พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ - บทที่ 283 อาจารย์เมอร์เซเดอ
ใต้การนำทางของวารุณี นัทธีก็มาถึงหน้าคฤหาสน์ส่วนตัวที่ดูสไตล์เก่าๆ
คฤหาสน์หลังนี้มีพื้นที่กว่าหลายร้อยตารางเมตร แม้ภายนอกจะดูเก่าไปหน่อย แต่สวนดอกไม้และสิ่งบันเทิงกลับมีครบครัน และยังให้ความรู้สึกของพวกชนชั้นสูงอีกด้วย
นัทธีเปิดประตูรถลงไป แล้วอุ้มเด็กทั้งสองคนด้วยกันกับวารุณี
เด็กทั้งสองคนลงมา ก็จูงมือกัน วิ่งไปที่ประตูคฤหาสน์อย่างตื่นเต้น
วารุณีมองสภาพของเด็กทั้งสองคนที่ดีใจแบบนี้ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะพร้อมส่ายหน้า“ช้าหน่อยสิ เดี๋ยวล้ม”
แต่เด็กทั้งสองคนกลับไม่ตอบอะไรเธอ เขย่งเท้ากดกริ่งประตู
นัทธีจัดแขนเสื้อเล็กน้อย ยืนอยู่ข้างๆวารุณี มองเด็กทั้งสองคนกับเธอที่อยู่ไม่ไกล“อาจารย์เมอร์เซเดอพักอยู่นี่เหรอ?”
“ใช่”วารุณีพยักหน้า
กำลังพูดอยู่นั้น เธอก็เห็นคนใช้ที่สวมชุดสาวรับใช้ในช่วงศตวรรษกลางหนึ่งคนวิ่งออกมาจากคฤหาสน์ เปิดประตูที่ฉลุลายออก
ประตูเปิดออกเล็กน้อย เด็กทั้งสองก็ตรงเข้าไป และวิ่งเข้าไปที่คฤหาสน์
คนใช้เห็นแบบนี้ ไม่ใช่แค่ไม่ห้ามพวกเขา แต่ยังมองแผ่นหลังเล็กๆของเด็กสองคนนี้อย่างเอ็นดู จนกระทั่งเด็กสองคนนี้วิ่งเข้าไปในประตูคฤหาสน์ จึงทักทายวารุณีอย่างอบอุ่น“คุณวารุณี คุณมาแล้วเหรอ”
วารุณีตอบกลับด้วยรอยยิ้ม“อาจารย์อยู่ข้างในไหมคะ?”
“อยู่ค่ะ คุณท่านอยู่กับแขก”คนรับใช้ตอบ จากนั้นมองไปที่นัทธี เหมือนว่าแปลกใจกับสถานะของเขา
วารุณีหัวเราะ คล้องแขนของนัทธีไว้“นี่คือแฟนฉัน ชื่อนัทธีค่ะ”
“สวัสดีค่ะคุณนัทธี”คนใช้รีบทักทายนัทธี
“สวัสดีครับ”นัทธีพยักหน้าเล็กน้อย ตอบกลับไป
คนใช้มองไปที่วารุณีอีกครั้ง“ช่างดีเสียจริง ถ้าคุณท่านเห็นคุณนัทธี จะต้องมีความสุขมากแน่”
“ทำไมล่ะ?”นัทธีเลิกคิ้วขึ้น
คนใช้ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม:“เพราะว่าเมื่อก่อนคุณท่าน คิดว่าเสื้อผ้าสไตล์ความรักที่คุณวารุณีออกแบบนั้นไร้ความรู้สึก ดูเย็นชาแข็งกระด้าง ก็เลยอยากให้คุณวารุณีมีความรัก ลองสัมผัสดูว่าความรักคืออะไร บางทีแบบนั้นเสื้อผ้าสไตล์ความรักที่คุณวารุณีออกแบบอาจจะมีความรู้สึกบ้าง”
“อ้อ?”นัทธีหรี่ตาลง หันหน้ามองวารุณี“พูดแบบนี้ แสดงว่าเมื่อก่อนคุณไม่เคยมีความรักเลย?”
วารุณีตอบอือกลับไปอย่างเขินอายเล็กน้อย
ตลกใช่ไหม คนที่อายุยี่สิบหกยี่สิบเจ็ดแล้ว เพิ่งมีแฟนคนแรก
เห็นวารุณียอมรับว่าเมื่อก่อนตัวเองไม่เคยมีความรัก ริมฝีปากบางๆของนัทธียกขึ้นมา มีความสุขเล็กน้อย
แต่ถัดมา เหมือนว่าเขาจะคิดอะไรได้ ริมฝีปากที่ยกขึ้นก็หุบลง เม้มขึ้นมา
แปลกมาก ในเมื่อเมื่อก่อนเธอไม่เคยมีความรัก งั้นอารัณกับไอริณมาได้ไงนะ?
