พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ - บทที่ 474 เธอก็คือพิชญา
ผู้คนแตกตื่น
คนส่วนหนึ่งมองต่อไปไม่ไหวกับสิ่งนี้ แววตาอิจฉาริษยาก็เข้ามา
แต่ว่าดีไซเนอร์กับนางแบบส่วนมาก ในใจก็ยังอิจฉาและยินดี
วารุณีคิดไม่ถึงว่าจู่ๆนัทธีจะจูบเธอ และยังในที่สาธารณะอีก หน้าก็แดงทันที
เอรีบผลักเขาออก พูดอย่างไม่พอใจ:“ทำอะไรเนี่ย คนตั้งเยอะ”
นัทธีเช็ดมุมปาก“นี่คือความรู้สึกน่าสนใจระหว่างสองสามีภรรยาของพวกเรา คุณไม่ต้องอายหรอก”
วารุณีกลอกตาใส่เขา“พอแล้วๆ คุณรีบไปหาเจ้าภาพเถอะ”
“อือ ผมไปก่อนนะ”นัทธีพยักหน้า
ก่อนไป สายตาเขาก็มองดีไซเนอร์กับนางแบบในที่นั้นแวบหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพิชญา สายตาเขานั้นจ้องอยู่ประมาณสองวิได้
หลังจากพิชญารู้สึกได้ ร่างก็นิ่งไป แผ่นหลังแข็งขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ทำไมจู่ๆนัทธีก็มองเธอ?
คงไม่ใช่ว่า คิดอะไรกับเธอหรอกนะ?
พอคิดแบบนี้ หัวใจของพิชญาก็เต้นเร็ว หน้าก็แดงขึ้นมา สายตาที่มองนัทธี ก็ดูเขินอาย
นัทธีเห็น ก็ขมวดคิ้วแน่น สายตานั้นมีความรังเกียจ
ยัยนี่เป็นบ้าอะไร?
ตากระตุกเหรอ?
นัทธีไม่ได้คิดมากนัก พยักหน้าให้วารุณี แล้วออกไปจากที่นี่
เขาไป ดีไซเนอร์กับนางแบบหลายๆคนก็ล้อมรอบวารุณี ค่อยๆลองถามข้อมูลของนัทธีจากวารุณี
วารุณีจะคุยกับคนเหล่านี้ที่สนใจสามีของเธอได้อย่างไร จึงบอกข้อมูลปลอมๆออกไปเพื่อรับมือ
“คุณวารุณี”ตอนนี้เอง จู่ๆพิชญาก็เบียดคน มาตรงหน้าวารุณี
วารุณีมองเธอ“มีอะไรหรือเปล่า?”
พิชญายิ้ม“คุณวารุณี รบกวนต่อไปคุณ อย่าพาสามีมาที่นี่อีกได้ไหมคะ?”
วารุณีเลิกคิวขึ้น “อ้อ?ทำไมเหรอคะ?”
“หรือคุณวารุณีไม่เห็นสภาพของทุกคนเหรอคะ?สามีคุณปรากฏตัว นำปัญหามาให้ทุกคน ทุกคนต่างสงบลงไม่ได้ ซึ่งไม่ดีเลยสำหรับการแข่งขันของทุกคนต่อจากนี้”พิชญาชี้ผู้คนที่อยู่รอบๆ
วารุณีหัวเราะ“คุณคิดแบบนี้จริงๆเหรอคะ?คุณพูดแบบนี้ ไม่ใช่เพื่อความเห็นแก่ตัวของตัวคุณเองจริงๆเหรอ?”
“ความหมายของคุณคือ?”พิชญาขมวดคิ้ว ในใจมีลางสังหรณ์ไม่ดีแปลกๆ
วารุณีเดินเข้าไป ยืนตรงหน้าเธอ ยืนอยู่ใกล้มาก เขยิบไปข้างหน้าเล็กน้อย ก็โดนหน้าปากของเธอได้เลย
“ความหมายของฉันคือ คุณแน่ใจเหรอไม่ให้ฉันพาสามีมา เพราะกลัวว่าสามีฉันจะนำปัญหามาให้พวกเขา หรือว่าปัญหามาให้ตัวคุณเอง ไม่ใช่ว่าคุณกังวลว่าคนจำนวนมากจะคิดเกี่ยวกับสามีฉัน ถึงพูดแบบนี้ต่างหากเหรอคะ?”มุมปากของวารุณียกขึ้นเป็นมุมอย่างเย้ยหยัน
สีหน้าพิชญาเปลี่ยนไปเล็กน้อย โต้กลับไปอย่างไม่รู้ตัว“ฉันเปล่า ทำไมฉันต้องกังวลว่าคนอื่นต้องคิดเกี่ยวกับสามีคุณด้วยล่ะ?”
