พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ - บทที่ 443 การเดินแบบที่ตลก
วารุณียัดกระโปรงเข้าไปในอ้อมแขนของเธอ “เอาเถอะ รีบไปเปลี่ยนได้แล้ว ยังเหลืออีกสิบนาทีก็จะเริ่มงานแล้ว”
เชอรีนรีบตอบออๆ สองครั้ง แล้วเดินไปที่ห้องแต่งตัวโดยถือกระโปรงไว้ในอ้อมแขน
ตามการเร่งของเหล่าดีไซเนอร์ นางแบบอื่นๆ เข้ามาในห้องแต่งตัวเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า
ระดับการเดินแบบของนางแบบจะตัดสินโดยการจัดฉลาก เชอรีนถูกจับได้ที่สี่สิบ ได้อันดับกลางๆ ตำแหน่งนี้ไม่ดีแต่ก็ไม่เลว แต่ก็ไม่ถือว่าแย่มาก
วารุณีรู้สึกพอใจมากแล้ว ตราบใดที่ยังไม่อยู่ยี่สิบอันดับสุดท้ายก็พอแล้ว
เพราะการปรากฏตัวของนางแบบหลายสิบคน กรรมการจึงมองเสื้อผ้าสวยๆ มากเกินไป ถ้าในยี่สิบคนสุดท้าย ไม่มีม้าดำปรากฏ เหล่าคณะกรรมการจะเหนื่อยง่ายมาก
ดังนั้นทางด้านการในคะแนน ก็จะเกิดปัญหาเล็กๆ ขึ้นง่าย
โสรยาที่ได้ลำดับที่แปดสิบสี่จึงแสดงสีหน้าที่ไม่ดี
“อย่าตื่นเต้นเลย” วารุณีมองเชอรีนที่ถือชายกระโปรงที่ลากยาว แววตามองทางเข้าเวทีTด้วยความตื่นเต้นดีใจ รู้ว่าเธอตื่นเต้นดีใจมาก แต่ก็ยังอดเตือนสติเธอไม่ไหว
เชอรีนพยักหน้า “วางใจเถอะ ฉันไม่ตื่นเต้น ฉันแค่รู้สึกตื่นเต้นเกินไปที่ได้เดินแบบในเวทีT ซึ่งเป็นเวทีนานาชาติ”
พูดไป เธอก็กัดหมัดทั้งสองข้างแน่นๆ ยกวางบนกระดูกไหปลาร้า ทั้งตัวรู้สึกตื่นเต้นดีใจอย่างมาก
“งั้นก็ดี” วารุณีเห็นเธอเป็นแบบนี้ ก็รู้สึกวางใจขึ้นมาทันที
ในฐานะที่เป็นดีไซเนอร์ เธอต้องดูผลงานของดีไซเนอร์ทุกคนอยู่แล้ว เพื่อรู้ถึงความสามารถของพวกเขา
ไม่เพียงแต่เธอ ดีไซเนอร์คนอื่นๆ ก็คิดว่าเป็นแบบนี้ ดังนั้นดีไซเนอร์ที่อยู่หลังเวทีน้อยมาก
“ไปเถอะๆ ” เชอรีนผายมือ ให้เธอไม่ต้องมาสนใจตัวเอง
วารุณีเห็นแบบนี้ ก็จากไปอย่างยิ้มๆ
โสรยาเห็นเธอจากไป สายตากวาดมองไป แล้วเดินจากไปตาม
วารุณีกลับถึงเวทีT เพิ่งจะนั่งลงได้ไม่นาน งานเดินแบบก็เริ่มแล้ว
นางแบบคนที่หนึ่งปรากฎ ทันใดนั้นก็ดึงดูดสายตาของดีไซเนอร์ทุกคน
สายตาของวารุณีดูตื่นตะลึง จากนั้นก็เปิดสมุดโน๊ตที่ที่วางอยู่บนตัก เริ่มจดรายละเอียดการดีไซน์ชุดกระโปรงที่สวมอยู่บนร่างของนางแบบ
เธอรู้ว่ากระโปรงตัวนี้ใครเป็นคนออกแบบ เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ลันเฟิ่น ผลงานของแคทเธอรีน
แต่ก่อนเธอกับแคทเธอรีนได้เจอกันครั้งหนึ่ง แค่ว่าตอนนั้น เธอใช้ฐานะที่เป็นMina
วันก่อนเธอก็เจอแคทเธอรีนที่ห้องน้ำ แต่เหมือนแคทเธอรีนจำเธอไม่ได้
“คุณวารุณี คุณกำลังจดบันทึกอยู่เหรอ?” ตอนที่วารุณีกำลังจดบันทึกด้วยความตั้งใจนั้น จู่ๆ ก็มีเสียงๆ หนึ่งดังขึ้นข้างหู
วารุณีขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย ทว่าก็ยังเงยหน้าขึ้นมองไปปราดเดียว
โสรยากำลังเดินมาด้วยรอยยิ้ม จากนั้นนั่งข้างเธอ
วารุณีตอบอืมกลับ “กำลังทำความเข้าใจคู่แค่ง การประกวดครั้งต่อไป จะได้มีประโยชน์”
