พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ - บทที่ 344 ดำเนินการแผนการ
อาจเป็นเพราะเทคนิคการแสดงของวารุณีนั้นดีมาก นิรุตติ์จึงมองไม่ออกจริงๆว่าตรงไหนผิดปกติไป ปล่อยหน้าของเธอออก แล้วลุกขึ้น
วารุณีโล่งอก รีบลุกขึ้นจากโซฟาตาม วิ่งพรวดไปที่หน้าประตู รักษาระยะห่างกับเขาไกลๆ และจ้องมาที่เขาอย่างระแวดระวัง
อย่างไรก็ตามท่าทางป้องกันตัวของเธอนี้ ปรากฏอยู่ในสายตาของนิรุตติ์ เหมือนกับสัตว์ตัวเล็กๆ ตลกจนนิรุตติ์รู้สึกดี หัวเราะออกมา
“คุณขำอะไร?”วารุณีเม้มริมฝีปากสีแดงลง
ในที่สุดนิรุตติ์ก็สวมแว่น“ไม่มีอะไร แค่ขำที่วารุณีน่ารักมากไป”
พอได้ยิน คิ้ววารุณีก็ขมวดแน่น“ผู้อำนวยการนิรุตติ์ ฉันสามารถเอาคำของคุณนี้ เป็นการลวนลามได้ไหม?”
“จะเป็นการลวนลามได้ไงล่ะ ผมแค่ชมคุณอยู่ พูดตรงๆนะวารุณี คุณคือผู้หญิงที่น่าสนใจที่สุดที่ผมเคยเห็น ตอนนี้ผมเสียใจแล้วจริงๆ”นิรุตติ์ดันแว่น ด้วยสภาพที่ดูเสียใจทั้งใบหน้า
วารุณีมองเขาอย่างสงสัย“เสียใจ?”
“ใช่ เสียใจที่ห้าปีก่อนไม่ได้ปรากฏตัวที่โรงแรม ห้ามคุณไว้ ไม่งั้นตอนนี้ไม่แน่ที่จะคบกัน ก็คงเป็นพวกเรา”นิรุตติ์แกล้งทำเป็นถอนหายใจอย่างเสียดาย
วารุณีส่งเสียงเยาะเย้ย กำลังจะพูด นิรุตติ์ก็พูดอีกครั้ง“พูดถึงแล้ว วารุณีกับนัทธีคบกัน เป็นเพราะคุณงามความดีของผมแท้ๆ”
“ฮะ?”วารุณตะลึงงัน“คุณงามความดีของคุณ?”
“ใช่”นิรุตติ์เดินเข้าใกล้เธอ“ห้าปีก่อน ผมวางยาใส่นัทธี คุณถึงได้ร่วมนอนกับนัทธี เป็นไง ต้องขอบคุณผมไหม?”
ในใจของวารุณีนั้นตกใจมากจริงๆ
ที่แท้ คนที่วางยาให้นัทธี ก็เป็นนิรุตติ์
คิดแล้วก็ถูก ถ้าไม่มีแผนการของนิรุตติ์นี้ ตอนนั้นเธอกับนัทธีจะต้องไม่มีอะไรกันแน่ และเธอก็น่าจะคบกับชายแก่คนนั้นที่พิชญาจัดหาจริงๆ
แต่ว่าขอบคุณนิรุตติ์?
วารุณีหัวเราะเหอะๆ แบบนั้นโทษทีนะเธอทำไม่ได้
“ผู้อำนวยการนิรุตติ์ ในเมื่อสิ่งที่ฉันควรพูด ฉันก็พูดไปหมดแล้ว ฉันไปได้หรือยัง?”วารุณีเอามือวางไว้ด้านหลัง จับลูกบิดประตู เงียบๆ เตรียมเปิดประตูตลอดเวลา
นิรุตติ์ยักไหล่“แน่นอนว่าได้ แต่ผมหวังว่าเรื่องที่พวกเราเจอกัน นัทธีจะไม่รู้”
วารุณีมองเขาแป๊บหนึ่ง ตอบรับไป จากนั้นก็เปิดประตูออกไป
บอดี้การ์ดสองคนด้านนอกเห็นวารุณีออกมา และผมเผ้ายุ่งเหยิง สีหน้าก็จริงจังทันที“คุณผู้หญิง คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”
วารุณีโบกมือ“ฉันไม่เป็นไร ไป”
พูดจบ เธอก็ก้าวเท้าออกไปจากลิฟต์
บอดี้การ์ดสองคนมองห้องส่วนตัวข้างๆ จากนั้นรีบตามไป
ระหว่างทางไปบริษัท วารุณีโทรหาเบอร์ของนัทธี
เสียงทุ้มของนัทธีก็เข้ามา“เจอนิรุตติ์เสร็จแล้ว?”
