พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ - บทที่ 481 หุ้นที่ให้นิรุตติ์
“นี่……”มารุตอึ้งไป
จริงด้วย หากเป็นการถ่ายเล่นๆ ยังไงก็ต้องลบทิ้ง
ทำไมต้องเก็บมันไว้ถึงสิบแปดปี แล้วสุดท้ายก็ส่งมาให้ท่านประธานกัน
“นายยังจำตอนที่เช็กคลิปวิดีโอแล้วแฮ็กเกอร์คนนั้นพูดได้ไหม?”นัทธีเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง
มารุตพยักหน้า “จำได้ครับ”
ริมฝีปากบางๆของนัทธีขยับ“ วิดีโอนั้นไม่มีการตัดต่อ เพราะเทคนิคการถ่ายภาพ ทำให้รถสีแดงสองคัน ดูแล้วเหมือนมีเพียงคันเดียว เพราะฉะนั้นเขาถึงได้คิดว่าวรยาเป็นคนชน แต่วิดีโอนี้มีเด็กผู้หญิงคนนี้เป็นคนถ่าย เด็กผู้หญิงที่อายุราวๆสิบขวบ จะมีความสามารถขนาดนี้เชียวเหรอ ?”
มารุตเข้าใจได้ในทันที ดวงตาเบิกกว้าง “ท่านประธาน หมายความว่า เด็กผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นหนึ่งในคนที่ขงเบ้งใช้เงินซื้อปิดปากคนที่ฆ่าคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงเหรอครับ ?”
นัทธีปิดปากเงียบไม่แสดงความคิดเห็นอะไร
“แล้วนี่มันจะเป็นไปได้อย่างไร”มารุตมีท่าทีแปลก เห็นชัดว่าไม่อยากที่จะเชื่อ“เธออายุเท่าไรกัน ทำไมถึง……”
“นายเห็นปฏิกิริยาของวารุณีหรือเปล่า ?”นัทธีพูดขัดเขาขึ้นมา
มารุตตะลึง
นัทธีพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า“วารุณีเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ถึงกับตกใจมาก นี่ถึงจะเป็นปฏิกิริยาที่เด็กผู้หญิงธรรมดาทั่วไปควรจะเป็น แต่นายดูผู้หญิงคนที่ถ่ายคลิปนั่นสิ เมื่อเห็นเหตุการณ์แบบนี้ ไม่รู้สึกตกใจอะไรเลย หนำซ้ำยังถ่ายคลิปต่อด้วยท่าทีที่นิ่งสงบ นายคิดว่า เธอเป็นแค่เด็กผู้หญิงใสซื่อธรรมดาทั่วไปจริงๆเหรอ?”
“……”คราวนี้มารุตไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆ
นัทธีเม้มริมฝีปากบางจนมีไอเย็นแผ่ซ่าน“เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นหนึ่งในคนที่ร่วมกันฆาตกรรมพ่อแม่ของฉัน แต่ไม่ใช่คนของขงเบ้ง ฉันเคยถามขงเบ้งแล้ว เขาไม่ได้ให้ใครไปถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ สำหรับเขาแล้วมันไม่มีเหตุผลอะไร เพราะฉะนั้นเด็กผู้หญิงคนนี้……”
“ฆาตกรคนที่สอง”มารุตเข้าใจได้ในทันที
นัทธีพยักหน้า “ใช่ เป็นฆาตกรคนที่สอง แล้วคนที่ส่งวิดีโอนี้มาให้ฉัน ก็อาจจะเป็นฆาตกรคนที่สองก็ได้”
“เพราะฉะนั้นท่านประธาน ก็จึงต้องการที่จะตามหาตัวเด็กผู้หญิงคนนี้ จากนั้นก็หาตัวฆาตกรผู้อยู่เบื้องหลังของเธอ?” มารุตมองไปที่ชายหนุ่ม
นัทธีตอบอืมกลับมาคำหนึ่ง“ถูกต้อง”
“ผมทราบแล้วครับ ผมจะแวะไปที่บริษัทโทราครับ”มารุตพูดจบ ก็หันหลังแล้วเดินจากไป
นัทธีนั่งอยู่คนเดียวในห้องหนังสือ มองดูหลักฐานที่อยู่บนโต๊ะ สักพักก็ถึงได้ลุกขึ้น
กลับมาถึงที่ห้อง เขากดโทรไปหาวารุณี
วารุณีกดรับพร้อมเสียงหาว “ฮัลโหล”
“ทำคุณตื่นเหรอ?”ใบหน้าที่เย็นชาของนัทธี ทันทีที่ได้ยินเสียงเธอ ก็ผ่อนคลายลงมาได้มาก
วารุณีส่ายหัว แล้วลุกขึ้นจากเตียง “ไม่ค่ะ ฉันกำลังจะตื่นแล้วเหมือนกัน คุณโทรมาหาฉันตอนนี้ ให้ฉันเดา คงเรื่องพินัยกรรมใช่ไหมคะ?”
