พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ - บทที่ 592 ที่อยู่ของนิรุตติ์
“เข้าใจแล้ว ฉันจะตรวจสอบอย่างดี” พิชิตกล่าวอย่างเคร่งขรึม
นัทธีไม่ได้พูดอะไรต่อไป เมื่อเห็นพิชิตหยิบบุหรี่ออกมา เขาก็ขอบุหรี่มาหนึ่งมวน และสูบบุหรี่อย่างเงียบๆ
เขาไม่ได้สูบบุหรี่มานานแล้ว ตั้งแต่ที่วารุณีตั้งท้องลูก เขาก็เลิกสูบบุหรี่
แต่คราวนี้ ป้าส้มเกือบจะไม่มีชีวิตรอด ซึ่งมันทำให้เขาอารมณ์เสียมาก
พิชิตจุดบุหรี่ และยืนอยู่ข้างๆ เขา และอยู่ท่ามกลางควันบุหรี่พร้อมกัน
ไม่นานนักบุหรี่ก็หมด และโทรศัพท์ของพิชิตก็ดังขึ้น
เขาเอาออกมาดู “เมื่อเร็วๆ นี้โรงพยาบาลได้รับผู้ป่วยวิกฤตมา เขาน่าจะขอให้ฉันไปประชุม เพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีการผ่าตัด ฉันต้องไปก่อนนะ”
นัทธีพยักหน้าเล็กน้อย และตอบอืม
พิชิตโยนก้นบุหรี่ทิ้ง แล้วเดินจากไป
นัทธีอยู่ที่ตรงนั้นครู่หนึ่ง เมื่อได้ยินการเคลื่อนไหวในห้องผู้ป่วย เขาก็รู้ว่าป้าส้มอาจจะตื่นแล้ว เขาเลยเปิดประตูเข้าไป
“คุณชาย” ป้าส้มเรียกเขาอย่างแผ่วเบา
นัทธีรู้ว่าที่เธอเป็นเช่นนี้ เพราะผลที่ตามมาของยา ดังนั้นเขาจึงจับมือของเขาและพูดว่า “ป้าส้มนอนก่อนเถอะ อย่าลุกขึ้น”
เมื่อป้าส้มได้ยินเขาพูดแบบนี้ เธอจึงเอนหลังลงไป “ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆ ฉันก็รู้สึกอ่อนแรง และเวียนหัวนิดหน่อย”
“ป้าโดนวางยา” นัทธีนั่งลงที่ข้างเตียงแล้วตอบ
ป้าส้มตกใจ “โดนวางยา?”
“ใช่ครับ”
“ใคร…ใครเป็นคนวางยาฉัน ทำไมต้องวางยาคนแก่แบบฉันด้วย” ป้าส้มไม่เข้าใจ
เธอไม่คิดว่าคนแก่แบบเธอจะมีค่าให้วางยา คงไม่มีใครชื่นชมความงามของคนแก่แบบเธอหรอกใช่ไหม?
เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ ป้าส้มก็ตัวสั่นอย่างห้ามไม่ได้
นัทธีไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ ริมฝีปากบางพูดว่า “ตอนนี้ยังไม่รู้แน่ชัด คนคนนั้นถูกส่งไปที่สถานีตำรวจแล้ว และผมเชื่อว่าผลจะออกมาในไม่ช้านี้”
เขาตั้งใจจะไม่บอกป้าส้มว่าที่เธอถูกวางยาเพราะมีคนต้องการจะฆ่าเธอ
เพราะในวัยที่อายุไม่น้อยเช่นนี้ จะตกใจง่าย เพราะถ้าเกิดเธอตกใจจนเป็นอะไรขึ้นมาคงจะไม่ดี ควรจะเก็บเป็นความลับดีกว่า
ป้าส้มพยักหน้าและบอกว่าเธอรู้แล้ว “ได้ค่ะ รอผลออกมาก่อน คุณชายห้ามปล่อยคนคนนั้นไปเด็ดขาดนะ นี่ถึงขนาดมีความรู้สึกดีๆ ให้กับคนแก่แบบฉัน มันโรคจิตจริงๆ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น นัทธีก็กระตุกยิ้มที่มุมปากของเขารู้ว่าป้าส้มกำลังเข้าใจผิด แววตาของเขาดูมีความสุข แต่ก็หายไปในทันที “ครับ”
ในเวลานี้ ลูกสะใภ้ของป้าส้มก็มาถึง
นัทธีไม่ได้อยู่ต่อไป เขาลุกขึ้นและจากไป
