พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ - บทที่ 489 พวกเขาเป็นลูกแท้ๆ
“หม่ามี๊ มีอะไรหรือเปล่าครับ ?”อารัณนอนราบไปบนตักของนัทธี แล้วแกล้งทำเป็นหาว
วารุณีฟังเสียงที่ใสซื่อและเต็มไปด้วยความง่วงของลูกชาย ก็หัวเราะออกมาเล็กน้อย“ ไม่มีอะไร หม่ามี๊แค่คิดถึงพวกเรา”
“ขอโทษครับหม่ามี๊ อาทิตย์นี้คุณพ่อไม่ว่าง เลยไม่ได้พาพวกเราไปหาหม่ามี๊” อารัณตอบกลับอย่างรู้สึกผิด
ในใจของวารุณีรู้สึกอบอุ่น “หม่ามี๊รู้”
“หม่ามี๊ไม่คุยแล้วนะ ไว้ครั้งหน้าค่อยคุยกัน ผมก็ง่วงแล้ว” พูดๆอยู่ อารัณก็อ้าปากหาวขึ้นมาอีกครั้ง
เขากลัวว่าถ้าเขายังพูดต่อ หม่ามี๊จะวิดีโอคอลมันต้องแย่แน่ๆ
เมื่อวารุณีได้ยินว่าลูกชายง่วงนอน ก็ไม่ได้สงสัยอะไร พยักหน้าให้ “จ้ะ งั้นหม่ามี๊ไม่กวนแล้ว นอนซะนะ ”
“บ๊ายบายครับหม่ามี๊!”อารัณบอกลา
วารุณีพยักหน้า “บ๊ายบายลูก”
หลังจากที่วางสายไป อารัณก็คืนโทรศัพท์ให้นัทธี“คุณพ่อ อ่ะนี่ ”
นัทธีรับโทรศัพท์มา แล้วเก็บใส่กระเป๋า
ทันใดนั้น ก็มีเสียงฝีเท้าที่เร่งรีบดังขึ้นมาจากที่ไกลๆ
ตามมาด้วย พิชิตที่สวมเสื้อกาวน์สีขาวปรากฏตัวขึ้น“นัทธี อารัณกับไอริณเป็นอะไร?”
นัทธีอุ้มร่างของอารัณไปฝากไว้กับป้าส้ม แล้วลุกขึ้นยืน จากนั้นก็ปล่อยหมัดไปที่พิชิตอย่างเร็วหมัดหนึ่ง
พิชิตถูกต่อยเข้าไปที่มุมปากอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว แล้วล้มลงไปที่พื้นทันที จนแว่นหลุดกระเด็น
เหตุการณ์นี้ ทำเอาป้าส้มกับอารัณตกใจมาก
“คุณผู้ชาย นี่คุณ……” ป้าส้มมองไปที่นัทธีด้วยความประหลาดใจ
นัทธีค่อยๆเก็บกำปั้นลง เดินก้าวไปข้างหน้าสองก้าว แล้วหยุดลงตรงหน้าของพิชิต ก้มหน้าลง มองดูเขาจากที่สูง“มันเป็นเพราะนายปล่อยนวิยาออกมา นวิยาถึงได้มาที่คฤหาสน์ แล้วทำร้ายเด็กทั้งสองคน”
“ฉัน……”รูม่านตาพิชิตหดตัว แล้วตะลึงงัน
เพราะเหตุนี้จริงๆเหรอ !
ครึ่งชั่วโมงก่อนหน้า มารุตมาหาเขา บอกเขาให้มาที่โรงพยาบาลนี้
เพราะอารัณกับไอริณเด็กน้อยทั้งสองคนได้รับบาดเจ็บ และต้นเหตุก็เป็นเพราะเขา
ตอนนั้นเขางงมาก ไม่รู้ว่าการที่เด็กๆได้รับบาดเจ็บ แล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับเขา แต่เขาก็เดินทางมา
ไม่ได้คิดว่าสาเหตุที่แท้จริงจะเป็นแบบนี้ !
