พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” Ori of the Dragon Chain - ตอนที่ 52
บทที่ 4คุยท้ายบท
「……อืมม ในที่สุดก็จบลงสักที……」
「ก็ช่วยไม่ได้แหละนะมิมุรุ วุ่นวายกันน่าดูเลยล่ะ」
พวกโนโซมุที่เอาชนะสัตว์อสูรสีดำมาและกลับมาที่เมืองอาร์คาซัมในตอนบ่ายได้รายงานเรื่องสัตว์ร้ายสีดำให้แก่สถาบันทราบ
เป็นผลให้โดนไปสอบปากคำโดยละเอียดให้ห้องของผอ.จิฮัด รัลเดลทันที
หลังจากรายงานทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว มิมุรุก็ออกมาจากห้องและถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่ายและทอมเองก็ยิ้มให้กับสถานการณ์เช่นนี้
มีผ้าพันแผลพันรอบแขนขวาและมีสลิงตึงไว้ เข้าเฝือกนั่นเอง
หลังจากรายงานเรื่องสัตว์อสูรสีดำเสร็๗ จิฮัดก็ได้กับชับทางสถาบันให้พิจารณาเรื่องราวและให้เก็บเรื่องไว้จนกกว่าจะเผยแพร่ออกไปในที่สุด
「เรื่องของซีน่าดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับเจ้านั่นที่ทำลายบ้านเกิดของเธอ ดังนั้นระมัดระวังไว้ก็ดี」
หลังจากนั้น ภายในป่าซีน่าก็บอกทุกอย่างเกี่ยวกับเธอให้มิมุรุและคนอื่นๆได้ฟัง
การบุกรุกครั้งใหญ่ได้เข้าทำลายป่าฟอสซิลและครอบครัวของเธอสละชีวิตของพวกเขาเพื่อให้ซีน่ารอดมาได้
ในขณะที่คนสำคัญกำลังโดนฆ่า เธอทำอะไรไม่ได้ นอกจากคำสั่งของพี่สาวที่บอกให้เธอหนีไป ตัวเธอเองก็ตัดสินใจที่จะแข็งแกร่งขึ้นและมาที่สถาบันโซลมินาติ
เพราะยึดติดกับพลังมากเกินไปเลยละเลยเรื่องการสื่อสารกับเหล่าวิญญาณและเมื่อสัตว์อสูรปรากฏต่อหน้า ก็ทำให้ตัวฉันนั้นโกรธจนเลือดขึ้นหน้า และทำอะไรไม่ถูก
แน่นอน ก็ได้พูดเกี่ยวกับสัตว์อสูรสีดำตัวนั้นด้วย แม้ว่าจะไม่ใช่ตัวที่ดูเหมือนที่บุกบ้านเกิด แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่เกี่ยวข้องทีเดียว ทั้งบรรยากาศ ตะกอนสีดำ และดวงตาสีแดงมากมายบนร่างกายของมัน
โนโซมุจำได้ว่าเธอกำลังทำอะไรบางอย่างขณะที่รายงานเรื่องสัตว์อสูรตัวนั้น
เมื่อพวกโนโซมุเข้ามาในห้องของจิฮัดก็พบอาจารย์อันริที่เป็นอาจารย์ประจำชั้นของโนโซมุอยู่ข้างๆและอาจารย์ประจำชั้นของซีน่าก็อยู่ด้วยนั่นคือคุณอินด้าที่รับฟังรายงาน
อาจารย์อินด้าเป็นคนจริงจัง มีมารยาทและขยันขันแข็ง และมากความสามารถ แต่เธอเป็นที่รู้จักกันในเรื่องว่าเคร่งระเบียบวินัย
เพราะเธอเป็นคนคิดมาก เธอเองก็ค่อนข้างจะสนิทกับลิซ่าและไม่คิดอะไรกับโนโซมุมากนัก เธอเองก็เป็นพวกเดียวที่คิดว่าโนโซมุไม่ควรอยู่ในสถาบันแห่งนี้
