พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ - บทที่ 153 ถ้วยชาจีน
สองมือวารุณีรับไป แล้วเปิดดู
ดูเสร็จ เธอก็ปิดการ์ดเชิญนั่นลง“ฉันเข้าใจแล้วค่ะ ถึงตอนนั้นจะไปตรงเวลานะคะ”
“ครับ”ชายหนุ่มพยักหน้า“งั้นผมขอตัวก่อนครับ”
พอเขาไป ปาจรีย์ก็ออกมาจากห้องทำงาน“วารุณี ใครเหรอ?”
“ผู้ช่วยของคุณปู่วัชระ”วารุณีปิดประตูสตูดิโอแล้วหันกลับไป“เธอสมัครเสร็จยัง?”
“เสร็จแล้ว เวลาแข่งขันของการช่วงชิงโควตาคืออีกสามวันข้างหน้า ส่วนสถานที่อยู่ที่อาคารสมาคม ถึงตอนนั้นเธอไปให้ตรงเวลาก็พอ”ปาจรีย์ยืดเอวตอบไป
วารุณีเงยคางขึ้น ตอบอือ แสดงออกว่ารู้แล้ว
สายตาปาจรีย์ตกอยู่ที่บนการ์ดเชิญในมือ“นี่อะไร?”
“เธอดูเองก็รู้”วารุณีเอาการ์ดเชิญยื่นไป
ปาจรีย์เอามาดู ก็ตาโตอย่างตกใจ“ห่า นายท่านวัชระจะวางมือแล้ว?”
“ใช่”วารุณีเดินไปที่ห้องทำงานตัวเอง
ปาจรีย์ตามเธออยู่ด้านหลัง ไม่ค่อยเข้าใจเล็กน้อย“นายท่านวัชระเป็นดีไซเนอร์ที่อยู่ระดับเดียวกับอาจารย์ของเธอ ทำไมจู่ๆก็จะวางมือล่ะ?”
“บอกว่าอายุมากแล้ว นี่ก็ปกติมาก พรสวรรค์ของดีไซเนอร์นั้นมีจำกัด ถึงช่วงอายุหนึ่ง ก็จะวาดอะไรออกมาไม่ได้แล้ว ตอนนี้อาจารย์ฉันก็เหมือนกัน ไม่มีความก้าวหน้าในด้านการออกแบบนี้แล้ว ดังนั้นตอนนี้จึงกลายเป็นเวอร์ชันศึกษาวิจัย”วารุณีอธิบายด้วยรอยยิ้ม
ปาจรีย์ไม่ใช่ดีไซเนอร์เสื้อผ้า ฟังที่เธอพูดแล้ว ก็ตอบรับไปอย่างเหมือนจะเข้าใจก็ไม่เข้าใจ“แบบนี้นี่เอง งานเลี้ยงอำลาวงการก็จัดคืนนี้แล้ว ต้องเตรียมของขวัญไหม?”
“แน่นอน คุณปู่วัชระชอบถ้วยชาจีน เดี๋ยวฉันจะไปเลือกมาสักอัน”วารุณีเปิดประตูของห้องทำงานตัวเอง
อารัณเห็นมีคนเข้ามา ก็เงยหน้ามองไปที่ประตู มองเห็นวารุณีกับปาจรีย์ ก็โบกมือให้ แล้วเรียกเสียงหวาน“หม่ามี๊ แม่บุญธรรม!”
“เด็กดี!”วารุณีเดินเข้าไป ลูบหัวของเขา
ปาจรีย์ก็ลูบหน้าของเด็กชายตัวน้อย
หน้าของเด็กนั้นนุ่ม มีเนื้อ พอลูบแล้วความสัมผัสที่มือก็ดีสุดๆ ปาจรีย์ลูบจนไม่อาจเอามือออกได้ เป็นวารุณีที่เห็นเด็กชายเบะปาก จึงเอามือของปาจรีย์ออกไป ช่วยเด็กชายออกมา
พอเด็กชายได้อิสระ ก็กระโดดลงจากเก้าอี้ทันที หลบไปอยู่ไกลๆ
“เฮ้อ เด็กคนนี้นี่……”ปาจรีย์เท้าเอว อยากจะพูดอะไร
วารุณีตัดบทเธออย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก“เอาน่ะ เธอก็เหมือนเด็กเหมือนกันแหละ”
ปาจรีย์แลบลิ้นออกมา
วารุณีส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม พอเดินไปที่โต๊ะทำงาน ก็เปิดลิ้นชักใส่การ์ดเชิญเข้าไป“โอเค ฉันไปร้านถ้วยชาจีนก่อน จะเลือกของขวัญให้คุณปู่วัชระ ส่วนอารัณก็มอบให้เธอละนะ”
“ไปเถอะๆ ฉันจะดูแลเขาเอง”ปาจรีย์โบกมือ
วารุณีขอบคุณแล้วยิ้มให้เธอ แล้วก็ไปกำชับเด็กชาย จากนั้นก็สะพายกระเป๋าและออกไป
มาถึงถนนถ้วยชาจีน วารุณียืนอยู่ตรงถนน ที่มองไปไม่มีจุดสิ้นสุด จะเห็นว่าถนนถ้วยชาจีนสายนี้ยาวแค่ไหน และคนที่สัญจรไปมา ระดับความครึกครื้นไม่น้อยไปกว่าตลาดโบราณเลย
วารุณีหยิบโทรศัพท์ออกมา ตามจีพีเอสนำทาง เดินเข้าร้านถ้วยชาจีนที่ใหญ่ที่สุดมีชื่อเสียงที่สุดในถนนสายนี้
เข้ามา ก็มีพนักงานเข้ามาด้วยรอยยิ้ม“ยินดีต้อนรับครับ ขอโทษนะครับคุณผู้หญิงอยากดูถ้วยชาจีนแบบไหน จานหรือชาม?”
