พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ - บทที่ 210 ไอริณถูกรังแก
นัทธีที่กำลังจะผลักประตูก็หยุดทันที ดวงตาของเขาหรี่ลงอย่างอันตราย
มารุตที่ตามมาทีหลังไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เมื่อเห็นเขายืนอยู่ตรงประตูโดยไม่ขยับ ก็สงสัยอย่างมาก “ท่านประธาน มารับหนูไอริณไม่ใช่หรอ ทำไมไม่เข้าไปล่ะ?”
นัทธีไม่ได้ตอบ ยกมือท่าทางให้เงียบๆ
มารุตพยักหน้า และหุบปาก จากนั้นก็ฟังเสียงร้องไห้ของไอริณที่ดังมาจากข้างในห้อง และเสียงพูดของเด็กอีกคนหนึ่ง “เราไม่ได้พูดไปเรื่อยนะ เธอน่ะไม่มีพ่อ คุณน้าบอกแล้ว คนที่ไม่มีพ่อเขาก็เรียกลูกที่ไม่มีพ่อทั้งนั้น เธอมันลูกที่ไม่มีพ่อ”
น้ำเสียงของเด็กคนนี้ยังเด็กมาก ฟังแล้วน่ารักมาก แต่คำพูดที่พูดออกมา มันโหดร้ายมาก ทำให้คนกลัวจนตัวสั่น
มารุตอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น สีหน้าหนักใจขึ้นมาทันที “ท่านประธาน ไอริณถูกรังแกแล้ว”
“ผมรู้แล้ว” มือของนัทธีที่ล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกง ก็กำแน่นทันที น้ำเสียงเย็นดั่งน้ำแข็ง
เขาชอบเด็กน้อยคนนี้มาก ตอนนี้เขาเห็นเด็กน้อยถูกรังแก ในใจนั้นลุกไปด้วยไฟโกรธ
“ฉันไม่ใช่ลูกไม่มีพ่อ เธอน่ะแหละที่ไม่มีพ่อ ฉันมีพ่อ สองวันก่อนพ่อฉันยังมาประชุมผู้ปกครองอยู่เลย ฉันมีพ่อ!” ไอ้ริณที่ถูกว่าเป็นลูกที่ไม่มีพ่อ สภาพจิตนั้นแย่มาก เสียงร้องไห้ยิ่งอยู่ยิ่งดังขึ้น
เด็กอ้วนที่อยู่ตรงหน้าเธอสองสามคน เมื่อเห็นเธอร้องไห้หนัก กลับหัวเราะเสียงดัง
“คนนั้นไม่ใช่พ่อของเธอสักหน่อย คุณน้าบอกว่า คุณที่มาประชุมผู้ปกครอง คือประธานบริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ป ประธานบริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ปไม่มีลูก ดังนั้นเธอไม่ใช่ลูกของเขา และแม่เธอก็เป็นผู้หญิงที่ไม่ดี ชอบแย่งผู้ชายของคนอื่น เธอเป็นคนไม่ดีที่เกิดจากผู้หญิงที่ไม่ดี!”
“อ้อ อ้อ คนไม่ดี คนไม่ดี!”
เด็กอ้วนสองสามคนปรบมือล้อเธอ
“เธอสิคนไม่ดี ฮืมๆๆ………….” ไอริณโกรธจนหน้าแดงไปหมดแล้ว กำหมัดแน่นกำลังจะไปสู้กับพวกเขา
ในเวลานี้นัทธีจึงได้ถีบประตูเข้าไป ป้างดังขึ้นมาหนึ่งที ประตูกระเด็นไปชนกำแพง ชนจนแกว่งไปมาหลายที
เด็กๆที่อยู่ข้างในต่างก็ตกใจ
โดยเฉพาะไอริณ ตกใจกลัวจนสะอึก แต่เมื่อมองเห็นอย่างชัดเจนว่าคนที่เข้ามาคือนัทธี ก็เบ้ปากเหมือนจะร้องไห้ วิ่งเข้าไปกอดเขา “พ่อ……..คะ”
นัทธีเก็บสีหน้าที่มืดมนของเขา นั่งลงแล้วอุ้มเธอขึ้นมา ใช้หัวแม่โป้งเช็ดน้ำตาให้เธอ พูดอย่างอ่อนโยน “ไม่เป็นไรแล้วนะ พ่ออยู่นี่แล้ว”
คำว่าพ่อคำนี้ ทำให้ความคับข้องใจของไอริณปะทุออกมาทั้งหมด กอดคอของเขาเอาไว้ ฮืม……ร้องไห้ทันที
ในขณะที่ร้องไห้ ก็สะอึกไปด้วย หยุดไม่ได้เลย ทำให้นัทธีสงสารเธออย่างจับใจ
เขาลูบหลังของไอริณเบาๆ พลางปลอบเธอ พลางสั่งการมารุตด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “นายไปตามคุณครูมา!”