เนื่องจากเธอมีความสามารถเป็นเลิศ บางครั้งก็คอยมาสอนแทนจิฮัดเรื่องบทเรียน และเธอยังเป็นคนเตือนไอริสไม่ให้เข้าใกล้ผมด้วย
เมื่อเธอสังเกตเห็นโนโซมุที่อยู่ข้างๆซีน่าก็ขมวดคิ้วทันที
「สัตว์อสูรสีดำ?」
「ใช่ค่ะ พวกเราพบมันในป่าแถวชานเมือง ซึ่งคล้ายกับสัตว์อสูรที่เคยทำลายบ้านเกิดของฉัน」
จากที่กล่าวมาซีน่าได้บรรยายรูปลักษณ์ของมัน และเธอเองก็คิดว่ามันเป็นตัวเดียวกันกับที่ทำลายบ้านเกิดของเธอเมื่อ 10 ปีก่อน
「งั้นเหรอ……」
「แงงงงงงงงงง……」
จิฮัดเอามือกุมโต๊ะและมองต่ำลงด้วยใบหน้าเศร้าๆ และอันริเองก็ร้องไห้ฟูมฟายเลย
「เข้าใจแล้วละว่าเกิดอะไรขึ้น โชคดีที่พวกเธอปลอดภัย จะแจ้งทางกิลด์ให้ทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้และอัศวินผู้พิทักษ์ทราบด้วย แต่ว่าพวกเธออย่าพูดอะไรเกี่ยวกับมันถ้าไม่จำเป็น」
「……นั่นเป็นเพราะมันเหมือนกับตัวที่ทำลายบ้านเกิดฉันงั้นเหรอ?」
「ก็ใช่ บาดแผลจากการรุกรานครั้งใหญ่ยังคงฝังรากลึกลงไปในจิตใจของผู้คน หากพูดถึงโดยไม่จำเป็นมันจะไปกระตุ้นให้คนกังวลและเกิดความสับสน」
แน่นอนว่า แผลเป็นจากภัยพิบัติครั้งใหญ่เมื่อ 10 ปีก่อนยังไม่หายดี ข้อพิสูจน์ก็คือสถาบันโซลมินาติที่เหล่านานาประเทศสนใจและสรรหาทรัพยากรบุคคลเข้าประเทศของตนเอง
ไม่ใช่เพียงแค่นั้น ความกลัวของการรุกรานของสัตว์อสูรตัวนั้นมันแพร่กระจายไปทั่ว
「เท่าที่พอจะบอกได้เจ้าสัตว์อสูรตัวนั้นมันคล้ายกับตัวที่บ้านเกิดของเธอเนบร้าไม่ผิดแน่ นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาว่าไม่มีการพบเห็นมันหลายครั้งแล้ว ก็เลยมีความจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลก่อนชั่วคราว เราจะตรวจสอบจากทั่วทุกทางและรวมถึงหินเวทย์ที่พวกเธอเอากลับมาด้วยและซากศพของมันที่ยังเหลืออยู่ในป่า」
หลังจากที่พวกโนโซมุเอาชนะมันได้ มันก็ทรุดตัวลงเหมือนซากดินเหนียวกลายเป็นก้อนเนื้อที่ปะปนกัน กระดูกบิดเบี้ยว และมีหินเวทย์ขนาดใหญ่ที่เหลืออยู่
เนื้อและกระดูกบางส่วนเหมือนสัตว์สี่ขาเช่นเดียวกับพวกหมาป่า แต่ส่วนใหญ่มันดูรกมากๆและมองออกได้ยาก มันเหมือนมีหลากหลายซากศพมารวมตัวกันในตัวๆเดียว
ตามชื่อเรียกเลย หินเวทย์เป็นหินที่มีพลังเวทย์ประจุอยู่ภายในปกติจะเป็นแร่ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและตกผลึก และพลังเวทย์ในนั้นจะถูกนำไปใช้ประโยชน์ต่างๆนาๆเช่นการเล่นแร่แปรธาตุและเวทย์พิธีกรรมของเหล่านักเวทย์
ใบบรรดาสัตว์อสูรที่ทรงพลังและมีพลังเวทย์จำนวนมาก มันก็จะมีหินเวทย์อยู่ภายในร่างและหินเวทย์ที่ได้จากสัตว์อสูรส่วนมากจะเอามาซื้อขายกันตามตลาด