คิดไป นัทธีก็จ้องใบหน้าเล็กๆที่สวยงามของวารุณี เหมือนว่าจะมองอะไรออกได้จากใบหน้าของเธอ
แต่ใบหน้าของวารุณีมีเพียงความงงงวยกับสงสัย อย่างอื่นก็ไม่มี
“นัทธี คุณมองฉันแบบนี้ทำไม หน้าฉันมีอะไรอยู่เหรอ?”วารุณีลูบหน้าของตัวเอง
นัทธีละสายตากลับ ริมฝีปากบางๆขยับ:“ไม่มี”
“อ้อ”วารุณีพยักหน้าอย่างงุนงง
คนใช้ทำท่าผายมือเชิญ“โอเคคุณวารุณีคุณนัทธี พวกคุณเข้ามาก่อนดีกว่า”
“ค่ะ”วารุณีตอบกลับไป คล้องแขนของนัทธี ตามหลังเธอเข้าไปในประตูที่ฉลุลาย เดินไปที่ประตูของคฤหาสน์
เข้ามาคฤหาสน์ก็มาที่ห้องรับแขก
คนใช้เชิญวารุณีกับนัทธีนั่งลงบนโซฟา แล้วก็เทชาแดงให้ทั้งสอง“ทั้งสองคนค่อยๆดื่มนะคะ ฉันจะไปรายงานคุณท่าน”
พูดไป เธอก็หันกลับเดินไปที่บันไดหมุน
นัทธีสำรวจคฤหาสน์เก่าๆนี้แวบหนึ่งไปเล็กน้อย แล้วขมวดคิ้วถามเสียงหม่น“เด็กทั้งสองคนล่ะ?”
จู่ๆเขาก็คิดได้ว่า ต้องแต่เข้ามาจนตอนนี้ ก็ไม่เห็นร่างของเด็กทั้งสองคน
มองนัทธีที่รู้สึกห่วงใยเด็กทั้งสองคนแบบนี้ ในใจของวารุณีก็มีความสุข
ยังไงยิ่งเขาแคร์เด็กๆ ก็ยิ่งหมายความว่า เขารักเด็กสองคนนี้มาก สามารถรักใครเด็กสองคนแบบนี้ ท่ามกลางสถานการณ์ที่เขาไม่รู้ว่าเด็กทั้งสองเป็นลูกแท้ๆของเขาได้ ถ้ารู้แล้ว คงไม่ใช่ว่ารักมากเลยเหรอ?
คิดแบบนี้ ในใจของวารุณีก็อดไม่ได้ที่จะเกิดแรงกระตุ้นบางอย่าง อยากบอกทันทีว่าเด็กทั้งสองเป็นลูกของเขา ไม่รู้ว่าเขาจะมีการตอบสนองอย่างไร
แต่ว่าแรงกระตุ้นนี้แป๊บเดียวก็ถูกวารุณีเก็บไว้ เธอถือชาแดงขึ้นมาจิบคำหนึ่ง“วางใจเถอะ พวกเขาแค่ไปห้องเล่นเกม ทุกครั้งที่มาหาอาจารย์ พวกเขาจะไปที่นั่น”
“ห้องเล่นเกม?”นัทธีขมวดคิ้ว
วารุณีหัวเราะ“ค่ะอาจารย์ตั้งใจแต่งห้องให้เด็กสองคนนี้เป็นพิเศษ ด้านในมีแต่ของเล่นของพวกเขา”
ที่แท้ก็แบบนี้!
นัทธีเงยคางขึ้น สื่อว่าเข้าใจ ความกังวลเล็กน้อยนั้น ก็คืนกลับไปที่เดิม
ตอนนี้เอง ด้านบนก็มีเสียงเคลื่อนไหว จากนั้น เสียงฝีเท้าหลายคู่ก็มาจากบันไดหมุนนั้น
วารุณีวางแก้วชาลงแล้วมองไป มองเห็นคนทั้งสี่คนเดินลงมาจากบันได
ชายชราที่นำหน้าคืออาจารย์ของเธอ อาจารย์เมอร์เซเดอ
ข้างๆเขามีคนแก่คนหนึ่งคนสาวๆคนหนึ่ง
พอเห็นใบหน้าคนแก่กับสาวคนนั้นชัดเจน ดวงตาของวารุณีก็เบิกโตขึ้นมาอย่างตกใจ“พวกเขานี่เอง!”