“ครับ!” มารุตพยักหน้ารับ แล้วก็ไปจัดการทันที
หลังจากที่เขาไปแล้ว นัทธีก็อุ้มไอริณเดินไปตรงหน้าของพวกเด็กอ้วน
เดิมทีเด็กอ้วนพวกนี้ก็ตกใจจากการที่เขาถีบประตูอยู่แล้ว ตอนนี้ยังต้องมาเผชิญกับสีหน้าที่มืดมนอีก และไอเย็นที่แผ่กระจายออกมาจากตัวเขา ยิ่งทำให้เด็กๆถอยหลังทันที มีสองคนถึงขนาดร้องไห้ ตะโกนร้องเรียกหาแม่
นัทธีถูกเสียงร้องของเด็กอ้วนพวกนี้ทำให้ปวดหัว เม้มริมฝีปากแล้วตะคอก “หุบปาก!”
เด็กอ้วนพวกนี้ก็หุบปากไปในทันที ไม่กล้าร้องอีก
พอดีเวลานี้เสียงร้องไห้ของไอริณก็เบาลงแล้ว นัทธีจึงปล่อยเธอลงมา เปลี่ยนเป็นจูงมือเธอแทน “ไอริณ บอกพ่อซิ เมื่อกี้ใครเป็นคนรังแกหนู?”
“คนนี้ค่ะ!” นิ้วมือเล็กๆของไอริณชี้ไปหนึ่งในกลุ่มคนอ้วน คนที่อ้วนที่สุด พูดอย่างโกรธเคือง “พ่อคะ คนนี้ค่ะที่รังแกหนู เขาบอกว่าหนูไม่มีพ่อ เป็นลูกที่ไม่มีพ่อ”
นัทธีรีบหันไปมองเด็กอ้วนคนนั้น พลังที่อยู่รอบตัว ก็ได้พุ่งไปหาเด็กอ้วนคนนั้น “พูดมา ทำไมถึงรังแกลูกสาวของอา!”
เด็กอ้วนตกใจจนไม่กล้าขยับ ไขมันบนใบหน้าก็สั่นไปด้วย สุดท้ายทนความหวาดกลัวนี้ไม่ไหว ก็ร้องไห้ทันที “หนูก็ไม่อยากทำฮืม….. แต่เป็นคุณน้าคนหนึ่งให้หนูทำแบบนี้ บอกว่าขอเพียงพวกเราว่าไอริณเป็นลูกไม่มีพ่อในโรงเรียน ก็จะซื้อขนมอร่อยๆให้พวกเรากิน…….”
“คุณน้า?” แววตาของนัทธีฉายแสงที่เย็นชาออกมา กำหมัดแน่นจนเสียงข้อต่อดังกรอกๆแกรกๆ
เดิมทีเขาคิดว่า นี่จะเป็นเพียงการกลั่นแกล้งธรรมดาๆระหว่างเด็กๆ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าเด็กทุกคนจะเข้ากันได้
แต่เขากลับคิดไม่ถึงเลย กลับเป็นแผนการที่ถูกวางไว้อย่างรอบคอบ
“คุณน้าคนนั้นหน้าตาเป็นยังไง พูดเรื่องนี้กับพวกหนูที่ไหน?” นัทธีก้มหน้าจ้องมองเด็กอ้วนเหล่านี้
พวกเด็กอ้วนไม่กล้าปิดบัง ก็เล่าทุกอย่างออกมาอย่างเชื่อฟัง “อยู่นอกโรงเรียน วันนี้เธอมาขวางพวกเราเอาไว้ บอกกับพวกเรา เราไม่รู้ว่าหน้าตาเธอเป็นยังไง เธอใส่หมวก เรามองไม่เห็น”
นัทธีไม่แปลกใจกับคำบอกเล่าของพวกเด็กอ้วนเลย ในใจได้คาดการณ์ไว้นานแล้ว
เวลานี้ มารุตพาคุณครูมาแล้ว
ระหว่างทางที่ครูมา มารุตได้เล่าเรื่องให้ครูฟังทั้งหมดแล้ว ด้วยเหตุนี้เมื่อเดินมาถึงตรงหน้าของนัทธี ยกมือขอโทษพร้อมกับใบหน้าที่รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้น “คุณนัทธี ขอโทษจริงๆนะคะ ฉันไม่รู้ว่าพวกเด็ก……..”