“จริงเหรอ คุณวารุณีดูตั้งใจจริงๆ ” โสรยาเสยผม ทำให้เห็นตุ้มหูสีดำหนึ่งอัน
ตุ้มหูที่อยู่ใต้แสงสว่างนั้นสะท้อนแสง วารุณีสังเกตเห็น จึงพูดขึ้นลอยๆ “คุณวารุณี ตุ้มหูอันนี้ดูพิเศษมาก จริงๆ มันเป็นสีแมท แต่กลับสะท้อนแสงได้ด้วย”
โสรยาได้ยินคำนี้ สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นก็ปล่อยผมลงอย่างรวดเร็ว เพื่อปิดตุ้มหูเอาไว้ พร้อมฝืนยิ้มข้นมา “ก็นับไม่ได้ว่าเป็นสีแมททั้งหมดหรอก ด้านในเป็นอัญมณีสีดำ”
“แบบนี้นี่เอง” วารุณีเชยคาง ถึงแม้จะรู้สึกว่าอัญมณีที่ภายนอกเคลือบให้เป็นสีแมท มันค่อนข้างไร้ประโยชน์ ทว่าก็ไม่ได้คิดมาก
ยังไงบยโลกใบนี้ มีเรื่องน่าแปลกอยู่มากมาย
เห็นวารุณีเลิกไถ่ถามลองเชิงตุ้มหูของตนเอง โสรยาถอนหายใจโดยไม่ทิ้งร่องรอยใด หัวเราะเต้นแรงก็ค่อยๆ สงบลง
อันตรายมาก เกือบจะโดนจับได้แล้ว
ดูๆแล้ว วันข้างหน้าเธอห้ามเสยผมไปเรื่อยเปื่อย
พอเหล่านางแบบปรากฏกันติดต่อกันมา ไม่นานก็ตาเชอรีนแล้ว
เป็นครั้งแรกที่เชอรีนยืนอยู่บนเวทีนี้ ทว่าเธอไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเลยสักนิด ตอนขึ้นเวทีก็คลี่ยิ้มออกมา แล้วเดินเหมือนลม
ตอนที่เดินไปถึงตรงหน้าสุดของเวที T เธอกะพริบตาให้วารุณีหนึ่งที จากนั้นหันหลังไป แล้วสะบัดหางลากยาวๆหนึ่งที แล้วเดินกลับไปต่อ
ฝีเท้าของเธอดูสง่ามาก กระโปรงที่ลากยาวด้วยนอกเบาสบาย เหมือนกำลังพลิ้วไหวไปกับฝีเท้าของเธอ ทำให้สะบัดไปมาอย่างมีชีวิตชีวากลางอากาศ เป็นอะไรที่ดูดีมาก เหล่าสื่อมวลชนไม่รู้จักนางแบบอย่างเชอรีน ทว่าก็ไม่สามารถขัดขวางได้ ตอนนี้พวกเขาจดจำนางแบบตะวันออกที่สวยคนนี้ไว้แล้ว
วารุณีเห็นทุกการแสดงของเชอรีน แน่นอนว่าต้องเข้าใจในความโดดเด่นเมื่อกี้นี้ของเชอรีน
เธอเชื่อ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เชอรีนต้องเข้าตาของคนในวงการแฟชั่นแน่นอน
“คุณวารุณี นางแบบของคุณไม่เลวจริงๆ ” โสรยายิ้มให้วารุณี ทว่าสายตากลับไม่ได้มีรอยยิ้มแม้แต่น้อย แต่เต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา
วารุณีฟังออกว่าปากกับใจของเธอไม่ตรงกัน จึงยกหางคิ้วขึ้นเล็กน้อย “คุณวารุณีชมเกินไปแล้ว นางแบบของคุณก็ไม่เลวเหมือนกัน”
โสรยาทำสีหน้าที่ดูเกร็งขึ้นมาทันที จึงยิ้มเย็นชาในใจ
นึกว่าเธอจะฟังคำเย้ยหยันของเธอไม่ออกหรือไง?
“คุณวารุณีพูดขึ้นยิ้มๆ นางแบบของเราก็แบบนั้นเองแหละ เมื่อเทียบกับของคุณแล้ว ยังแตกต่างกันมาก” โสรยาตอบกลับด้วยสีหน้าที่ยิ้มแต่ไม่ได้ยิ้มจริงๆ
วารุณีก้มหน้าลง แล้วเม้มปากยิ้ม “เหอะ ที่ไหนกันล่ะๆ นางแบบของคุณโสรยาต้องไม่แย่อยู่แล้ว ไม่งั้นทำไมถึงเข้าตาคุณ แล้วพามางานนานาชาติที่ใหญ่ขนาดนี้ได้ล่ะ ดังั้นฉันเชื่อว่าเธอต้องมีจุดที่เหนือกว่าคนอื่นอยู่แล้ว”
“เหอะๆ…….” โสรยาพยายามยกมุมปากขึ้น แล้วไม่พูดอะไรออกมาอีก
จุดที่เหนือกว่าคนนั้นงั้นเหรอ?
