พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” Ori of the Dragon Chain - ตอนที่ 76
บทที่ 5 ตอนที่ 2 3
ณ เขตชานเมืองของเมืองอาร์คาซัมท่ามกลางความมืดมิด มีทุ่งหญ้าที่มีดอกไม้เบ่งบานท่ามกลางแสงจันทร์
โนโซมุอยู่ห่างจากสถานที่แห่งนั้นซึ่งเขาฝึกกับไอริสอยู่เสมอ
เขากวัดแกว่งดาบอยู่บนทุ่งหญ้าอย่างสิ้นหวัง ราวกับว่าเขาพยายามอย่างยิ่งที่จะสลัดบางอย่างให้หลุดพ้นไป
「ฮ่าห์!!」
แม้ว่าจะทำเป็นกวัดแกว่งดาบต่อไป ดาบที่ส่องแสงท่ามกลางแสงราตรีที่ดุดัน มันยังโดนกลบไปด้วยแสงจันทร์และดอกไม้ที่เบ่งบาน
「แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก……โถ่วเว้ย!!」
เนื่องจากผลของการ “พันธนาการ” ความรู้สึกที่ว่าหมดแรงมันก็ถาโถมอย่างรวดเร็ว ความเหนื่อยล้ามหาศาลพุ่งเข้าใส่ร่างของโนโซมุ อย่างไรก็ตามเขากัดริมฝีปากแน่น ประครองความเจ็บปวดและใช้กำลังฟันดาบต่อไป
「บ้าเอ้ย! หนอยยย……!」
อย่างไรก็ตามเพราะหมดแรง จึงล้มลง เขาพยายามจะแกว่งดาบต่อไปในขณะที่พยายามยืนขึ้น แต่ความสมดุลที่พังทลายไปแล้วก็ไม่ฟื้นคืนกลับง่ายๆ ในทางกลับกันหากฟันดาบต่อไปทั้งๆยังงี้ตัวเองได้ตายก่อนแน่ๆ
「อุหวาาาาาา!!」
โนโซมุพยายามทรงตัวกับพื้น
เขายืนขึ้นอีกครั้งและพยายามแกว่งดาบต่อไป แต่ไม่ว่าเขาจะทุ่มแรงไปที่เท้ามากขนาดไหนมันก็ไม่ขยับ
「หนอยยยยยยยยยยยยแน่….บ้าเอ้ยยยย!」
เขาเอาดาบแทงลงไปบนพื้นเพื่อใช้เป็นไม้เท้า โนโซมุพยายามลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางสิ้นหวัง
อย่างไรก็ตามร่างกายของเขากระตุก และมันไม่เคลื่อนไหวตามความคิดเลย
หลังจากมาถึงเมืองอาร์คาซัมโนโซมุก็มุ่งมาที่นี่ทันที เขาแกว่งดาบอย่างต่อเนื่อง จิตใจที่ว้าวุ่นกับความเหนื่อยล้าทางกายภาพที่แยกออกจากกัน
「อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก!」
โนโซมุสัมผัสได้ถึงโซ่ที่มองไม่เห็นที่ผูกมัดเขาไว้
เพราะมีสิ่งนี้…ผมพยายามทำลายมันด้วยแรงทั้งหมดที่มี
ในอดีตโซ่นี่ฉีกกระชากออกง่ายเหมือนกับกระดาษ ตอนนี้มันพันรอบร่างโนโซมุและผูกมัดเขาไว้
「……ไอ้บ้าเอ้ยให้ตายเหอะ……」
มันเป็นความรู้สึกผิดแปลกอันแสนเลวร้าย ความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และความสมเพชเวทนาต่อตัวเองที่มีจิตใจไม่มั่นคง
ยิ่งกว่านั้น ที่ดาบยังเต็มไปด้วยคราบเหงื่อและน้ำลาย ถ้าอาจารย์มาเห็นโดนด่าโดยไม่ต้องถามเลย เธอจะบอกให้หยิบดาบมาและฝึกใหม่อีกครั้ง
ความโกรธพุ่งเข้าใส่ตัวเข้าเองซึ่งได้แต่แกว่งดาบไปด้วยท่าทีน่าสมเพช โนโซมุเอามือกระแทกพื้นสุดกำลัง
เลือดหยดออกจากริมฝีปากที่ถูกกัดและหยดลงบนหมัดของเขาที่กระแทกลงกับพื้น
แสงของหิ้งห้อยที่ลอยไปรอบๆกำลังเต้นรำเพื่อปลอบโยนชายผู้ไร้ความคิดผู้นี้
「……มาอยู่ในที่แบบนี้เองสินะ」
เสียงแสนหวานดังก้องไปรอบๆเมื่อโนโซมุเงยหน้าขึ้นก็ก็พบกับสาวผมสีฟ้าที่พลิ้วไหวไปตามสายลม ผิวสีขาวนวลเคลือบด้วยแสงสว่างของเหล่าหิ้งห้อยเข้ามาในสายตา
「นายน่ะ…มาทำอะไรที่นี่ยังงั้นเหรอ?……」
ซีน่า・ จูเรียลยืนอยู่ตรงนั้น บางทีเพราะเธอวิ่งตามหาผมจนทั่วเลยละมั้งผมเลยยุ่งไปหมดเลย
「เธอทำไมกัน….ทำไมถึงมาที่นี่ล่ะครับ……」
โนโซมุถามว่าทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ด้วยท่าทีตกตะลึง เขาไม่รู้ว่าเธอมาที่นี่ทำไม
ซีน่าตอบกลับด้วยใบหน้าตื่นตระหนก เหมือนกับว่าถามอะไรโง่ๆออกไป
「ก็มาตามหานายยังไงล่ะ นายไม่ได้กลับไปที่สถาบันและจู่ๆก็หายตัวไป ….ทุกคนออกตามหาให้วุ่นเลย」
「ทุกคน……」
โนโซมุพึมพำด้วยความไม่สบายใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น ซีน่านั่งลงข้างๆโนโซมุ
「ใช่แล้วล่ะ ไอริส ทิม่า โซเมีย อาจารย์อันริ มิมุรุ และทอม แม้กระทั่งฟีโอก็ตามหานายให้วุ่นเลยนะ?」
「งั้นเหรอครับ……」
