พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ - บทที่ 324 นวิยาออกจากโรงพยาบาล
“เอามาแล้วครับ”คนนั้นอุ้มกล่องกระดาษหนึ่งกล่องขึ้นมา
วารุณีเปิดฝากล่องกระดาษออกมาดูด้านใน ด้านในมีกล้องวงจรปิดขนาดเล็กหลายอัน
วารุณีพยักหน้าอย่างพอใจ“โอเค งั้นคุณพาคนของคุณ เอากล้องวงจรปิดพวกนี้ไปติดแต่ละมุมที่ซ่อนไว้ รบกวนด้วยนะ”
“คุณวารุณีเกรงใจไปแล้ว”คนนั้นพูดจบ มือที่อุ้มกล่องกระดาษทักทายเล็กน้อยแล้วไปติดตั้ง
วารุณียืนอยู่หน้าราวบันไดชั้นสาม มองคนกลุ่มนี้ทำงาน ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย
ถูกต้อง ตกแต่งสตูดิโอไม่เป็นความจริง ก็แค่ข้ออ้างของเธอเท่านั้น ข้ออ้างที่สามารถให้คนพวกนี้เข้ามา แล้วติดตั้งกล้องวงจรปิดพวกนี้
นวิยาจะเข้ามาพักแล้ว ใครจะไปรู้ว่านวิยาจะทำอะไรบ้าง จะทำร้ายเด็กทั้งสองคนไหม ดังนั้นเธอไม่มีทาง ได้แต่จ่ายเงินก้อนโตเพื่อติดกล้องวงจรปิดพวกนี้ รอนวิยาเข้ามาพักแล้ว จะได้สอดส่องนวิยาได้ตลอดเวลา
ถ้าสุดท้ายนวิยาทำอะไรจริงๆ เธอก็สามารถหยิบหลักฐานออกมาได้ตลอดเวลา ก็ถือว่าเป็นวิธีการปกป้องตัวเองกับเด็กทั้งสองคนละกัน
ไม่นานนัก กล้องวงจรปิดก็ถูกติดตั้งเรียบร้อย
วารุณีชำระเงินงวดสุดท้ายแล้ว ก็ส่งคนพวกนี้ที่ประตูคฤหาสน์
ป้าส้มที่ถูกเธอหาเหตุผลให้ออกไปก็กลับมา มองคฤหาสน์ที่ว่างเปล่า จึงถามว่า:“คุณผู้หญิง ตกแต่งสตูดิโอเรียบร้อยแล้วเหรอคะ?”
วารุณีพยักหน้า“เรียบร้อยแล้วค่ะ ดังนั้นฉันก็ควรออกจากบ้านได้แล้ว”
พูดไป เธอก็สะพายกระเป๋าเดินออกไป ขับรถไปที่บริษัท
ขณะเดียวกันเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็ผ่านไปแล้วอาทิตย์หนึ่ง
วันนี้ เป็นวันที่นวิยาออกจากโรงพยาบาล และก็เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์
วารุณีไม่ได้ไปบริษัท อยู่กับเด็กทั้งสองคนที่บ้าน ส่วนนัทธีไปรับนวิยาที่โรงพยาบาล
เด็กทั้งสองคนก็รู้ ก็ดูไม่สบอารมณ์ตลอดเวลา ความสนใจเล่นของเล่นก็มีไม่สูง
วารุณีเห็นแบบนี้ ก็จับหน้าของเด็กสาวตัวน้อยขึ้นมา“ลูกรัก หม่ามี๊รู้ว่าพวกลูกไม่ชอบคุณน้านวิยา แต่เดี๋ยวคุณน้านวิยามาถึงแล้ว พวกลูกจะทำท่าทีไม่พอใจไม่ได้นะเข้าใจไหม แบบนั้นจะทำให้คุณน้านวิยาคิดว่าพวกเราไม่ต้องรับเธอ พ่อก็จะลำบากใจ”
“เข้าใจแล้วค่ะ”เด็กสาวทำปากมุ่ยแล้วพยักหน้า
วารุณีลูบหน้าเล็กๆที่แสนนุ่มของเธอ แล้วปล่อยมือลง จากนั้นมองไปที่อารัณที่เล่นรูบิกอีกฝั่งหนึ่ง“อารัณ ตอนที่หม่ามี๊ไม่อยู่ ลูกต้องปกป้องน้องสาวนะ พยายามอยู่กับน้อง หลีกเลี่ยงที่จะอยู่ใกล้ชิดกับคุณน้านวิยา หม่ามี๊รู้ว่าลูกทำได้ ใช่ไหม?”