“ชามค่ะ!”วารุณีสำรวจร้านนี้ไป ก็ตอบไปด้วย
นายท่านวัชระไม่สนใจถ้วยชาจีนแบบจาน ชอบแค่ชาม
“งั้นก็เชิญครับ ทางนี้เป็นชาม”พนักงานชี้ไปทางเคาน์เตอร์ที่เป็นแถวด้านขวา
วารุณีพูดขอบคุณเขา แล้วเดินไปดู
ในห้องรับรอง ชายหนุ่มที่ดูสูงส่งนั่งอยู่บนโซฟา จ้องมองหน้าจอกล้องวงจรปิดด้วยสายตาที่ลึกซึ้ง จิบไวน์ในมือเบาๆ
ชายชราวัยเจ็ดสิบข้างๆที่กำลังดูถ้วยชาจีน เห็นว่าจู่ๆบรรยากาศก็เงียบไป จึงอดไม่ได้ที่จะวางแว่นขยายในมือลง“นัทธี ดูอะไรเหรอ ?”
นัทธีเขย่าไวน์ ไม่ตอบ
ชายชรามองตามสายตาเขาไปอย่างสงสัย มองเห็นวารุณีในกล้องวงจรปิด ดันแว่นสายตายาวอย่างตกใจ“เอ๋ นี่ไม่ใช่ยัยสาวน้อยแห่งตระกูลศรีสุขคํานั่นเหรอ เหมือนจะชื่อวารุณีนะ?”
นัทธีหันไปมองชายชรา“คุณปู่ชลธีรู้จักเธอเหรอครับ?”
นายท่านชลธีส่ายหน้า“ไม่ถือว่ารู้จักหรอก แค่รู้ว่าเธอ เป็นคู่หมั้นที่ปู่คุณหมั้นหมายไว้ให้คุณก่อนเสีย ตอนนั้นที่ปู่คุณเลือกยัยสาวน้อยคนนี้ ผมก็อยู่ข้างๆ”
ที่แท้ก็แบบนี้เอง
นัทธีพยักหน้าเล็กน้อย นิ้วหัวแม่มือถูแก้วทรงยาวนั้น“ที่แท้คุณก็รู้มาตลอดว่า พิชญาเป็นตัวปลอม?”
