พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ - บทที่ 486 ไอริณถูกเหวี่ยง
ตอนแรกเธอคิดว่า ตัวเองกับนิรุตติ์วางแผนร่วมกัน ก็จะสามารถทำให้ความสัมพันธ์ของนัทธีกับวารุณีร้าวฉานจนหย่าร้างกันได้ จากนั้นเธอก็จะใช้โอกาสนี้ทำข้าวสารให้กลายเป็นข้าวสุก นัทธีก็จะต้องแต่งงานกับเธอ เธออยากเป็นภรรยาของเขา เป็นนายหญิงอย่างที่หวัง และความฝันก็จะได้เป็นจริง
แต่ไม่คิดว่า ความเข้าใจผิดระหว่างนัทธีกับวารุณี จะถูกคลี่คลายลง และแผนของเธอกับนิรุตติ์ ก็ล้มเหลว
เธอไม่มีทางเลือก จำต้องเสี่ยง ดำเนินการตามแผนการทำข้าวสารให้กลายเป็นข้าวสุกต่อ
เดิมทีทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนของเธอที่วางเอาไว้ แต่ไม่คิดว่าจะมีปาจรีย์โผล่ออกมา ไม่เดินตามแผนที่วางเอาไว้ ทำให้แผนของเธอกระจุยกระจายไปหมด และทำให้ธาตุแท้ของเธอ ถูกเปิดเผยต่อหน้านัทธี
นี่เป็นสิ่งที่เธอแทบจะทนไม่ได้อยากจะฆ่าปาจรีย์ให้ตายไปต่อหน้า
แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ลงมือจัดการกับปาจรีย์ นัทธีก็จับเธอแล้วขังเอาไว้ ต่อให้เธอจะฆ่าตัวตาย นัทธีก็ไม่ยอมใจอ่อน
แต่โชคยังดีที่ตอนนี้เธอออกมาได้แล้ว รอก่อนเถอะ ไม่ว่าจะเป็นวารุณีหรือปาจรีย์ เธอก็จะไม่ปล่อยใครไปสักคน
รวมถึงนัทธีด้วย ในเมื่อไม่ยอมรับในตัวเธอ งั้นเธอก็จะทำลายเขาด้วย ในเมื่อเธอไม่ได้ ก็อย่าหวังว่าจะมีผู้หญิงคนไหนมาได้เขาไปเลย!
ในขณะที่กำลังคิด นวิยาก็ได้ยินเสียงหัวเราะของเด็กน้อยดังขึ้น เป็นเสียงที่ดังมาจากคฤหาสน์ คิกๆๆๆ ช่างร่าเริงจริงๆ
ไม่นาน ประตูของคฤหาสน์ก็เปิดออก ไอริณวิ่งออกมาพร้อมมือที่ถือว่าว “ พี่อารัณ เร็วๆหน่อย เราไปเล่นว่าวที่สนามกัน ”
“รู้แล้วๆ”ด้านนอกประตูมีเสียงที่ไร้อารมณ์ของอารัณดังขึ้น เห็นชัดว่าเรื่องของว่าว ไม่ได้ทำเขาสนใจเลยสักนิด
แต่เพราะน้องสาวชอบ เขาก็จึงต้องไปเล่นเป็นเพื่อนน้องสาว
นวิยาเห็นเด็กทั้งสองคน ใบหน้าที่ถูกหมวกปิดบังอยู่ ทันใดนั้นก็บิดเบี้ยวขึ้นมาทันที มือทั้งสองข้าง ก็กำมันแน่นมากขึ้น
เป็นเด็กตัวน้อยสองคน
ก่อนหน้านั้นตอนเธออาศัยอยู่ที่คฤหาสน์ เจ้าเด็กตัวน้อยสองคนนี้ ก็มักจะลอบกัดเธอ และทำให้เธอต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอับอายอยู่บ่อยๆ
ไม่พูดไม่ได้ ว่าเจ้าเด็กตัวน้อยสองคนนี้ สมแล้วที่เป็นลูกของวารุณี น่ารังเกียจ เหมือนวารุณีเลย
“คุณน้า น้าเป็นใคร ทำไมมาอยู่ที่หน้าบ้านของหนู ?” ในขณะที่นวิยาจิตใจกำลังล่องลอย ไอริณก็ได้เดินเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าของเธอ ดูดนิ้วมือเอียงศีรษะน้อยๆมองดูเธอ
“บ้านเธอเหรอ?”มุมปากนวิยายกหยักขึ้นด้วยความชั่วร้าย
ไอริณพยักหน้า“ ใช่ ที่นี่เป็นบ้านของหนู คุณน้าหลงทางมาใช่ไหมคะ ? หากคุณน้าหลงทางมา หนูจะให้คุณยายส้มมาบอกทางให้”
“บอกทาง ? ไม่ต้อง ฉันแค่มาดูที่นี่เท่านั้น ”นวิยาหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย
ไอริณมองใบหน้าเธอได้ไม่ชัดเจน แต่ฟังเสียงหัวเราะแปลกๆนั่น ใบหน้าที่น่ารักก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเล็กน้อย ก้าวถอยหลังไปสองก้าวอย่างไม่รู้ตัว
พอถอยไปแล้ว แผ่นหลังก็ชนเข้ากับอารัณที่เดินเข้ามา
“ทำอะไรทำไมถึงได้เซ่อซ่าแบบนี้ เดี๋ยวก็หกล้มหรอก ”อารัณพยุงตัวเด็กหญิง แม้ใบหน้าจะมีความแหนงหน่าย แต่คำพูดนั้นเต็มไปด้วยความห่วงใย
“พี่อารัณ คุณน้าคนนี้……”ไอริณชี้ไปที่นวิยาที่อยู่ตรงหน้า
อารัณในตอนนี้ก็เพิ่งจะสังเกตเห็นว่าตรงหน้ามีคนอยู่ด้วยคนหนึ่ง เงยหน้ามองไป“คุณเป็นใคร?”