เธอลูบศีรษะของเด็กชาย
เด็กชายพยักหน้า“วางใจเถอะหม่ามี๊ ผมรู้ว่าควรทำอย่างไร”
“งั้นก็ดี”วารุณียิ้มแล้วถูไถหน้าผากของเขา“หม่ามี๊เชื่อลูก หม่ามี๊รู้มาตลอดว่าอารัณเป็นลูกผู้ชาย แต่ว่าสุดท้ายแล้วอารัณก็เป็นแค่เด็กคนหนึ่ง ถ้าคุณน้านวิยาคนนั้นจะใกล้ชิดกับพวกลูกให้ได้ ลูกก็ติดต่อหม่ามี๊เข้าใจไหม?”
“เข้าใจครับ”อารัณตอบรับ
จากนั้น วารุณีก็กำชับไอริณอีกสองสามอย่าง แล้วด้านนอกคฤหาสน์ก็มีเสียงเครื่องยนต์ของรถเข้ามา
วารุณีเม้มริมฝีปาก รู้ว่าเป็นพวกนัทธีกลับมา ก็จูงมือของเด็กทั้งสองคน เดินออกไปจากคฤหาสน์
ด้านนอกคฤหาสน์ นัทธีกำลังประคองนวิยาลงมาจากรถ
ไอริณเห็นฉากนี้ ปากเล็กๆก็ทำปากมุ่ยอย่างแรง
เธอไม่ชอบเห็นพ่ออยู่ใกล้ชิดกับผู้หญิงคนอื่นขนาดนี้
เธอรับได้แค่พ่ออุ้มหม่ามี๊และก็เธอ
ดังนั้นไอริณสะบัดมือของวารุณีออกทันที วิ่งไปที่นัทธี“พ่อคะ อุ้ม!”
“ไอริณ!”วารุณีคิดไม่ถึงว่าเด็กสาวคนนี้จะทำแบบนี้ ก็ขมวดคิ้ว อยากจะเรียกเธอกลับมา
แต่ไอริณไม่สนใจเลยสักนิด วิ่งไปหานัทธีอย่างไม่หยุดยั้ง
นัทธีหยุดฝีเท้าลง มองลูกสาวที่วิ่งมา ท่าทางก็ดูอ่อนโยนลงมา จากนั้นปล่อยแขนของนวิยา ก้มเอวอุ้มเด็กสาวขึ้นมา
เด็กสาวพิงไปในอ้อมแขนของนัทธี จากนั้นก็แอบมองไปที่นวิยาที่อยู่ด้านข้าง แล้วทำเสียงฮึดฮัด
มือของนวิยาที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อกว้างใหญ่ ก็บีบแน่นขึ้นมาทันที
ยัยเด็กบ้านี่ แย่งนัทธีไปอย่างเดียวไม่พอ ยังมายั่วยุเธออีก!
ในใจของนวิยาโมโหมาก แต่ใบหน้ากลับฉีกยิ้มออกไป“นัทธี นี่ลูกสาวของคุณวารุณีสินะคะ”
นัทธีพยักหน้าไม่พูดใดๆ“และก็ของผมด้วย”
นวิยาดูแข็งทื่อไปทันที จากนั้นพูดอีกว่า:“สวยจัง ต่อไปโตขึ้นมา จะต้องเหมือนกับคุณวารุณีแน่”
พูดไป เธอก็ยื่นมือออกไปทางเด็กสาวที่อยู่ในอ้อมแขนเขา“สวัสดีจ้ะสาวน้อย หนูชื่ออะไรจ๊ะ?”
ไอริณมองมือของเธอ แล้วก็ทำเสียงฮึดฮัดอีกครั้ง หันหน้าหนีไป หันท้ายทอยใส่เธอ ไม่ได้คิดจะคุยกับเธอเลยสักนิด
นวิยาโกรธจนอยากจะตบยัยเด็กคนนี้สักสองที ให้เด็กสาวคนนี้รู้ว่า มาแหย็มกับเธอไม่ได้
ถึงในใจคิดแบบนี้ แต่นวิยากลับไม่กล้าทำแบบนี้
ตอนนี้เอง วารุณีก็จูงอารัณเดินเข้ามา
วารุณีพยักหน้าให้นัทธีก่อน จากนั้นมองไปที่นวิยา“คุณนวิยา ยินดีต้อนรับคุณค่ะ”
นวิยามองเธอที่มีท่าทางแบบคุณนาย ละสายตาลงปกปิดความริษยาในดวงตา ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม:“ขอบคุณค่ะ ฉันคิดว่าคุณวารุณีจะไม่ต้อนรับฉันเสียอีก”
“ที่ไหนกันล่ะคะ”วารุณีเหลือบมองนัทธีแวบหนึ่ง“คุณคือน้องสาวบุญธรรมของสามีฉัน และก็เป็นน้องสาวบุญธรรมของฉันด้วย น้องสาวมาที่บ้าน ฉันในฐานะพี่สะใภ้ จะไม่ต้อนรับได้ไงคะ”
“ใช่……ใช่สิคะ”รอยยิ้มนวิยาก็ยิ่งแข็งทื่อมากขึ้น ในใจกลับอึมครึม
น้องสาวบุญธรรม?