“เพราะคุณชอบสามีฉัน ดังนั้นจึงไม่อยากให้คนจำนวนมากมาชอบสามีฉัน”วารุณีพูดตอบ
รูม่านตาพิชญาหดลง ในใจนั้นตกใจอย่างมาก
ทำไมวารุณีถึงรู้ว่าเธอชอบนัทธี?
ตอนนี้เธอคือโสรยา ไม่ใช่พิชญานะ
และตอนนี้เธอกับนัทธีก็ไม่เคยพูดคุยกัน ถึงนัทธีจะปรากฏตัวตรงหน้าเธอ เธอก็ไม่ได้แสดงความรู้สึกของตัวเองออกมา
ดังนั้นทำไมวารุณีถึงรู้ได้?
เห็นร่างของพิชญาสั่นเล็กน้อย วารุณีก็ทำเสียงฮึดฮัด “ไม่มีอะไรจะพูดแล้วเหรอ?”
พิชญากลืนน้ำลายลงไป ฉีกมุมปากออกมา ฝืนยิ้มออกไป“คุณวารุณีคุณพูดอะไรตลกแล้ว ฉันจะชอบสามีคุณได้ไง ฉันไม่สนิทกับสามีคุณ คุณรู้นี่”
“ฉันรู้”วารุณีพยักหน้า
“งั้นคุณ……”
“โสรยาไม่สนิทกับสามีฉัน แต่พิชญาล่ะ?”วารุณีมองพิชญา ตัดบทของเธอ
“คุณ……”สีหน้าพิชญาเปลี่ยนไปทันที แผ่นหลังเย็นเฉียบ สบตากับวารุณีอย่างตกใจ“คุณรู้ได้……”
“รู้ได้ไงว่าเธอคือพิชญาใช่ไหม?”วารุณียิ้ม
ยิ้มของเธอนี้สำหรับพิชญาแล้ว เหมือนกับยิ้มของปีศาจ
พิชญาอยากหนีไปอย่างไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตามขากับนิ่งอยู่ที่เดิม ยังไงก็ก้าวไม่ออก
“คุณวารุณี คุณพูดอะไรน่ะ จำคนผิดแล้วมั้ง ฉันไม่ใช่พิชญา”พิชญาหนีไม่พ้น ทำได้เพียงแต่พยายามสงบนิ่งปฏิเสธตัวตนของตัวเอง
วารุณียกแขนขึ้น“พอเถอะ เธออย่ามาเล่นลิ้นเลย เธอใช่พิชญาหรือไม่ ในใจฉันรู้ดี และก็มีหลักฐาน ถ้าไม่มีหลักฐาน ฉันก็ไม่กล้าพูดขนาดนี้หรอก แต่เธอทำให้ฉันนับถือจริงๆ หลังจากฆ่าตัวตายแกล้งตายไป ก็ไปแปลงโฉมเป็นโสรยาที่ต่างประเทศ การกระทำแบบนี้คนทั่วไปทำไมได้หรอกนะ”
“……”พิชญาไม่พูด มือสองข้างค่อยๆกำขึ้นมา
เดิมทีเธอคิดว่า วารุณีก็แค่จะหลอกเธอ หลอกดูว่าเธอใช่พิชญาจริงๆหรือไม่
คิดไม่ถึงว่าวารุณีกลับพูดได้ว่าเธอศัลยกรรม งั้นหลักฐานในมือวารุณีที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเธอคือพิชญา ดูท่าแล้วจะเป็นจริง
คิดถึงตรงนี้ พิชญาก็สูดลมหายใจลึกๆ พยายามโกหกและสบตากับวารุณีไป“คุณรู้ได้ไง แล้วใครที่ให้หลักฐานคุณ?”
แผนการแกล้งตายของเธอตอนนั้น ก็ทำไปอย่างไม่มีข้อบกพร่องใดๆ และวารุณีก็เชื่อว่าศพนั้นคือเธอ
ดังนั้นถ้าไม่มีใครให้หลักฐานวารุณี เตือนวารุณี วารุณีไม่มีทางรู้แน่ว่าเธอคือพิชญา
คนนั้นเป็นใครกันแน่?