นวิยา……
ในใจของพิชิตก็ยิ่งรู้สึกเสียใจ เสียใจที่ตัวเองไม่น่าจะใจอ่อน ปล่อยเธอไป ให้เธอสร้างปัญหาใหญ่ขึ้นมาอีก
“นัทธี…หวืด……”
พิชิตยังพูดไม่ทันจบ นัทธีก็เตะไปที่เขาอีกครั้ง
ทำร่างที่เขาลุกขึ้นนั่งได้แล้ว ล้มหน้าคว่ำไปกับพื้นอีกรอบ
“นายเห็นห้องผ่าตัดนั้นไหม ? ” นัทธีชี้ไปที่ประตูของห้องผ่าตัด ดวงตาที่โกรธจนแทบจะระเบิดออกจ้องเขม็งไปที่พิชิต“ไอริณเข้าไปเกือบสองชั่วโมงแล้ว ตอนนี้ยังไม่ออกมา และกระดูกก้นกบของอารัณก็เกือบจะหัก ทุกอย่างนี้ มันเป็นเพราะนายทั้งนั้น ”
“ขอโทษ……”พิชิตรู้ว่าตัวเองผิด ก้มหน้าลงแล้วพูดขอโทษ
สองมือนัทธีกำหมัดแน่น “คำขอโทษของนายจะมีประโยชน์อะไร ชดใช้ให้เด็กสองคนนี้ได้เหรอ ?”
“……”พิชิตไม่ได้พูดอะไร
แน่นอนว่าเขารู้ว่ามันชดเชยอะไรไม่ได้
“พิชิต หากนายไม่ใช่เพื่อนที่โตมาด้วยกัน ฉันอยากจะฆ่านายจริงๆ ”นัทธีพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก
พิชิตเงยหน้าขึ้นมองเขา ไม่มีแว่นจึงมองใบหน้าของเขาได้ไม่ชัดเจน แต่ก็ดูออก ว่าใบหน้าในตอนนี้ของเขาเย็นเยือกแค่ไหน
“นัทธี ฉันรู้ว่าเรื่องนี้ฉันมีส่วนต้องรับผิดชอบอย่างมาก อาการบาดเจ็บของเด็กทั้งสองคน ฉันจะรับผิดชอบเอง ” พิชิตกุมหน้าท้องแล้วลุกขึ้นยืน
นัทธียิ้มเยาะ กำลังจะพูดอะไรต่อ ไฟสีแดงของห้องผ่าตัด จู่ๆก็กะพริบถี่ๆขึ้นมา
“เกิดอะไรขึ้น?”ป้าส้มถามอย่างประหลาดใจ
อารัณก็ประหม่าไปด้วย “คุณพ่อ?”
นัทธีกำไปที่มือของเขา ให้สัญญาณเขาว่าไม่ต้องกลัว จากนั้นก็จ้องเขม็งไปยังพิชิต “ไฟสีแดงนี้หมายความว่ายังไง ?”
สีหน้าของพิชิตเปลี่ยนไปทันที“ในระหว่างการผ่าตัดไฟสีแดงกะพริบ หมายความว่าผู้ป่วยที่กำลังจะผ่าตัดสำเร็จ จู่ๆก็ตกอยู่ก็ในสภาวะวิกฤต”
“อะไรนะ?”สีหน้าของนัทธีแย่ขึ้นมาทันที
นี่หมายความว่าอาการของไอริณกำลังอยู่ในภาวะวิกฤตงั้นเหรอ ?
แล้วมันจะเป็นไปได้อย่างไร เมื่อกี้พยาบาลคนนั้นบอกว่าถ้าไอริณได้รับการถ่ายเลือดก็จะไม่เป็นอะไรไม่ใช่เหรอ ?