“อือ”วารุณีกำมือข้างหนึ่ง
“เขาไม่ได้ทำอะไรคุณใช่ไหม?”นัทธีขมวดคิ้วถาม
วารุณีย้อนกลับไปคิดถึงฉากที่นิรุตติ์กดตัวเองลงไปที่โซฟา แววตาก็มีความร้อนตัวขึ้นมา ก้มหน้าลงพยายามตอบกลับให้เสียงของตัวเองฟังดูเป็นธรรมชาติ:“เปล่า”
เธอไม่อาจพูดได้ว่านิรุตติ์ทำพฤติกรรมน่ารังเกียจต่อเธอ
ถ้าพูดออกมา แล้วชายหนุ่มไปหานิรุตติ์เลยล่ะ นั่นแผนการก็ไม่ล้มเหลวเลยเหรอ?
นัทธีมองไม่เห็นอาการของวารุณี ดังนั้นเลยไม่รู้ว่าเธอกำลังปิดบัง คิ้วที่ขมวดก็คลายลง“งั้นก็ดี คุณได้บอกเขาไหม คำพูดพวกนั้น?”
“บอกไปแล้ว เหมือนเขาจะเชื่อนะ ดังนั้นต่อไป เขาต้องไปที่ประเทศฝรั่งเศสแน่”วารุณีมองทางตรงหน้า หมุนพวงมาลัย แล้วตอบอย่างตั้งใจ
ริมฝีปากบางๆของนัทธีเม้มลง“ผมเข้าใจแล้ว ต่อไปส่งต่อให้ผมได้เลย ผมจะให้เขาออกไปแล้ว กลับจังหวัดจันทร์ไม่ได้อีก”
คืนนั้น ระหว่างที่เขากับมารุตประชุม คิดอยู่หลายอย่างมากว่าพินัยกรรมจะวางไว้ที่ไหนได้ และสถานที่พวกนั้น มารุตก็ส่งคนไปหาแล้ว แต่ไม่มีพินัยกรรมเลย
ดังนั้นเขาให้วารุณีบอกนิรุตติ์ เพื่อที่ให้นิรุตติ์ออกไปจากจังหวัดจันทร์ แบบนี้แล้ว ขงเบ้งก็จะไม่มีที่หลบภัย และเขาก็จะจัดการขงเบ้งได้
คิดถึงเรื่องที่ขงเบ้งทำต่อตัวเองแล้ว มือที่นัทธีถือโทรศัพท์ไว้ ก็กำแน่นขึ้นมาทันที บรรยากาศรอบๆตัวเยือกเย็นจนทำให้คนรู้สึกกลัว
ถึงวารุณีมองไม่เห็นสภาพเขาตอนนี้ แต่ก็รู้สึกได้ว่าอารมณ์ของเขานั้นไม่ดี จึงถามไปอย่างเป็นห่วง“นัทธี คุณเป็นอะไร?”
“ผมไม่เป็นไร”สายตานัทธีสั่นคลอนเล็กน้อย ได้สติคืนมาก็เก็บอารมณ์ไว้ ตอบกลับเสียงเบา
วารุณีพยักหน้า“ไม่เป็นไรก็ดี งั้นฉันวางก่อนนะ”
“โอเค”นัทธีพยักหน้า
วารุณีวางสาย ก็เอาโทรศัพท์วางไว้ที่นั่งข้างคนขับ แล้วขับรถไปที่บริษัทต่อ
พอถึงบริษัท ปาจรีย์ก็โบกมือมาทางเธอ“วารุณี ลีน่ามาแล้ว”
วารุณียิ้ม“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว”
ในครึ่งเดือนนี้ ลีน่าแทบจะมาที่นี่สองวันครั้ง ไม่ใช่แค่สนิทกับวารุณีมากขึ้น แม้แต่ปาจรีย์ก็ยังกลายเป็นเพื่อนกัน
“ลีน่า!”วารุณีเปิดประตูห้องทำงานของตัวเองแล้วเข้าไป เรียกไปที่คนที่อยู่ด้านใน
ลีน่ากำลังดูภาพออกแบบอยู่ ได้ยินเสียง จึงหันหน้าไป“ในที่สุดเธอก็มา รีบมาๆ”
“ทำไมเหรอ?”วารุณีเห็นเธอโบกมือ ก็เดินเข้าไปอย่างแปลกใจ
ลีน่าเอาภาพออกแบบในมือวางไว้ที่โต๊ะ“ก็ภาพออกแบบนี้ ฉันเพิ่งดูไป ยังรู้สึกว่ามีตรงไหนไม่ถูกต้อง แต่พูดออกมาไม่ได้ เธอช่วยฉันดูหน่อย”
