พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ - บทที่ 296 เกือบเป็นลม
“มาแล้วค่ะ”เมื่อได้ยินคำนี้ วารุณีก็ตอบกลับไปยังในห้อง จากนั้นก็จูงมือของนัทธี “ไปกัน แม่เรียกแล้ว ”
นัทธีพยักหน้าให้ ไม่ได้พูดอะไร เดินตามเธอเข้าไปยังด้านใน
หลังจากที่เข้ามาแล้ว นัทธีก็นึกไปถึงคำพูดของมารุต ยื่นถุงที่อยู่ในมือให้กับวรยา “คุณป้าครับ อันนี้ผมเตรียมมาให้ครับ หวังว่าคุณป้าจะชอบ ”
มองดูถุงที่มีตราสัญลักษณ์ของแบรนด์หรู วรยาก็ตกใจขึ้นมาก่อน จากนั้นสีหน้าก็นิ่งลง ยื่นมือไปรับของนั้นมา “เห็นถึงความตั้งใจหรอกนะ ของนี้จะรับเอาไว้ ขอบใจนะ ”
เมื่อนัทธีเห็นเธอรับของเอาไว้ ความรู้สึกอึดอัดในใจที่มี ก็ผ่อนคลายลง
การรับของไว้ มันก็หมายถึง เธอยอมรับลูกเขยคนนี้ในก้าวแรกแล้วใช่ไหม ?
“นัทธี นั่งลงซิคะ” เมื่อวารุณีเห็นนัทธียังคงยืนอยู่ ก็ดึงเก้าอี้ออกมาให้เขา
นัทธีตอบอืมกลับมาคำหนึ่ง จากนั้นก็นั่งลง
วารุณีนั่งลงข้างๆเขา “แม่ค่ะ สั่งอาหารไปหรือยัง ?”
“ยังเลย ก็รอให้พวกเรามากันก่อน ”
พูดจบ วรยาจึงหยิบเมนูอาหารยื่นให้กับวารุณี
วารุณีเปิดเมนูอาหารดู สั่งอาหารที่นัทธีกับลูกๆชอบก่อนเป็นอันดับแรกอยู่สองสามอย่าง จากนั้นก็สั่งอย่างอื่นเพิ่มอีกหน่อย แล้วจึงปิดวางเมนูอาหารลง
เมื่อวรยาเห็น ก็ถึงกับเลิกคิ้ว “เสร็จแล้ว ? ไม่ให้นัทธีสั่งด้วยเหรอ ?”
“หนูสั่งของที่นัทธีชอบให้แล้ว”วารุณีตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
หัวคิ้วของนัทธีก็คลายลงไม่น้อย
วรยาเบะปาก “เราเพิ่งจะคบกันได้ไม่นาน ก็รู้ใจเขาขนาดนี้เลยเหรอ ถึงขั้นรู้ว่าเขาชอบกินอะไรไม่ชอบกินอะไรด้วย ?”
วารุณีสยายผม“ ของที่นัทธีชอบมีน้อยมาก มีอยู่ไม่กี่อย่างเอง จำง่ายมากค่ะ”
“แล้วเราล่ะ?”วรยาหันมองไปทางนัทธี “วารุณีเขารู้ใจเราขนาดนี้ เราชอบหรือไม่ชอบอะไรก็จำได้หมด แล้วเราล่ะ รู้ใจวารุณีมากแค่ไหน รู้ไหมว่าเธอชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไรบ้าง?”
“แม่ ถามเรื่องพวกนี้ทำไมกัน ?”วารุณีจับไปที่แขนของวรยา หวังที่จะเปลี่ยนเรื่องคุย
แต่วรยากลับปฏิเสธ ดันมือเธอออก“ที่แม่ถาม ก็แค่อยากรู้ ว่าเขาจริงใจกับลูกไหม คนสองคนจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน จะมีเพียงลูกฝ่ายเดียวที่ทุ่มเทไม่ได้ ลูกรู้ใจและเข้าใจในตัวเขา เขาก็ต้องรู้และเข้าใจในตัวลูกด้วย เรื่องแบบนี้มันต้องสร้างขึ้นมาร่วมกัน ไม่งั้นก็จะมีเพียงหนูฝ่ายเดียวที่เป็นฝ่ายทุ่มเท ความสัมพันธ์ของพวกเราก็จะไม่เสมอภาคกัน เข้าใจไหม ?”