ใครจะเป็นน้องสาวบุญธรรมกันล่ะ!
“โอเคนัทธี วางไอริณลงเถอะ”วารุณีไม่สนใจนวิยาอีก เอาสายตามองไปที่นัทธี
ไอริณได้ยินหม่ามี๊ให้ตัวเองลงมา ก็กลอกตาไปมา แล้วรัดคอของนัทธีแน่นทันที“หนูไม่ลง หนูจะให้พ่ออุ้ม”
ถ้าเธอถูกวางลง พ่อจะต้องไปประคองคุณน้านวิยาคนนั้นแน่
เธอไม่ต้องการ
กลิ่นหอมนมบนตัวเด็กสาวเข้ามาในจมูกของนัทธี ใจของนัทธีก็อ่อน ตบหลังของเด็กสาวเบาๆ“ไม่เป็นไร ผมอุ้มเอง”
“พ่อดีที่สุดเลย”ไอริณจูบไปที่หน้าของนัทธีอย่างมีความสุข
วารุณีเห็นแบบนี้ ก็จิ้มหน้าผากของเธออย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก“ลูกนี่นะ!”
เด็กสาวหัวเราะอย่างร้ายกาจ ตอนที่หัวเราะ ก็เหลือบมองไปที่นวิยาด้วย ความภูมิใจในแววตานั้น นวิยาโกรธจนเกือบจะกระทืบเท้า
อารัณมองเห็นหน้าเหยเกของนวิยาแวบหนึ่ง ก็แอบชูนิ้วโป้งให้น้องสาวตัวเอง
“โอเค อย่ายืนอยู่ด้านนอกเลย เข้าไปเถอะ”นัทธีพูด
ขณะเดียวกัน เขาก็อุ้มไอริณด้วยมือข้างหนึ่ง ยื่นมืออีกข้าง จะไปประคองนวิยา
อารัณมองการกระทำของเขาออก ประกายแวบเข้ามาในดวงตา จากนั้นเข้าไปจับมือของเขาที่จะประคองนวิยาก่อน
“ไปเถอะพ่อ พวกเราเข้าไปก่อน ผมมีของจะให้พ่อดู”
พูดไป อารัณก็รีบดึงนัทธีเข้าไปในคฤหาสน์
แป๊บเดียว สามคนพ่อลูกก็หายไปจากที่เดิม ที่เดิมตรงนั้นเหลือแค่วารุณีกับนวิยาเพียงสองคน
นวิยาก็ขี้เกียจทำหน้าปลอมๆต่อไปอีก สีหน้าหม่นลง“คุณวารุณี ลูกชายลูกสาวของคุณนี่ใช้ได้เลยนะ อายุน้อยแต่เจ้าเล่ห์สุดๆ จงใจไม่ให้นัทธีเข้าใกล้ฉัน”
วารุณีฟังไม่ออกที่ไหนกันว่าเธอกำลังเยาะเย้ยลูกทั้งสองของตัวเองอยู่ หน้าก็เย็นชาลง พูดเบาๆ:“เหรอ?ฉันไม่เห็นรู้สึกเลยว่าพวกเขาเจ้าเล่ห์ และก็ไม่คิดว่าพวกเขาทำผิด พวกเขาปกป้องสิทธิ์ของแม่ตัวเอง ไม่ให้สามีของแม่ตัวเองใกล้ชิดผู้หญิงคนอื่น ผิดตรงไหนเหรอ?”
พูดจบ วารุณีก็ยิ้มให้นวิยา และก้าวเท้าเดินเข้าไปในคฤหาสน์
นวิยามองแผ่นหลังของเธอ โกรธจนกระทืบเท้า
ตอนนี้เอง ลมฤดูใบไม้ร่วงก็พัดเข้ามา นวิยาหนาวจนตัวสั่น ถูแขน และก็ไม่กล้าอยู่ด้านนอกคนเดียว จึงเดินเข้าไป