ทำไมตอนนี้……
“ฉันจะเข้าไปดูข้างใน”หลังจากที่พิชิตพูดจบ เก็บแว่นที่ตกแตกอยู่บนพื้นขึ้นมาใส่ แล้วเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด
เมื่อคนในห้องผ่าตัดเห็นเขา ก็พูดตำหนิว่า“คุณเป็นหมอที่โรงพยาบาลไหน ? เข้ามาที่นี่ได้ยังไง ?”
“ผมชื่อพิชิต จากโรงพยาบาลตระกูลจรูญอุดมสุข”พิชิตแนะนำตัวออกไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็มองไปยังไอริณที่อยู่บนเตียงผ่าตัด
ไอริณสวมเครื่องช่วยหายใจอยู่ ดวงตาปิดสนิท ใบหน้าที่น่ารักซีดเซียวไม่มีเลือด ภาพที่เห็นอดไม่ได้ที่จะปวดใจ
“ตอนนี้เด็กคนนี้เป็นยังไง ? ”พิชิตถามแพทย์ที่ทำการรักษา
แพทย์ที่ทำการรักษาก็รู้ว่าพิชิตเป็นศัลยแพทย์มือหนึ่งในประเทศ จึงล้มเลิกความคิดที่จะไล่เขาออกไป ตอบเสียงทุ้มว่า“เด็กคนนี้ถ่ายเลือดเสร็จก็มีภาวะเม็ดเลือดแดงแตก”
“เม็ดเลือดแดงแตก?”พิชิตขมวดคิ้ว คิดว่ามันไร้เหตุผลมาก “ภาวะเม็ดเลือดแดงแตก จะเกิดขึ้นกับคนที่เป็นพ่อแม่ลูกกัน ใครเป็นคนบริจาคเลือดให้เด็กคนนี้ ?”
หรือว่า คลังเลือดของโรงพยาบาลนี้ มีเลือดของพ่อแท้ๆของเด็กสองคนนี้อยู่ ?
และมันก็ช่างบังเอิญ ที่ไอริณได้ใช้เลือดของพ่อแท้ๆของเธอ ?
“ผู้ชายที่อยู่หน้าห้องผ่าตัดคนนั้นค่ะ”พยาบาลคนหนึ่งตอบกลับอย่างเป็นกังวล
พิชิตตะลึงงัน
ผู้ชายที่อยู่หน้าห้องผ่าตัด ก็นัทธีนี่นา ?
หรือว่า……
พิชิตสูดหายใจเข้าลึกๆ มือไม้สั่นไปหมด “หมอ รบกวนช่วยตรวจดีเอ็นเอของเด็กคนนี้กับผู้ชายคนนั้นด้วย ”
“เราได้ติดต่อไปยังแผนกตรวจสอบแล้ว ทางนั้นกำลังดำเนินการให้อยู่”แพทย์ที่ทำการรักษาตอบ
ในตอนที่เด็กมีภาวะเม็ดเลือดแดงแตก ทางพยาบาลก็ได้ติดต่อไปยังแผนกตรวจสอบแล้ว
เพราะกรุ๊ปเลือดRH negativeนั้นหายากมาก ดังนั้นทางโรงพยาบาลก็จึงเห็นแก่ตัวเจาะเลือดมามากกว่าที่ต้องใช้ และเก็บส่วนที่เหลือไว้ในธนาคารเลือด เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยรายอื่นในอนาคต
เมื่อครู่พยาบาลก็ได้ส่งข้อมูลผลเลือดของเด็กไปให้แล้ว และให้ทางแผนกตรวจสอบไปเอาตัวอย่างเลือดของชายคนที่อยู่ด้านนอกที่ธนาคารเลือดเพื่อตรวจสอบ และที่ทำก็เป็นการตรวจในแบบเร่งด่วน เชื่อว่าผลน่าจะออกมาในเร็วๆนี้