ซีน่าพยายามพูดด้วยท่าทีร่าเริง แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนใบหน้าที่แสนขุ่นมัวของโนโซมุได้ ริมฝีปากเขาปิดแน่นสนิทไม่ยอมพูดอะไร
「…………」
「…………」
โนโซมุและซีน่าต่างเงียบ เธอเหลือบมองไปด้านข้าง แต่ว่าเขาก็ไม่พูดอะไร
ซีน่าถอนหายใจและเรื่มพูดสิ่งที่ได้ยินจากไอริสก่อนหน้านี้
「ฉันได้ยินมาหมดแล้วล่ะจากไอริสน่ะ เกี่ยวกับพลังของนาย……」
「เอะ!!」
โนโซมุเครียดขึ้นมาทันที ความประหลาดใจและความกลัวเข้ามาในใจของซีน่า ไม่รู้หรอกว่าเธอกลัวอะไร แต่ตอนนี้เธอคิดว่าเป็นเวลาที่ต้องพูดออกไป
「ปลดปล่อย “พันธนาการ” ฉันไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน แม้แต่ในห้องสมุดสถาบันก็ไม่มีบันทึกไว้เลย」
「…………」
คำตอบของโนโซมุมีแต่ความเงียบ ไม่อยากตอบหรือว่าตอบไม่ได้? ซีน่าไม่สนใจ แต่คิดว่าน่าจะเป็นทั้งสองอย่าง
「นอกจากนี้ยังจัดการหนึ่งในเจ็ดของของจักรวรรดิดิซาร์ต ต่อสู้กับตระกูลแวมไพร์แห่งวาเซียรต์และเอาชนะได้ เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากเลยล่ะ……」
ซีน่าเล่าเรื่องที่ได้ยินมาเกี่ยวกับพลังของโนโซมุ และในขณะเดียวกันความผิดที่คอยปกปิดทุกอย่างไว้ในใจโนโซมุมันก็มากขึ้นเรื่อยๆ
「……อืม เป็นเหมือนเรื่องลวงโลกเลยใช่ไหมล่ะหากมองจากภายนอกแล้ว……」
คำพูดที่ออกมาจากปากของโนโซมุคือการปฏิเสธ สำหรับซีน่าแล้วเธอรู้ดี
「นั่นสินะ ถ้าไม่ได้รู้จักนายเข้าละก็ “โนโซมุ เบลาตี้ผู้ห่วยแตกสุดในสถาบัน” นั่นละก็นะ……」
「…………」
ซีน่าเน้นคำว่า “สถาบัน” เป็นข้อพิสูจน์ถึงความเชื่อของเธอที่ฟังเรื่องราวจากไอริสมาและเป็นแนวทางป้องกันไม่ให้โนโซมุหลีกเลี่ยงการตอบคำถาม
「แต่ว่าฉันเองก็รู้นะว่านายน่ะแตกต่างจากในข่าวลือที่สถาบันไปไกลเลย ความสามารถและบุคลิกนั่น ไม่เช่นนั้นฉันก็คงไม่มาช่วยตัวนายที่ถูกสาปส่งยังงี้หรอก」
ซีน่าพูดเช่นนั้นและยิ้มให้โนโซมุ
อย่างไรก็ตามโนโซมุไม่ได้มองมัน เขาก้มหน้าลงและไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมา
「……แต่สุดท้ายผมก็ทำไม่ได้จริงๆ ถ้าตอนนั้นผมได้เอาจริง ทอมคงไม่ได้รับบาดเจ็บและซีน่าก็ไม่ต้องคลั่งจนถึงขนาดนั้น ผมทำอะไรไม่ได้ทั้งๆที่มีพลังนั่นแท้ๆ……」
คำพูดที่แสดงให้เห็นถึงความเสียใจและรู้สึกสมเพชตัวเองออกมาจากปากของเขา
ก่อนหน้านี้ โนโซมุเองก็รู้สึกผิดที่ไม่สามารถจัดการอสูรสีดำตรงๆ มันเป็นแผลใจทำให้เขากลัวไม่กล้าเดินต่อไป ถึงแม้ว่าจะจำเป็นต้องก้าวไปข้างหน้าก็ตาม
「แต่ว่านะฉันรู้สึกขอบคุณโนโซมุนะที่ทำให้ฉันกล้าเผชิญหน้ากับมัน รวมทั้งให้ฉันกับพวกทอมได้คืนดีกันรวมถึงเหล่าวิญญาณด้วย」
อย่างไรก็ตามซีน่าไม่ได้ปฏิเสธคำพูดของเขา เธอแค่พูดความรู้สึกของเธอออกไป
มันไม่ใช่คำตำหนิที่ออกมาจากปากของเธอ แต่เป็นการขอบคุณเขา โนโซมุจ้องไปที่ซีน่าด้วยท่าทางไม่เข้าใจ
「แน่นอนนายอาจจะไม่ได้ใช้พลังนั่นก็จริง แต่มันช่วยทำให้ฉันเรียนรู้ถึงความโกรธแค้นและความเกลียดชังจากในครั้งก่อน ฉันเองก็คิดว่าตัวเองต้องก้าวไปข้างหน้า ยามที่ฉันพบกับกำแพงที่ช่วยไม่ได้ แต่ก็มีนายและผองเพื่อนคอยช่วยเหลือ ถ้านายไม่มาในตอนนั้นพวกเราคงถูกฆ่าตายกันหมด」
ก่อนหน้านี้ซีน่ามีความแค้นต่อสัตว์อสูรสีดำที่แย่งชิงบ้านเกิดของเธอไป
เมื่อเธอพบมัน เธอก็เข้าเผชิญหน้ากับมันทันทีตัวเธอที่ยึดติดกับความแค้น แต่ด้วยเหตุนั้นเองก็ทำให้เธอต้องเจ็บหนัก
นอกจากนี้ทอมยังได้รับบาดเจ็บที่มือเพราะช่วยเธอไว้
หลังจากนั้นซีน่าก็ทรมานใจอย่างมากที่สร้างภาระให้พวกพ้อง เธอตัดสินใจทิ้งทอมที่บาดเจ็บให้อยู่กับโนโซมุและไปเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรเพียงลำพัง
อย่างไรก็ตาม เธอไม่สามารถสู้มันได้ด้วยตัวคนเดียว เธอพยายามร้องขอเหล่าวิญญาณอย่างสิ้นหวัง แต่หัวใจของเธอในตอนนั้นไม่มั่นคงเพราะมีจิตมุ่งมั่นในการแก้แค้นและความสำนึกผิด เพราะแบบนั้นเหล่าวิญญาณเลยไม่ได้ช่วยเหลือเธอ
