ก็จะถูกใช้งาน มันเป็นเทคนิคที่อันตรายอย่างยิง เพราะคนที่โดนฟันจะเกิดบาดแผลทั่วร่างกายนับไม่ถ้วน
ทำไมตอนนั้นหมอนั่นถึงได้หลุดจากสภาพบ้าคลั่ง
ยอมแพ้ยังงั้นเหรอ? หรือมีเหตุผลอื่น?
ผมเองก็ไม่รู้ แต่อย่างน้อยก็ทำเต็มที่แล้ว อย่างน้อยผมก็สู้กับมันเหมือนที่สู้กับเทียแมท
แต่ทำไม หมอนั่นจึงไม่ดิ้นรนจนถึงที่สุด ทำไมถึงไม่รักชีวิตตัวเองกันเลย…………。
ภาพสุดท้ายที่เห็นก่อนหน้านี้มันทำให้ผมหวนนึกถึงเหตุผลเหล่านั้น
「…………อาาาาา……」
ทัใดนั้นผมก็เงยหน้าขึ้นมองเห็นใบหน้าที่ย้อมเต็มไปด้วยเลือด โศกนาฏกรรมที่ผมก่อขึ้นกับพวกเหล่าไซคลอปส์และหมาป่าด้วยตัวคนเดียว
ร่างกายของไซคลอปส์จำนวนมากกระจัดกระจายไปทั่ว มีทั้งที่ส่วนบนส่วนล่างแยกจากกัน มีทั้งตัวที่ลำตัวเป็นรู มีทั้งตัวที่อวัยวะภายในหายไปจนหมด ตัวที่ถูกเผาทั้งตัว และอีกมากมาย แต่ละศพต่างตายด้วยวิธีการอันแสนโหดเหี้ยม
เลือดที่ไหลออกมาจากศพเหล่านั้นย้อมพื้นที่โดยรอบให้เป็นสีแดงสด เกิดเป็นบ่อเลือดขนาดใหญ่
ความฝันสีแดงสดนั้นย้อนเข้ากลับมาในหัวอีกรอบ
กลิ่นของเลือดทั่วทั้งเมืองอาร์คาซัมและคนคุ้นหน้าที่ถูกเผาตาย
สิ่งที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าขึ้นบ่อเลือดขนาดใหญ่และตัวผมที่ถูกย้อมไปด้วยเลือดสดๆ
ทั้งสองเป็นภาพแห่งความมรณาที่ไม่สามารถจะพรรณาได้
「อั่กกกกกกก!!! อ๊ากกกกก!!」
ผมรู้สึกอยากจะอาเจียนสิ่งที่อยู่ในท้องออกมาอย่างรุนแรง ผมทนไม่ไหวแล้ว คุกเข่าลงและพ่นสิ่งของต่างๆมากมายในท้องลงไปในบ่อเลือด
รสเปรี้ยวกระจายไปทั่วทั้งปากและกรดในกระเพาะที่กำลังเผาผลาญลำคอ
「หึ หึ หึ หึ หึ……」
ความรู้สึกอยากอาเจียนมันยังไม่หายไปแม้ว่าจะพ่นทุกอย่างออกมาจนหมดแล้ว แม้แต่น้ำย่อยในกระเพราะอาหารก็ปล่อยออกมา
「ตัวผม เป็นอะไร……」
“อยากแข็งแกร่งไม่ใช่เหรอ?”
ผมเองคิดแบบนั้นอย่างแน่นอน ผมต้องการสนับสนุนความฝันของลิซ่าและพยายามแข็งแกร่งขึ้นเพื่อสิ่งนั้น นับแต่นั้นเป็นต้นมาหลังจากเกิดเรื่อง ก็หนีมาตลอด แต่อย่างน้อยก็อยากจะแกร่งขึ้นจริงๆ
เมื่อมองมือทั้งสองข้างที่เปื้อนเลือดและอาเจียนออกมา
มือของฆาตกรที่ฆ่าทุกอย่างไม่เลือกหน้าเพราะกิเลสของตัวเอง
แต่มันไม่ใช่แบบนั้น ไม่ได้อยากแข็งแกร่งขึ้นเพื่อเป็นแบบนี้
ถึงจะหนี แต่อย่างน้อยก็ไม่อยากจะพรากชีวิตของผู้อื่นไปทั่ว!!
「สำหรับผมแล้ว………ถ้าเป็นแบบนี้ละก็………………ไม่อยากจะแข็งแกร่งขึ้นหรอก…………」
ร่างของผมทรุดลงไปในทะเลเลือด ผมถูกอารมณ์กลืนกินจนทำลายซึ่งเหตุผลไป และจิตสำนึกของผมในตอนนี้ก็โดนความมืดพรากไปแล้วเช่นกัน