“หนู……”ริมฝีปากของวารุณีขยับไปมา จากนั้นก็พูดอะไรไม่ออก แล้วก้มหน้าลง
ทำไมเธอจะไม่เข้าใจ
ความรักที่ไม่เท่าเทียมกันนั้น เป็นความไม่สมประกอบ มันไปด้วยกันได้ไม่นานหรอก
“ดังนั้น คุณต้องตอบฉัน ”วรยาก็หันไปมองที่นัทธีอีกครั้ง “ฉันต้องรู้ ว่าคุณรักวารุณีมากแค่ไหน”
วารุณีก็หันไปมองที่นัทธีเช่นกัน สายตาคาดหวัง และเป็นกังวล
เธอคาดหวังให้เขาตอบได้
และก็เป็นกังวลว่าเขาจะตอบไม่ได้
นัทธีมองออกถึงความกังวลใจของวารุณี มุมปากยกหยัก วางมือไปยังศีรษะของเธอ จากนั้นก็เอ่ยพูดออกมาเสียงเบา พูดความเข้าใจและความชอบของเธอออกมา อย่างช้าๆและชัดๆ
ขณะที่เขายังคงพูดไม่หยุด ดวงตาของวารุณีก็ต้องเบิกกว้าง วรยาเองก็กะพริบตาไปด้วยความประหลาดใจ
เขารู้ทุกเรื่องจริงๆ เขาพูดออกมาทั้งหมดจริงๆ!
และที่ทำให้วารุณีต้องตื่นเต้นดีใจที่สุดก็คือ ความชอบบางอย่าง เธอเองก็แทบจะไม่รู้ตัว และยังมีพฤติกรรมเล็กๆน้อยๆ ที่เธอเองก็ยังไม่เคยรู้ แต่เขากลับสังเกตเห็นมัน
“โอเคพอแล้ว พอได้แล้ว”เห็นนัทธีพูดออกมามากมายขนาดนี้ วรยาก็รีบยกมือขึ้นห้าม“คุณพูดมาเยอะมากแล้ว ฉันเชื่อคุณแล้ว ว่าคุณรักวารุณีจริงๆ แต่!”
แค่คำว่าแต่นี้ ก็ทำเอาหัวใจของนัทธีกับวารุณี ถึงกับเต้นแรง ทำให้บรรยากาศในห้องรับรองถึงกับตึงเครียดขึ้นมา
แม้แต่เด็กทั้งสองคนก็รู้สึกได้ เงยหน้ามองผู้ใหญ่ทั้งสามคน
“แม่ แต่อะไรคะ?”วารุณีกุมมือนัทธี
นัทธีตบหลังมือของเธอ“ อย่ากังวลไป ให้คุณป้าพูดเถอะ ”
ใบหน้าของวรยาเต็มไปด้วยความจริงจัง“แต่คุณรับประกันได้เหรอ ว่าวารุณีอยู่กับคุณ จะไม่เจอกับอันตรายเหมือนอย่างสองครั้งที่ผ่านมาอีก?”
นัทธีหรี่ตาลง“ผมรับประกัน เหตุการณ์ก่อนหน้า ได้ให้บทเรียนกับผม ผมจะไม่ทำผิดพลาดอีกเป็นครั้งที่สอง และรอบตัวเธอกับรอบตัวของเด็กๆ ก็มีบอดี้การ์ดคอยดูแลอยู่ อย่างลับๆ”
“บอดี้การ์ด?”วารุณีตะลึง “ตั้งแต่เมื่อไหร่ค่ะ ทำไมฉันไม่รู้เรื่องเลย ? ”
นัทธีเหลือบมองไปที่เธอแวบหนึ่ง“ ผมส่งคนไปดูแลแล้วสองครั้ง ครั้งแรกเป็นตอนที่ทารีนายังไม่ถูกจับ หลังจากที่ทารีนาถูกจับแล้ว ผมก็ไม่ได้ส่งทีมบอดี้การ์ดไปอีก แต่หลังที่คุณถูกลักพาตัว ผมก็……”
“เดี๋ยวก่อน!”วรยาสีหน้าเคร่งเครียด“เมื่อกี้คุณบอกว่าวารุณีถูกลักพาตัวงั้นเหรอ?”
แย่แล้ว!
ในใจของวารุณีกระซิบออกมา แล้วจึงได้รีบก้มหน้าลงทันที
นัทธีก็เหมือนจะรู้ตัวว่าพูดอะไรผิดไป หันมองไปยังวารุณี “คุณไม่ได้บอกคุณป้าเหรอ?”
วารุณีปิดปากเงียบ
วรยาตบโต๊ะแล้วลุกขึ้นยืน “วารุณี ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้ !”