เธอพบว่า คนแก่กับคนหนุ่มนั้น เธอรู้จัก นั่นก็คือครอบครัวเจ้าบ่าวของงานแต่งครั้งที่แล้วที่พงศกรพาเธอไปร่วมงาน คุณออสตินกับคุณแอนนี่ลูกสาวของเขา
สองคนนี้ ทำไมมาอยู่ที่นี่ล่ะ?
นัทธีก็จำคุณออสตินสองคนพ่อลูกนี้ได้ จึงตกใจเล็กน้อย แต่ว่าหลังจากมีประกายแวบเข้ามาในดวงตาแล้ว ความแปลกใจนั้นก็หายไป
บางทีการจ้องไปของวารุณีนั้นอาจจะร้อนแรงเกินไป ทำให้พวกเมอร์เซเดอมองมา
เมอร์เซเดอเห็นวารุณี ดวงตามีฟ้าใสนั้นเป็นประกายหน่อยๆ แล้วจึงทิ้งคุณออสตินสองคนพ่อลูกไว้ อ้าแขนเดินมาทางเธอ เดินไปพูดไปด้วยความดีใจว่า:“อ้อที่รัก ในที่สุดเธอก็มาเยี่ยมฉันนะ ฉันคิดถึงเธอมาก!”
วารุณียืนขึ้นมา อ้าแขนไปต้อนรับเช่นกัน แล้วกอดกับเมอร์เซเดอ แล้วชนหน้าด้านขวาด้านซ้ายลงไป“อาจารย์ ฉันกลับมาแล้วค่ะ ฉันก็คิดถึงอาจารย์ สุขสันต์วันเกิดนะคะ!”
“ขอบคุณนะที่รัก”เมอร์เซเดอกุมมือของเธออย่างสนิทสนม
สองพ่อลูกคุณออสตินที่อยู่ด้านหลังเขามองไม่เห็นหน้าของวารุณี เพราะว่าถูกเขาบังไว้ ดังนั้นจึงยังจำวารุณีไม่ได้ แต่กลับจำนัทธีที่อยู่ตรงโซฟาได้ เลยตะโกนไปอย่างแปลกใจ“ประธานนัทธี!”
คำว่าประธานนัทธีนี้เตือนวารุณี วารุณีจึงดึงมือออกมาเบาๆ“อาจารย์คะ ฉันจะแนะนำคนหนึ่งให้อาจารย์ค่ะ”
นัทธีไม่สนใจสองพ่อลูกคุณออสติน รู้ว่าวารุณีแนะนำตัวเองอยู่ จึงวางแก้วชาแล้วยืนขึ้นมา
ในที่สุดเมอร์เซเดอก็สังเกตเห็นเขา ตาก็เป็นประกาย และยังแฝงไปด้วยความตื่นเต้น
วารุณียังไม่เห็นความผิดปกติของเมอร์เซเดอ ฝ่ามือนั้นชี้ไปที่นัทธีแล้วพูดว่า:“อาจารย์ นี่แฟนของฉันค่ะ เขาชื่อว่า……”
เธอยังพูดไม่จบ จู่ๆเมอร์เซเดอก็เดินผ่านเธอไปตรงหน้านัทธี
เขาเดินไปนี้ ทำให้เห็นวารุณีชัดเจน ในที่สุดสองคนพ่อลูกคุณออสตินก็เห็นหน้าตาของวารุณี แล้วก็ตกใจ
“พ่อ เธอ……”เหมือนแอนนี่อยากจะพูดอะไร
คุณออสตินส่ายหน้าไปที่เธอ สื่อว่าให้เธอหุบปาก
แอนนี่มองเขา แล้วก็มองวารุณีที่อยู่ตรงข้าม ถึงแม้ในใจจะมีคำถามอยากถามมากมาย แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะหุบปากแล้วฟัง
วารุณีไม่สังเกตเห็นการกระทำของสองคนพ่อลูก เธอเห็นอาจารย์ตัวเองวนรอบนัทธีรอบหนึ่ง ก็รู้สึกไม่ดี
แต่ตอนที่เธอจะห้ามนั้นเอง ก็สายแล้ว ภายใต้การมองที่สงสัยของนัทธี เมอร์เซเดอเอามือวางไว้ที่ไหล่ของเขาแล้วบีบ“ส่วนสูงหุ่นท่าทางและหน้าตานั้นเอาไปเลยเต็มๆ คุณผู้ชายคนนี้ ขอโทษนะคุณสนใจเป็นนายแบบไหม มาเป็นมิวส์ของผม?”