และสัตว์อสูรที่มีพลังกล้าแกร่งมันจะได้หินเวทย์ที่มีความบริสุทธิ์และคุณภาพสูงกว่าสัตว๋อสูรทั่วไป
อย่างไรก็ตาม สัตว์อสูรที่มีหินเวทย์ความบริสุทธิ์สูงมักจะเก่งกาจและไม่ใช่ว่าสัตว์อสูรทุกตัวจะต้องมีหินเวทย์เสมอไป
ไม่ใช่ว่าหินเวทย์ไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้ แต่ว่าการสร้างมันต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างมาก
นี่เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้หินเวทย์ตกผลึกก็คือการควบแน่นของพลังเวทย์ด้วยแรงดันมหาศาล หรือค่อยๆเทพลังเวทย์ลงไปในตัวเร่งปฏิกิริยาจนเวลาผ่านไปและรอการตกผลึก
หินเวทย์ที่ออกมาจากสัตว์อสรูรในครั้งนี้เรียกว่าหาได้ยากมากในแง่ของความบริสุทธิ์และปริมาณพลังเวทย์ที่ประจุภายใน เพื่อเป็นการตอบแทนกับพวกเราทั้งสี่คนที่นำมันกลับมาได้ ทางสถาบันได้ให้รางวัลพวกเราเป็นเงินจำนวนมากประมาณหนึ่ง
กล่าวอีกนัยหนึ่ง“ทางสถาบันขอรับซื้อในราคาสูงและถามพวกเราเกี่ยวกับเรื่องนี้”
「เอาจริงๆมีคำถามอยากจะถามผอ.จิฮัด ท่านรู้เรื่องสัตว์อสูรตัวนี้รึเปล่า?」
ซีน่าถามคำถามต่อตัวจิฮัดเอง คำถามที่ถ้าคิดตามปกติแล้วไม่ควรจะถาม แต่เธอกลับถามเพราะยังไงก็ต้องการคำตอบ
「…………」
「…………」
ซีน่าและจิฮัดจ้องหน้ากัน จิฮัดขมวดคิ้วพยายามเบือนหน้าหนี แต่ซีน่ายังคงจับจ้องไม่หยุด
「……ไม่รู้หรอกนะ มันมีหลายๆอย่างเกิดขึ้นมากมายเกี่ยวกับเจ้านั่น ทั้งหมดที่พวกข้าทราบก็คือมีการพบเห็นมันหลายครั้งในการรุกรานครั้งใหญ่และในบรรดาประเทศที่โดนพวกมันรุกราน ก็ต่างต้องพบกับมันเช่นกันทั้งนั้น」
เพราะซีน่าทำท่าทางจริงจังเขาเลยตอบออกไป
「อย่างไรก็ตาม รูปร่างและลักษณะของมันแตกต่างกันไปหมดเลย ไม่มีรูปร่างแน่นอน บางครั้งก็เป็นสัตว์สี่ขา บางครั้งก็เป็นนก บางครั้งก็เป็นพืช อย่างไรก็ตามมันมีสีดำและดวงตาอันแดงก่ำทุกตัวเป็นเรื่องปกติ。」
เท่าที่ฟังเรื่องราวดูเหมือนว่าจิฮัดจะไม่รู้รายละเอียดมากนัก
「ขอเตือนอีกครั้งอย่าเล่าเรื่องราวพวกนี้ให้เหล่านักเรียนคนอื่นได้ยินเด็ดขาด。」
จิฮัดเตือนทั้ง 4 คน
การตัดสินใจของเขามีเหตุผล และต้องระมัดระวังอย่างยิ่งเพราะมันเกี่ยงข้องกับการรุกรานครั้งใหญ่เมื่อ 10 ปีก่อน
ไม่ว่าจะซ่อนมันแค่ไหน ตราบใดที่จัดการข้อมูลได้ไม่ดีพอ ยังไงคนก็รู้อยู่ดี แต่อย่างน้อยตอนนี้ก็ขอซื้อเวลาไว้ก่อนเพื่อทำการสืบสวน ขณะที่ข้ากำลังพูดคุยกับทางกิลด์และอัศวินผู้พิทักษ์ ข้าเองก็วางแผนไว้แล้วหากพวกเขาปริปากออกมาก็ต้องกำจัดทิ้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