โนโซมุที่ไล่ตามเธอมาก็ปรากฏตัวต่อหน้าซีน่าที่คิดจะทิ้งชีวิตตัวเองไปอีกครั้ง
โนโซมุเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรสีดำพร้อมกับบอกเธอว่า “อย่ากลัวสิ”
หลังจากนั้นเธอก็เอาชนะสัตว์อสูรสีดำได้ด้วยความช่วยเหลือจากผองเพื่อน เพราะแบบนั้นก็ต้องขอบคุณโนโซมุที่มาช่วยได้ทันเวลาด้วย
(ใช่แล้ว แม้ว่านายจะดูน่าหมดหวังแค่ไหน แต่ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเราก็เดินหน้าต่อไปไม่ได้ มีแค่นายที่คอยช่วยเหลือพวกเราอย่างโดดเดี่ยว……)
ตอนนั้นเขาเข้ามาช่วยซีน่าและเพื่อนๆหลายครั้ง ทำหน้าที่เป็นตัวล่อให้ทอมได้ไปรักษาแผล อีกทั้งยังเตรียมอาหารให้พวกเขาหลังจากกลับมารวมตัวกันอีก
ซีน่าไม่คิดเลยว่าโนโซมุจะเป็นคนน่าสมเพชแม้แต่น้อย แม้ว่าเขาจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากก็ตามที
「แล้วก็…ถ้าฉันได้เห็นพลังของนายในตอนนั้น ฉันแน่ใจว่าตัวฉันเองจะยิ่งร้อนรนมากกว่าใคร ต่อให้ถึงแม้คนๆเดียวจะมีพลังมากขนาดไหนก็เถอะ」
ซีน่าพิจารณาจากคำพูดของไอริสว่าพลังของโนโซมุหากปลดปล่อยออกมา สามารถสู้กับอสูรสีดำได้อย่างสบายๆ
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม ถ้าเห็นพลังนั่นในตอนนั้น มันจะยิ่งทำให้ฉันโหยหามากกว่าเก่า
ตอนนั้นตัวฉันที่ตามืดบอดมองไม่เห็นอะไรและแสวงหาแต่พลัง
「อย่างน้อยฉันก็คิดว่าเรื่องที่ปล่อยให้เป็นแบบนั้นมันก็ดีแล้ว ฉันคิดยังงั้นนะ」
เมื่อมองตรงไปที่โนโซมุ เธอก็บอกว่าไม่ต้องโทษตัวเองหรอก
โนโซมุจ้องมองไปที่ซีน่าซึ่งพูดด้วยท่าทีอันสูงส่ง
「กังวลจังเลยนะหากต้องเผชิญหน้ากับความน่าสงสารแบบนั้นอีก ดังนั้น……」
โนโซมุจ้องมองตัวเอง ทันใดนั้นซีน่าก็รู้สึกได้ถึงความร้อนบนใบหน้าเธอตอบสนองต่อการจ้องมองนั่น และทันใดนั้นก็เขินอายทันทีที่เห็นหน้าโนโซมุ เขาหันหลังไปมองทิศทางที่เธอจ้อง
โนโซมุส่ายหัวไปหาซีน่าที่จู่ๆก็ท่าทีเปลี่ยนไป แต่ในขณะนั้นก็ได้ยินเสียงจากระยะไกลดังก้อง
「เจอแล้ววววววววววว~~~!」
「「เอ๋?」」
เมื่อซีน่าหันไปมองก็พบเจอกับคนที่พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง เงานั่นรูปร่างเรียวยาวเป็นผู้หญิง เธอวิ่งมาพร้อมกับฝุ่นที่เต็มไปทั่วเลยล่ะ
「โนโซมุ~~คุงงงงงงงงงงงงงงงงง!!」
เงาที่พุ่งเข้ามาคืออันริที่กำลังตามหาโนโซมุ เธอรีบพุ่งเข้าหาโนโซมุอย่างรวดเร็วและเข้ากอดทันที
「อุฟ!!」
โนโซมุถูกผลักลงกับพื้น โนโซมุที่ไม่เหลือแรงแล้วไร้ซึ่งการขัดขืนตัวเขาแนบกับพื้นพร้อมกับโดนหน้าอกอันใหญ่โตนั้นกดทับร่างกาย
「อะไรกันง่าจู่ๆก็เล่นหายตัวไป~ตามหาให้ทั่วเลยรู้มั้ย~! เป็นห่วงมากเลยล่ะน้า~~! ไปไหนมางั้นเหรอจ้ะ~~!!」
เมื่อใบหน้าของโนโซมุโดนกดทั้งๆแบบนั้น อันริก็เขย่าร่างของโนโซมุอย่างรุนแรงพร้อมกับหน้าอกที่แนบหน้าเขา
โนโซมุรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก สัมผัสนุ่มนิ่มตรงใบหน้าแต่เขาก็ไม่กล้าแตะมัน
「……อาจารย์อันริ ใจเย็นๆก่อน」
ซีน่าทำท่าทางผิดหวังและรีบดึงอันริออกมา อันริทำท่าทางไม่พอใจ แต่ซีน่าก็เมิน
โนโซมุที่ถูกปล่อยตัวออกมาก็เรียกชื่อเธอ
「อาจารย์อันริ แค่ก แค่ก……」
「โนโซมุคุง ไม่เป็นไรใช่ไหมจ้ะ~?」
บริเวณท้ายทอยยังเจ็บเพราะแรงกระแทก แต่โนโซมุก็จ้องอันริ
「ไม่เจ็บตรงไหนน้า~? ไอริสและคนอื่นๆห่วงมากเลยรู้เปล่า~」
เมื่อมองไปทางดวงตาของอันริ ก็เห็นว่าเธอจ้องมองเขาด้วยความกังวล
ในขณะเดียวกันผมก็รู้ตัวแล้วว่าไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว
สิ่งที่เข้ามาในใจของโนโซมุคือหน้าของชิโนะที่ยิ้มร่าให้ผมหลังจากสู้กับเทียแมต ด้วยเหตุผลบางอย่าง ใบหน้านั้นมันคล้ายกับอันริที่ซ้อนทับกับชิโนะเลย
「อาจารย์อันริ คือว่าผม……」
