พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ - บทที่ 375 คลิปวิดีโอในอดีต
“หึ ฉันจะคอยดูว่าเธอจะมีความสุขไปได้อีกนานแค่ไหน มีลูกให้นัทธีสองคนแล้วยังไง ท้ายที่สุดแล้วเธอก็จะไม่เหลืออะไรเลย!”นวิยาเงยหน้าขึ้นมองไปที่ระเบียงอีกครั้ง จากนั้นก็หันหลังแล้วเดินออกจากสวนหย่อมไป
เธอกลัวว่าหากเธอยังอยู่ต่อ คงต้องอิจฉาจนอกแตกตายแน่ๆ
นวิยากลับเข้าห้องของตัวเอง นั่งลงที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ คลิกเข้าที่หน้าเว็บไซต์แปลกๆเว็บหนึ่ง จากนั้นก็กดโทรออกไปหายังหมายเลขหนึ่“ฮัลโหล ฉันเอง ลงมือได้ ”
“รับทราบ”ปลายสายตอบรับกลับมา ก็จึงวางสายไป
นวิยาวางโทรศัพท์ลงช้าๆ ริมฝีปากบางก็ยกหยักยิ้มออกมา
วันรุ่งขึ้น ในขณะที่กำลังกินมื้อเช้า วารุณีรู้สึกว่าสายตาที่นวิยามองเธอมันดูแปลกๆ ราวกับกำลังรู้สึกยินดีปรีดากับอะไรบางอย่าง
แต่พอวารุณีจะลองมองดูอีกที สายตาของนวิยาก็กลับมาเป็นปกติ
ทำให้วารุณีไม่มีโอกาสที่จะถามเธอ
หลังจากที่รับประทานอาหารมื้อเช้าเสร็จ วารุณีกับนัทธีก็พาเด็กๆออกจากบ้านไป
นวิยายืนส่งพวกเธอตรงหน้าประตู
เมื่อเห็นร่างของพวกเขาลับตาไป เธอก็ยกยิ้มบางๆ
“วารุณีเอ๋ยวารุณี ชีวิตรักของเธอกับนัทธี ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คงต้องจบเห่แล้วละ ”
พูดจบ นวิยาก็หันหลังเดินกลับเข้าไปที่คฤหาสน์
วารุณีไม่รู้เป็นอะไร รู้สึกเสียวไปที่สันหลัง แล้วยังสั่นเทิ้มไปทั้งตัว
“เป็นอะไรไป?”นัทธีสังเกตเห็นจากทางหางตา ถามไปด้วยความเป็นห่วง
วารุณีส่ายหัว “ไม่เป็นไร จู่ๆก็รู้สึกหนาวขึ้นมา ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว”
“งั้นเหรอ?”นัทธีพยักหน้าให้ ไม่ได้ถามอะไรต่อ หรี่ความเย็นของเครื่องปรับอากาศลงอย่างเงียบ ๆ
วารุณีเห็นการกระทำของชายหนุ่ม ก็รู้สึกอบอุ่นที่หัวใจ รอยยิ้มบนใบหน้าก็ฉายชัดมากยิ่งขึ้น
หลังจากที่ส่งเด็กๆไปโรงเรียนอนุบาลแล้ว นัทธีก็ไปส่งวารุณีที่บริษัทของเธอ จากนั้นก็ขับรถมุ่งตรงไปยังบริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ป
ทันทีที่ออกมาจากลิฟต์ มารุตก็ยืนรออยู่ที่หน้าห้องทำงานแล้ว“ท่านประธาน”
นัทธีตอบอืมกลับมาคำหนึ่ง ก็ผลักประตูห้องทำงานของตัวเองออกแล้วเดินเข้าไป
มารุตเดินตามหลังมา“ สถิติของเดือนนี้ออกมาแล้วครับ ข้อมูลต่างๆผมได้ส่งเข้าไปที่อีเมลให้แล้ว คุณลองดูก่อนว่ามีปัญหาอะไรไหม หากมีปัญหาตรงไหม ผมจะได้ส่งกลับไปยังแผนกที่เกี่ยวข้องครับ ”
“อืม เดี๋ยวฉันค่อยดู นายแจ้งฝ่ายการวางแผนและการตลาดให้ที เดี๋ยวให้เข้าประชุมด้วย” นัทธีดึงเก้าอี้ออกแล้วนั่งลง
มารุตพยักหน้ารับ “ครับ งั้นผมไปก่อนนะครับ”
นัทธีพยักหน้าให้
หลังจากที่มารุตไปแล้ว เขาก็เปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมา เพื่อที่จะเช็กดูอีเมล
ทันใดนั้น มีอีเมลแปลกๆฉบับหนึ่งดึงดูดความสนใจของเขามาก