นัทธียกยิ้ม “ใช่”
“หาพินัยกรรมเจอแล้วเหรอคะ?”วารุณีถาม
นัทธีเม้มปากและตอบว่า “หาเจอแล้ว”
“เป็นหลักฐานการกระทำความผิดของขงเบ้งหรือเปล่าคะ?”
“ใช่”นัทธีพยักหน้า
วารุณีดีใจจนกำโทรศัพท์แน่น “เยี่ยมไปเลย ยินดีด้วยนะนัทธี คุณกะจะยื่นหลักฐานนี้เมื่อไรคะ ?”
“พรุ่งนี้ ”นัทธีตอบ
เขาไม่ยอมให้ขงเบ้งต้องหลบหนีไปได้อีกแล้ว
วารุณีก็คอยสนับสนุนเขาเป็นอย่างมาก“ พรุ่งนี้ก็ดีค่ะ จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยเร็วๆ ล้างแค้นให้พ่อกับแม่”
“ผมรู้”นัทธีตอบกลับ
วารุณีคุยเป็นเพื่อนเขาอยู่ราวๆหนึ่งชั่วโมงได้ ก็มีคนรับใช้มาเคาะประตู บอกว่าอาหารเช้าพร้อมแล้ว
นัทธีก็ได้ยิน จึงให้เธอไปกินข้าวเช้า และเขาก็กดวางสายไป
คืนนั้นทั้งคืน ชายหนุ่มไม่ได้นอนเลย
อาจจะเป็นเพราะหาหลักฐานเจอแล้ว ก็เลยตื่นเต้นมากเกินไป
หรืออาจจะเป็นเพราะยังมีฆาตกรคนที่สองที่ยังหาตัวไม่เจอ จึงนอนไม่หลับ
ดังนั้นในเช้าวันรุ่งขึ้น นัทธีก็เดินลงมาชั้นล่างด้วยท่าทีที่เหนื่อยล้า ใต้ขอบตาก็ขึ้นสีคล้ำอย่างชัดเจน
“ท่านประธาน”มารุตเดินมา
นัทธีวางถ้วยกาแฟลง
มารุตก็ยื่นเอกสารในมือส่งไปให้ “ นี่คือบันทึกข้อมูลการซื้อเมื่อสิบแปดปีก่อนที่บริษัทโทราให้มาครับ ”
นัทธียื่นมือมารับ มีราวๆห้าถึงหกหน้าได้
เขาเปิดมองดูมันทีละหน้า
ในนั้นมีคนจำนวนมาก ทั้งคนที่เขารู้จัก และที่ไม่รู้จัก
ทันทีทันใด เขาเองก็หาไม่เจอว่าชื่อของเด็กหญิงคนนั้นจะรวมอยู่ในนี้ด้วยหรือไม่
อาจจะมี หรืออาจจะไม่มีก็ได้
เพราะเมื่อสิบแปดปีก่อนเด็กหญิงตัวน้อยคนนั้นก็น่าจะอายุแค่สิบกว่าขวบ เด็กตัวเล็กขนาดนั้น ต่อให้จะมีสถานะที่ไม่ธรรมดายังไง ก็ไม่น่าจะพกเงินมากมายขนาดนั้นไปซื้อได้
และอาจจะเป็นไปได้ว่า โทรศัพท์นั้นผู้ปกครองเป็นคนซื้อให้ ดังนั้นก็จึงไม่มีรายชื่ออยู่ในนี้
“ครั้งก่อนที่ให้นายไปเช็กเรื่องปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของพ่อแม่ฉัน ได้เรื่องยังไงบ้าง?” นัทธีวางเอกสารในมือลงแล้วถามขึ้นมา
มารุตรีบตอบกลับว่า “ ใกล้จะได้เรื่องแล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคุณผู้ชายและคุณผู้หญิง หรือคนที่ความสัมพันธ์ไม่ดี ผมต่างก็ไปตรวจเช็กมาแล้ว เพราะฉะนั้นจึงใช้เวลาไปมากอยู่พอสมควรครับ”
นัทธีพยักหน้าให้ “หลังจากที่เช็กเรียบร้อย ก็ลองเทียบกับรายชื่อในนี้ดู วงกลมลงไปที่รายชื่อในนี้ด้วย ”
หากหาตัวเด็กหญิงคนนั้นไม่เจอ ก็คงต้องใช้วิธีการคัดชื่อออกเท่านั้นแล้ว
ขอเพียงจัดแจงเรื่องปฏิสัมพันธ์ในสังคมของพ่อแม่เขาได้ แล้วเอามาเทียบกับรายชื่อในนี้ หากในรายชื่อมีคนที่รู้จักกับพ่อแม่ของเขา ก็วงกลมมันไว้
จากนั้นในจำนวนคนเหล่านี้ ก็หาคนที่น่าจะมีอายุไล่เลี่ยกับผู้หญิงคนนั้นออกมา
หากเป็นแบบนี้ อยากที่จะหาตัวเด็กผู้หญิงคนนั้นเจอ ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
มารุตพยักหน้า “ทราบแล้วครับ ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง”
“พูดมา”นัทธียื่นรายชื่อให้กับมารุต
มารุตรับมาแล้วจึงพูดต่อว่า“ ผมได้ให้คนเอาตัวอย่าง DNA ของปวิชมาแล้วครับ”
นัทธียกถ้วยกาแฟขึ้นจิบ “ ไปหาตัวเขาเจอที่ไหน ?”