“คือใครฉันไม่รู้หรอกนะ จู่ๆฉันก็ได้รับอีเมลที่เขาส่งมา แต่ว่า……”แววตาของวารุณีมีประกายแวบเข้ามา พูดเตือนอย่างสบายๆว่า:“ในเมื่ออีกฝ่ายแน่ใจว่าเธอคือพิชญาขนาดนี้ หมายความว่าจะต้องคือคนที่รู้จักคุณ และยังรู้ว่าตอนนั้นคุณแกล้งตาย ไปทำศัลยกรรมที่ต่างประเทศ ดังนั้นคุณลองคิดดูดีๆสิว่าใคร”
“นวิยา เธอแน่ๆ!”สีหน้าของพิชญาเหยเก พูดด้วยร่างที่สั่นด้วยความโกรธ
ตอนนั้นที่แกล้งตาย เป็นนวิยาที่มาหาเธอเอง
และก็เป็นนวิยาที่ให้เธอไปต่างประเทศ แล้วยังจัดการให้หมอทำศัลยกรรมให้เธอ
ดังนั้นนอกจากนวิยา ก็ไม่มีคนอื่นแล้ว
“ที่แท้ก็เป็นนวิยานี่เอง”วารุณีหัวเราะ
พิชญาตะลึง จากนั้นก็เข้าใจอะไร ตะโกนเสียงแหลม:“เธอหลอกฉัน?เธอจงใจให้ฉันบอกว่าคนที่ช่วยฉันออกประเทศไปตอนนั้นคือใคร?”
“ใช่ ฉันสงสัยนวิยาตั้งนานแล้ว แต่ฉันไม่มีหลักฐาน ดังนั้นฉันได้แต่ลงมือกับเธอ ก็แค่ฉันคิดไม่ถึงว่า แค่เพราะความโกรธ เธอจึงพูดถึงนวิยาออกมาอย่างง่ายดายขนาดนี้ ฉันคิดว่าอย่างน้อยฉันก็ต้องใช้เวลาสักหน่อย”วารุณีจัดผม ยิ้มออกไปอย่างร่าเริง
พิชญาจ้องเธอเขม็ง“วารุณี เธอดีมาก!”
“ฉันดีอยู่แล้ว และฉันก็ดีมาตลอด ส่วนเธอกลับต้องคอยกังวลตัวเธอเอง ฉันรู้ตัวตนของเธอแล้ว หมายความว่านัทธีก็รู้ เธอว่าตอนนี้นัทธีไปไหนล่ะ”วารุณีผายมือออก
สีหน้าพิชญาซีดขาว ในดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก “พวกเธอจะฟ้องร้องฉัน?”
เธอคิดขึ้นได้แล้ว ตอนที่นัทธีไปเมื่อกี๊ บอกว่าจะไปหาเจ้าภาพ และตอนที่ไป ก็ยังมองมาทางเธอด้วย
นี่หมายความว่าอะไร ก็หมายความว่านัทธีจะไปหาเจ้าภาพเพื่อเปิดโปงเธอไงล่ะ
และเมื่อกี๊เธอยังคิดติดตลกอีกว่า นัทธีคิดอะไรกับเธอ
“เธอพูดถูก พวกเราจะฟ้องร้องเธอ ว่าเธอคือพิชญา พรสวรรค์การออกแบบของเธอต่างกับฉันอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นการออกแบบพวกนั้นของการแข่งขันก่อนหน้านี้ต่างไม่ใช่ของเธอ ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นฉันก็ไม่สามารถให้เธอแข่งขันที่นี่ต่อไปได้อีก ซึ่งนี่ไม่ยุติธรรมกับผู้แข่งขันคนอื่น”วารุณีพูดอย่างเย็นชา
จู่ๆพิชญาก็กรีดร้องเหมือนคนบ้า ทำเอาคนที่อยู่รอบๆต่างตกใจ ค่อยๆมองมา สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
วารุณีก็ปิดหูไว้ ขมวดคิ้ว
“วารุณี เธอทำลายฉันครั้งหนึ่งไม่พอ ตอนนี้ยังจะมาทำลายฉันครั้งที่สองอีกเหรอ?”พิชญามีใบหน้าเหยเก มองเธอด้วยสายตาร้ายกาจ