ตามหลักแล้ว อีเมลของเขามีการตั้งค่าเอาไว้ คนที่ไม่มีเมลของเขา จะส่งเมลเข้ามาให้เข้าไม่ได้อย่างแน่นอน
เขามั่นใจว่า เขาไม่เคยบันทึกอีเมลนี้เอาไว้ แต่เมลตัวนี้กลับส่งอีเมลเข้ามาหาเขา
เห็นชัดว่าคนที่ส่งอีเมลนี้มารู้เรื่องการเจาะระบบ ดังนั้นอีเมลฉบับนี้ จึงค่อนข้างที่จะสำคัญมาก
เมื่อครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ นัทธีก็คลิกเปิดอีเมลฉบับนี้ เมื่อเห็นชื่ออีเมล รูม่านตาของเขาก็หดเกร็ง มือที่เมาส์ ก็กำมันแน่นขึ้นร
เห็นเพียงชื่อของอีเมลเขียนไว้ว่า:อยากรู้ความจริงเรื่องการตายของพ่อแม่ กดเปิดคลิปวิดีโอด้านล่าง คุณก็จะสามารถเห็นมัน
สายตาของนัทธีจับจ้องมองไปที่คลิปวิดีโอ เมาส์เลื่อนไปยังรูปสามเหลี่ยมที่อยู่ตรงกลาง ลังเลอยู่ชั่วครู่ สุดท้ายก็พ่ายให้กับความอยากรู้ที่มีในใจ กดเปิดคลิปวิดีโอนั้นทันที
วิดีโอค่อนข้างพร่ามัว และสั่นไหว เห็นได้ชัดว่าบันทึกผ่านโทรศัพท์มือถือ
คุณภาพของโทรศัพท์ในยุคนั้น การถ่ายอะไรก็ไม่ค่อยจะคมชัดเท่าไร
แต่นัทธีก็จำคนในคลิปวิดีโอนั้นได้ ว่าเป็นพ่อแม่ของตัวเอง
“พ่อ แม่……”เมื่อเห็นพ่อแม่ที่ยังอ่อนเยาว์ ดวงตาของนัทธีก็แดงขึ้นมาเล็กน้อย ปากก็เอ่ยเรียกสรรพนามที่ไม่ได้เรียกขานมานานนับปีออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
เขาไม่คิดว่า ในเวลาแบบนี้ เขายังจะสามารถเห็นพ่อแม่ของตัวเองได้ พ่อแม่ที่ขยับเคลื่อนไหวไปมา
สิ่งสิ่งนี้จะไม่ทำให้จิตใจของเขา ตื่นเต้นไปได้ยังไง
แต่เพียงไม่นาน ความตื่นเต้นในใจของนัทธีก็จางหายไป และความหนาวเหน็บก็เข้ามาแทนที่
เพราะในตอนที่พ่อแม่ของเขากำลังจะข้ามถนน จู่ๆก็มีรถสีแดงคันหนึ่งขับเข้ามา ชนร่างของพ่อแม่เขาจนกระเด็น
“ไม่!”รูม่านตาของนัทธีหดเกร็ง ตะโกนออกมาอย่างไม่รู้ตัว
เขารู้มาโดยตลอดว่าพ่อแม่ของเขาเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ แต่ตอนนี้มาเห็นภาพที่พ่อแม่ถูกรถชน เขาก็ยอมรับมันไม่ได้ ในใจรู้สึกเจ็บปวดจนยากที่จะหายใจ
คลิปวิดีโอนี้ยังเล่นไม่จบ นัทธีสูดหายใจเข้าออกอยู่หลายครั้ง อดทนกับความเจ็บปวดที่มี แล้วดูคลิปวิดีโอนั้นต่อ
กล้องเคลื่อนไหวไปมา รถสีแดงคันนั้นหยุดแล้วจอดลงไม่ไกลนัก ประตูเปิดออก มีผู้หญิงคนหนึ่งจูงมือของเด็กน้อยคนหนึ่งที่สวมใส่ชุดกระโปรงสวยงามลงมาจากรถ
เมื่อเห็นใบหน้าที่ชัดเจนของหญิงสาวคนนั้น นัทธีก็รู้สึกชาวาบไปทั้งร่าง มือที่กำเมาส์จนแน่น ก็สั่นไหวขึ้นมาเล็กน้อย ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
เป็นไปได้ยังไง!
คนที่ขับรถชนพ่อแม่ของเขา จะเป็นวรยาไปได้ยังไง
แต่รถสีแดงคันนั้นก็กำลังบ่งชี้ให้กับนัทธี ว่าคนที่ขับรถชนพ่อแม่ของเขา ก็คือวรยาจริงๆ
แล้วเด็กหญิงที่วรยากำลังจูงมืออยู่……
นัทธีจ้องมองไปที่ใบหน้าของเด็กหญิงคนนั้น เด็กน้อยหน้าตาน่ารักมาก บอกไม่ได้ว่าโตมาหน้าตาจะสะสวยสักแค่ไหน
ใบหน้านี้ เขาดูจะคุ้นเคยกับมันมาก ตื่นนอนในทุกเช้าก็ได้เห็น
เพราะมันเป็นใบหน้าของวารุณี !