“ดี ดีมาก”มือของพิชิตยังคงสั่นไหวด้วยความตื่นเต้น
“คุณหมอ เลือดของผู้บริจาคอีกคนดิฉันนำมาแล้วค่ะ”ในตอนนี้ มีพยาบาลคนหนึ่งเดินเข้ามา ในมือมีถุงเลือดมาด้วยสองถุง
เป็นเลือดRH ที่ไปเอามาจากธนาคารเลือด
เมื่อพิชิตเห็นถุงเลือดสองถุงนี้ รู้ทันทีว่าไอริณมีทางรอดแล้ว จึงได้เดินออกไปอย่างโล่งใจ
“คุณหมอพิชิต ไอริณเป็นยังไงบ้างคะ ? ” เมื่อป้าส้มเห็นเขา ก็รีบถามออกมาทันที
พิชิตอ้าปากค้าง ไม่รู้จะตอบอย่างไร เพราะเรื่องนี้ มันก็น่าตกใจอยู่
ตัวเขาเองในตอนนี้ก็ยังสงบสติอารมณ์ไม่ได้เลย
เมื่อเห็นพิชิตไม่ยอมพูดอะไรสักที ในใจของนัทธีก็ยิ่งหนักอึ้ง “ไอริณเธอ……”
“เธอไม่ได้เป็นอะไร”พิชิตส่ายหัว
ดวงตาของนัทธีมีประกายความยินดีผาดผ่าน “จริงเหรอ?”
“จริง”พิชิตพยักหน้ายืนยัน
อารัณก็ยิ้มออกมา“เยี่ยมไปเลย ไอริณไม่เป็นอะไรแล้ว”
“ใช่”ป้าส้มก็พยักหน้าให้ทั้งน้ำตาด้วยความดีใจ
นัทธีมองไปที่พิชิต“ในเมื่อไอริณไม่เป็นอะไรแล้ว เมื่อกี้……”
“เมื่อกี้ไอริณมีอาการภาวะเม็ดเลือดแดงแตก เพราะเลือดของนาย นายรู้ไหมว่ามันหมายความว่าอะไร ? ”พิชิตพูดขัดเขาขึ้นมา
นัทธีคิ้วขมวด จากนั้นก็รู้สึกตัว จ้องมองไปยังพิชิตอย่างไม่อยากเชื่อ “เม็ดเลือดแดงแตก……ไอริณเธอ……”
พ่อแม่ลูกไม่สามารถถ่ายเลือดให้กันได้ มิฉะนั้นก็จะเกิดภาวะเม็ดเลือดแดงแตกได้
นี่เป็นความรู้พื้นฐานทั่วไป คนส่วนใหญ่ต่างก็รู้กันดี
ดังนั้นนัทธีจึงไม่อยากจะเชื่อ ภายในใจก็ยิ่งราวกับมีพายุโหมกระหน่ำ
พิชิตพยักหน้า “ใช่ ไอริณอาจจะเป็นลูกสาวแท้ๆของนาย ”
“นี่……”ป้าส้มก็ตกตะลึงไปด้วย อ้าปากกว้าง “ลูกสาวแท้ๆ ? คุณหมอพิชิต คุณบอกว่าไอริณเป็นลูกสาวแท้ๆของคุณผู้ชายเหรอคะ?”
“ใช่ เป็นไปได้สูง ไม่อย่างนั้นคงอธิบายไม่ได้ว่าทำไมไอริณรับเลือดของนัทธีไปแล้วถึงมีภาวะเม็ดเลือดแดงแตก” พิชิตกล่าว
อารัณก็ตะลึงไปด้วยเช่นกัน “จะเป็นไปได้ยังไงครับ ไอริณเป็นลูกสาวแท้ๆของพ่อ แล้วทำไมผลการตรวจของผมกับพ่อถึงบอกว่าเราไม่มีความสัมพันธ์แบบพ่อลูกกันละครับ ?”