「หืมมม? มีอะไรงั้นเหรอจ้ะ~?」
ท่าทางยิ้มแย้มเหมือนเดิม เป็นท่าทางอันแสนอบอุ่นเหมือนกับชิโนะที่คอยต้อนรับผมหลังจากสู้กับเทียแมตเสร็จ
เพราะถูกกระตุ้นจากการที่สารภาพกับซีน่าว่าตัวเขาสามารถจัดการกับมังกรแห่งความตายได้ แต่เขาไม่ทำ เมื่อโนโซมุตระหนักได้เช่นนั้น เขาก็พยายามจะพูดคำที่ไม่เคยพูดออกไป
「……ผม ควรจะทำยังไงดีครับ?」
「หืมมม~?」
อันริเอียงศีรษะตามคำพูดของโนโซมุ
「……ผมปิดบังทุกอย่างมาตลอด ถ้าผมพูดออกไปอาจารย์จะเชื่อไหมครับ ตัวผมในตอนนี้น่ะสามารถจัดการมังกรแห่งความตายได้? แต่ว่าตอนนั้นผมก็ไม่ได้ทำมัน」
「…………」
โนโซมุเริ่มที่จะเล่าทุกสิ่งทุกอย่าง เธอไม่พูดอะไร และได้แต่ฟังคำพูดของเขา
「ผมทำมันไม่ได้ วันนี้ตอนที่ผมโดนมังกรแห่งความตายนั่นเข้าโจมตี ผมมีพลังที่สามารถจัดการมันได้…ถ้าหากผมทำในตอนนั้นทุกคนก็ไม่ต้องเจ็บตัวแท้ๆ แต่ว่าผมก็ไม่ได้ทำ……」
คำพูดของโนโซมุหยุดลงตรงนั้นเพราะความเสียใจและผิดหวังกับตัวเอง
อันริค่อยๆเปิดปากอย่างช้าๆ ขณะที่เธอมองไปทางโนโซมุที่นิ่งเงียบ แต่โนโซมุประหลาดใจกับคำพูดของเธอ
「นี่ โนโซมุคุง~。เค้าน่ะรู้จักอาจารย์ของโนโซมุนะ~~」
「เอ๋!?」
「ปรมาจารย์?」
ซีน่าซึ่งไม่เข้าใจเรื่องราวได้เลย กำลังเอียงคอด้วยความสงสัย แต่โนโซมุไม่ได้สนใจ เขาลืมตาจ้องมองอันริ
มันผิดปกติเกินไป โนโซมุไม่เคยบอกเรื่องของชิโนะเลย
「ทำไมถึงรู้จักอาจารยได้ละครับ!? ผมไม่เคยบอกใครเลยนี่น่า……」
「ก็เพราะว่า~。โนโซมุคุงตอนแรกเธอใช้ดาบปกติแต่จู่ๆก็เปลี่ยนมาใช้คาตานะเฉยเลยใช่ไหมล่ะตอนปี 1 น่ะ~~? ถ้าโนโซมุสามารถฝึกใช้ดาบคาตานะได้เพียงในเวลาไม่ถึงสองสามปี~、ก็เลยสงสัยขึ้นมาน่ะว่าน่าจะมีคนสอนโนโซมุคุงอยู่」
โนโซมุตกใจอย่างมาก
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเก่งกาจขนาดไหน การเรียนรู้วิชาดาบด้วยตัวเองตั้งแต่เริ่มต้นยันขั้นสูงไม่ใช่ง่ายๆหรอก ก็เป็นเรื่องปกติที่คิดว่าจะมีคนคอยสอนวิชาดาบให้
ไม่แปลกที่อันริเป็นอาจารย์ประจำชั้นตั้งแต่ปี 1 จะสังเกตเห็น
「……อืม ถูกแล้วล่ะครับ ผมมีอาจารย์ที่คอยสอนดาบผมอยู่」
「แล้วคนๆนั้นล่ะ~~?」
「……เพิ่งเสียชีวิตไปได้ไม่นานนี้ครับ」
ใบหน้าของโนโซมุมีสีหน้าเศร้าสร้อยทันที อันริที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขอโทษเขา
「……ขอโทษน้า~」
「ไม่เป็นไรหรอกครับ บั้นปลายชีวิตของอาจารย์เธอยังคงยิ้มให้ผมจนวาระสุดท้ายเลย……」
น่าจะเป็นช่วงแรกๆที่เขาเริ่มพูดถึงชิโนะ โนโซมุเริ่มพูดตั้งแต่วันที่ได้พบเจอกับชิโนะ
「หลังจากวันที่ผมถูกลิซ่าบอกเลิกและเข้าไปฝึกฝนในป่า อาจารย์เป็นคนช่วยผมไว้จากการถูกสัตว์อสูรทำร้าย นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ผมได้เรียนวิชาดาบกับเธอและหลังเลิกเรียนที่ไม่มีเรียน ผมก็ฝึกกับอาจารย์ในป่าตลอดมา」
ผมที่พบกับชิโนะจากที่ใช้ดาบปกติก็เปลี่ยนมาใช้คาตานะ
วันแห่งนรกได้เริ่มต้นขึ้น เขาวิ่งไปรอบๆป่าที่มีสัตว์อสูรมากมายและต้องฝึกใช้ก้าวพริบตาซ้ำๆหากพลาดก็เจ็บหนัก
หลังจากนั้นที่ขอให้เธอสอน ผมก็เริ่มหมดหวังในการใช้ชีวิตเข้าทุกวันๆ
อย่างไรก็ตาม น้ำเสียงที่โนโซมุเล่าให้ฟังเป็นน้ำเสียงที่แสนนุ่มนวลมาก ตรงกันข้ามกับเนื้อหาที่เล่า แม้แต่ตอนนี้ยังคงมีรอยยิ้มผุดอยู่ในปากของเขาเลย
โนโซมุพูดถึงชีวิตที่ได้ใช้เวลาร่วมกับชิโนะเป็นเหมือนอัญมณีอันแสนล้ำค่า
ตอนนี้เขาแสดงด้านทีไม่เคยให้ใครเห็นมาก่อน
「โนโซมุคุงงงงง ฮือออ~、รักอาจารย์มากเลยสิน้า~~」
「……ครับ เธอเป็นเหมือนกับคนบ้า และชอบแกล้งระหว่างเวลาฝึก…แต่ถึงยังไง…เธอก็เป็นคนที่แสนสำคัญสำหรับผม」
แน่นอนว่าเธอเป็นคนไร้เหตุผล แม้ว่าจะมีทักษะและประสบการณ์เหนือล้ำ แต่พื้นผิวก็ทำตัวเหมือนเด็กๆ บางครั้งก็ทำให้โกรธ บางครั้งก็อยากจะกระทืบให้จมดินบ้าง บางครั้งก็ดีใจที่ได้ทานของหวานอร่อยๆ