พวกโนโซมุเองก็เป็นแค่นักเรียนธรรมดาคนหนึ่ง
ตราบใดที่พวกเขาไม่มีประสบการณ์ด้านสังคม เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับ การโดนจิฮัดที่เป็นหนึ่งในอัศวินเงินสีรุ้งสั่งการก็น่าจะเป็นเรื่องที่ควรภาคภูมิใจสำหรับพวกเขา
หลังจากนั้นทั้งสี่คนก็ออกจากห้องไปกับอาจารย์ประจำชั้นอีกสองคน
◇◆◇
โนโซมุนึกถึงเรื่องที่รายงานขึ้นมา แต่มีบางอย่างที่น่าตกใจสำหรับเขา
「เอ่อคือ……」
「คงเจ็บปวดมามากเลยสิน้า……ผ่านอะไรมามากมายเลยสิน้า~~。อ่า ช่างเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งอะไรเช่นนี้!!」
「คิย๊าาาาาาาาาาาา!」
หลังออกจากห้องมาอาจารย์อันริที่ซาบซึ้งในเรื่องราวของซีน่าก็เข้าไปกอดเธอทันที เห็นได้ชัดว่าเธอเห็นอกเห็นใจซีน่ามาก
ซีน่าทำท่าทางโกรธและส่งเสียงน่ารักๆออกมา สำหรับเธอที่สูญเสียครอบครัวไปและแสวงหาแต่การแก้แค้นและเพื่อทวงคืนบ้านเกิดกลับมา การสกินชิพแบบนี้ยังคงดำเนินต่อไป ดูเหมือนว่าเธอเองก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
「อาจารย์อันริทำแบบนี้ไม่ได้นะคะ」
「ฮิย๊าาาา!!」
อันริที่กอดซีน่าโดนอาจารย์อินด้าลากออกมา
「เป็นอาจารย์ของสถาบันโซลมินาติแท้ๆ ทำตัวให้สมกับเป็นอาจารย์ของสถาบันหน่อยสิคะ」
เธอดุอันริที่ทำท่าทางเหมือนเด็กทั้งๆที่เป็นอาจารย์เหมือนกันแท้ๆ
「พวกเธอเองก็ลำบากน่าดูเลยนะคะ ดูเหมือนว่าจะประสบปัญหามากมาย แต่ก็ดีแล้วล่ะคะที่ปลอดภัย」
「ไม่หรอกค่ะ เพราะได้เขาช่วยฉันไว้」
เมื่อพูดจบซีน่าก็จ้องไปทางโนโซมุ หลังจากถูกจ้องมิมุรุและทอมเองก็ยิ้มแป้นและหันไปมองโนโซมุด้วย
ในทางกลับกันโนโซมุกลับแปลกใจที่โดนบอกเช่นนั้น
「หมอนี่นะเหรอคะ……」
อาจารย์อินด้าขมวดคิ้วและจ้องไปที่โนโซมุด้วยความสงสัย
「ค่ะ เขาช่วยฉันตอนที่เจอกับสัตว์อสูรตัวนั้นและคอยช่วยเพื่อนของฉันที่บาดเจ็บจนเกือบจะตายด้วยค่ะ」
「……เท่าที่ได้ยินมา ไม่อยากจะเชื่อเลยแหะ」
อาจารย์อินด้าพูดอย่างตรงไปตรงมากับคำพูดของซีน่า เป็นเรื่องเหลือเชื่อสำหรับเธอที่โนโซมุจะปกป้องพวกเธอได้ เพราะพวกเธอเก่งกว่าเขาตั้งเยอะ
「เป็นความจริงนะคะ」
「ใช่แล้วล่ะ~~。โนโซมุคุงเป็นผู้ชายที่ดีมากๆเลยน้า~~」
「อะอาจารย์อันริ……」
ซีน่ายืนยันต่ออาจารย์อินด้าซึ่งกำลังสงสัยเขา และอันริเองก็ช่วยเป็นอีกเสียง ในกรณีของอันรินั้นทำให้บรรยากาศโดยรอบผ่อนคลายลงไม่เหมือนกับคนอื่นที่ทำท่าทางจริงจัง