การกระทำของเธอ ทำให้ลูกๆของวารุณีพลอยตกใจไปด้วย
มีเพียงนัทธีเท่านั้นที่ยังคงนิ่งอยู่ แต่เขาก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับวารุณี
“พี่อารัณ คุณยายเหมือนกำลังโกรธหม่ามี๊เลย ทำไมเหรอคะ?”ไอริณดึงไปที่แขนเสื้อของอารัณ เอ่ยถามเสียงเบา
อารัณส่ายหน้า ไม่ได้ตอบกลับ
เพราะเขารู้ ต่อให้เขาตอบกลับไป ไอริณก็ไม่เข้าใจว่าอะไรคือการลักพาตัว
คุณยายก็แค่โกรธเรื่องใหญ่ถึงขั้นที่หม่ามี๊ถูกลักพาตัว แต่หม่ามี๊ก็ยังไม่ยอมบอกคุณยายอีก
เป็นไปตามคาด วารุณีเงยหน้าขึ้นชำเลืองมองวรยา ตอบอย่างรู้สึกผิดว่า “แม่……”
“อย่ามาเรียกฉันว่าแม่!ฉันขอถาม แกถูกลักพาตัว ทำไมถึงไม่บอกฉัน ? ” วรยาจ้องเขม็งอย่างไม่สบอารมณ์มาที่เธอ
นัทธีหันไปยังด้านข้าง แล้วคว้าตัววารุณีมาหลบที่ด้านหลังของเขา เพื่อให้ตัวเองเผชิญหน้ากับความโกรธของวรยา“ คุณป้าครับ วารุณีแค่ไม่อยากให้คุณป้าต้องเป็นกังวลก็เท่านั้น ”
“ไม่อยากให้ฉันเป็นกังวลก็เลยไม่บอก ? แล้วพวกเธอเคยคิดไหม ว่าหากเป็นอะไรไปแล้วจะทำยังไง ? ถึงตอนนั้นฉันไม่เพียงไม่เป็นห่วง แต่จะเจ็บปวดและเสียใจมากแค่ไหน!” ดวงตาของวรยาเริ่มแดงก่ำ
วารุณีฟังออกถึงเสียงที่สั่นเครือและหวาดกลัวของวรยา และรู้ว่าเธอทำให้วรยาตกใจกลัว เดินออกมาจากทางด้านหลังของนัทธี “ แม่ค่ะ หนูขอโทษ หนูผิดไปแล้ว อย่าเสียใจเลยนะ หนูก็ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย เพราะนัทธีมาช่วยเอาไว้ได้ทัน และขวางพวกโจรนั้นเอาไว้ได้ ”
วรยามองไปที่นัทธีอย่างเย็นชา“ เป็นพวกที่คลั่งเขามาลักพาตัวลูก เขามาช่วยลูกมันไม่สมควรหรือไง ?”
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะแม่”วารุณีส่ายหัว และรีบอธิบาย“ไม่ใช่พวกที่คลั่งรักนัทธี ตอนนั้นทารีนาถูกจับตัวไปแล้ว แต่เป็นสุภัทรกับศัตรูของหนูเป็นคนทำ”
“สุภัทร?”รูม่านตาของวรยาหดเกร็ง ร่างทั้งร่างแทบจะระเบิด “สุภัทรกล้าร่วมมือกับคนอื่นลักพาตัวลูก ? เขาเสียสติไปแล้วหรือไง ต่อให้เขาจะไม่ชอบลูก แต่ลูกก็เป็นลูกของเขา ทำไมเขาถึงได้โหดเหี้ยมขนาดนี้ เสือยังไม่กินลูกตัวเองเลย เขา……เขา……”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ วรยารู้สึกราวกับอกจะระเบิด ดวงตามืดมน ร่างกายสั่นเทา คล้ายจะเป็นลม
เมื่อวารุณีเห็น ก็จึงรีบตะโกนเรียก “แม่ แม่เป็นอะไร ?”
เธออยากจะไปพยุงร่างของวรยา
แต่นัทธีก็เร็วกว่า เข้าพยุงร่างของวรยาให้นั่งลง
วารุณีเอ่ยพูดขอบคุณกับนัทธี จากนั้นก็เดินอ้อมไปด้านหลังของวรยา คลึงนวดไปที่ขมับให้วรยา
แม้แต่เด็กทั้งสองคนก็วิ่งไปหาวรยา บีบนวดไปที่ขาของเธอ และลูบหน้าอกเพื่อให้หายใจได้คล่องขึ้น
ผ่านไปสักพัก สีหน้าของวรยาก็ดีขึ้นมาก
นัทธีรินน้ำมาให้เธอแก้วหนึ่ง
เธอเหลือบมองแวบหนึ่ง แววตาก็อ่อนลง รับน้ำมา “ขอบใจนะ นัทธี”
นัทธีส่ายหัวให้เล็กน้อย “ไม่เป็นไรครับ ”
วรยาดื่มน้ำไปอึกหนึ่ง ก็รู้สึกฟื้นตัวขึ้นมามาก แสดงสัญญาณให้วารุณีกับเด็กๆไม่ต้องนวดต่อแล้ว
เมื่อวารุณีเห็นว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว ก็จึงพาลูกๆกลับไปยังที่นั่ง
วรยาวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ“วารุณี บอกแม่มาสิ ทำไมสุภัทรต้องลักพาตัวลูกด้วย แล้วเขาร่วมมือกับใคร? ”