ผมฝึกกับเธออยู่ประมาณ 2 ปี ช่วงนั้นผมไม่ได้ยุ่งกับลิซ่าเลย ใช้ชีวิตอยู่กับอาจารย์เพียงสองคน
「……คนๆนั้นเธอบอกผมไว้ว่า “จะหนีก็ไม่เป็นไร แต่จงตระหนักไว้ว่าตัวเองกำลังหนีความจริงอยู่ หนีไปเท่าไรก็อย่าได้ลืม ว่าสักวันเจ้าจักต้องก้าวไปข้างหน้าให้ได้”……」
คำพูดสุดท้ายของชิโนะ เป็นสัญญาที่โนโซมุได้สาบานกับเธอเอาไว้ยามสิ้นใจและมันคอยค้ำจุนจิตใจเขามาจนถึงตอนนี้
「พอบอกไปก็ว่าจะทำให้ดีที่สุด…แต่สุดท้ายแล้วผมก็หนีความจริงเรื่อยมา……」
แม้ว่าจะรักษาคำสาบานนั้นไว้สุดหัวใจ แต่ผมก็ยังไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้สักที มีรอยยิ้มเยาะเย้ยราวกับกำลังดูถูกตัวเองอยู่
「……นั่นสิน้า~。โนโซมุคุงอาจจะกำลังหนีอยู่จริงๆก็ได้~。แต่ว่าก็ยังเริ่มต้นใหม่ได้ใช่ไหมล่ะ~。เพราะไอริส และคนอื่นๆกำลังเรียกร้องหาเธออยู่นะ~」
「ใช่แล้ว ไอริสและคนอื่นๆกำลังตามหานายให้วุ่นหรอก ถ้าพวกเราไม่ห่วง ไม่แคร์นายขนาดนี้ คงไม่ตามหานายให้วุ่นหรอกนะ」
「…………」
อันริและซีน่าพูดพยายามให้กำลังใจ แต่เขาก็ยังไม่สามารถก้าวออกมาได้
อย่างไรก็ตาม ต่อให้ความจริงที่ได้ยินแม้จะเพียงเล็กน้อย แต่มันก็ทำให้ตัวเขาที่จะก้าวไปทีละน้อย
สำหรับโนโซมุที่ต้องทนกับความวิตกกังวลที่มากขึ้นเพียงลำพัง มันเหมือนกับแสงจันทร์ที่ส่องผ่านกิ่งก้านใบไม้ในป่ายามค่ำคืน
「……โนโซมุคุงจะทำอะไรยังงั้นเหรอ~」
「……อยากจะ…อยู่กับทุกคนครับ」
ผมอยากจะอยู่กับทุกคน ไม่อยากกลับไปตัวคนเดียวอีกแล้ว นั่นคือความตั้งใจจริงของโนโซมุ
ถูกเพื่อนรักหักหลัง คนรักก็เกลียดขี้หน้า คำพูดไร้หัวใจและแววตาที่จับจ้องมาเหมือนมองขยะ มันยังคอยทำลายจิตใจของผมไปเรื่อยๆ ผมพยายามจะไม่คิดอะไร
ผมมักจะเอาแต่มองต่ำ ทำเป็นไม่รับรู้ ทำหูทวนลมมาตลอดเวลา
「ผมอยู่คนเดียวที่สถาบันมาตลอดเลย ตัวผมที่ยังคงหนีและพยายามใช้ชีวิตด้วยตัวคนเดียว ผมกล้าพูดความรู้สึกที่แท้จริงก็เพียงแต่ตอนได้คุยกับอาจารย์เท่านั้น……」
ดังที่อันริพูดไม่ใช่ทุกคนที่จะดูถูกโนโซมุ
อย่างไรก็ตามโนโซมุที่ปิดกั้นหัวใจตัวเอง ไม่ได้สังเกตเห็นมัน ไม่เคยสังเกตเห็น
「อาจารย์ที่คอยดูแลบาดแผลให้ผมยามที่ผมเจ็บหนักตลอดทั้งคืน แต่ว่าอาจารย์คนนั้นตอนนี้จากไปแล้ว บางครั้งผมก็ร้องไห้ออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ผมไม่เหลือใครอีกแล้ว」
ชิโนะก็ได้จากไป
ผมเหงามากๆ ถ้าเป็นตัวเขาคนก่อนคงไม่ใช่แบบนี้
ถึงอย่างงั้นก็ไม่ใช่
เขามีคำสาบานที่ให้ไว้กับอาจารย์ ผมได้พบกับมาร์ ไอริสและทิม่า
「แต่มันสนุกมากเลยล่ะยามที่ได้อยู่กับไอริสและมาร์……。มันมีความสุขมากๆเลยละครับเวลาที่มีใครอยู่ข้างๆ พอได้คุยก็เหมือนลืมทุกอย่างที่ไม่ดีออกไปหมดเลย」
「ถ้างั้น……」
โนโซมุพูดก่อนที่อันริจะบอกว่า “มาคุยกันเยอะๆเลย”
「แต่ว่า!……แต่ผมก็ยังคงกลัว พลังที่ผมได้รับมามันมีอีกตัวตนที่ไม่ใช่ตัวผมอยู่ ตัวตนที่อยู่ในตัวผมมันเห็นพวกไอริสและคนในเมืองเป็นอาหารเท่านั้น ถ้าผมปลดปล่อยพลังนั่นออกมา……มันจะฆ่าทุกคนหมดแน่ๆ。」
「……เข้าใจแล้ว~เพราะแบบนั้นเองสินะ~」
มีเจตจำนงอื่นที่ไม่ใช่ตัวโนโซมุอยู่ในร่างกายเขาพร้อมกับพลังนั่น เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด อันริก็เข้าในว่าเจตจำนงนั่นมีอิทธิพลต่อโนโซมุขนาดไหน
โนโซมุที่สูญเสียคนรักของเขา ลิซ่า และอาจารย์ที่เป็นเหมือนครอบครัวคนเดียวของเขา
เขาสูญเสียความอบอุ่นที่คอยโอบกอดเขาไว้ถึงสองครั้ง
โนโซมุที่สูญเสียคนสำคัญไป คำสาบานของเขาที่มีกับอาจารย์เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจไม่ให้จิตใจของเขาแตกสลาย แต่สิ่งนั้นมันจะเกิดขึ้นหากเขาลืมคำสาบานนั่นไป
เขาจะถูกเจตจำนงอื่นที่อยู่ในร่างของเขากลืนกินเพราะพลังอันมากมายที่เขามี
ไม่ว่าในกรณีใดตัวตนโนโซมุในปัจจุบันอาจจะหายไป?