ถ้าพูดถึงลักษณะท่าทางไม่สุภาพเรียบร้อย จุดนี้คงจะเหนือกว่าคนนั้นอยู่นะ นี่เธอไม่มีวิธีโต้แย้งกลับจริงๆ
ไม่นานก็มีนางแบบหลายสิบคนเดินแบบเสร็จ สุดท้ายก็ถึงนางแบบของโสรยา สุชาดาก็ปรากฏในงาน
สุชาดาใส่จุดกระโปรงทรงวีสีดำเข็ม สีนั้นเหมาะกับเธอมาก และสามารถแสดงความลุ่มลึกอันสูงสง่าของเธอออกมาได้
ทว่าสุชาดากลับเป็นตัวถ่วงให้กับกระโปรงตัวนี้อย่างมาก
เธอเหมือนค่อนข้างตื่นเต้น ตอนที่เดินบนเวทีTนั้นเกร็งมาก สีหน้าและนัยน์ตาดูค่อนข้างหวาดกลัว ทำให้เหล่ากรรมการที่ดูอยู่ด้านล่างเวลาขมวดคิ้ว เหล่าดีไซเนอร์ก็ปิดปากหัวเราะเยาะเย้ย
โสรยาได้ยินเสียงหัวเราะเยาะเย้ยพวกนี้ หน้าก็แดงขึ้นมาทันที
เธอไม่กล้าแสดงความคิดเห็นใดๆกับเหล่าดีไซเนอร์ที่หัวเราะเยาะพวกนี้ ทำได้เพียงโมโหกับสุชาดาที่อยู่บนเวที
แค่เห็นเธอหรี่ตาลง แล้วจับจ้องสุชาดาไว้ด้วยความจริงจัง สื่อความหมายว่าหลังจากที่สุชาดาเดินแบบเสร็จ ก็จะจัดการกับสุชาดา
แน่นอน วารุณีมั่นใจเป็นอย่างมากว่าโสรยาต้องทำแบบนั้นแน่นอน
ในที่สุด สุชาดาก็เดินจบสักที
วารุณีกำปั้นแล้วไอไปสองที นัยน์ตาเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่อัดอั้นไม่อยู่ “คุณโสรยา นางแบบของคุณมีเอกลักษณ์มาก การเดินแบบครั้งนี้ ทำให้คนน่าทึ่งจริงๆ”
“…” โสรยาไม่พูดไม่จา แค่ฝืนยิ้มออกมาเท่านั้น
วารุณีไม่คิดจะปล่อยเธอไป จึงพูดขึ้นต่อ “คุณโสรยา จริงๆ ฉันมีคำถามอยากถามคุณมานานแล้ว ทำไมคุณถึงเลือกที่จะร่วมมือกับสุชาดาล่ะ? เป็นเพราะถูกชะตาจริงๆเหรอ?”
วารุณีมองเธอ
โสรยาทำนัยน์ตาเป็นประกาย “จริงๆก่อนหน้านี้สุชาดาเคยช่วยฉัน ฉันก็ถือว่าตอบแทนบุญคุณเธอ”
“ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง” วารุณีเงยคางขึ้นทันที “คุณโสรยาให้ความสำคัญกับเรื่องสัมพันธ์จริงๆ กลับกล้าใช้วิธีแบบนี้ตอบแทนบุญคุณ ก็ไม่กลัวว่าหลังจากตอบแทนบุญคุณแล้ว การประกวดของตัวเองจะพังไปเหรอ?”
โสรยาก้มหน้า “ไม่หรอก ฉันจะสอนเธอดีๆแน่นอน เชื่อว่าการประกวดรอบต่อไป เธอต้องไม่เป็นแบบนี้”
“ใช่แล้ว งั้นคุณซูก็สู้ๆนะ” วารุณียิ้มๆ แล้วไม่พูดไม่จาอีก
โสรยากำหมัดแน่นทั้งสองข้าง ผ่านไปสักพักถึงจะอดกลั้นความคิดที่จะฆ่าสุชาดาไว้ได้
ตอนนี้เธอรู้สึกเสียใจมากที่เลือกสุชาดามาร่วมมือด้วย
จริงๆเธอไม่ใช่เป็นเพราะสุชาดาช่วยเธอ ถึงจะเรียกสุชาดามา แต่เป็นเพราะรู้ว่าสุชาดาเคยมีปัญหากับวารุณี ถึงได้ตามเธอมา
เธอนึกว่าเรียกสุชาดามาต้องสามารถเป็นกะบังลมให้วารุณี ทางที่ดีที่สุดก็คือทำให้การประกวดของวารุณีได้รับผลกระทบ
แต่นึกไม่ถึง สุดท้ายวารุณีไม่ได้รับกระทบใดๆ กลับเป็นตัวเองที่ได้รับผลกระทบ
ทำให้เธอเครียดตายจริงๆ