「……แต่ด้วยผลการเรียนที่โรงเรียน ฉันไม่คิดว่าเขาจะทำอะไรแบบนั้นได้เลยนะคะ ฉันคิดว่ามันคงไม่ดีสำหรับซีน่าและคนอื่นๆ แต่เท่าที่ฉันบอกได้ว่าการจะหนีจากสัตว์อสูรเช่นนั้นได้ แม้แต่นักผจญภัยระดับสูงยังลากเลือดเลยนะคะ ถึงดิชั้นจะทำได้ก็เถอะ แต่สำหรับเขาแล้วคงไม่มีโชคดีแบบนี้เป็นครั้งที่สองหรอกค่ะ」
อาจารย์อินด้าเริ่มพูดแก้ต่าง
เธอเชื่อในซีน่ามากกว่าความสามารถของโนโซมุ
「พูดให้ชัดเลย คราวนี้เธอน่าจะโชคดี ที่รอดมาได้ เดิมทีแล้วทุกคนคงไม่สามารถรอดมาจากสถานการณ์แบบนี้ได้หรอก อย่าลืมความโชคดีในวันนี้เสียละและมุ่งหน้าสู่อนาคตซะ」
อาจารย์อินด้าตัดสินใจว่าที่โนโซมุรอดมาได้เพราะโชคช่วย และแน่นอนเธอไม่เห็นความสามารถของโนโซมุด้วยตัวเอง
หลังจากที่โนโซมุรอดมาได้ การทะเลาะกันระหว่างซีน่าและมิมุรุก็เริ่มขึ้น จากนั้นซีน่าก็ออกไปตัวคนเดียว ดังนั้นเรื่องรายละเอียดแบบนั้นไม่เกียวข้อง
เกี่ยวกับเวลาที่จัดการกับสัตว์อสูรนั้น ผมซื้อเวลาให้ซีน่าพร้อมกับมิมุรุและตกลงเรื่องรายละเอียด
อันริซึ่งรู้เกี่ยวกับโนโซมุก็พยักหน้า แต่อาจารย์อินด้าดูสงสัยเกี่ยวกับเขาอยู่
จิฮัดจ้องมองไปยังโนโซมุ แต่โนโซมุก็ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร
อคติที่มีต่อโนโซมุยังคงลึกซึ้ง คราบใดที่เขายังไม่แสดงฝีมือในที่สาธารณะ ดูเหมือนมันเป็นเรื่องยากที่จะล้มล้างชื่อเสียงอันแสนล้มเหลวได้ยาก
「นอกจากนี้ การพูดคุยกับนักเรียนอาจจะไม่เป็นปัญหา แต่ในฐานะอาจารย์แล้ว ฉันไม่แนะนำให้พวกเธออยู่กับ โนโซมุ・ เบลาตี้ เพราะเดี๋ยวจะรู้เหตุผลเอง」
อันริและซีน่าพยายามจะพูดอะไรบางอย่างกับอาจารย์อินด้าที่พูดใส่แต่โนโซมุฝั่งเดียว แต่ก่อนที่จะพูดอะไร อินด้าก็เดินจากไป
「โมวววววววว! โนโซมุไม่ใช่คนไม่ดีนะ~~!!」
「หวาหวาหวา……」
เธอเอามือเท้าเอวและทำแก้มป่อง อันริที่กำลังโกรธก็ทำท่าทางยิ้มเฟื่อนๆออกมา
「เอ่อ….ขอโทษนะโนโซมุคุงอาจารย์อินด้าไม่ใช่คนไม่ดีหรอกนะ……」
「อืม ผมรู้อยู่แล้วล่ะว่าทุกคนคิดยังไงกับผมในสถาบันแห่งนี้」
「…………」
ท่าทางของซีน่าโดนโนโซมุที่บอกปัดออกไป ทอมและมิมุรุเองก็ทำท่าทางขอโทษเช่นกัน
ซีน่าไหล่ตก แต่เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นราวกับว่าเธอตัดสินใจแล้ว และเธอก็จ้องหน้าเธอเผชิญหน้ากับโนโซมุอีกครั้ง
「ขอขอบคุณอีกครั้งสำหรับการที่มาช่วยเหลือในตอนนั้นนะ ยังไงก็ตามต้องขอโทษด้วยที่เคยกล่าวโทษและต่อว่านายมากมาย……」
「ผมเองก็ขอบคุณโนโซมุเช่นกัน ขอบคุณโนโซมุที่ทำให้ผมมีชีวิตรอดต่อไปได้ ขอบคุณมาก」
「ใช่ขอบคุณมากเลยน่ะ!โนโซมุคุง ช่วยฉันไว้ได้เยอะเลยล่ะ」
ซีน่าและมิมุรุเองก็ขอบคุณโนโซมุอีกครั้ง โนโซมุเริ่มเขินอาย ในขณะเดียวกันก็รู้สึกผิด