“เอาล่ะ” นัทธีที่จูงมือไอริณอยู่ พูดตัดบทเธออย่างเย็นชา “ผมไม่อยากฟังคุณพูดเรื่องพวกนี้ ตอนนี้ให้ติดต่อผู้ปกครองของพวกเขา ความผิดเด็กก็คือความผิดของพ่อแม่ ผมไม่เอาเรื่องเด็กพวกนี้ พวกจะเอาเรื่องผู้ปกครอง”
“ค่ะ” คุณครูรู้ว่าเรื่องนี้ได้ทำให้ผู้ชายตรงหน้าโกรธแล้ว ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าหากไม่ได้เจอกับผู้ปกครองของเด็กพวกนี้ไม่มีทางยอมอย่างแน่นอน ทำได้เพียงพยักหน้า รีบไปติดต่อผู้ปกครองของพวกเด็กอ้วน
ในไม่ช้า ผู้ปกครองของพวกเด็กอ้วนได้ยินว่าประธานบริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ปต้องการพบพวกเขา ไม่กล้าที่ให้เขารอนาน รีบมากันอย่างรวดเร็ว
มาถึงเมื่อทราบว่าลูกของตัวเอง ไม่รู้ว่าไปฟังคำพูดของผู้หญิงที่มาจากไหนก็ไม่รู้ แล้วไปรังแกลูกสาวของประธานบริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ป ทำให้โกรธจนต่างคนต่างลงมือตีก้นลูกของตัวเอง
มองดูเด็กอ้วนพวกนี้ถูกพ่อแม่ตีจนร้องไห้ ในที่สุดไอริณก็ยิ้มแล้ว
เห็นเธอยิ้ม ความโกรธเคืองที่อยู่ในใจนัทธีได้ลดลงไปไม่น้อย ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับคำขอโทษของเหล่าผู้ปกครอง ก็ไม่ได้เจตนาจะทำให้พวกเขาลำบากใจกันนัก เพียงแค่เสนอให้พวกเขาพาลูกย้ายไปเรียนที่อื่น ก็จะปล่อยพวกเขาไป
การรังแกไอริณในครั้งนี้ ทำให้ต้องจบลงแบบนี้
นัทธีจูงมือไอริณเดินไปนอกโรงเรียน
หลังจากที่ขึ้นรถแล้ว นัทธีมองมารุตที่นั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับ พูดด้วยเสียงที่เคร่งขรึม “นายไปสืบดู เรื่องนี้ เกี่ยวกับสุภัทรหรือเปล่า!”
ไอริณถูกรังแก เกิดขึ้นพร้อมกับวันที่วารุณีถูกรุมด่าในโซเชียล บางทีอาจจะเป็นฝีมือของสุภัทรก็ได้
สุภัทรอาจจะคิดทำสองเรื่องในเวลาเดียวกัน ข่มขู่วารุณีทั้งสองทาง เพื่อให้วารุณียอมประนีประนอม
“เข้าใจแล้วครับ” ในขณะที่มารุตรับคำ ก็สตาร์ทรถไปด้วย
ระหว่างทางกลับคอนโด ไอริณเอาแต่ก้มหน้าตลอดเวลา ไม่ได้พูดจาเลย คนทั้งคนดูแล้วไม่มีความสุข
นัทธีเป็นคนริเริ่มคุยกับเธอก่อน เธอทำเพียงส่ายหัวพยักหน้า ไม่พูดออกเสียง
นัทธีรู้ว่า คำพูดของพวกเด็กอ้วน สำหรับยัยเด็กน้อยมันเป็นการถูกทำร้ายจิตใจอย่างรุนแรง
เด็กมีความเปราะบางและอ่อนไหวโดยเนื้อแท้ คำพูดล้อเล่นมากมายยังเอามาคิดอย่างจริงๆจังๆเลย นับประสาคำพูดที่เลวทรามแบบนี้
เงียบมาตลอดทาง จนกระทั่งมาถึงคอนโด
นัทธีจูงมือเล็กๆของไอริณ กดออดตรงประตูคอนโดของวารุณี
วารุณีรู้ว่าเวลานี้ น่าจะเป็นนัทธีที่พาเด็กกลับมา ก็ดีใจทันที รีบวางรีโมททีวีในมือลง พาอารัณไปเปิดประตูพร้อมกัน
เมื่อประตูเปิดออก ไอริณก็รีบปล่อยมือออกจากมือของนัทธี โผเข้าหาวารุณี กอดขาของวารุณีเอาไว้ สะอื้นถาม “หม่ามี๊ ทำไมคนอื่นๆเขามีพ่อ มีแต่ไอริณกับพี่ไม่มีพ่อ!”