และเธอก็เข้าใจได้ว่าเขาไม่สามารถพูดกับไอริสได้เพราะเขาสูญเสียคนที่เขารักไปถึงสองครั้ง
บุคคลสำคัญต่างหายไป สิ่งรอบข้างที่เคยมีกลับไม่หลงเหลืออยู่อีกต่อไป บางทีเพราะเหตุนั้นเองพวกไอริสเองก็กังวลเพราะเขาทุกข์ใจเรื่องอะไร ที่ไม่อาจทราบได้
ปัญหาคือพลังโดยธรรมชาติที่โนโซมุมี ถ้าเราไม่รู้อะไร เราก็ไม่สามารถขจัดความวิตกของโนโซมุได้
เมื่อคิดอย่างนั้นอันริก็จ้องมองไปที่โนโซมุและถามถึงลักษณะความจริงของความวิตกกังวลนั่น
「……เน่ โนโซมุคุง~。ลักษณะที่แท้จริงที่โนโซมุกลัวมันคืออะไรงั้นเหรอ~」
「นั่นคือ……」
โนโซมุเงียบขณะกัดฟันแน่น อันริตัดสินใจแล้วว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะถามถึงตัวตนที่แท้จริงจากสถานการณ์นี้เลยเลี่ยงถามคำถามตรงๆ
「……ถ้างั้นจะเปลี่ยนคำถามแล้วกันนะ~。อาจารย์ของโนโซมุรู้สินะว่ามันคืออะไร~」
「……ครับ」
บางทีอาจจะ……。
โนโซมุกำลังจะบอกว่าอาจารย์ของเขามีพลังอะไรบางอย่าง เมื่อได้ยินข้อเท็จจริงนั่น เธอก็ถามโนโซมุอีกครั้ง ว่าความหวังเพียงครึ่งเดียวนั่นจะเป็นจริงหรือไม่
「แล้ว โนโซมุคุง? อาจารย์ไม่ได้พูดอะไรที่สำคัญๆอีกเลยเหรอ~」
「สิ่งสำคัญ?」
「ใช่นอกจากข้อเท็จจริงที่โนโซมุพูดก่อนหน้านี้~」
「นอกจากนี้ก็ไม่น่าจะมีอะไรแล้วครับ……」
โนโซมุพยายามครุ่นคิดถึงคำถามของอันริด้วยใบหน้าลำบากใจ แต่เขาไม่เข้าใจว่าอันริพูดอะไร
「ก็อย่างที่บอกว่าจงจำเอาไว้~。อาจารย์ของโนโซมุคงพูดอะไรทำนองนี้ใช่ไหมล่ะ~。บางทีอาจจะไม่ได้พูดออกมาเป็นคำพูด แต่ทำท่าทางอะไรบางอย่างน่ะ~。แต่ว่าสิ่งที่โนโซมุต้องการเอาชนะความวิตกกังวลนั่นมันถูกซ่อนเอาไว้เลยไม่รู้น่ะสิ~」
เมื่อได้ยินคำพูดของอันริโนโซมุก็นึกถึงการพูดคุยครั้งสุดท้ายกับอาจารย์
สิ่งแรกที่พูดไว้คือสัญญานั่น
「ที่อาจารย์บอกมาเหรอครับ……」
「อืม เธอคนนั้นได้ถ่ายทอดอะไรกับโนโซมุรึเปล่า?」
เมื่อได้รับคำสั่งจากอันริ โนโซมุก็ค่อยๆหวนนึกถึงคำพูดของอาจารย์
「……อาจารย์ทุกข์ทรมานจากโรคหลับไม่เลือกที่ ตอนนั้นผมไม่รู้ แต่จู่ๆอาจารย์ก็บอกว่าให้มาดวลกัน โดยบอกไว้ว่าเป็นการฝึกครั้งสุดท้าย」
「แล้ว~~」
ชิโนะที่ทุกข์ทรมานจากโรคหลับไม่เลือกที่ พยายามเข้าโจมตีใส่โนโซมุและปิดบังมันเอาไว้
「อาจารย์จงใจจะฆ่าผมอย่างจริงจัง ผมเองก็พยายามขัดขืนแต่อาจารย์ไม่สนใจ……。สุดท้ายผมก็โดนฟันเข้าที่ท้อง」
「เอออออ๋!?」
อย่างไรก็ตามโนโซมุไม่มีโอกาสเอาชนะชิโนะที่เอาจริงได้ โนโซมุที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการโดนแฟนท่อม ก็ใช้แฟนท่อมแลกกันไปกันมา
จู่ๆซีน่าก็ตะโกนขัดคำพูดออกมา แต่โนโซมุยังคงพูดต่อไป
「ผมกำลังจะตาย แต่อาจารย์ไม่ปล่อยให้หลุดรอด ตอนนั้นผมคิดว่าตัวเองจะต้องถูกฆ่า……」
ในขณะนั้นแม้จะถูกฆ่าตายโนโซมุก็ไม่คิดจะต่อต้าน เจตจำนงในการมีชีวิตอยู่มลายหายไป และเธอก็มองดูตัวผมที่คล้ายกับเธอ และบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องของคนอื่นเลย
「……ในขณะนั้นอาจารย์เองก็พูดถึงสาเหตุที่เธอมาที่ทวีปแห่งนี้」
「อาจารย์เป็นคนต่างแดนงั้นเหรอ?」
「……ครับ อย่างที่อันริพูด เธอถูกพี่สาวตัวเองหักหลังและต้องหนีมาทวีปนี้……」
น้ำเสียงของโนโซมุลดต่ำลง อาจเป็นเพราะอดีตอันแสนเจ็บปวด มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะพูดออกมา
อันริเข้าใจเรื่องนี้ก็ลดน้ำเสียงลงตาม และให้กำลังใจโนโซมุ ซีน่าไม่ได้พูดอะไรแล้วนั่งฟังเงียบๆ
「……อาจารย์ของโนโซมุคุงมีลักษณะยังไงเหรอ~~?」
「……หน้าตาเธอยังงั้นเหรอครับ」
สิ่งที่จำได้คือชิโนะที่ถือดาบและผมมัดเกล้า
「……อย่างไงนะเหรอ…เธอเป็นคนที่มีใบหน้าเศร้าสร้อยตลอดเวลา」