“ในคอนโดที่สุภัทรเป็นเจ้าของครับ”มารุตตอบกลับ ใบหน้าเต็มไปด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่อง“สุภัทรคิดว่าปวิชเป็นลูกพี่ลูกน้องกับขยานี ภายใต้การส่งเสริมของขยานี เลยให้ปวิชได้ไปพักอาศัยชั่วคราว”
หากสุภัทรรู้ ว่าคนที่อาศัยอยู่ในห้องของเขา ไม่ใช่ลูกพี่ลูกน้อง แต่เป็นชู้ กลัวว่าคงจะต้องโมโหจนเลือดขึ้นหน้าแน่ๆ
ขยานีก็ช่างใจกล้าจริงๆ ไม่เพียงจะกล้าพาเด็กที่ไหนก็ไม่รู้เข้าบ้านตระกูลศรีสุขคํา อีกทั้งยังกล้าพาปวิชไปเจอหน้าสามีตัวเองอีก
“รู้แล้ว ไม่ต้องไปตามดูปวิชแล้ว รอให้เส้นผมของพิชญามาถึง นายก็เอามันไปตรวจ”นัทธีสั่งการด้วยเสียงเรียบ
มารุตรับคำ “เข้าใจแล้วครับ”
“นายตามฉันมา”ในตอนนี้ นัทธีวางถ้วยกาแฟลง แล้วลุกยืนขึ้น
มารุตรู้ว่าถัดจากนี้ถึงจะเป็นไฮไลท์สำคัญ สีหน้าจริงจังแล้วก็เดินตามชายหนุ่มขึ้นไป
ทั้งสองคนมาที่ห้องหนังสือ
นัทธีเอาหลักฐานของเมื่อคืนให้กับเขา“ ส่งไปที่สถานีตำรวจ และจับตัวขงเบ้งได้แล้ว ”
“ครับ”มารุตรับหลักฐานมาด้วยสองมือ จากนั้นก็เตรียมนำหลักฐานไปใส่ในกระเป๋าเอกสารที่เขาติดมือมาด้วย
ทันใดนั้น เขาก็เห็นเอกสารแผ่นหนึ่งที่มีหน้าตาแปลกๆ
“นี่อะไรครับ?”มารุตดึงเอาเอกสารแผ่นนั้นออกมา “ท่านประธาน นี่เป็นหลักฐานเอาผิดขงเบ้งไม่ใช่เหรอครับ”
“หืม?”นัทธีขมวดคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย ยื่นมือไปแล้วหยิบเอกสารนั้นมา เมื่อมองดู ไม่ใช่จริงๆด้วย แต่เป็นหนังสือสัญญาการโอนหุ้น ผู้โอนคือแม่ของเขา และผู้รับโอน คือนิรุตติ์!
ดวงตาของนัทธีก็หรี่ลง“ นายไปเจอมันที่ไหน ?”
“ในวัตถุพยานของรถที่เกิดอุบัติเหตุครับ”มารุตตอบ
ริมฝีปากบางของนัทธีเหยียดเป็นเส้นตรง
วัตถุพยานของรถที่เกิดอุบัติเหตุ เมื่อคืนเขาดูมันแล้ว แต่ไม่ได้ดูทุกอย่าง แค่เปิดดูผ่านๆเท่านั้น ดังนั้นก็จึงไม่เห็นใบโอนหุ้นนี้
“ท่านประธาน หุ้นในนี้เป็นหุ้นของอสังหาริมทรัพย์วันเฮิร์ท”มารุตมองไปยังนัทธีด้วยความประหลาดใจ
ดวงตานัทธีลุ่มลึก
แน่นอนว่าเขาเองก็เห็นว่ามันเป็นของอสังหาริมทรัพย์วันเฮิร์ท
อสังหาริมทรัพย์วันเฮิร์ท เป็นสินสมรสที่คุณปู่มอบให้กับพ่อแม่ของเขา ไม่ใช่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่โตอะไร
แม้ชื่อจะเรียกว่าเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ แต่งานที่ทำจริงๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับการตกแต่ง