ก่อนจากไป เขาได้ขอให้ผู้จัดการจัดบอดี้การ์ดสองสามคนมาเฝ้าหน้าประตูห้องของป้าส้ม เพื่อรักษาความปลอดภัยของป้าส้ม
ถึงจะเป็นแบบนี้ แม้ว่าพิชิตจะหาตัวคนทำผิดคนอื่นไม่ได้ แต่ยังไงก็ต้องรักษาความปลอดภัยของป้าส้มให้ได้
ในตอนกลางคืน ในที่สุดก็มีข้อความสอบปากคำจากทางสถานีตำรวจส่งมา
หมอคนนั้นไม่ใช่หมอจริงๆ แต่เป็นนักฆ่า แต่เขาไม่ใช่นักฆ่ามืออาชีพ เป็นแค่นีกฆ่ามือสมัครเล่น แต่เขาก็ช่วยคนร่ำรวยบางคนทำร้ายคนบางคนด้วย
บุคคลนี้ถูกส่งมาจากนิรุตติ์เพื่อฆ่าป้าส้ม เพราะนิรุตติ์สงสัยว่าป้าส้มเห็นใบหน้าของเขา ดังนั้นเขาจึงต้องการฆ่าป้าส้ม
แต่สิ่งที่นิรุตติ์ไม่รู้ก็คือ ป้าส้มได้บอกเรื่องที่เห็นหน้าของเขาไปตั้งนานแล้ว และการที่คิดจะฆ่าป้าส้มในตอนนี้ มันก็สายเกินไปแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น ฆาตกรคนนั้นก็ทำไม่สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม มีข่าวหนึ่งที่นัทธีเห็นว่ามีประโยชน์ นั่นก็คือ นักฆ่าได้ไปเจอและเจรจากับนิรุตติ์ด้วยตนเอง
นักฆ่าเปิดเผยที่ตั้งของการเจรจา ซึ่งเป็นโกดังที่อยู่ห่างไกลทางตอนเหนือของเมืองหลวง
บางที นิรุตติ์และคนอื่นๆ อาจซ่อนตัวอยู่ที่นั่น
พวกนิรุตติ์สามารถซ่อนได้เฉพาะในสถานที่ที่ห่างไกลเท่านั้น พวกเขาไม่กล้าเข้าไปในเมือง หรือต่อให้พวกเขาจะเข้าไปในเมือง ก็จะอยู่ได้ไม่นาน ไม่อย่างนั้นเขาก็จะจับกุมพวกเขา
มีเพียงแค่สถานที่นอกเมือง ที่มีคนน้อยๆ ที่มีกล้องวงจรปิดน้อยๆ ถึงจะเหมาะสำหรับให้พวกนิรุตติ์ซ่อนตัว เพราะถ้าได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวพวกเขาก็จะสามารถหลบหนีได้ในทันที แต่ในเมืองทำแบบนั้นไม่ได้ ถ้ามีคนไล่ตาม พวกเขาก็จะไม่สามารถซ่อนตัวได้
“ประธาน เราจะไปค้นโกดังนั่นกันไหม” ผู้จัดการถามตอนที่ยืนอยู่ตรงข้ามโต๊ะของนัทธี
นัทธีลูบนิ้วของเขา ดูเหมือนเขากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดว่า “แน่นอน”
“แต่ถ้าเป็นกับดักล่ะจะทำยังไง?” ผู้จัดการเป็นกังวลเล็กน้อย
เขากลัวว่าฆาตกรจงใจพูดที่อยู่ตรงโกดังเพื่อล่อพวกเขาไป
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ พวกเขาจะไม่ถูกหลอกเหรอ?
นัทธีรู้ว่าผู้จัดการกำลังคิดอะไรอยู่ เขาเม้มริมฝีปากบางของเขาไว้ “ต่อให้มันเป็นกับดัก เราต้องฝ่าฟันมันไปให้ได้”
เป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดของเขาในตอนนี้คือการจับตัวปีศาจทั้งสองอย่างนิรุตติ์และนวิยา
ดังนั้นแม้ว่านี่จะเป็นกับดักจริงๆ ตราบใดที่มีความเป็นไปได้เล็กน้อย ยังไงเขาก็ต้องลองดู
เขาไม่สามารถนั่งรอเฉยๆ เพราะถ้ายังหาพวกเขาไม่เจอ วารุณีและลูกๆ ก็จะยังไม่ปลอดภัย สิ่งนี้มันทำให้เขาไม่สบายใจ
“ไปจัดการซะ พรุ่งนี้ไปที่นั่นกัน” นัทธีนวดขมับและออกคำสั่ง
ผู้จัดการพยักหน้า “ครับ!”