「โนโซมุเคยสงสัยไหมว่าทำไมอาจารย์ถึงทำหน้าแบบนั้น?」
「……สำหรับผม…เพราะผมไม่เข้าใจในสิ่งที่อาจารย์พยายามจะบอกผม」
ใช่โนโซมุคิดแบบนั้นจริงๆ
ในเวลานั้นชิโนะคร่ำครวญว่าเจตนาของเธอไม่ใช่การพูดคุยกับโนโซมุ สำหรับเธอ มันเป็นความรู้สึกที่เหมือนกับน้ำตาที่เอ่อล้นออกมา
「……แค่นั้นเหรอ~~?」
「……เอ๋?」
「ก็แบบว่าทำไมอาจารย์ถึงทำหน้าเหมือนร้องไห้~。นั่นแหละเหตุผลอ~?」
อย่างไรก็ตามอันริกล่าวไว้ว่าน่าจะมีเหตุผลอื่นอยู่
เหตุผลที่ทำให้เธอเหมือนจะร้องไห้ นอกจากนี้เธอเองก็เป็นคนที่ถ่ายทอดความรู้สึกไม่เก่ง
เมื่อคิดได้เช่นนั้นโนโซมุก็นึกถึงคำที่ชิโนะพูดออกมาได้อย่างเจ็บแสบจนหลั่งน้ำตาออกมา
“ขอร้องล่ะ นี่คือคำขอสุดท้ายของข้า เจ้าจะช่วยยอมรับตัวข้าได้ไหม”
ความรู้สึกอันยาวนานที่เอ่อล้น การแสดงออกทางใบหน้านั้นหายไปยามเมื่อถูกผมยอมรับ
「……เพราะว่าเธอเป็นคนกังวล…เธอกังวลว่าตัวเองจะถูกยอมรับหรือเปล่าครับ」
「อืม เหมือนกันเลยสินะเนี่ย~ทุกคนเองก็มีความกล้าที่จะพูดถึงอดีตอันแสนเจ็บปวดของตัวเองในแบบที่ต่างกันไป~」
「……ถูกต้อง จนถึงตอนนี้มันเป็นเรื่องยากสำหรับฉันที่จะนึกถึงครอบครัวและบ้านเกิด」
「…………」
ซีน่าหลับตาขณะที่เริ่มเล่า
สำหรับเธอ หายนะเมื่อ 10 ปีก่อนเป็นแผลเป็นอันใหญ่หลวง
มนุษย์เป็นสัตว์ขี้อายตามธรรมชาติ มักจะซ่อนสิ่งที่เจ็บปวดและเรื่องไม่พอใจเอาไว้ และการสารภาพอะไรบางอย่างออกมาจำเป็นต้องใช้ความแข็งแกร่งทางจิตใจอย่างมาก
ยิ่งไปกว่านั้น ชิโนะยังสารภาพเรื่องนั้นกับลูกศิษย์เพียงคนเดียวอย่างผมเหมือนสมาชิกในครอบครัว ความบาดหมางต่างๆที่เกิดขึ้นในครอบครัว
ไม่ยากเลยที่จะจินตนาการว่าจะต้องใช้ความกล้าขนาดไหน
「แต่โนโซมุก็ยอมรับตัวตนของอาจารย์สินะ?」
「……แน่นอนครับ แม้ว่าเธอจะคิดว่าตัวเองจะโดนปฏิเสธก็ตาม แต่อาจารย์ยังเล่าเรื่องราวต่างๆให้ผมฟังจนผมกล้าที่จะปลดปล่อยพันธนาการและเผชิญหน้ากับเธอ」
เพื่อตอบสนองตัวตนของชิโนะ โนโซมุได้ปลดปล่อยพลังของเทียแมตเป็นครั้งแรกและเผชิญหน้ากับหมอนั่น ณ ชายฝั่งทะเลสาบนั่น
เทียแมทเข้าโจมตีโนโซมุด้วยความโกรธ มันไม่ใช่การต่อสู้แต่เป็นการฆ่าฝ่ายเดียว
ไม่เหมือนกับตอนที่สู้กับมันครั้งแรก เทียแมทมันมาเพื่อฆ่าโนโซมุ โนโซมุที่ไร้ซึ่งแขนและขาแม้ว่าจะถูกทำเป็นของเล่นก็ไม่สามารถเอาชนะมันที่จริงจังได้
โนโซมุถูกมันกินไปครึ่งตัว
เขาเกือบจะโดนเทียแมทกลืนกินโดยสมบูรณ์ แต่ว่าเขาไม่เคยละทิ้งคำสัญญานั่น
เขาไม่ยอมแพ้จนถึงที่สุด และมือที่ขาดก็ยื่นไปรับพลังส่วนหนึ่งของเทียแมตมา
ทันทีที่เขาใช้พลังนั่น โนโซมุก็กลับสู่ความเป็นจริงและเผชิญหน้ากับชิโนะด้วยการต่อสู้สุดกำลัง
「นั่นอาจจะเป็นเพราะโนโซมุยอมรับอาจารย์~? ซีน่า ไอริส และ มาร์ ต้องยอมรับโนโซมุเช่นเดียวกับที่โนโซมุต้องการการยอมรับจากอาจารย์เช่นกันสินะ~」
「นั่นสินะ! ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่จะมาห่วงนายถึงขนาดนี้」
「…………」
โนโซมุกำหมัดแน่น
เมื่อเขาลังเล มือ จะคว่ำลงและริมฝีปากจะขบแน่นนั่นคือความลังเล
โนโซมุอยู่ตรงหน้า มีซีน่าและอันริเดินไปรอบๆหน้าที่สั่นเทาของโนโซมุและเอามือสองข้างที่สั่นเทาเอามาพันไว้
「……อาา」
「ไม่เป็นไรหรอกนะ~。โนโซมุคุง」
「อืม นายจะต้องรับมือกับมันได้อย่างแน่นอน」
ความอบอุ่นที่ส่งมาจากฝ่ามือช่วยนำทางหัวใจของโนโซมุ
「ทั้งสองคน……」
「ตอนนี้ฉันเองก็ค่อนข้างขี้อาย แต่ยามที่นายเผชิญหน้ากับใครบางคน ให้คิดว่าเป็นเรื่องสำคัญ แล้วก็ควรจะเผชิญหน้าคนๆนั้นที่มีความสำคัญต่อตัวนายซะ」
ซีน่ายังคงจับจ้องโนโซมุ ผิวหนังและผมสะท้อนแสงจันทร์จนเกิดภาพอันน่าอัศจรรย์ขึ้นมา
ขณะที่ซีน่าจ้องมองโนโซมุ รู้สึกเหมือนมีประกายไฟเล็กๆจุดอยู่ในใจผม