「ไม่หรอก ผมน่ะ……」
โนโซมุพูดอะไรไม่ออกและละสายตาไปตอนที่สู้กับสัตว์อสูร เขาไม่สามารถปลดปล่อยพันธนาการได้เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับเทียแมทและกลัวเรื่องที่ตัวเองหนีจากความจริง นั่นทำให้โนโซมุรู้สึกไม่สบายใจ
โนโซมุจ้องมองซีน่าอีกครั้ง จนถึงตอนนี้เธอที่ทำตัวเย็นชาใส่ผมและด้านชา ผมรู้สึกเหมือนกับเดินอยู่บนแผ่นน้ำแข็งบางๆ แต่ตอนนี้เธอดูอ่อนโยนกับผมขึ้นมากเลยล่ะ
นั่นคือการเปลี่ยนแปลงเข้าไปอีกขั้นกับเหล่าเพื่อนๆของเขา และเป็นผลจากการรวมแรงรวมใจกันเอาชนะกับสัตว์อสูรและกล้าเผชิญหน้ากันกับเพื่อนของเธออย่างตรงไปตรงมา
โนโซมุรู้สึกมีความสุข และในขณะเดียวก็อิจฉาเธอที่สามารถก้าวเดินไปข้างหน้าได้แล้ว
「โนโซมุคุง……คือว่า……」
「โนโซมุ! สบายดีไหม!?」
「อาาาา……」
มีสาวผมดำมาจากทางด้านหลังทางเดินขณะที่ซีน่าพยายามจะพูดอะไรบางอย่างกับโนโซมุเอง โนโซมุเองก็ตกใจที่ไอริส ทิม่า และมาร์ มาหา
บางทีพวกเขาอาจจะได้ยินจากมาร์ว่าโนโซมุทำอะไรเมื่อวานนี้
「โดนผอ.จิฮัดเรียกตัวไปแล้วเป็นไงคะ? และพวกเธอเหล่านี้ล่ะเป็นใครกันแน่……」
「อืม เกิดอะไรขึ้นหลายอย่างเลยล่ะ……」
เมื่อไอริสเดินมาหาโนโซมุก็รีบยิงคำถามทันที
จิฮัดไม่ให้ผมเล่ารายละเอียดออกไป ดังนั้นเมื่อผมคิดว่าควรจะพูดอะไรดี อันริก็เลยยื่นมือมาช่วย
「อา โมวถึงเวลามื้อกลางวันแล้ว~~。วันนี้อาจารย์จะไปกินข้าวเป็นเพื่อนด้วยนะ ว่าไงล่ะไปกินข้าวกันเถอะ~」
ดูเหมือนว่าจะมีหลายสิ่งที่อยากจะถามและพูดคุย แต่อันริเองก็กระตุ้นให้พวกเขาเริ่มเดินออกไป
โนโซมุเดินไปข้างหน้า ด้วยฝีเท้าอันหนักแน่นและมองหันหลังไป
จ้องมองดูซีน่าและคนอื่นๆ ที่เดินอยู่ด้วยกัน
โนโซมุเองก็จมลงสู่ห้วงแห่งความมืดมิด แต่ในขณะที่ก้าวต่อไปก็กลับมาหัวเราะได้อีกครั้ง แม้ว่าจะล้มไปแล้วแต่ก็กลับมาลุกใหม่ได้อีกครั้ง ความจริงเหล่านั้นทำให้โนโซมุอุ่นใจเล็กน้อย
คราวนี้ผมจ้องมองมาทางไอริสกับมาร์ และอันริที่เดินอยู่
「?มีอะไรล่ะ?」
「เป็นอะไรไปยังงั้นเหรอจ้ะ~~」
「เปล่าหรอก ไม่มีอะไร」
เมื่อไอริสและคนอื่นๆจ้องมาทางโนโซมุ โนโซมุเองก็บอกปัดไปดูเหมือนมีอะไรอยากจะถามกันน่าดู
ผมไม่สามารถเล่าเรื่องอะไรได้เลย มันอาจจะทำให้กังวลและกลัวกันก็ได้ แต่ตอนนี้ ผมเป็นห่วงพวกเขา…ผมไม่อยากเสียพวกเขาไปเพราะความกลัวในเรื่องที่จะเปิดเผยพลังของดราก้อนสเลเยอร์ แต่ว่าตอนนี้เขาไม่ได้คนเดียวอีกต่อไปแล้วมันค่อยๆขจัดความกลัวที่มีในจิตใจของโนโซมุเล็กน้อย เขารู้สึกว่าตัวเขาเริ่มจะก้าวไปข้างหน้าได้