หลังจากนั้นเขาก็จากไป
นัทธีกำลังนั่งอยู่ในห้องหนังสือเงียบๆ คนเดียวเขาใช้นิ้วมือไขว้กันและก้มศีรษะลงเล็กน้อย ซึ่งไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็ลุกขึ้น เขาพยายามระงับความวิตกกังวลในใจ และกลับไปที่ห้องของเขากับวารุณี
ตอนนี้ในต่างประเทศเป็นเวลาเช้าตรู่
วารุณีตื่นขึ้นจากเสียงวิดีโอคอลของนัทธี
เธอขยี้ตาและลุกขึ้นนั่ง เธอเปิดกล้อง มองไปที่ชายในวิดีโอ ก่อนจะยิ้มเล็กน้อย “อรุณสวัสดิ์คุณสามี”
“อรุณสวัสดิ์ ผมทำให้คุณตื่นหรือเปล่า” นัทธีมองไปยังหญิงสาวที่ผมยุ่งเหยิง และยังไม่ได้ลืมตาเลย เขาถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
วารุณีส่ายหัว ก่อนจะเอนหลังพิงหัวเตียง “ไม่เลย ฉันกำลังจะตื่นพอดี”
ในขณะที่พูดเธอก็บิดขี้เกียจไปด้วย
นีทธีมองดูเธอ ตอนที่เธอบิดขี้เกียจ หน้าอกสีขาวราวกับหิมะก็ถูกเปิดเผยออกมา ดวงตาของเขามืดลงเล็กน้อย คอก็เริ่มแห้ง และน่ำเสียงของเขาก็แหบแห้ง “ผมคิดถึงคุณ”
ตั้งแต่เธอตั้งครรภ์ เขาพบว่าที่ตรงนั่นของเธอใหญ่กว่าเดิมเล็กน้อย
วารุณีอยากจะบอกว่าตอนแรกเธอก็คิดถึงเขาเหมือนกัน แต่เมื่อเธอเห็นสายตาของผู้ชายคนนั้น เธอก็เข้าใจในทันทีว่าความคิดของเขามีความหมายอื่นแฝงอยู่ เธออดไม่ได้ที่จะหงุดหงิดและตลก เธอจัดเสื้อผ้าเสร็จก่อนที่จะมองบนใส่เขา “โรคจิต!”
ชายหนุ่มยกยิ้มริมฝีปากบางๆ เขาไม่ได้โกรธ เขาหันมองไปที่ใบหน้าของเธอ “พอแล้ว ไปอาบน้ำแล้วไปทานข้าวเช้า”
“อืม” วารุณีพยักหน้า “คุณก็รีบพักผ่อนนะ”
“ครับ” นัทธีตอบ
เมื่อวางสาย เขาวางโทรศัพท์ลง ใบหน้าที่อ่อนโยนค่อยๆ จางหายไป และแทนที่ด้วยใบหน้าที่เย็นยะเยือก
เขาไม่ได้จะบอกวารุณีเรื่องที่ป้าส้มเกือบจะถูกฆ่า เขากลัวจะทำให้เธอตกใจ จนทำให้เธอและลูกของเธอตกอยู่ในอันตราย
ประการที่สองคือเรื่องนี้เขาไม่ได้มีเจตนาที่จะพูดออกไป
คืนนั้น นัทธีแทบจะไม่ได้นอนเลย
เช้าวันรุ่งขึ้น ผู้จัดการมาหาเขา “ประธาน ทุกอย่างพร้อมแล้ว คุณอยากไปที่นั่นด้วยไหม”
นัทธีพยักหน้าเล็กน้อย “แน่นอนอยู่แล้ว”
กลุ่มคนมากมายออกเดินทางด้วยยานพาหนะพร้อมกับอาวุธ พวกเขาขับรถไปที่โกดังทางตอนเหนือของในเมือง
เมื่อไปถึงโกดัง เวลาก็ผ่านไปชั่วโมงกว่าแล้ว
นัทธีนั่งอยู่ในรถและไม่ลงไป เขาทำแค่มองออกไปนอกหน้าต่างรถ
ที่แท้โกดังที่ฆาตกรพูดถึง ไม่ได้หมายถึงแค่โกดังอันเดียว แต่เป็นโกดังที่มีอยู่มากมาย
นี่เป็นเขตอุตสาหกรรมร้าง ด้านล่างเขตอุตสาหกรรมมีแม่น้ำเชี่ยวหนึ่งสาย
ในเวลานี้ กำลังคนที่นัทธีส่งมาก็เริ่มค้นหาเขตอุตสาหกรรมนี้ เขาค้นหาสถานที่ที่นิรุตติ์และคนอื่นๆ อาจซ่อนตัวอยู่
แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะหาตัวนิรุตติ์และคนอื่นๆ เจอ แต่ยังไงพวกเขาก็มาถึงแล้ว และก็มีเสียงรถดังมาก มันเป็นไปไม่ได้ที่นิรุตติ์และคนอื่นๆ จะไม่สังเกตเห็น บางทีพวกเขาอาจจะหนีไปแล้ว