ไฟเล็กๆนั่นค่อยๆลุกโชนบนหน้าอกของผม มันเป็นแสงจางๆชั่วคราว แต่พยายามอย่างหนักที่จะปัดเป่าความมืดที่จมลงในหัวใจของโนโซมุ
「นายได้ให้โอกาสอันแสนสำคัญสำหรับฉันในการได้มาเผชิญหน้ากับนาย…ขอบคุณจริงๆนะ เพราะฉะนั้นครั้งนี้ฉันอยากจะช่วยนายให้ได้」
「ซีน่า……」
“ฉันต้องการจะช่วยนาย”
คำพูดนั้นผุดขึ้นในใจของโนโซมุ
ไฟเล็กๆที่จุดขึ้นในใจของโนโซมุค่อยๆลุกไหม่ตอบสนองต่อคำสารภาพของซีน่า ความร้อนไหลผ่านร่างกายเขาและเลือดไหลเวียนไปทั่วร่าง
ข้างๆเธอยังมีอันริที่ยังคงส่งรอยยิ้มให้ไม่ไปไหน
ซีน่าบอกว่าอยากจะช่วยผม อันริเองก็ยังคงเหมือนเดิม
หัวใจของโนโซมุที่หวาดกลัว จนเล็กลงได้ความอบอุ่นและความเมตตาของทั้งสองกลับฟื้นคืนมาอีกครั้งหนึ่ง
「ผม……」
ก่อนหน้านี้ ชิโฯะบอกว่าโนโซมุเป็นดราก้อนสเลเยอร์ และเขากำลังหนีความจริงนั่น
เธอคิดว่าโนโซมุที่หนีไปนั้นดีแล้ว ภาพของเธอตอนนั้นคือรอยยิ้มที่โล่งใจ
“…………ยินดีต้อนรับกลับนะ ทำได้ดีมากเลยล่ะ”
ชิโนะพูดเช่นนี้ แม้จะรู้ว่าผมเป็นดราก้อนสเลเยอร์แล้วก็ตามที มันไม่แปรเปลี่ยน
เนื่องจากเธอเป็นคนสนิท โนโซมุจึงกล้าเปิดเผยทุกสิ่งและยอมรัยอดีตของชิโนะ พูดตรงๆเธอคนนี้ก็เหมือนกับชิโนะเลยล่ะ
จากนั้น โนโซมุ ก็เริ่มถามตัวเองอีกครั้งว่าตัวเขาในตอนนี้เป็นเช่นไร
ตรงกันข้ามกับบรรยากาศอันแสนสง่างามของสถาบัน ไอริส เองก็มีด้านขี้เล่น เช่น การทำโทษตาแก่ซอนเน่และตามน้องสาวเพราะกังวลเรื่องเดทของเธอ
โซเมียที่สดใสร่าเริงและมักจริงใจอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามไม่เพียงแค่นั้น เธอเองก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบาก เธอจึงมีความแข็งแกร่งทั้งกายและจิตใจแ ปรับตัวเข้าได้กับทุกสถานการณ์
มาร์เกลียดพวกคนที่มีนิสัยหยาบคาย ร่างกายที่ใหญ่โตและความแข็งแกร่ง แต่ว่าก็เป็นพวกแพ้น้องสาว
ทิม่าค่อนข้างอ่อนแอและขี้โรค แต่สำหรับเพื่อนของเธอแล้ว เธอพยายามปกป้องเพื่อนแม้ว่าศัตรูจะแกร่งกว่าตัวเองก็ตาม
ใบหน้าของสาวๆที่อยู่เคียงข้างผมและความทรงจำเหล่านั้นที่ไหลเวียนเข้ามาในจิตใจ
เพียงไม่กี่เดือนก็ได้พบคนสำคัญมากมายและไม่อยากสูญเสียมันไปอีก
ถ้าผมสามารถกลับไปหัวเราะกับพวกเขาได้อีกครั้งละก็……。
「ผม…อยากจะถามทุกคน……」
เมื่อผมพูดเช่นนั้น ความปรารถนาของผมก็เริ่มก่อตัวอย่างชัดเจน
ต้องการจะทำอะไรต่อจากนี้ จะทำยังไงต่อไป
สิ่งที่ต้องทำก็คือบอกว่าตัวเองเป็นใคร ถ้าไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริง อีกฝ่ายก็จะไม่เข้าใจและไม่เข้าถึงตัวตนของผมเลยแม้แต่น้อย
รูปลักษณ์ภายนอกอาจจะดูน่าเกลียดสำหรับมนุษย์ อาจจะน่าขยะแขยงและทำให้อาจจะโดนปฏิเสธได้
แต่ว่ามีคนต้องการความช่วยเหลือ แม้ว่าจิตใจจะถูกรบกวน แต่ก็ยังมีคนที่ยังเป็นคัวตนของตัวเองแม้จะโดนรบกวนยังไงอย่างอาจารย์
ผมคิดว่าทุกอย่างมันโอเค ต่อให้มีความกลัว มีความวิตกกังวล อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เหมือนจะก้าวไปข้างหน้าได้แล้ว
「……ซีน่า อาจารย์อันริ ขอฝากตัวด้วยนะครับ?」
อยากจะเผชิญหน้าเหมือนกับซีน่า อยากหัวเราะได้อีกครั้งกับไอริส เพื่อจุดประสงค์นั้นแล้ว ให้บอกออกไปว่าเริ่มต้นจากตัวเองเหมือนดั่งอาจารย์
ด้วยความคิดเช่นนั้น โนโซมุตัดสินใจก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง
เป็น 2 ตอนยาว ที่ยาวเท่า 4 ตอนปกติ บอกตรงๆเพลียเลยครับ ฮ่าๆ แต่ว่าก็สนุกจริงๆที่ได้แปลครับ สำหรับใครที่ต่อว่าโนโซมุ โนโซมุมันมีเหตุผลของมันครับอาจจะหน้ามั่นไส้ไปบ้างก็ตาม แต่มันเป็นคนที่โดนเหยียบย่ำมาโดยตลอดมันจะมองโลกแง่ลบตลอดก็ไม่แปลกครับ