นายท่านชลธีพยักหน้า“ใช่”
“งั้นห้าปีมานี้ ทำไมคุณไม่บอกผมมาตลอดล่ะครับ?”นัทธีหรี่ตาลง
ถ้าเขารู้นานแล้วว่า พิชญาไม่ใช่คุณหนูใหญ่ของตระกูลศรีสุขคําที่แท้จริง ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่หมั้นกับพิชญา ถึงแม้ห้าปีก่อนพิชญาจะช่วยเขาไว้
นายท่านชลธีถอดถึงมือผ้าฝ้ายออก หัวเราะเหอะเหอะ“ไม่ใช่ว่าผมเข้าใจผิดเหรอ จู่ๆห้าปีก่อนคุณก็หมั้นหมายกับพิชญานั่น ผมคิดว่าคุณชอบพิชญา ก็เลยไม่ได้พูด”
นัทธีเม้มริมฝีปากบางๆ“ผมไม่เคยชอบพิชญาเลย”
“ผมรู้ เมื่อตอนที่ผมถามคุณว่าทำไมคุณจึงยกเลิกงานหมั้น ผมก็ดูออกว่า คนที่คุณชอบคือวารุณีสาวน้อยคนนั้น สายตาที่คุณเพิ่งจองเธอ ปิดผมไม่ได้หรอก!”นายท่านชลธีลูบเคราของตัวเอง หัวเราะอย่างมีความสุข
นัทธีก็ไม่ได้โต้แย้ง ยอมรับไปโดยปริยาย
นายท่านชลธีเอาถ้วยชาจีนด้านหน้าเก็บไว้ในกล่องอย่างระมัดระวัง แล้วเก็บขึ้น“แค่ผมไม่เข้าใจว่า คุณชอบเธออยู่ แล้วทำไมห้าปีก่อนต้องหมั้นกับพิชญานั่นล่ะ ส่วนยัยสาวน้อยวารุณีนั่นก็เหมือนกัน หลังจากไปจากตระกูลศรีสุขคํา ก็ไม่เคยไปหาคุณ”
นายท่านชลธีไม่รู้ว่าช่วงนี้นัทธีเพิ่งรักวารุณีต่างหาก คิดว่ารักมานานแล้ว
นัทธีก็ไม่ได้อธิบาย กำแก้วทรงยาวไว้แน่น ละสายตาลงพูดเสียงหม่น“เธอไม่ไปหาผม เพราะว่าเธอมีแฟนแล้ว”
จากข้อมูลที่เขาสืบมาได้ วารุณีหนีไปกับผู้ชายคนนั้นก่อนที่วรยาจะหย่าอีก
ดังนั้นสุภัทรจึงโมโหอย่างมาก แล้วจึงหย่ากับวรยา
“แฟน?”นายท่านชลธีส่ายหน้า“เป็นไปไม่ได้ ถ้าวารุณีสาวน้อยคนนั้นมีแฟนจริงๆ ปู่คุณไม่มีทางหมั้นหมายให้กับคุณแน่ อีกอย่างผมรู้ดี ปู่คุณเคยสืบเกี่ยวกับวารุณีสาวน้อยคนนั้นแล้ว ถึงได้เลือกเธอ จากอิทธิพลของปู่คุณ จะหาไม่เจอได้อย่างไรว่าเธอมีหรือไม่มีแฟน!”
เมื่อได้ยินคำพูดของนายท่านชลธี รูม่านตานัทธีหดลง แล้วสายตาก็จริงจังขึ้นมา
ใช่สิ คุณปู่ไม่ใช่คนที่สืบอะไรไม่ได้ แล้วจะให้คนมาหมั้นหมายกับเขาส่งเดช
ดังนั้นวารุณีที่หนีไปกับแฟนหนุ่ม สรุปยังไงกันแน่ แล้วก็ถ้าตอนนั้นวารุณีไม่มีแฟนจริงๆ งั้นลูกสองคนของเธอมาได้ไงล่ะ?
เกิดความสงสัยมากมายในใจ ทำให้สีหน้านัทธีดูแย่ขึ้นมา คิ้วขมวดเข้าหากันแน่นจนแทบจะบีบยุงตัวหนึ่งได้อยู่แล้ว
เขารู้สึกคลุมเครือนิดหน่อย ที่ตัวเองให้มารุตไปสืบ ข้อมูลเกี่ยวกับวารุณีในตอนนั้น อาจจะมีอะไรผิดพลาดก็ได้!
ตอนนี้ จู่ๆนายท่านชลธีก็หัวเราะพูดว่า“นัทธี ดูเหมือนว่าสาวน้อยคนนั้นจะชอบหอมหมื่นลี้ผลิบานในฤดูใบไม้ร่วงที่คุณจะซื้อให้นายท่านวัชระนะ”
ได้ยินคำนี้ นัทธียับยั้งความคิดที่พลุ่งพล่านในใจไว้ชั่วคราว เงยมองไปที่วารุณีที่อยู่ในหน้าจอกล้องวงจรปิด
วารุณียืนตรงหน้าเคาน์เตอร์ข้างๆแคชเชียร์ ก้มหน้าลงชี้ไปใต้กระจก ถ้วยชาจีนที่ในชามและนอกชามต่างปูไปด้วยลายเส้นดอกหอมหมื่นลี้ ถามด้วยดวงตาที่เป็นประกาย“นี่ใช่หอมหมื่นลี้ผลิบานในฤดูใบไม้ร่วงหรือเปล่าคะ?”
พนักงานมองตามที่เธอชี้ไป ก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม“ใช่ครับ นี่เป็นหนึ่งในผลงานที่นายท่านชลธีภูมิใจที่สุด”
“สวยมากเลย ฉันเคยได้ยินคนพูดเฉยๆ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เห็น คุณปู่วัชระจะต้องชอบแน่ เท่าไหร่คะ?”วารุณีมองพนักงาน