เพราะฉะนั้นวรยากับวารุณี ขับรถชนพ่อแม่ของเขา และเขาก็มาแต่งงานใช้ชีวิตอยู่กับวารุณี
นี่มันเรื่องเหลวไหลอะไรกัน หลอกลวงทั้งนั้น
เขาแต่งงานกับลูกสาวของศัตรูงั้นเหรอ แต่งงานกับลูกสาวของฆาตกรที่ฆ่าพ่อแม่ของตัวเองงั้นเหรอ !
ดวงตาของนัทธีแดงก่ำ ร่างกายสั่นไหวไปกับความจริงในเรื่องนี้
“อ๊ากก!”จู่ๆเขาก็คำรามออกมาเสียงดังแล้วลุกขึ้นยืนทันที กวาดของทุกอย่างบนโต๊ะลงกับพื้นอย่างบ้าคลั่ง
มารุตที่กลับมาจากการไปแจ้งเรื่องให้กับสองแผนกได้รับทราบ กำลังจะมาเชิญนัทธีไปยังห้องประชุม พอเดินมาถึงที่หน้าห้อง ก็ได้ยินเสียงที่เคลื่อนไหวอยู่ภายในห้อง ตื่นตกใจ นึกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ไม่ทันได้เคาะประตู ผลักแล้วเปิดเข้ามาในทันที
“ท่านประธาน……”เมื่อเห็นความเละเทะภายในห้องทำงาน และดวงตาที่แดงก่ำ กับท่าทีที่บ้าคลั่งของนัทธี มารุตก็ต้องตกตะลึง“ท่านประธานคุณเป็นอะไร?”
นัทธีไม่ตอบ สองมือกำหมัดแน่น เส้นเลือดที่หลังมือก็ปูดโปนขึ้นมา
เมื่อมารุตเห็นเขาเอาแต่จ้องมองคอมพิวเตอร์ ก็เดินเข้าไปดูด้วยความสงสัย เห็นเป็นคลิปวิดีโออยู่บนหน้าจอ แต่คลิปวิดีโอนั้นเล่นจบไปแล้ว เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันคือคลิปอะไร
แต่มารุตก็รวบรวมความกล้ากดเปิดวิดีโอนั้นอีกครั้ง
ไม่กี่นาที มารุตที่ดูวิดีโอนั้นจบ และถึงกับอึ้งไป
“นี่……นี่มันจะเป็นไปได้ยังไง!”มารุตก็ถึงกับอ้าปากค้าง ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
สิ่งที่เขาเห็นมันคืออะไร เขาเห็นแม่ยายของท่านประธาน ขับรถชนพ่อแม่ของท่านประธาน
“ท่านประธาน คลิปวิดีโอนี้ใครเป็นคนส่งมาให้ครับ?” มารุตถามไปอย่างร้อนรน
นัทธีข่มตาลง ระงับอารมณ์ของตัวเอง พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ฉันไม่รู้”
“ผมจะให้คนเอาไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้ ”มารุตมองไปที่ชายหนุ่ม
นัทธีตอบตกลงแล้วพยักหน้าให้ “เช็ก และต้องหาตัวมาให้ได้ ”
คลิปวิดีโอที่มีอายุกว่าสิบปี เก็บรักษาเอาไว้อย่างดีและเพิ่งส่งมาให้เขาในตอนนี้ เห็นชัดว่าอีกฝ่ายต้องมีจุดประสงค์บางอย่างแอบแฝงแน่นอน
จุดประสงค์ที่เด่นชัดที่สุด ก็คือต้องการให้เขากับวารุณีกลายเป็นศัตรูกัน
เมื่อคิดถึงวารุณี นัทธีก็หลุบตาลง กักเก็บอารมณ์พายุที่โหมกระหน่ำ แล้วพูดขึ้นว่า “และคลิปวิดีโอนี้ ให้คนไปเช็กมาด้วย ว่าถูกตัดต่อมา เป็นมุมกล้องหรือจัดฉากขึ้นมาหรือเปล่า”
ในตอนที่เห็นคลิปวิดีโอนี้ครั้งแรก สติของเขาเกือบหลุด มั่นใจในทันทีว่าวารุณีแม่ลูกเป็นคนขับรถชนพ่อแม่ของเขา
แต่ตอนนี้พอมาได้สติ เขาก็ยิ่งได้คิดไตร่ตรองมากขึ้น ในเมื่อคนที่ส่งคลิปมาอยากให้เขากับวารุณีกลายเป็นศัตรูระหว่างกัน งั้นก็แสดงว่าวิดีโอนี้ต้องผ่านขั้นตอนกระบวนการต่างๆมาแล้ว
มองดูมารุตก๊อบปี้วิดีโอไปแล้ว นัทธีก็นั่งลงบนเก้าอี้ที่โต๊ะทำงาน นวดคลึงไปที่ขมับอย่างเมื่อยล้า
วารุณี หวังว่าคุณจะไม่ทำให้ผมต้องผิดหวังนะ!