เขาไม่ได้สุภาพเหมือนไอริณที่เอ่ยถามกับอีกฝ่าย
เพราะคนที่ปิดบังใบหน้าจนมองไม่เห็นแบบนี้ แล้วมาโผล่อยู่ที่หน้าประตูบ้านแบบนี้ ใครจะไปรู้ว่าเป็นคนไม่ดีหรือเปล่า
เพราะฉะนั้นก็จึงไม่จำเป็นที่จะต้องมีมารยาทด้วย
“ฉันเป็นใคร?”นวิยาก็หัวเราะออกมาอีกครั้ง จากนั้นก็ยกปีกของหมวกขึ้น
ในที่สุดไอริณกับอารัณก็ได้เห็นใบหน้าที่ชัดเจนของเธอ ต่างพากันตกใจ
“คุณน้านวิยา?”ไอริณกะพริบตาปริบๆ
แต่อารัณกลับขมวดคิ้วมุ่น“เป็นคุณน้านี่เอง แล้วคุณน้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง คุณน้าถูกคุณพ่อจับตัวขังเอาไว้ไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่ ฉันถูกขังเอาไว้ แต่ตอนนี้ฉันก็ถูกปล่อยตัวออกมาแล้ว”รอยยิ้มบนใบหน้าของนวิยา ก็ยิ่งทวีความดุร้ายมากขึ้น
อารัณพาน้องสาวก้าวถอยออกห่าง มองไปที่เธออย่างระแวดระวัง “คุณน้าคิดจะทำอะไร?”
“ฉันจะทำอะไรดีนะ ? ฉันถูกพวกเธอทำร้ายซะขนาดนี้ เธอคิดว่าฉันจะทำอะไรล่ะ ก็ต้องแก้แค้นนะสิ เดิมทีที่มาที่นี่ในวันนี้ ก็แค่อยากจะมาดูที่ที่ฉันเคยพักอาศัย แต่ไม่คิดว่าจะมาเจอเธอสองคนพี่น้อง พอดีเลย ตอนนี้แก้แค้นเอาคืนกับวารุณีไม่ได้ งั้นฉันก็จะใช้เธอสองคนพี่น้องเป็นที่ระบายอารมณ์แล้วกัน!”
พูดจบ นวิยาก็ยื่นมือไปหาเด็กน้อยทั้งสองคน
อารัณปล่อยตัวไอริณ แล้วดันเธอไปยังด้านหลัง“ไอริณหนีไป กลับไปที่คฤหาสน์ ”
เด็กน้อยไอริณเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ที่ไหนกัน ตกใจจนร้องไห้ออกมา ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะหนีไปยังไง
ไม่มีทางเลือก อารัณก็จึงไปคว้าตัวเธอเอาไว้ แล้วพาเธอวิ่งไปยังคฤหาสน์
“หนี ? พวกเธอหนีกันพ้นเหรอ ? ”นวิยาหัวเราะออกมาด้วยความชั่วร้าย แล้วคว้าไปที่คอเสื้อของเด็กทั้งสองคนทันที
“ปล่อยฉัน ปล่อยไอริณนะ ผู้หญิงชั่ว !”อารัณดิ้นรนขัดขืนอย่างหนัก
ในที่สุดก็หลุดพ้นไปได้
หลังจากที่หลุดพ้นแล้ว ก็เห็นน้องสาวถูกนวิยาจับตัวเอาไว้ ภายใต้ความร้อนใจ ก็เดินเข้าไปแล้วเตะต่อยนวิยา อยากที่จะช่วยน้องสาว
แต่เด็กตัวเล็กๆคนหนึ่งจะไปสู้ผู้ใหญ่ตัวโตได้ยังไง
แม้ว่านวิยาจะถูกอารัณเตะจนเจ็บไปหมด แต่เธอก็เตะอารัณออกไปให้พ้นทางอย่างง่ายดาย
ดังนั้นอารัณจึงถูกนวิยาเตะออกจนก้นจ้ำเบ้า คะมำลงกับพื้น เจ็บปวดจนดวงตาแดงก่ำไปหมด
แต่เขาไม่ได้ร้องไห้ จ้องเขม็งมองไปที่นวิยา
อันที่จริงแล้วเขาอยากจะเรียกคนมาช่วย เรียกคุณยายส้มหรือเรียกยามที่อยู่ใกล้ๆมาก็ได้
แต่เขาไม่กล้า เขากลัวว่าหากเรียกมา ก็จะยิ่งทำให้ผู้หญิงคนนี้โมโหมากขึ้น และทำให้ผู้หญิงคนนี้ทำเรื่องที่ไม่คาดคิดได้