วารุณีมองภาพออกแบบที่วาดสร้อยคอภาพนั้นบนโต๊ะ หรี่ดวงตาที่สวยงามลง“ใช่มีบางอย่างไม่ถูกต้อง”
“ใช่ไหมล่ะ?”ลีน่ากัดริมฝีปาก“เป็นแบบนี้ได้ไงกัน ฉันมั่นใจกับการออกแบบของตัวเองมาโดยตลอด ฉันไม่รู้เลยว่าทำไมภาพออกแบบของตัวเองถึงออกแบบมาดูไม่สอดคล้องกัน ดังนั้นเธอช่วยรีบดูหน่อย ตรงไหนผิดไหน”
วารุณีตอบกลับยิ้มๆ:“เธอเป็นดีไซเนอร์เครื่องประดับ เธอไม่รู้ ฉันจะรู้ได้ไง”
“ก็เพราะว่าฉันเป็นดีไซเนอร์เครื่องประดับ เพราะฉันเป็นเจ้าตัวเลยดูไม่ออกไง เลยให้เธอดู เผื่อเธอจะดูออก”ลีน่าพูดไป ก็เอาภาพออกแบบยัดใส่มือของวารุณี
วารุณีหมดหนทาง ได้แต่หยิบภาพออกแบบเดินไปนั่งหลังโต๊ะทำงานแล้วดู
ยิ่งเธอดู คิ้วของเธอก็ยิ่งขมวดแน่น
ผ่านไปสักพัก ทันใดนั้นวารุณีก็ตระหนักอะไรได้ เปิดลิ้นชักออก หยิบภาพออกแบบชุดราตรีใบหนึ่งออกมาจากด้านใน
พอดูละเอียดแล้ว จู่ๆชุดราตรีนั้นก็เข้ากับภาพออกแบบเครื่องประดับอันนี้ แค่มองก็รู้ว่าเป็นซีรีส์เดียวกัน และยังเข้ากันมากด้วย
“ฉันรู้แล้ว”วารุณีเทียบกับเดรสของตัวเองแล้ว ก็เข้าใจว่าการออกแบบของลีน่าผิดไปตรงไหน
ลีน่ารีบเอื้อมตัวไปถาม“ตรงไหน?”
“นี่ไง”มือสองข้างของวารุณี ข้างหนึ่งชี้ไปที่งานออกแบบของตัวเอง กับของเธออีกอัน“ตรงนี้ก่อนหน้านี้พวกเราคุยกันแล้วไม่ใช่เหรอว่า ต้องแบ่งการออกแบบเป็นภาพสองอย่างนี่?ทำไมเธอถึงออกแบบมาพอๆกับฉันเลยล่ะ?”
ถูกเตือนแบบนี้ ลีน่าก็ถือว่าได้สติกลับคืนมา ตบหน้าผากตัวเองอย่างหงุดหงิด“โอ๊ย ฉันลืมไป ก่อนหน้านี้พวกเราบอกว่าแบ่งการออกแบบภาพเป็นสองอย่างที่ต่างกัน แต่สุดท้ายฉันวาดไปวาดมา ก็วาดกลายเป็นแบบนี้โดยไม่รู้ตัว”
วารุณีส่ายหน้าอย่างตลก“โอเค เธอรีบกลับไปแก้เถอะ”
“โอเค”ลีน่าพยักหน้า จากนั้นเริ่มแก้ภาพออกแบบ
วารุณีก็เอาภาพออกแบบชุดราตรีอีกสี่ภาพอื่นๆออกมา แล้วดูทีละใบ
ตั้งแต่สิบวันก่อน หลังจากเธอกับลีน่าแน่ใจสไตล์ของเจ้าหญิงน้อยแล้ว สิบวันนี้ เธอกับลีน่าก็วาดภาพออกแบบออกมา รอแค่เจ้าหญิงน้อยดู
“ลีน่า เธอติดต่อเจ้าหญิงน้อยยัง?”วารุณีวางภาพออกแบบแล้วถาม
ลีน่าก้มหน้าลงอย่างขมขื่น“ยังเลย เดี๋ยวฉันจะไปติดต่อเดี๋ยวนี้”
“โอเค”วารุณีเอาภาพออกแบบให้เธอ
ยังไงลีน่าก็เป็นคนติดต่อสื่อสาร เลยให้เธอเอาภาพออกแบบส่งไปให้เจ้าหญิงน้อยดู
ลีน่าเปลี่ยนการออกแบบของตัวเองเสร็จ ก็พบว่าไม่มีปัญหาแล้ว จึงยิ้มอย่างพอใจ“ไม่เลวเลย คนมีพรสวรรค์อย่าง”
“โอเค รีบส่งไปเถอะ”วารุณีมองเธอขำๆ
ลีน่าหยิบภาพออกแบบทันที ถ่ายรูปส่งไป พอส่งไปแล้ว โทรศัพท์ของเธอก็ดัง