เพราะเขาได้ยินพ่อบอกว่า ผู้หญิงคนนี้ป่วยทางจิต ดังนั้นเขาจึงต้องอดทน คิดหาวิธี เพื่อช่วยไอริณ
นวิยามองไปยังอารัณที่นั่งอยู่บนพื้นแล้วจ้องเขม็งมองตัวเองอยู่ หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข“ไอ้หนู จ้องมองดูฉันก็ไม่มีประโยชน์อะไร วันนี้พวกแกสองคนพี่น้อง อย่าหวังว่าจะหนีรอดไปได้เลย ”
พูดจบ เธอก็ยกร่างไอริณให้สูง
ไอริณตกใจกลัวจนร้องไห้เสียงดังหนักกว่าเดิม
เมื่ออารัณเห็น ใบหน้าอันเรียวเล็กก็ตกใจจนซีดเผือด “ คุณจะทำอะไร?”
“จะทำอะไร?”นวิยาหัวเราะอย่างบ้าคลั่งแล้วตอบว่า“แกคิดว่าถ้าฉันจับน้องสาวแกเหวี่ยงจนตาย แม่ของแกจะอกแตกตายไหม ไม่สิ ฉันต้องลองดู ”
พูดจบ เธอก็จะเหวี่ยงตัวไอริณลงกลับพื้น
“อย่านะ!”รูม่านตาอารัณหดเกร็ง ไม่สนใจความเจ็บปวดที่ก้น ลุกยืนขึ้น แล้วกอดไปที่ขาของนวิยา หวังห้ามนวิยาเอาไว้
แต่นวิยาก็เตะร่างเขากระเด็นออกไปอีกครั้ง
และเด็กน้อยก็ล้มลงไปที่พื้นอีกครั้ง ก้นก็เจ็บยิ่งกว่าเดิม
หลังจากเตะอารัณที่เกะกะออก ไม่มีอะไรมาขวางนวิยาอีก เธอก็จับตัวไอริณเหวี่ยงลงกับพื้นทันที
“ไอริณ!”อารัณตะโกนเรียกอย่างสิ้นหวัง
ไอริณถูกเหวี่ยงลงกับพื้น หัวโขกเข้ากับหินที่อยู่ข้างแปลงดอกไม้ ไม่แม้แต่จะได้ส่งเสียงร้องออกมา ก็หมดสติไป
“อ๊ากกกกก!”อารัณน้ำตาไหลพราก คลานเข้าไปหาไอริณ
นวิยาที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข หัวเราะจนน้ำตาเล็ด
ในตอนนี้เอง ป้าส้มที่อยู่ในคฤหาสน์ได้ยินเสียงดังมาจากด้านนอกก็เดินออกมา
เมื่อเห็นนวิยากับร่างของไอริณที่นอนหมดสติอยู่บนพื้น และอารัณที่นั่งร้องห่มร้องไห้อยู่ข้างๆร่างของไอริณ ก็รู้ทันทีว่าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นแล้ว สีหน้าก็เปลี่ยน“อารัณ ไอริณเป็นอะไร?”
“ไอ……ไอริณถูกเหวี่ยงกับพื้น ”อารัณสะอึกสะอื้น
ป้าส้มมองไปที่นวิยา ก็จำเธอได้ “เป็นคุณเหรอ?”
นวิยาหุบยิ้ม หลังจากที่เหลือบมองไปที่ป้าส้ม ไม่กล้าอยู่นาน หันหลังแล้ววิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว
ป้าส้มที่คิดจะวิ่งตาม แต่ถูกอารัณห้ามเอาไว้
“คุณยายส้ม ส่งไอริณไปโรงพยาบาลก่อนเร็ว ไอริณมีเลือดไหลเยอะมากเลย” อารัณจับมือป้าส้มไว้ แล้วพูดวิงวอน
ป้าส้มก้มมองดู จริงด้วย
เธอเองก็เพิ่งจะได้สติ ที่ไอริณถูกเหวี่ยง ไม่ใช่การจับเหวี่ยงที่เกิดขึ้นแบบธรรมดาทั่วไป
ไม่กล้าชักช้าไปมากกว่านี้ ป้าส้มเอารถออก แล้วพาเด็กน้อยทั้งสองคนไปยังไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด